8) เล่ม 1 ตอนหอคอยห้องสมุด 1.8.ฝูงแพะหลังโรงเรียน
ขณะนั้นเอง กระปุก สาวน้อยร่างสูงยาวผิวคล้ำ ผูกผมหางม้าเพื่อนสนิทของหวัน ก็นั่งกินข้าวมันไก่อยู่โต๊ะข้าง ๆ กระปุกไม่ค่อยชอบคุยกับบุ๋น เพราะไม่ชอบนิสัยขี้โม้ และพูดแต่เรื่องของตัวเองของบุ๋น จึงไม่ได้ทักทายด้วย แต่แล้วอีกไม่กี่นาทีต่อมา หวัน แฮ็มกะแป็งและอาเธอร์ก็เดินเข้ามาในบริเวณโรงอาหาร หวันเดินตรงไปหากระปุก ส่วนแฮ็มกะแป็งก็เดินจูงมืออาเธอร์ไปหาบุ๋น “กระปุก เห็นไลน์เราแล้วใช่ไหม อาจารย์วิชชาจะไปรอหน้าประตูตอนบ่ายสามนะ” หวันเอ่ยขึ้น “เห็นแล้วจ้ะ” กระปุกตอบหวันแล้วกินข้าวต่อ “ซื้อขนมปังมะพร้าวให้เราหรือยัง?” “ยัง หวันไปซื้อเองสิ” “ขายหมดแล้วมั้งป่านนี้ แล้วกระติ๊บล่ะ มากินข้าวกลางวันด้วยหรือเปล่า?” หวันถามถึงน้องสาวของกระปุก “ไม่รู้สิ สงสัยกลับบ้านไปแล้วมั้ง?” กระปุกตอบแบบไม่สนใจ “คงจะกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวอร่อยของแม่ แล้วกระปุกไม่ชวนน้องอยู่ร่วมกิจกรรมบ่ายวันศุกร์หรือ?” หวันถาม “ไม่รู้สิ เขาอยากอยู่ต่อ คงอยู่เองแหละ ไม่ใช่ธุระเรา” กระปุกรู้สึกเบื่อ ๆ เวลาพูดถึงน้องสาว “งั้นหรือ? อ้อ...เราขอไปคุยกะบุ๋นก่อนนะ เดี๋ยวกลับมา” หวันเริ่มรู้สึกว่ากระปุกไม่อยากคุยเรื่องน้อง จึงขอตัวไปหาบุ๋น หวันหันไปทางโต๊ะที่บุ๋นนั่ง แฮ็มกะแป็งพาอาเธอร์เดินหาซื้อข้าวกิน บุ๋นกำลังจิ้มลูกชิ้นทอดลูกสุดท้ายเข้าปากเคี้ยวอย่างอร่อย “บุ๋น วันนี้ต้องกินข้าวเย็นบ้านคุณยาย จะกลับไปบ้านพี่ด้วยกันไหม?” หวันถาม “ยังไม่ไปล่ะ บุ๋นจะกลับบ้านบุ๋นก่อน จะไปเก็บกระเป๋า อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยไป” บุ๋นพูดทั้งๆ ที่ลูกชิ้นอยู่ในปาก “บ้านบุ๋นห่างบ้านคุณย่าแค่ห้านาที เย็นนี้จะไปกับพ่อแม่ตอนกินข้าวเย็นเลย พี่หวันกลับไปก่อนละกัน วันนี้ลุงแจ๊คกับป้าอุ๊มารับพี่กลับบ้านไม่ใช่หรือ?” ป้าอุ๊ที่บุ๋นถามถึงคือแม่ของหวัน ส่วนลุงแจ๊คก็คือพ่อของหวัน แม่ของหวันเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของพ่อบุ๋น คุณยายของหวัน ก็คือคุณย่าของบุ๋น คุณยายมีลูก 3 คน ป้าทิพย์เป็นลูกสาวคนโตของคุณยาย ป้าทิพย์ไม่ได้แต่งงาน จึงอาศัยอยู่กับคุณยายมาตลอด คุณแม่ของหวันเป็นลูกสาวคนที่สอง แต่งกับพ่อแล้วย้ายไปอยู่ที่บ้านพ่อแถวลาดกระบัง เมื่อตอนที่หวันมาเรียน ม. 1 ที่โรงเรียนพัฒนจิตฯ หวันจึงย้ายมาอยู่ที่บ้านคุณยายกับป้าทิพย์ แต่เสาร์อาทิตย์กลับไปนอนบ้านตัวเอง ส่วนลูกคนสุดท้องของคุณยาย คือน้าพรชัย ซึ่งเป็นพ่อของบุ๋น บ้านบุ๋นอยู่ใกล้บ้านคุณยาย “ตามใจ งั้นพี่กลับก่อน แล้วบุ๋นจะกลับกี่โมงล่ะ?” “เดี๋ยวเล่นบอลกับเพื่อน ๆ ก่อนค่อยกลับ ยังไงก็กลับก่อนโรงเรียนปิดประตูตอนห้าโมงล่ะพี่หวัน” พอพูดจบ พวกเขาก็เห็นแฮ็มกะแป็งพาอาเธอร์ถือจานข้าวมานั่งร่วมวงด้วย แฮ็มกะแป็งยื่นขนมปังส่งให้หวัน “ซื้อมาฝากน่ะหวัน เหลือชิ้นสุดท้าย” แฮ็มกะแป็งมือสั่นเล็กน้อยตอนยื่นขนมปังให้ “ขอบใจมากนะแฮ็มกะแป็ง กี่บาทน่ะ? เดี๋ยวเราจ่ายคืนให้” หวันเปิดกระเป๋าสะพายเตรียมหยิบเงิน “ไม่เป็นไรหรอกหวัน นิดหน่อยเอง” “ขอบใจมากนะ ขนมปังมะพร้าว” หวันแกะกระดาษพลาสติกที่หุ้มอยู่ออก “รู้ได้ไงอ่ะหวัน ว่าเป็นขนมปังไส้มะพร้าว ยังไม่ทันแกะห่อเลย?” เสียงกระปุกที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้น “อ้าว ก็กลิ่นมันบอกอยู่แล้วนี่ไง อีกอย่างกินอยู่บ่อย ๆ จำได้อยู่แล้ว” หวันหยิบขนมปังกัดออก เห็นไส้มะพร้าวอัดแน่น “แหมหวัน จมูกดีจริงๆ เลย น่าจะเอาไปช่วยตำรวจดมของโจร” กระปุกพูดประชด ไม่พอใจที่มีคนแสดงน้ำใจให้หวัน ทันใดนั้น หวันก็ทำจมูกฟุดฟิด “เอ๊ะ มีกลิ่นสาบแปลก ๆ ทางประตูรั้วนั้น” หวันชี้ไปที่ประตูรั้วเหล็กที่เชื่อมกับหลังวัดไชยพินิจ “ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย” ทุกคนพยายามทำจมูกฟุดฟิด ตามหากลิ่นที่หวันบอก แต่ไม่มีใครได้กลิ่นสาบอะไร “มีเสีย..งเดิน มากันหลายตัว..เลย” อาเธอร์พูดขึ้น ทุกคนเงี่ยหูฟัง ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร อันที่จริงอาเธอร์ได้ยินเสียงนานแล้ว แต่กว่าจะพูดออกมา ก็ผ่านไปหลายนาที ในขณะที่หวันมีญาณพิเศษได้กลิ่นไว อาเธอร์ก็มีหูวิเศษที่ยินเสียงไวเช่นกัน หวันเดินไปที่ประตูรั้วเหล็กนั้น ทันใดก็ชี้ไปที่ถนนทางเดินในวัด “นั้นไง มีแพะเดินเยอะแยะเลย น่ารักจัง” ทุกคนเดินตามไปที่หวันยืนอยู่ ต่างมองเข้าไปในรั้ววัด อาเธอร์พูดขึ้นเสียงดังด้วยความตื่นเต้นแบบเด็ก ๆ “มีแพะ.. แพะ ตั้ง 9 ตัวแน่ะ ฮ่า ฮ่า น่ารักจั..ง” ฝูงแพะพากันเดินหาหญ้ากิน แต่ที่ลานกลางแจ้งของหลังวัด ไม่ค่อยมีหญ้าเขียว มีแต่หญ้าแห้งๆ สีน้ำตาล หวันหันไปทางริมรั้วอีกด้านที่ติดกับที่ดินรกๆ หญ้าขึ้นเต็มไปหมด หวันจึงไปดึงหญ้าสดมาเลี้ยงแพะ แฮ็มกะแป็งและอาเธอร์เลยหยุดกินข้าวก่อน แล้วเดินพร้อมบุ๋นมาที่หวัน แล้วช่วยกันดึงถอนหญ้าไปเลี้ยงแพะบ้าง กระปุกยังคงยืนอยู่ที่เดิม รู้สึกรำคาญนิด ๆ ที่พวกผู้ชายทำตามหวันทุกคน ไม่ว่าหวันจะทำอะไร ดูพวกเพื่อนผู้ชายในกลุ่มจะเห็นดีเห็นงามทำตามไปหมด
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2564 |
|
0 comments |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2564 9:32:15 น. |
Counter : 598 Pageviews. |
|
|
|