Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 มกราคม 2554
 
All Blogs
 

ความรู้พื้นฐานสำหรับการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (ตอนที่5) Options3 : Call options จบ

หนีไปเที่ยวต่างจังหวัดมาหลายวัน เลยเอา quiz มาขั้นซะตอนก่อน วันนี้ก็จะขอต่อเรื่อง call option ตอนที่ 2 ซึ่งก็น่าจะจบได้ ไม่รู้เหลือคนอ่านกี่คนแล้ว แต่เหลือ 1 คนก็เขียนให้จบ series ให้ได้ครับ คิดว่าอีกไม่เกิน 3 ตอน แล้วถ้ามีแรง จะเขียนเรื่องกลยุทธ์ ซึ่งเป็น intermediate level ไม่รู้จะไปถึงหรือเปล่า



ต่อจากตอนที่แล้วเลยนะครับ คิดว่าถึงตอนนี้ทุกคนพอรู้แล้วว่า ถ้าจะซื้อ options ซักสัญญา ต้องใช้เงินเท่าไร และเมื่อไหร่จะกำไร เมื่อไหร่ยังขาดทุนอยู่ เอาตัวอย่างเก่ามาดูนะครับ
ซื้อ call730 ที่ราคา 15 ก็คือมีต้นทุนการซื้อที่ 3,000 บาท (ยังไม่ต้องพูดถึงค่า คอมมิชชัน และเงินประกันนะครับเดี๋ยวจะยิ่งปวดหัว) และ เมื่อทำตาราง pay-off ก็จะได้หน้าตาอย่างที่เห็น



จากตารางถ้าเรามาพลอตกราฟ โดยให้แกนนอนหรือแกน X คือค่าดัชนีที่เปลี่ยนไป โดยไปทางขวาคือเพิ่มมากขึ้น ถ้ากลับมาทางซ้ายหาจุดเริ่มต้นก็คือลดลง ส่วนแกนตั้งคือผลกำไรหรือขาดทุน โดยหากอยู่เหนือเส้นก็คือกำไร ยิ่งเหนือมากยิ่งกำไรมาก ถ้าอยู่ต่ำกว่าเส้นก็คือขาดทุน



กราฟที่เราทำได้ มันหมายถึงว่าการที่เราคิดว่าเมื่อถึงวันสิ้นสุดสัญญานะครับ ว่าเราขาดทุนหรือกำไรเท่าใด กราฟนี้ไม่ได้บอกผลกำไรขาดทุน หากมีการขายหรือปิดสถานะก่อนวันสิ้นสุดสัญญา เพราะ ราคาที่เราจะขายได้มันจะขึ้นกับ ความพึงพอใจของคนที่จะมาซื้อต่อเรา ซึ่งก็ไม่สามารถคำนวณได้ว่า หากซื้อแล้วจะขายในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า จะได้ราคาเท่าไร จริง ๆ แล้วถ้าจะคิดว่า option ที่เราถือ กรณีที่ยังไม่หมดอายุ มันมีค่า (value) เท่าใด มันก็คิดได้ครับ แต่คิดเสร็จก็ไม่ได้แปลว่าจะขายได้ราคานั้น อาจได้มากหรือน้อยกว่า เหมือนกับหุ้นแหละครับ เรา valuation ได้ ว่าหุ้นABC ควรจะมีมูลค่าเท่าใด แต่ในตลาดอาจไม่คิดแบบเรา มันมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างมาเกี่ยวข้อง (เป็นที่มาของ overvalue และ undervalue)

ประโยชน์ของตารางที่ทำและกราฟมีเยอะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่ เพราะมันทำให้เราได้ฝึกในการเห็นภาพของผลตอบแทนได้แม่นขึ้น และเมื่อชำนาญแล้วจะนึกภาพได้เองเลย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อทำ strategic play ก็ยังต้องกลับมาใช้ตารางและกราฟนี่อยู่ดี จึงอยากให้ลองฝึกทำไว้ เอาตัวเลขจากข้อมูลจริงก็ได้ครับ และแม้ว่าจะมีโปรแกรมสำเร็จรูปที่สามารถทำกราฟดังกล่าวได้ (ใน one click ก็มี) บางทีผมก็ยัง plot กราฟเองบ้างเหมือนกันครับ

สังเกตที่กราฟนะครับ จะเห็นว่า เมื่อเราลงทุนซื้อ call option นะตำแหน่งที่ซื้อ (เวลาที่ซื้อ) ดัชนีอยู่ที่ 725 การซื้อ call option จะต้องจ่าย 15 จุด หรือ 3000 บาท ซึ่งหากวันหมดสัญญา ดัชนีไม่เปลี่ยนแปลงเลย เราจะขาดทุน 3000 บาท หรือหากวันหมดสัญญา ดัชนีปิดต่ำกว่า 725 เราก็ยังขาดทุน 3000 บาท แต่ถ้าดัชนีปิดสูงกว่านั้น เช่น 730 (หรือที่เรียกว่า strike price ของ call730) เราก็ยังขาดทุน 3000 บาท หรือ 15จุด ที่เราซื้อ option อยู่ แต่เมื่อราคาสูงกว่า730 เราจะเริ่มลดการขาดทุนตามจำนวนจุด และเมื่อมันสูงกว่าราคาที่เราซื้อคือ 15 จุด หรือที่ 745 เราก็จะเริ่มกำไรจริง ๆ ซะที และที่เหลือก็เป็นกราฟเส้นตรงธรรมดา

อย่าเพิ่งงงนะครับ ถ้างงกลับไปอ่านช้า ๆ สงสัยถามได้เลย


คราวนี้ถ้าลองไปดูกระดานที่เขา trade กันจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น streaming หรือ website ของ tfex จะพบตัวเลขลายตาไปหมด วิธีดูง่าย ๆ เป็นอย่างนี้ครับ ถ้าสังเกต จะเห็นว่าข้อมูลมันถูกแบ่งเป็นด้านซ้ายกับขวา ด้านซ้ายคือ call ด้านขวาคือ put ตอนนี้เรา focus กับ call ก็ดูด้านซ้ายอย่างเดียว ดูตรงเสาหรือเส้นแบ่งระหว่าง call และ put ก็จะเห็นตัวเลข ที่เราเรียกว่า strike price ก็คือถ้าดูที่ 730 หากดูฝั่งซ้าย ก็คือ call730 แต่ถ้าดูฝั่งขวา ก็คือ put730 ส่วนตัวเลขในช่องต่าง ๆ ก็จะเหมือนกับเวลาเราดูกระดานหุ้น เช่นจะมี bid offer มี volume ว่า ตอนนี้คน bid แถวแรกกี่สัญญา คน offer กี่สัญญา มี high low last done เหมือนหุ้นทุกประการ

ดูรูปหน่อยแล้วกัน


คราวหน้า จะเริ่มเรื่อง put คิดว่าตอนเดียวก็จบ และจะ wrap up จะได้จบ series นี้ครับ




 

Create Date : 11 มกราคม 2554
9 comments
Last Update : 12 มกราคม 2554 7:23:07 น.
Counter : 4278 Pageviews.

 

ขอบคุณมาก สำหรับ ความรู้ดีดี

 

โดย: Ohmy IP: 117.47.24.230 12 มกราคม 2554 15:12:02 น.  

 

มาแล้วหรือครับ รออ่านอยู่ครับ
เขียนเรื่องกลยุทธต่อนะครับ
ขอบคุณ

 

โดย: kob IP: 124.120.80.151 12 มกราคม 2554 15:16:40 น.  

 

ศึกษาtfexอยู่
บางคนว่าfutureดีกว่าoptionเพราะมีvolumeมากกว่า

จริงเท็จหรือมีสาระสำคัญอย่างไร

...แต่ที่ผมคิดมือใหม่น่าเล่น optionมากกว่าเสี่ยงน้อยกว่า
จุดละ200กับจุดละ1000 และค่าประกันต่อสัญญาอีก

ขอบคุณครับ

 

โดย: kob IP: 124.120.80.151 12 มกราคม 2554 15:21:28 น.  

 

K.krit ครับ

ถ้าต้องการดูราคาของ Long Call กับ Short Call

ของ set50 option

ในตาราง ของ tfex ดูตรงไหน ครับ

 

โดย: Ohmy IP: 117.47.24.230 12 มกราคม 2554 15:33:25 น.  

 

@ohmy

อย่างถ้าเราสนใจจะlong หรือ short call710 เราก็จะดูที่เสากลาง ตรงที่เขียนว่า strike price หาเลข 710 แล้วก็ดูด้านซ้าย (ถ้าด้านขาจะเป็น put) จะเห็นข่อง bid ask โดยbid มีค่า 25 และด้านข้างจะมีช่อง vol ก็คือมีคน bid 1 สัญญา ส่วนช่อง ask (ความหมายเดียวกับ offer) มีค่า 26.8 และมี volume 1 สัญญา

ถ้าเราจะเป็นคนซื้อ (หรือ long ) ก็เหมือนกับหุ้นแหละครับ ใจร้อนก็เคาะขวา คือซื้อที่ 26.8 ได้เลย แต่ถ้าอยาก bid รอ ก็เลือก ราคาที่เรา ok เช่น อยากได้เป็นคนแรก อาจ bid 25.1 ก็ได้ หรือถ้ามีราคาในใจที่ 24 ก็ bid 24 ก็รอให้คนที่ bid แพงกว่าเขาได้ก่อน

ในกรณีที่เป็นผู้ขายหรือ short ก็เช่นเดียวกันครับ ใจร้อนก็โยนซ้าย คือ 25 เลย แต่ถ้าใจเย็น ก็ตั้งรอด้านขวาครับ

ถ้าเราเอา mouse ไปแตะตรงแถบข้อมูล c710 มันจะโชว์รายละเอียดข้างล่าง (ดังรูป) คือมี bid ask 5ช่อง และด้านขวาจะมีข้อมูลการ trade ในวันนี้ ว่ามีการซื้อหรือขายที่ราคาเท่าไร และเวลาใด
นอกจากนี้ก็จะมีแสดงให้เห็นราคา high low open last settle average etc.

 

โดย: krit587 12 มกราคม 2554 21:55:41 น.  

 

พรีเมียม bid/offer บางทีมันห่างกันมาก จะให้โยนซ้ายโยนขวาเลยก็ไม่ไหว แพงเกินไป มีวิธีหาค่าที่เหมาะสมมั้ยครับ

 

โดย: U1000 IP: 58.8.83.79 19 มกราคม 2554 1:37:07 น.  

 

@U1000 ค่าที่เหมาะสม มีวิธีการคิดครับ เรียกว่า Theoretical price (Theo.) และTFEX มีการคิดให้ตลอดเวลา สามารถดูได้จากโปรแกรม one click ครับ

เรื่อง spread bid offer เป็นข้อจำกัดอย่างนึง แต่แม้ว่าตลาดที่ mature มาก ๆ อย่างที่เกาหลี หรืออเมริกา bid offer มันก็ยังมีห่างกันบ้าง ไม่ได้ชนกันเหมือนหุ้นเป้ะ

ที่ระดับที่เราเจอในเมืองไทย ถือว่ายอมรับได้ครับ ถ้าเสียดาย ก็ตั้งรอ แต่ถ้ากลยุทธ์ชัดเจน ยอมเสีย spread นิดหน่อยก็ยังคุ้มครับ อย่างที่บอก ถ้าถูกทาง กำไรประมาณ 30% ต่อรอบ

 

โดย: krit587 19 มกราคม 2554 10:03:31 น.  

 

thanks very much

 

โดย: 3am IP: 183.89.205.126 23 มกราคม 2554 18:43:47 น.  

 

ลงชื่อเข้าห้องเรียนค่ะ เปงนักเรียใหม่ จะตามไประดับ intermediate level ให้ได้เร็วๆๆ นี้จ๊ะ

 

โดย: genie (จีนี) IP: 10.0.2.208, 125.25.252.7 22 มิถุนายน 2554 4:46:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


krit587
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add krit587's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.