Bloggang.com : kinglear :

never say no in IRAN เที่ยวก่อน ค่อยเล่าทีหลัง # 2

สถานที่ท่องเที่ยว : Tehran, Iran
พิกัด GPS : 35° 40' 44.83" N 51° 25' 16.36" E

27 กย.

เตหะราน day 2

ราวแปดโมง ตื่นมาทานชากาแฟ ขนมปัง คนที่โฮสเทลออกไปซื้อ ขนมปังมา เป็นแป้งขนมปังคล้ายโรตี แต่นุ่มเหมือน bread ที่นุ่มเพราะยังร้อน อร่อยมาก

ตอนทาง มี วัยรุ่นคู่หนึ่งลงมา จำหน้าได้ว่านั่งอยู่บนเครื่องฝั่งตรงข้าม

พอได้ยินเขาคุยกันเป็นภาษาไทย อ้าววว

คนไทยนี่เอง

ทั้งคู่ มาเที่ยว คล้ายกับที่เราจะไปแต่ใช้เวลาน้อยกว่าของเรา

คุยไปมา กว่าจะออกจากที่พักล่อไป สิบโมงกว่า

เรานั่งรถใต้ดิน ซื้อบัตรแบบเติมเงิน Rs 50,000 (เรียลอิหร่าน)(มั่่วเอา)

รถไฟใต้ดิน สะอาด ใหญ่ ดีกว่า metro ของนิวยอร์ค หรอ ปารีสอีก ที่สำคัญ ค่าโดยสาร จากบัตรเติมเงิน50บาท เราใช้เดินทางกัน สี่วันในเตหะราน

จากที่พัก นั่งรถไปเปลี่ยนหนึ่งครั้ง

ขึ้นรถไฟเหมือนบ้านเรา หรือ ทุกที่ในเมืองใหญ่ ติดชื่อป้ายสถานีชัดเจนเป็นภาษาฟาร์ซีและภาษาอังกฤษ

เรามาลงที่ Metro station Imam Khomeini

เดินขึ้นมาบนดิน เราจะเจอ Grand Bazaar คนและร้านค้าวุ่นวายเหมือน JJ บ้านเรา ขนาดตลาดใหญ่มาก เป็นศูยน์รวมทุกสิ่งอย่าง

เดินผ่านตลาดจะเจอ Imam Khomeini Mosqueเป็นสุเหร่าไม่ใหญ่มาก

จากนั้นเดินชมตลาดไปสักพัก

ข้ามถนนคนเดินมาอีกฝั่งเป็นที่ตั้งของวัง Golestan (Palace of Flowers) สร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 15 แต่เดิมเป็นป้อมโบราณ เเล้วค่อยต่อเติมเป็นวังในเวลาต่อมา ตำหนักของกษัตริย์ราชวงศ์ต่างๆ สร้างเรียงๆ ต่อๆกันยาวติดกันเป็นแถบเดียวดูระเบียบเรียบร้อยสวยงาม

วังนี้เป็นที่พำนักของกษัตริย์หลายองค์ จึงมีไฮไลต์ในแต่ละตำหนักไม่ซ้ำกัน ตำหนักสำคัญๆ 7 ตำหนักเปิดให้เข้าชม ร่วม 10 กว่าห้อง เราต้องเลือกซื้อบัตรเข้าชมแต่ละจุด ใครต้องการดูครบทุกห้อง น่าจะใช้เวลาทั้งวัน

ขอเล่าเฉพาะไฮไลต์ดังนี่้
แรกสุดเมื่อเราเดินผ่านทางเข้า เดินผ่านสวนและทางเดินกลางพาเราไปสุดพระที่นั่ง Takht-e-Marmar (Marble Throne)สร้างในศตวรรษที่ 18 พระที่นั่งอยู่ในอาคารเปิดโล่งเข้าหาสวนกลางแจ้งให้ผู้คนด้านนอกอาคารเข้าเฝ้า พระที่นั่งตกแต่งด้วยหินอ่อน กระจกตัด อลังการต้อนรับ(และข่ม)ผู้มาเยือน

จาก Marble Throne เดินผ่านมุมอาคาร เราจะเจอท้องพระโรงของ Karim Khan กษัตริย์องค์หนึ่งใน ศตวรรษที่ 17 มีที่ฝังศพหินอ่อนของเจ้าของด้วย ท้องพระโรงเล็กๆตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสวยงามสู้ตาย

ตำหนักถัดชื่อ Peace Hall ชั้นล่างเปิดเป็นห้องนิทรรศการรวมภาพวาดโบราณ จากนั้นจึงเป็นทางเข้า Mirror Hall ที่อยู่ชั้น 2 เมือเดินเข้าไปในตำหนักส่วนนี้ ตั้งแต่โถงบันไดทำให้เราตะลึงกับงานกระจกตัดประดับประดาระยิบระยับเหมือนเราเข้าไปสู่คลังของเพชร อลังการอื้ออึง
ในส่วนของ Mirror Hall อลังการงานสร้างไม่แพ้ใคร แม้จะไม่มีงานกระเบื้องสี หรือภาพวาดผนังมาประกอบ งานกระจกตัดล้วนๆประดับประดาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง (ด้านในห้ามถ่ายรูปใครอยากได้ต้องซื้อจากพิพิธภัณฑ์)

ถัดจาก Mirror Hall เป็น Ivory Hall ห้องรับรองตกแต่งสวยงาม ลงจากชั้นสองมีคลังแสดงงานเซรามิกที่ส่งมาจากประเทศต่างทั่วโลกให้เป็นของขวัญเป็นพันๆชิ้น ทุกชิ้นล้วนหายาก

ตำหนักถัดมา Shams ol Emareh (Edifice of the Sun) เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเตหะรานช่วงศตวรรษที่ 18 อาคารผสมระหว่างเปอร์เซียกับยุโรปได้กลมกลืน ถัดไปเป็นหอคอย Emarat e Badgir สร้างในยุคถัดมา ในตำหนักด้านนี้ มี Diamond Hall ท้องพระโรงที่ตกแต่งด้วยกระจกตัดซับซ้อนกว่า Mirror Hall มีความเป็นยุโรปมากขึ้น สวยงามลงตัว เหมือนเราเดินเข้าไปในคลังเพชรขนาดใหญ่อีกแห่ง

ยังมีห้องนิทรรศการอีกหลายห้องให้เดินดู สัมผัสศิลปะเปอร์เซียสมัยต่างๆ

ในปี 2007 องค์การยูเนสโก้ ขึ้นทะเบียนวัง Golestan เป็นมรกดโลก

เราใช้เวลาชมร่วมสี่ชั่วโมง

จากนั้นเดินทางไปที่ พิพิธภัณฑ์สถานเเห่งชาติอิหร่าน เปิดให้เข้าฟรี เพราะวันนี้เป็นวัน International Tourism ทุกสถานที่ท่องเที่ยวเปิดให้ชมฟรี ^ ^

The National Museum

ขนาดพิพิธภัณฑ์ไม่ใหญ่ มีวัตถุโบราณจัดแสดงไม่มาก เเต่หลายชิ้นวัตถุเป็นสำคัญโดยเฉพาะ

วัตถุโบราณจาก Persepolis ใครที่ไม่ได้ลงไปShirazควรเข้ามาดูที่นี่อย่างยิ่ง

จบจากนั้น เดินหาข้าวทานแล้วเดินกลับโรงเเรมสลบ

ปล.วันที่สอง เดินกลับ ไป เจอโรงละครของเมืองเตหะราน ( Tehran City Theater) ผู้คนล้านเจ็ดยู่หน้าโรงละครมีการแสดงจัดที่เวทีกลางแจ้ง ในขณะที่ด้านในมีโรงละครอีกสามเวที เปิดแสดงพร้อมๆกันครึกครื้นมาก ตื่นตาตื่นใจ

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2559

0 comments

Last Update : 24 พฤศจิกายน 2559 14:51:54 น.

Counter : 3037 Pageviews.