● 1 . เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมี งง กันบ้างใครจะไปรู้หละว่าเกาะหลีเป๊ะนั้นอยู่จังหวัดสตูล และที่นี้ก็ถูกจัดว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทยไปแล้ว เพราะความสวยงามของน้ำทะเลที่ใสแบบใสมากๆ มองไปก็เห็นปะการังเป็นตอๆกันเลยทีเดียว ต้องไปฝั่งพัทยาเพราะที่ฝั่งพัทยานั้นมีหาดทรายขาวละเอียดเหมือนนมผงเด็กเลนย รวมถึงโลกใต้ท้องทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังและสัตว์น้ำ ที่เรียกได้ว่าใครไปแล้วไม่เห็นปลานีโม่ ถือว่าไปไม่ถึง เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ย่อม ๆ ของคนรักทะเลเลยทีเดียว
● 2 . ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวเกาะหลีเป๊ะคือช่วงฤดูร้อน (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม) ความเป็นจริงแล้วเราสามารถเที่ยวฤดูฝนได้ หลายๆคนคงไม่คิดจะเที่ยวหน้าฝนกันหรอก เชื่อไหมว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดแบบนี้จริงๆ แต่เชื่อไหมว่าคนต่างชาติฝรั่ง เขากลับมาเที่ยวช่วงนี้กันเยอะมาก และที่สำคัญคือเรื่องที่พักถ้าอยากพักที่ราคาแพงๆ กินหรูอยู่ดีแล้วก็ฤดูฝนนั้น นอกจากจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ยังไม่ต้องแย่งกินแย่งซื้อของกับใครอีกด้วย แต่ที่จริงฤดูไหนๆที่นี้ก็สวยไปหมด สวยแบบลืมหูลืมตา ใครไปแล้วไปซ้ำกันแน่นอน
● 3 . การเดินทางหลายๆคนคงคิดว่ามันลำบาก ความจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ สามารถทำได้หลายวิธีเลย
- เครื่องบิน : นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่หาดใหญ่หรือที่ตรังก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักนิยมลงที่หาดใหญ่มากกว่า หลังจากนั้นติดต่อรถตู้จากบริษัททัวร์ต่าง ๆ ให้มารับที่สนามบิน แล้วไปส่งที่ท่าเรือปากบารา ถือว่าเป็นบริการที่ดีมากเลย เพราะถ้าไปเองแล้วก็อาจจะยุ่งยากนิดนึง
- การเดินทางข้ามเกาะ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ท่าเรือปากบารา เพราะเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด โดยเรือที่ได้รับความนิยมมีทั้งสปีดโบ๊ทขนาดใหญ่ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากปากบารา-เกาะหลีเป๊ะประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง
● 4 . ระหว่างทางไปเกาะหลีเป๊ะนั้น ความจริงแล้วมันสวยเหมือนกันน่ะ นั่งมองเกาะต่างๆรอบๆตัว มีภูเขา ทะเล ครบจริงๆอย่างไปแล้วนั่งหลับหรือนั่งฟังเพลงเลย ลืมตาสัมผัสธรรมชาติดีกว่า
● 5 . ไม่ใช่ว่าทุกๆรอบเรือจะได้แวะเกาะไข่ (ซุ่มประตูหิน) เพราะความจริงแล้วใครที่อยากมาแวะเกาะไข่นั้นสามารถแวะได้แค่รอบเช้าเท่านั้นหรือตามสภาพอากาศว่าจะแวะได้หรือไม่ ต้องเป็นเรือรอบเช้าเท่านั้น หากใครไม่แน่ใจว่าจะได้แวะไหมก่อนจองทัวร์ต้องถามก่อนว่ารอบเรือนี้ได้แวะหรือไม่
● 6 . เกาะหลีเป๊ะประกอบทั้งหมดด้วยกัน 3 หาด ได้แก่ หาดพัทยา หาดซันไรซ์ และ หาดซันเซ็ท ซึ่งแต่ละหาดมีบรรยากาศและความสวยงามที่แตกต่างกันไป
- ใครที่ชอบความสนุกนานและคึกคัก ขอแนะนำให้ไปที่ หาดพัทยา เพราะจากหาดนี้อยู่ใกล้โป๊ะท่าเรือกลางทะเลมากที่สุด ทำให้มีเรือโดยสารเข้ามาเทียบท่าอยู่ตลอดเวลา ทีร้านอาหารริมหาด ร้านสะดวกซื้อ ทัวร์ดำนำ และที่พักเยอะกว่าหาดอื่น ๆ ของหลีเป๊ะ
- หาดซันไรซ์ เป็นหาดที่จัดได้ว่าน้ำทะเลสวย ทรายขาว ทั้งยังมีแนวสนคอยให้ร่มเงาอยู่ตลอดแนวชายหาด บรรยากาศทั่วไปของหาดค่อนข้างสงบ เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมานอนอาบแดดกันเป็นแถวๆ แถมยังเป็นจุดที่เหมาะกับการเล่นน้ำหรือดำน้ำตื้นสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
- นักท่องเที่ยวคนไหนที่รักความสงบ หาดซันเซ็ท น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคุณ เพราะชายหาดที่นี่ค่อนข้างสงบ นักท่องเที่ยวน้อย มีรีสอร์ทไม่เยอะ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน แต่รับรองว่าวิวสวย น้ำใส เล่นน้ำกันได้แบบชิล ๆ
● 7 . นอกจากชายหาดหลักทั้งสามของเกาะหลีเป๊ะแล้ว ที่เกาะหลีเป๊ะยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกไม่น้อย ส่วนใหญ่คนที่ไปดำน้ำจะได้เห็น เพราะเป็นจุดที่ไกด์จะพาเราลงตามจุดต่างๆ ได้แก่ เกาะไข่ เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน เกาะอาดัง เกาะราวี เป็นต้น บอกแล้วว่ามาเที่ยวที่หลีเป๊ะที่เดียว คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
● 8 . ความจริงแล้ว เกาะหลีเป๊ะมีจำนวนพื้นที่ไม่กว้างมากนัก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินได้ทั่วกันทั้งสามเกาะ เพราะระยะทางไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาเดินไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หรือถ้าใครไม่อยากเดิน ที่หลีเป๊ะก็มีรถรับจ้างไว้คอยรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปมาข้ามหาดแบบหายห่วง
● 9. Walking Street Lipe หรือถนนคนเดินหลีเป๊ะ ความจริงแล้วมันก็คือตลาดกลางคืนดีๆนี้เอง ขอบอกว่าใครบอกที่เกาะหากินยากไม่จริงเลย ที่นี้มีทุกสิ่งอย่าง อาหารตามสั่ง อาหารซีฟู้ด อาหารนานาชาติ อาหารปิ้งย่าง รวมถึงบริการทัวร์ดำน้ำ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านขายยา และอยู่ศูนย์กลางของเกาะอีกด้วย
● 10 . รีสอร์ทถูกและดีมีอยู่จริง ไม่ว่าจะต้องการติดหาด มีสระ เกาะหลีเป๊ะถือว่ามีครบไม่แพ้เกาะที่อื่นๆเลย กินหรูอยู่ดี ตามไปดูกันได้ที่ >>ที่พักเกาะหลีเป๊ะพร้อมแพคเกจราคาสุดพิเศษ
เกาะหลีเป๊ะในความเป็นจริงดีกว่าที่คิดเพราะฉะนั้นใครที่กำลังคิดว่าจะมาเที่ยวดีหรือไม่ดี นี้อาจจะเป็นคำตอบที่จะทำให้คุณคิดอยากจะมามากขึ้น ที่จริงแล้วที่นี้เพราะสำหรับการพักผ่อนที่แท้จริง ใครมาต้องไม่ผิดหวังแน่นอน