กาญจนบุรี 2

ไปเมืองกาญฯกันอีกครั้งคะ คราวนี้สักเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมานี่เองคะ ไปกับพี่ที่ทำงานเดียวกัน ทริปนี้สามคืนสี่วันคะ พี่เขาวางโปรแกรมไว้อย่างนั้น ว่าไงก็ว่าตามกัน ก็คนมันอยากเที่ยว ไปด้วยคนนะคะ
ก็เป็นครั้งแรกสำหรับอะไรหลายๆอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรก ไปเที่ยวครั้งแรกโดยแบกเป้ไปใบเดียว และไปเที่ยวครั้งแรกเมื่อเริ่มต้นทำงาน

การเดินทางคราวนี้ก็มีพี่ที่ไปด้วยคอยเป็นไกด์ให้โดยเราคิดกันไว้ว่าจะขับรถเที่ยวกันเอง แต่เนื่องจากค่าเช่ารถวันๆนึงแพงมากและผู้ประกอบการไม่ยินดีให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเช่า(อันนี้เพื่อนพี่ที่เขาลองไปติดต่อให้บอกมา) เราก็เลยหารถเช่าไม่ได้ แต่ก็ได้รับความกรุณาจากเพื่อนพี่ โดยการให้ยืมรถของเขาไปใช้ฟรีๆเลย 555 เข้าทางคะ ขอบคุณนะคะ


ทริปนี้ไปถึงกาญฯตอนเย็นๆคะ เพราะขึ้นเครื่องจากภูเก็ตไปก็บ่ายๆแล้วคะ
ลงจากรถทัวร์ได้ ก็แบกเป้เดินหาโรงแรมกันเลย เช็คอินเข้าโรงแรม ล้างหน้าล้างตา นอนกลิ้งไปกลิ้งมากันได้สักพัก เพื่อนพี่ก็มารับไปทานข้าวเย็นคะ

มื้อเย็นที่กิเป็นอาหารป่าและอาหารพื้นบ้านคะ จำได้สองอย่างเท่านั้นคือ เนื้อกวางผัดฉ่า กับปลาเค้าราดน้ำปลา อร่อยจนอยากจะอมไว้เลย เจ้าปลาเค้าทอดน้ำปลาเนี่ย อิอิ

แล้วก็ต่อด้วยการนั่งรถเที่ยวยามค่ำคืน ซึ่งออกจะงงๆมากกว่า แบบว่าขับเวียนไปเวียนมา จนจำอะไรไม่ได้สักที่ ไม่รู้เพราะความจำสั้น รึ ว่าแปลกที่แปลกทางก็ไม่รู้นะคะ เสร็จแล้วเพื่อนพี่ก็มาส่งที่โรงแรม โดยบอกว่าพรุ่งนี้จะเอารถมาให้ตอนสายๆ เพราะจะเอารถไปเช็คใก่อน สาธุ น้ำใจงามเหลือเกิน ขอบคุณคะ พี่ปุ๊

รุ่งเช้าออกเดินกันอีกครั้งคะ ไปสุสานทหารพันธมิตรกันคะ โห นึกว่าจะอยู่ไกล ที่แท้ก็ในเมืองเองเนอะ แถมไม่รู้สึกเลยว่าเดินอยู่ในสุสาน สวยเชียว เดินเล่นกันสักพัก ขอข้ามไปฝั่งตรงข้าม ไปดูสถานีรถไฟกัน เพราะมีโปรแกรมจะนั่งรถไฟสายมรณะกลับมาในมืองและ จขบ ต้องนั่งกลับมาคนเดียวด้วย

ไม่ใช่อะไรหรอกคะ ก็เราจะขับรถกันไปเอง ก็ต้องมีคนนึงขับรถกลับมาคนเดียวเหมือนกัน แล้วพี่เขาก็เลยวางโปรแกรมไว้ให้เราเสร็จสรรพเลย และแล้วเมื่อรถพร้อม คนพร้อม เราก็ออกเดินทางกันเลยคะ

ที่แรกที่แวะ ก็จะที่ไหนละคะ ถ้าไม่ใช่ที่สุดฮิต สะพานข้ามแม่น้ำแคว ว่าแล้วก็ลงคะ ลงไปเดินๆๆๆจนเขาประกาศว่ารถไฟจะมานั่นแหละ ถึงได้เดินหลบกันออกมา แล้วก็ต่อด้วยพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ใกล้ๆกับสะพานข้ามแม่น้ำ แงๆๆๆจำชื่อไม่ได้อีกแล้ว อีกอย่างรูปที่ถ่ายไว้ ทำหายไปไหนไม่รู้คะ รูปเดียวที่เอามาใส่ไว้ในบล๊อกอันนี้ เพราะคุณแม่เอามาใส่อัลบั้มไว้ต่างหาก เลยไปค้นเจอแล้วถ่ายด้วยมือ ทรานเฟอร์มาลงคอมพ์ เพื่อที่จะเอามาลงบล๊อกให้ได้นี่ละคะ

ออกจากพิพิธภัณฑ์ ก็แวะทานข้าวกันข้างทาง อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อ จุดหมายปลายทางคือ อ.ทองผาภูมิ เพราะเราจะไปนอนพักค้างคืนกันที่ กรีนเวิร์ล&กอล์ฟคลับคะ อันนี้เพื่อนพี่เขาแนะนำมา เห็นว่ามีน้ำพุร้อนให้แช่ตัวกันด้วย ว้าว!!ไปโล้ดคะ

ระหว่างทางก็แวะรายทางนะคะ ขับรถผ่านน้ำตก ผ่านที่ไหนที่น่าแวะ ก็แวะคะ ไม่รีบร้อน แต่พี่ที่ไปด้วยแอบเม้าท์ว่ารถเพื่อนเขา เกียร์แข็งมาก เข้ายากสุดๆ ต้องใช้แรงทุ่มไปทั้งตัว แรกๆเราก็อำป่ะคะพี่ รถแบบนี้พ่อหนูก็ใช้อยู่
(รถสเตชั่น แวกอนคะ) หนูว่ามันก็ไม่ได้แข็งมากมายอะไรนี่คะ พี่แอ๊คชั่นเว่อร์ไปรึเปล่าคะ(อ่ะๆๆพูดได้คะ เพราะตอนนั้น นั่งเฉยๆ ยังไม่เปลี่ยนมาขับเลย)มาได้ขับเอง ตอนไปเขื่อนศรีนครินทร์ในวันรุ่งขึ้นคะ ถึงได้รู้ว่าพี่เขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยแม้แต่นิดเดียว เข้าเกียร์แต่ละครั้ง เหมือนเล่นหนังจีนกำลังภายใน ต้องทุ่มแรงไปทั้งตัว เฮ้อ เป็นการขับรถที่เหนื่อยจริงๆ

มาถึงที่พักก็เย็นมากแล้วคะ ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย เพราะเวลาที่กระชั้นและเตรียมตัวไปไม่ดี ทั้งๆที่ขับรถจะไปเกริงกระเวียกันแล้ว แต่ก็ตัดสินใจเลี้ยวรถกลับเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดลงทุกทีเราจึงตัดสินใจว่าไว้คราวหน้าให้พร้อมกว่านี้ดีกว่าจะไปให้ถึงสังขละฯกันเลย แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่พลาดการลงแช่น้ำพุร้อนที่ทางโรงแรมเขาเดินท่อเอาน้ำมาใส่ไว้ในสระในร่มให้เราได้แช่กัน คงเพราะมันเย็นมากแล้ว เราสองคนเดินเข้าไปแช่ ในขณะที่คนอื่นอาบน้ำล้างตัวเพื่อเตรียมตัวไปทานอาหารเย็นกัน อ้อมีห้องซ่าวน่าให้ด้วยคะ ว่าแล้วก็ลองซะหน่อย ครั้งแรกอีกแล้ว แต่เข้าไปไม่ถึงนาที รีบวิ่งจู๊ดออกมาลงสระเลยคะ ร้อนจริงๆ

เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมาอย่างสดใส เพราะได้หลับเต็มตื่น สูดอากาศตอนเช้าที่ระเบียงซะหน่อย อากาศดีมากๆเพราะวิวด้านหน้าที่เห็นเป็นสนามหญ้าเขียวของสนามกอล์ฟตัดกับแนวภูเขาคะ แต่ก่อนอื่นอาบน้ำไปจัดการกะอาหารเช้ากันก่อน แล้วค่อยไปเดินเที่ยวรอบๆกัน(เข้าสุภาษิตเป๊ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง)

วันนี้เราไปเล่นน้ำตกคะ น้ำตกผาตาด ได้เล่นน้ำตกเย็นๆนี่ สดชื่นดีจังคะ เล่นกันอยู่เพลินก็เที่ยงหาไรกิน แล้วก็เดินทางต่อคะ ไปเขื่อนกัน บรรยากาศดี วิวสวย คนน้อยเพราะไม่ได้ไปหน้าเทศกาล และไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ แต่รู้สึกว่ามันจะเงียบไปสักหน่อย อยู่กันไม่นานก็ต้องกลับมาเก็บของเพราะจะต้องไปขึ้นรถไฟสายมรณะกลับเมืองกาญฯกัน

ขึ้นรถไฟคนเดียวครั้งแรกอีกแล้วคะ ทั้งตื่นเต้น ทั้งสนุก เพราะเขาจอดรถไฟให้เราได้ถ่ายรูปกับวิวยอดฮิต ตรงสะพานที่บรรดาทหารพันธมิตรถูกทหารญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้างให้เราได้ใช้มาจนถึงทุกวันนี้กันอยู่แป๊บนึง แล้วก็นั่งหวานเย็นกันต่อไป สวยจังคะแม่น้ำแควที่ขนานไปกับทางรถไฟ ชอบบรรยากาศมากๆ คงต้องหาโอกาสไปอีกสักครั้งนึงแน่นอนคะ



ถึงสถานีรถไฟ นั่งรอพี่เขามารับอยู่ครู่หนึ่ง เพราะพอรถไฟออก พี่เขาก็ต้องขับรถกลับเมืองกาญฯคนเดียวเหมือนกัน แต่รถไฟมันหวานเย็นกว่ารถยนต์อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ พี่เขามาถึงก่อนก็หาโรงแรม เข้าเช๊คอินไปนอนตีพุงรอเราอยู่ตั้งสองชั่วโมงได้แล้ว จากนั้นก็ได้กินข้าวฟรีกันอีกมื้อ เพราะต้องส่งรถคืนให้เจ้าของคะ มาอีกแล้วของโปรดประจำทริป ปลาเค้าทอดน้ำปลา อิอิ อาหร่อยจริงๆ

ตื่นเช้าเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ขึ้นรถสองแถวไปสถานีขนส่งเพื่อกลับกรุงเทพฯกัน แต่เพราะยังเช้าอยู่ แล้วรถก็ยังไม่ออก เราก็เลยได้ทานข้าวเช้ากันที่ตลาดเช้าแถวนั้นเพลิดเพลินจนเกือบตกรถ วิ่งขึ้นรถได้ก็บ๊ายบ๋ายเมืองกาญฯคะ

ไว้จะมาเยี่ยมใหม่แน่นอนจ๊ะ

Create Date : 07 มิถุนายน 2552		1 comments
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 14:53:32 น.
Counter : 544 Pageviews.
Share Tweet