Group Blog
 
<<
กันยายน 2561
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
11 กันยายน 2561
 
All Blogs
 
นั่งรถไฟใหม่เพลินๆ แล้วเราก็เลยไปถึงหลีเป๊ะ




นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ

นั่งรถไฟใหม่เพลินๆ แล้วเราก็เลยไปถึงหลีเป๊ะ ( Train to Lipe slow life version)


การเดินทางลงใต้ของพวกเราสำหรับทริปเกาะหลีเป๊ะนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการนั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง เพื่อลงสนามบินหาดใหญ่ในตอนเช้า แต่คราวนี่เราจะมาลองนั่งรถไฟขบวนใหม่ที่ได้ยินข่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสั่นสะเทื่อนวงการรถไฟไทย อีกทั้งมีการแชร์มากมายบนโลกโซเชียล ทำให้เราถึงกลับหลังหันพร้อมเปลี่ยนใจชั่วคราวเพื่อมาจองตั๋วแล้วลองนั่งดูสักครั้ง

นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ

หัวลำโพงสำหรับจุดรวมพลสำหรับทริปนั่งรถไฟชิลๆลงเกาะหลีเป๊ะ

นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ

รถไฟขบวน 31 จอดรอพวกเราอยู่ที่ชานชาลาที่ 4

รถไฟที่เรากำลังจะจองเพื่อลงใต้ปลายทางสถานีหาดใหญ่นั้น คือ ขบวนรถด่วนพิเศษ “ทักษิณารัถย์” ที่ 31 กรุงเทพ-หาดใหญ่ เป็นขบวนรถนอนปรับอากาศทั้งหมด ทั้งชั้น1และชั้น2 ทุกเตียงจะมีปลั๊กไฟและไฟส่องสำหรับอ่านหนังสือ น้ำดืมฟรี ตู้เสบียงและชั้น1มี ฟรี wifi ให้บริการตลอดเวลา แต่ความเร็วของอินเตอร์เน็ตอาจจะต้องทำใจนิด เพราะต้องแชร์ใช้งานหลายคนอีกทั้งบางพื้นที่อาจจะไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ท ทำให้เราไม่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ส่วนห้องน้ำที่ใครหลายคนหวาดกลัวนั้น รถไฟใหม่รอบนี้ เค้ายกระดับปรับปรุงมาตราฐานความสะอาดเกือบจะเทียบเท่าสายการบินกันเลยทีเดียว ตรงส่วนชั้น 1 จะมีไฟบอกสถานะการใช้งานของห้องน้ำและห้องอาบน้ำ และสามารถรับชมรายการทีวีที่ทางรถไฟจัดให้

ตารางเวลาการเดินทาง

train-to-hatyai

การจองตั๋วรถไฟมีสามแบบ

  1. แบบแรก ไปที่สถานีรถไฟใกล้ๆบ้านโดยตรงเลย แจ้งเจ้าหน้าที่ไปโดยตรงเลยว่าจะเดินทางไปลงหาดใหญ่ด้วยรถไฟสาย 31 จากนั้นก็กำหนดตู้โดยสารและเลขที่นั่ง เลือกได้เลยกับทางเจ้าหน้าที่ เสร็จแล้วก็จ่ายเงินที่นั้น รับตั๋วกลับบ้าน สบายใจกันไป
  2. แบบที่สอง โทรไปที่ศูนย์บริการของการรถไฟ แจ้งข้อมูลการเดินทางกับพนักงานการรถไฟ จากนั้นก็ไปรับตั๋วและจ่ายเงินที่สถานีใกล้บ้าน ตรงนี่สามารถบอกกับ เจ้าหน้าที่ได้ว่าเราสามารถ สะดวกไปรับที่สถานีไหน
  3. และสุดท้ายถือว่าเป็นบริการใหม่ล่าสุดจาก รฟท คือการจองออนไลน์ โดยเราสามารถเลือกที่นั่งได้โดยตรงเมื่อจ่ายเงินแล้วก็สามารถปริ้นตั๋วออกมาใช้งานได้เลย

ในส่วนนี้เราจะมาลองจองผ่านทางออนไลน์กัน

ไปที่เวบการรถไฟ -> https://goo.gl/qhuNJE

  1. เลือกเส้นทางสายใต้ ต้นทางและปลายทาง วันเดินทาง และจำนวนผู้เดินทาง

จองตั๋วรถไฟลงเกาะหลีเป๊ะ

2. เลือกขบวนรถไฟที่เราต้อง ในส่วนทริปเรา เลือกด่วนพิเศษขบวน 31

จองตั๋วรถไฟลงเกาะหลีเป๊ะ

   3. เลือกตู้ขบวนรถ ตามที่เราต้องการ (ตู้สำหรับชั้น1 ชั้น2 และสุภาพสตรี)

จองตั๋วรถไฟลงเกาะหลีเป๊ะ

   4. เลือกที่นั่ง สำหรับชั้น 2 นั้นเราสามารถเลือกว่าจะนอนชั้นล่าง หรือ ชั้นบน

จองตั๋วรถไฟลงเกาะหลีเป๊ะ

   5. จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต เสร็จแล้วปริ้นตั๋วออกมาใช้งานได้เลย

จองตั๋วรถไฟลงเกาะหลีเป๊ะ

ส่วนการจอง รถ เรือ เพื่อเดินทางต่อไปเกาะหลีเป๊ะนั้น เราสามารถจองออนไลน์เพื่อเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะได้ง่ายๆ ที่เวบ https://www.grabroute.com

ช่วงนี้สุดพิเศษ สำหรับสมาชิกลูกช้างทัวร์ เพื่อนๆสามารถใช้ Discount Code “lookchangtour” เพื่อลดราคาการจอง รถเรือได้จากทางเวบ grabroute โดยตรง

การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ

หลังจากที่เราได้ดูภาพจากโซเชียลมากมาย คราวนี่เราเข้ามาดูตู้ภายในขบวนรถไฟชั้น 1 ว่าน่านั่งแค่ไหน จะได้หายสงสัย ว่ามันหรูสมที่คุยไว้มัย

นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ

สำหรับการเดินทางลงหาดใหญ่ครั้งนี่นั้น เรามาขึ้นรถที่สถานีหัวลำโพง เตรียมพร้อมกันก่อนเวลารถออกครึ่งชั่วโมง ข้อดีของการเดินทางโดยรถไฟคือไม่ต้องเดินทางมาล่วงหน้า 2 ชั่วโมงเพื่อเช็คอิน โหลดกระเป๋าแล้วไปนั่งรอที่เก็ตเพื่อขึ้นเครื่อง แค่มาก่อนรถไฟออกสัก 30นาที ใช้เวลาไม่นานเพื่อหาที่นั่งสบายๆ แว๊บแรกที่ได้เดินขึ้นตู้รถไฟและสำรวจตามที่นั่งต่างๆ สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความสะอาด ความใหม่ ดูดี น่านั่งจริงๆสมคำร่ำลือกัน พอหาตำแหน่งที่นั่งของตัวเองได้แล้วก็ลากกระเป๋าใบใหญ่เก็บไว้ใต้เบาะนั่ง จากนั้นก็นั่งชิลๆ รอผู้โดยสารร่วมทริปทยอยขึ้นรถกันขึ้นมา พอรถไฟเคลื่อนขบวนไปสักพัก เจ้าหน้าที่ก็เดินตรวจเพื่อเช็คตั๋วโดยสาร ตรงส่วนที่นั่งนั้น จะหันหน้าเข้าหากันและมีโต๊ะพับเล็กๆ ที่สามารถใช้วางของและนั่งทำงานได้ ใครที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน สามารถนั่งชิลๆ ทำงานพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศข้างทางได้สบายๆ

กิจกรรมที่ใครๆก็ทำเพราะไม่รู้จะทำอะไรสำหรับการนั่งรถไฟคือนั่งชมวิวข้างทาง นั่งคุยอดีตย้อนความหลังกับเพื่อนๆ นั่งเล่นมือถือ อ่านหนังสือ ฟังเพลงไปเรื่อยๆ อารมณ์นี่มันเหมาะกับนักเดินทางที่ดืมด่ำไปกับบรรยากาศโดยรอบโดยไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับระยะทางแต่อย่างใด

มาดูที่นั่งรถไฟชั้น 2 กันที่เราจองกันบ้าง ว่าเหมือนในรูปที่เพื่อนๆลงกันไว้มัย

นั่งรถไฟชิลๆลงเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆลงเกาะหลีเป๊ะ
เดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ

เมื่อเริ่มเดินทางไปได้สักพัก ความหิวก็เริ่มทักทายเข้ามา เมื่อพูดถึงรถไฟ เพื่อนๆอาจจะหาของกินได้ง่ายๆ เมื่อรถจอดแว่ะตามสถานีต่างๆตลอดทาง แต่ถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศการกินอีกรูปแบบหนึ่งบนรถไฟ การไปนั่งกินอาหารบนตู้เสบียงก็ไม่เลวเหมือนกัน ว่าแล้วก็แว้บเข้าตู้เสบียงเช็คของกินกันสักหน่อย ตู้เสบียงจะอยู่ประมาณกึ่งกลางของขบวนรถไฟ และตู้เสบียงของขบวนรถไฟสายนี่ไม่มีการทำครัวใดๆทั้งสิ้นแต่มีอาหารกล่องให้เลือกซื้อและบริการอุ่นอาหารให้พร้อมมุมเครื่องดื่ม ถ้าใครนึกไม่ออก อาจจะเทียบได้กับโซนอาหารของร้าน 7/11 เล็กๆนั้นแหละ โต๊ะที่นั่งมีจำนวนรองรับไม่มากนัก บางครั้งอาจจะต้องแชร์ที่นั่งร่วมกับคนอื่นบ้าง แต่เมื่อได้นั่งทานอาหารพร้อมเครื่องดื่มกับเพื่อนรู้ใจ วิวทิวทัศน์โดยรอบที่ผ่านเข้ามาจะช่วยทำให้การสนทนาออกรสชาติมากขึ้น และทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว

แม้จะเดินทางไกล แต่ตู้เสบียงก็ยินดีต้อนรับพวกเราเสมอจนถึงห้าทุ่ม “หิวเมื่อรัยก็แว่ะมา”

นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆลงเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ

ได้เวลาพักละ สำหรับชั้นสองของเรานั้น ก็ได้เวลาเปลี่ยนจากที่นั่งกลายสภาพเป็นเตียงนอนสะที

พอถึงช่วงหัวค่ำ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเข้ามาปรับจากเบาะนั่งให้กลายร่างเป็นที่นอน ใช้เวลาไม่นาน ก็แปลงร่างจากที่นั่งเข้าหากันสำหรับสองที่นั่ง เปลี่ยนเป็น ที่นอนด้านบนและด้านล่าง ผ้าปูเตียง หมอนและผ้าห่มที่ดูสะอาด ก็จัดเป็นชุดสำหรับพร้อมนอนได้ทันที สำหรับรถไฟรุ่นใหม่นี่ จะมีไฟอ่านหนังสือและที่ชาร์ตไฟให้ และที่รู้สึกแปลกไปกว่าเดิมมากขึ้นคือเสียงรบกวนจากภายนอกที่เบาลงกว่าเดิม สำหรับใครที่กังวลว่าจะนอนไม่หลับนั้น ก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม

นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ

การที่รถนี่เป็นรถด่วนพิเศษนั้นทำให้การจอดตามสถานีระหว่างทางนั้นจำกัดและสามารถทำให้รถไฟทำเวลาได้ หลังจากหลับๆตื่นๆได้สักพักพอจะเริ่มสว่างนั้น รถไฟก็จะเริ่มจอดแว่ะตามสถานีมากขึ้น ผู้คนก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับลงรถ รถไฟขบวนนี้นั้นจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือสถานีชุมทางหาดใหญ่ และรถไฟก็มาจอดที่สถานีหาดใหญ่ตามเวลาที่กำหนด จากเดิมที่คิดว่ารถจะช้าหรือกไม่ตรงเวลานั้น รถไฟขบวนนี่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดโดยสิ้นเชิง ก่อนลงรถก็ล้างหน้าล้างตาอีกรอบ จากนั้นไปนั่งจิบกาแฟรอต่อรถเพื่อลงเกาะหลีเป๊ะต่อไป

นั่งรถไฟชิลๆไปเกาะหลีเป๊ะ
เดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ

ข้อดี

  1. ใครชอบประสพการณ์การเดินในอีกรูปแบบที่ไม่เร่งรีบ รถไฟไทยตอบโจทย์ได้ดีเลย
  2. ปลอดภัยสำหรับสำหรับการเดินทาง
  3. ไม่เหนื่อยที่และอดหลับอดนอนเพื่อไปเช็คอินสนามบินแต่เช้า
  4. รถไฟขบวนนี่ค่อนข้างจะตรงเวลา
  5. ราคาไม่แพง ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับการเดินทางโดยรถทัวร์
  6. ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงเวลานอน รถเดินเงียบ กังวลเรื่องเสียงกรน น่าจะดังกว่าเสียงรถไฟ
  7. มีเวลาเป็นส่วนตัวระหว่างเดินทาง
  8. ลงรถไฟ กินข้าวเช้า จิบกาแฟ รอต่อรถตู้ เดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ สบายๆ

ข้อเสีย

  1. แม้ว่าจะมีบริการ Internet ในขบวนรถไฟ แต่บางพื้นที่ก็อยู่นอกเขตการให้บริการเหมือนกัน
  2. อาหารยังเป็นอาหารกล่องจากกลุ่ม cp ที่ยังไม่หลากหลายอยู่
  3. เป็นการเดินทางที่ใช้เวลากว่า12ชั่วโมง ใครที่ไม่ชอบเสียเวลากับการเดินทาง ควรหลีกเลี่ยง
  4. ใครที่ไม่คุ้นกับการนั่งเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้านานๆ อาจจะลำบากใจหน่อยถ้าเดินทางคนเดียว

สำหรับทริปเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ ขอแน่ะนำว่าควรจองรถไฟขาลงเกาะหลีเป๊ะ เท่านั้น ส่วนขากลับควรจองเครื่องบินกลับ จะทำการเดินทางเที่ยวนี่ครบทุกรสชาติของการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง!





Create Date : 11 กันยายน 2561
Last Update : 11 กันยายน 2561 16:49:27 น. 2 comments
Counter : 1130 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 12 กันยายน 2561 เวลา:1:48:54 น.  

 


โดย: Lady Sunday วันที่: 12 กันยายน 2561 เวลา:10:16:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lady Sunday
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Lady Sunday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.