เมื่อคิดจะสร้างบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11061
คอลัมน์ ครบเครื่อง เรื่องรักษ์บ้าน โดย ช่างอ้วน loves_homes@yahoo.co.th
เมื่อคิดจะสร้างบ้าน
คุณณิชาภัทร (กทม.) สอบถามมาว่า ตอนนี้เก็บเงินได้พอสมควร อยากจะสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ตอบคุณณิชาภัทร หากเรามีที่ดินว่างอยู่ และต้องการจะสร้างบ้านบนที่ดินนั้น สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกเลยคือ การตรวจสอบขนาดและขอบเขตของที่ดิน,ตรวจสอบหลักหมุดที่ดินให้ตรงกับโฉนด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังว่า เราสร้างบ้านทับหรือล้ำไปในที่ดินของเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบประวัติที่ดินด้วย เช่น ที่แปลงนี้เคยเป็นแอ่งน้ำหรือเปล่า ตั้งอยู่บนที่ลุ่มหรือที่ดอน เป็นต้น เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากกับการออกแบบเสาเข็มและโครงสร้างของตัวบ้าน เพื่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวบ้าน
เมื่อทราบประวัติแล้วก็ทำการปรับที่ดิน ถ้าที่ดินมีสิ่งปลูกสร้างเดิมอยู่ ควรรื้อถอนออกให้หมด ไม่ให้มีวัตถุตกค้างในบริเวณที่ดิน และควรปรับระดับที่ดินให้มีความสูงจากถนนหน้าบ้านอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 60-80 เซนติเมตร (หลังจากปล่อยให้ดินยุบตัวเต็มที่แล้ว) เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดจากน้ำท่วมในวันข้างหน้า
ขั้นตอนต่อมาเป็นการเลือกแบบบ้าน เนื่องจากในปัจจุบันมีแบบบ้านให้เลือกมากมาย เพื่อให้ได้บ้านตรงตามความต้องการของเรา (และครอบครัว) มากที่สุด ซึ่งในการเลือกแบบบ้านนี้ ควรคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมด้วย เช่น
-สภาพอากาศ บ้านเราที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น จึงควรเลือกแบบบ้านที่ค่อนข้างโปร่ง โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ทั่วถึง
-จำนวนและอายุของสมาชิก ส่วนจำนวนสมาชิกของครอบครัวจะเป็นตัวกำหนดจำนวนห้องนอน ถ้าครอบครัวมีผู้สูงอายุก็ควรจัดห้องส่วนตัวไว้ชั้นล่าง ส่วนจำนวนห้องน้ำก็ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะอาจเป็นภาระในการดูแลรักษาได้ในภายหลัง
-การใช้ชีวิตภายในบ้าน การใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัวจะเป็นตัวกำหนดการจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ถ้าสมาชิกใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่รวมกันในห้องใดมากที่สุด เราก็ควรต้องจัดสรรให้พื้นที่ห้องนั้นมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น
เมื่อได้แบบบ้านที่ถูกใจแล้วก็เลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เพราะบ้านเป็นสิ่งที่ต้องอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน ไม่ใช่แค่ช่วงชีวิตของเราเองเท่านั้น แต่อาจยาวนานไปถึงรุ่นลูก รุ่นหลานของเราด้วย ดังนั้น การจะมอบความไว้วางใจให้ใครเป็นคนปลูกบ้านให้เราจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทรับสร้างบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ
โดยสามารถพิจารณาได้จากความยาวนานในการก่อตั้งบริษัท และชื่อเสียงที่บอกต่อกันมา รวมถึงผลงานในอดีตอันใกล้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างหรืองานสถาปัตยกรรม สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกถึงมาตรฐานการทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพที่จะได้รับ เมื่อมอบหมายให้บริษัทนั้นๆ เป็นผู้สร้างบ้านให้
และสุดท้าย ควรพิจารณาด้วยว่า บริษัทรับสร้างบ้านนั้นมีบริการทั้งก่อนและหลังการสร้างบ้าน,การรับประกันที่มอบให้ เพื่อสร้างความมั่นใจในบ้านที่จะได้รับด้วยหรือเปล่า
ขั้นตอนต่อมาคือ การยื่นขออนุญาตปลูกสร้างบ้าน เพราะก่อนจะทำการสร้างบ้านทุกหลัง จำเป็นต้องขออนุญาตจากทางราชการก่อน โดยต้องเตรียมเอกสารเพื่อขออนุญาตปลูกสร้างบ้าน ซึ่งประกอบด้วยใบคำร้อง,พิมพ์เขียวแบบบ้าน 5 ชุด ที่มีลายเซ็นของวิศวกรคำนวณโครงสร้างกำกับทุกแผ่น,เอกสารอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน ตามแบบฟอร์มของทางราชการ,สำเนาโฉนดที่ดินเท่าต้นฉบับจริง พร้อมลายเซ็นเจ้าของที่ดินกำกับ,รายการคำนวณโครงสร้างของวิศวกร 1 ชุด,หลักฐานบัตรประกอบวิชาชีพสถาปนิกและวิศวกรอีกอย่างละ 1 ชุด,บัตรประชาชน ของผู้ยื่นคำร้อง,สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ยื่นคำร้อง
โดยให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่สำนักงานเขตหรืออำเภอ ฝ่ายควบคุมอาคารจะทำการตรวจสอบความถูกต้อง เมื่ออนุมัติก็จะสามารถปลูกสร้างบ้านได้เลย โดยขั้นตอนดังกล่าวนี้ บริษัทรับสร้างบ้านจะดำเนินการให้ เพื่ออำนวยความสะดวก (อาจคิดค่าใช้จ่ายรวมไว้ในการก่อสร้างบ้านแล้ว) ซึ่งอาจหมายรวมถึงการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อดำเนินการก่อสร้าง เช่น กรมที่ดิน การประปา การไฟฟ้า องค์การโทรศัพท์และธนาคาร เป็นต้นครับ
***************************************
ขออนุญาตคุณ "ช่างอ้วน" นำบทความมาลงเพื่อเผยแพร่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกห้องชายคาครับ
Create Date : 22 มิถุนายน 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2551 20:27:28 น. |
Counter : 1335 Pageviews. |
|
|
|