|
ความรู้พื้นฐานสำหรับการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (ตอนที่2) รู้จักดัชนีและอนุพันธ์ของดัชนี
ดัชนีและอนุพันธ์ของดัชนี จากตอนที่ 1 เราพอรู้แล้วว่า ตราสารอนุพันธ์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มที่สำคัญคือ futures และ options ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกัน โดยที่สำคัญคือเรื่องของการใช้สิทธิ สำหรับในเรื่อง futures ถ้าเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็จะเหมือนกับการซื้อหรือขายหุ้น
กรณีซื้อ Futures ก็จะเหมือนกันลงทุนในหุ้น ที่พอราคาขึ้น ผู้ซื้อก็ได้กำไร แต่ในกรณีขาย futures ก็จะเหมือนการยืมหุ้นมาขาย ( SBL) ซึ่งจะถ้าราคาหุ้นลดลง คนที่ขาย (หรือเรียกว่า short) ก็จะได้กำไร แต่หากราคาหุ้นขึ้น ก็กลายเป็นว่าขาดทุน ตรงกันข้ามกับคนที่ซื้อ (หรือเรียกว่า long) หลาย ๆ คนที่ไม่ชอบตราสารอนุพันธ์อาจกล่าวในแง่ลบว่า มันก็เหมือนกับบ่อนการพนัน ที่เราแทงสูงหรือต่ำเท่านั้น แทงถูกก็ได้เงิน แทงผิดก็เสียเงิน ซึ่งก็มีส่วนถูกสำหรับการลงทุนใน futures
สิ่งที่ยาก (แต่คุ้มค่าที่จะเรียนรู้) ก็คือ Options การมี options ทำให้เราสามารถออกแบบ port การลงทุนได้อย่างหลากหลาย เช่น การที่ราคาสินค้าอ้างอิงไม่เปลี่ยนแปลง เราก็สามารถทำกำไรได้ ซึ่งเราไม่สามารถได้กำไรกรณีที่เราลงทุนในหุ้นหรือ futures แล้วราคาไม่เปลี่ยนแปลง (รายละเอียด ถ้ามีโอกาสจะกล่าวในตอนหลัง) แต่เมื่อมองดูสินค้าในตลาดอนุพันธ์ ก็จะพบว่า มีเพียง อนุพันธ์ที่อ้างอิงดัชนีSET50 เท่านั้น ที่มีทั้ง futures และ options ส่วน อนุพันธ์ที่อ้างอิงกับหุ้น ราคาทอง สินค้าเกษตร พันธบัตร และอัตราดอกเบี้ย จะมีแต่ futures เท่านั้น ไม่มี options ทำให้ choice ในการลงทุนที่ต้องการประโยชน์จากคุณสมบัติของ Options ในปัจจุบัน ก็จะเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือการลงทุนในอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50
ดัชนี(index) คืออะไร ดัชนี คือตัวเลขที่แสดงภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้นในกลุ่มที่เราสนใจ ตัวอย่างเช่น หากทั้งตลาดมีหุ้น 3 ตัวคือหุ้นA B และ C โดยมีข้อมูลดังนี้
มูลค่ารวมของตลาด 7,000
ถ้าวันที่ T เป็นวันเริ่มต้นของการก่อตั้งตลาด ก็จะให้ดัชนีเป็น 100.00 (ที่มูลค่าตลาด 7,000 บาท) ต่อมาเวลาผ่านไป ถึงวันที่ Q การเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นดังนี้
มูลค่ารวมของตลาด 8,000 ดัชนีวันที่ Q จะเท่ากับ (8,000/7000)*100= 114.29 หรือเพิ่มจากวันที่ T มา 14.29
การเปลี่ยนแปลงของดัชนีจึงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาของหุ้นที่เอามาทำดัชนี โดยส่วนใหญ่ดัชนีของตลาดหุ้นจะใช้วิธีการถ่วงน้ำหนัก (ดังในตัวอย่าง) แต่ก็ไม่เสมอไป
ประโยชน์ของดัชนีก็คือ มันทำให้เรา (หรือผู้ใช้งาน) มองเห็นในภาพรวมว่า กลุ่มหุ้นที่เราสนใจมีทิศทางในภาพรวมเป็นอย่างไร หรืออาจเอาไปเป็น benchmark ในการลงทุน ว่าลงทุนแล้วเก่งกว่าดัชนี หรือแย่กว่า และนอกจากนี้ มันก็สามารถเป็นตัวอ้างอิงในการสร้างตราสารอนุพันธ์ได้ด้วย ถ้าเราไปหาข้อมูลเรื่องดัชนีของตลาดหุ้นในไทย ก็จะพบว่า มีดัชนีอยู่หลายตัวที่เดียว เช่น
1. ดัชนี SET (SET Index) หรือการที่เอาหุ้นทุกตัวในตลาดมาคำนวณ 2. ดัชนี SET100 และ ดัชนี SET50 คือการที่เอาหุ้น100 และ 50 ตัว(ตามลำดับ)ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด และมีการซื้อขายมากตามเกณฑ์ มาจัดเป็นกลุ่ม และหาค่าดัชนี 3. ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม คือการนำหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาหาค่าดัชนี เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร เป็นต้น
ยังมีดัชนีอื่น ๆ อีกหลายตัวเช่น MAI FTSE SET ซึ่งหากสนใจสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ //www.set.or.th
การสร้างตราสารอนุพันธ์จากดัชนี ที่แน่ ๆ คือควรใช้ดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูง และคนเล่นเยอะ เพื่อไม่ให้เกิดการปั่น หรือสร้างราคาได้ง่าย ผลลัพธ์ก็เลยมาตกที่ SET50 Index ว่า น่าจะเป็นดัชนีที่ใช้เป็นตัวอ้างอิงในการสร้างตราสารอนุพันธ์ได้ดี และก็ใช้เรื่อยมา
การดูว่าดัชนี SET50 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็สามารถดูได้เหมือนกับเวลาเราดูดัชนี SET เช่นถ้าดู ticker ในทีวี ก็จะมีข้อมูลให้ดูเช่นเดียวกับค่าดัชนี SET หรือในโปรแกรม trade หุ้นต่าง ๆ ก็มีค่าดังกล่าวซึ่งหากอยู่ในช่วงการซื้อขายก็จะมีการ update อย่างสม่ำเสมอ (เข้าใจว่าทุก 1 นาที)
ชื่อย่อของอนุพันธ์ของดัชนี เริ่มที่กรณีของ Futures ก่อน อย่างที่เคยกล่าวข้างต้นว่า อนุพันธ์ต้องมีวันหมดอายุ สำหรับอนุพันธ์ที่อ้างอิงดัชนี SET50 จะมีวันหมดอายุทุกสิ้นเดือนมีนาคม มิถุนายน และธันวาคม (โดยจะใช้อักษรย่อ H MU และZ ตามลำดับ ตัวอย่างเช่น futures ที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคม 2011 จะมีชื่อว่า S50H11 โดย S50 เป็นตัวบอกว่ามันคือ futures ของ SET50 ส่วน H คือเดือนมีนาคม และ 11 คือ 2011
สำหรับตัวย่อของ options ที่อ้างอิงกับ SET50 ขอพูดในตอนหลัง (ถ้ายังเขียนต่อ) เพราะต้องอธิบายเรื่องคุณสมบัติของ options ก่อนแล้วจึงอธิบายตัวย่อ
จบตอนที่ 2 ขอ comment หรือลงชื่อหน่อยก็ยังดีครับ จะได้มีแรงเขียนตอนต่อไปได้
Create Date : 03 มกราคม 2554 |
|
28 comments |
Last Update : 3 มกราคม 2554 18:24:37 น. |
Counter : 2130 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: s IP: 125.25.21.143 3 มกราคม 2554 20:02:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 58.9.215.143 3 มกราคม 2554 20:03:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: colafirst IP: 182.53.40.132 3 มกราคม 2554 20:05:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: เฉลียง IP: 58.9.151.135 3 มกราคม 2554 20:11:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Knoy IP: 223.205.44.77 3 มกราคม 2554 23:04:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: thalay2 IP: 118.173.57.111 3 มกราคม 2554 23:11:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ่toppp IP: 124.120.173.121 4 มกราคม 2554 0:28:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: amp IP: 125.24.214.159 4 มกราคม 2554 3:30:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: gappyja IP: 202.91.23.3 4 มกราคม 2554 9:03:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: Neung IP: unknown, 203.146.147.106 4 มกราคม 2554 9:47:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: แมกซ์ IP: 118.173.163.90 4 มกราคม 2554 19:04:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: totobest IP: 180.210.216.131 5 มกราคม 2554 18:19:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: kitti IP: 110.49.205.36 5 มกราคม 2554 19:16:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: kob IP: 124.121.224.250 6 มกราคม 2554 13:49:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิด IP: 61.91.84.179 17 มกราคม 2554 13:04:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: U1000 IP: 58.8.153.69 18 มกราคม 2554 20:06:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: krit587 18 มกราคม 2554 21:39:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: 3am IP: 183.89.205.126 23 มกราคม 2554 18:10:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: genie (จีนี) IP: 10.0.2.208, 118.175.64.195 22 มิถุนายน 2554 4:43:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ิิิbbz IP: 58.8.214.219 5 ตุลาคม 2555 18:37:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: kenkoong IP: 58.9.6.137 15 มกราคม 2556 14:57:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: G IP: 115.87.213.163 27 มกราคม 2556 14:03:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Latte IP: 110.171.34.65 7 เมษายน 2556 7:19:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจ้าปิ้ง IP: 110.171.33.2 24 เมษายน 2556 11:27:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: finradell IP: 223.204.118.188 18 ธันวาคม 2557 20:47:04 น. |
|
|
|
| |
|
|
ขอบคุณนะคะ ที่ให้ความรู้