5) เล่ม 1 ตอนหอคอยห้องสมุด 1.5. ห้องสมุดนั้นอยู่ชั้น 3 ครึ่ง
แสงแดดส่องผ่านกิ่งไม้ของต้นหางนกยูงต้นใหญ่ที่ตั้งเด่นท่ามกลางแนวยอดสนอยู่ด้านหน้าห้องสมุด แสงรำไรจากกิ่งใบและดอกสีแสดของต้นหางนกยูงทะลุผ่านประตูกระจกสีชา ส่องไปบนหน้าหนังสือนิยายเยาวชนที่อยู่ในมือเรียวยาวของหวันหรือวรรณอำไพ นักเรียนหญิงดีเด่นคนเก่งที่แฮ็มกะแป็งแอบชอบอยู่ สาวน้อยหน้ามนนักเรียน ม. 6 วัยสิบเจ็ดปี กำลังสดสวยงดงามในวัยแรกรุ่นเหมือนดอกไม้แรกแย้มสดสวยน่ามอง กำลังอ่านหนังสือนิยายด้วยความสนุกบันเทิงใจ ในห้องสมุดกว้างขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร มีโต๊ะอ่านหนังสือวางอยู่ 5-6 ตัว ห้องสมุดในเวลานี้ มีเพียงหวันนั่งคนเดียวที่โต๊ะด้านหน้ากับนักเรียนอีกสามคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะใกล้ประตูอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น บรรยากาศในห้องสมุดเงียบเชียบ โดยเฉพาะด้านในที่ไม่มีคนอยู่ ดูวิเวกน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก อาจารย์วิชชาเดินนำแฮ็มกะแป็งไปยังห้องสมุด เงาสูงที่ทอดมาของแฮ็มกะแป็งบังแสงรำไรบนหน้าหนังสือนิยายเยาวชนนั้น หวันเงยหน้ามองมายังประตูห้องสมุด พอเห็นอาจารย์วิชชายืนอยู่พร้อมด้วยแฮ็มกะแป็ง หวันก็รีบปิดหนังสือ คว้ากระเป๋าสะพายหนังสีชมพูอ่อนราคาสูงเดินออกมา “หวัน ฝากเตือนกระปุกให้มาพบครูที่หน้าโรงเรียนเวลาบ่ายสามนะ” อาจารย์วิชชาบอก “ครูนัดคุยกับคุณแม่ของกระปุกที่บ้านบ่ายวันนี้” “ค่ะอาจารย์ กระปุกบอกหนูแล้วค่ะ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงอาหาร เดี๋ยวหนูจะไลน์ไปบอกไว้ก่อนค่ะ” หวันตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฟันขาวสะอาดเรียบเป็นระเบียบเหมือนรูปโฆษณาหน้าร้านหมอฟัน ลมที่หน้าประตูห้องสมุดพัดมาเบา ๆ หวันปัดผมซอยที่ปอยผมถูกลมพัดปรกหน้า ผมซอยสั้นของหวันทำให้รูปหน้าหวานนั้นยิ่งดูเด่น “แล้วเธอไม่ทานข้าวกลางวันหรือหวัน? มานั่งอ่านหนังสือตรงนี้” อาจารย์ถาม “หนูจะไปทานข้าวที่บ้านคุณยายค่ะ วันนี้ที่โรงอาหารไม่มีอาหารมังสะวิรัติ” “อ๋อ ใช่สิ วันนี้วันศุกร์ ร้านมังสะวิรัติหยุด” อาจารย์วิชชากล่าว “แล้วไม่รีบไปบ้านคุณยายเลยล่ะ?” “หนูนัดบุ๋นไว้ค่ะ จะพาไปเยี่ยมคุณยายกับคุณป้าด้วยกัน” หวันพูดถึงบุ๋น ญาติผู้น้องที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปี แต่บุ๋นเรียนเร็ว จึงเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน “นัดกันไว้ว่าจะออกบ่ายสามเหมือนกัน” “แล้วไม่หิวแย่หรือ?” อาจารย์วิชชาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ที่โรงอาหารมีขนมปังขาย ซื้อทานรองท้องไปก่อนสิ เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะจะลำบาก” “ได้ค่ะอาจารย์ เดี๋ยวหนูแวะไปซื้อตอนไปหาบุ๋นค่ะ” “ครูจะไปที่ห้องกิจกรรม แฮ็มกะแป็งบอกว่าพวกบุ๋นอยู่ที่นั่น จะไปด้วยกันไหมล่ะ” “ได้ค่ะอาจารย์ หนูเก็บหนังสือก่อนแล้วตามไปค่ะ” หวันรีบหันกลับห้องสมุดไปเก็บหนังสือ แล้วออกมาทันที พอหวันออกมา นักเรียนกลุ่มที่นั่งอยู่สามคนนั้นก็รีบตามออกมาทันที “อ้าว ทำไมพวกเธอพากันออกมากันหมดเลยล่ะ?” อาจารย์วิชชาเห็นเข้าอดถามไม่ได้ พวกนักเรียนอีกสามคนดูเหมือนจะอยู่ชั้นม. 4 หน้าตาเลิ่กลั่กมองหน้ากัน เด็กผู้ชายในกลุ่มตอบอาจารย์เบา ๆ “พวกผมกลัวครับ ไม่มีใครอยู่แล้ว พี่หวันเขาออกมา ก็ยิ่งเงียบใหญ่ พอดีพวกผมต้องทำรายงานกลุ่ม เลยต้องมาหาข้อมูล ไม่งั้น ไม่มากันหรอกครับ แฮ่ะ แฮ่ะ” “กลัวอะไรกัน?” อาจารย์วิชชาคิ้วขมวด “กลัวผีครับ” พอเด็กผู้ชายตอบ เด็กผู้หญิงอีกสองคนก็เดินขยับเข้ามา “เขาเล่าว่ามีคนเคยเห็นผีที่ตึกนี้ ผีตกตึกน่ะครับ” ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบา “ผีเผอที่ไหน” อาจารย์วิชชาร้องขึ้น “เล่าลือกันมาเป็นตุเป็นตะ ไม่มีหรอก กลับไปทำรายงานกันต่อเถอะ ครูอยู่ที่นี่มาสามสิบกว่าปี กินอยู่แถมนอนที่โรงเรียนนี้มาตลอด ไม่เห็นจะเคยเจอผีสักตัว” “หา? อะไรนะ? อาจารย์อยู่ที่นี่มาสามสิบกว่าปีแล้วหรือ?” พวกเด็กม.4 ร้องเสียงหลง ตกใจยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก “แล้วทำไมอาจารย์ดูหนุ่มจังเลยคะ?” เด็กผู้หญิงคนยาวถามขึ้น “อาจารย์อยู่กับนักเรียนเด็ก ๆ ทุกวัน ออกกำลังกายทุกวัน เลยต้องทำตัวเด็กให้เข้ากับพวกนักเรียนไงเล่า” อาจารย์วิชชาหัวเราะเบา ๆ รู้สึกเขินที่ถูกนักเรียนชมว่าหน้าเด็ก “อาจารย์เป็นคนดี คิดบวก จิตใจร่าเริง ทำอะไรเพื่อนักเรียน หน้าเลยดูเด็กอยู่เสมอ” หวันเสริมขึ้น แฮ็มกะแป็งคิดตั้งนานว่าจะพูดอะไร สุดท้ายก็นึกออก “อาจารย์ อืม...อ้อ เปิดใจเรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา ก้าวหน้าไปกับเทคโนโลยี” พอพูดจบทุกคนก็หัวเราะออกมา นึกตลกที่แฮ็มกะแป็งใช้คำขวัญของโรงเรียนมาชมอาจารย์ “เอาล่ะ เอาล่ะ หยุดป้อยอกันได้แล้ว แฮ็มกะแป็งก็ตลกเชียว นั่นมันคำขวัญโรงเรียนไม่ใช่หรือ?” อาจารย์วิชชาอดหัวเราะไม่ได้กับความน่ารักเปิ่นๆ ของแฮ็มกะแป็ง
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2564 |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2564 10:02:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 318 Pageviews. |
|
|