|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
CHANGE : Introduction to "Feel Good" Politics
ถอดใจมารีวิวเลยสำหรับละครเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าความคิดต่าง ๆ ยังไม่ตกผลึกดี แต่เขาว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อนค่ะ ก็เลยนะ
. เอาหน่อยก็แล้วกัน
ละครเรื่องนี้เรตติ้งเฉลี่ย 21.7% ถือว่าเสมอตัวแบบเฉียดฉิวสำหรับละครที่ทาคุยะแสดง แต่หากเทียบโดยองค์รวมของเรื่องแล้วคิมุถือว่าละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงค่ะ
CHANGE เป็นละครเกี่ยวกับการเมือง แต่ไม่ใช่การเมืองเข้มข้นอย่างที่เราเห็นใน West Wing ซีรีย์ฝั่งอเมริกา และ ก็ไม่ใช่แนวตลกเสียดสีแบบ The American President ดังนั้นหากใครคาดหวังจะเจอกลเกมส์การเมืองที่หนักหน่วงยอกย้อนชิงไหวชิงพริบทุกเวลานาที หรือ แนวตลกกุ๊กกิ๊กเบาสมอง
. คงไม่ใช่แนว CHANGE ค่ะ ละครเรื่องนี้อารมณ์ปนเปกันจนไม่ทราบว่าเป็นแนวอะไรแน่
ถ้าจะให้สรุปใจความกันแล้วอาจบอกได้ว่า CHANGE คือ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเมือง แบบคิดบวก เริ่มแรกละครเรื่องนี้พาให้ผู้ชมได้ศึกษาการเมืองขั้นพื้นฐานนับแต่การลงรับสมัครเลือกตั้ง การทำงานของระบบรัฐสภา และ หน้าที่ของสมาชิสภาผู้แทนราษฎร จนกระทั่งรัฐมนตรี รวมทั้งประชาชนให้ตระหนักถึงหน้าที่ที่เราพึงมีต่อประเทศ
CHANGE เล่าเรื่องราวเหล่านี้ผ่านตัวละครหลากหลาย โดยเริ่มที่
อาซาคุระ เคย์ตะ คุณครูหนุ่มผู้หน่ายการเมือง และ มีใจยินดีกับสายลมดวงดาว และ เด็ก ๆ ในจังหวัดห่างไกล เคย์ตะเป็นคนธรรมดาสมบูรณ์แบบ ติดจะเนิร์ด ๆ ด้วยซ้ำ เพราะ เหตุผลส่วนตัวบางประการ รวมทั้งความเป็นคนเดินดินกินข้าวแกงของเคย์ตะเอง การเมือง กับ เขาดูเหมือนจะห่างไกลกันเหลือเกิน
แต่ชีวิตเคย์ตะต้องมาผกผันเมื่อเจอกับ มิยามะ ริกะ เลขาฯของ ส.ส. ที่มีอิทธิพลในพรรคการเมืองบทของริกะ เป็นบทที่สร้างขึ้นมาเพื่อเติมเหตุผลของเรื่อง เธอเป็นผู้หญิง เก่ง แกร่ง มีอุดมการณ์ แต่ก็ซื่อตรง เชื่อใจคนอื่นจนมองไม่เห็นมีดที่เขาซ่อนไว้ข้างหลัง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ ริกะ กับ เคย์ตะ นั้นมีตรงกันเพียงแต่ส่งที่เคย์ตะมีมากกว่า คือ การนำเอานิสัยคุณครูติดมาด้วย ได้แก่ ความเป็นพวกละเอียดลออ ช่างสงสัยใคร่รู้ และ เป็นนักปฏิบัตินิยม
ในส่วนนี้คิดว่าผู้เขียนบทน่าจะส่งสารบางอย่างถึงรัฐบาล เนื่องจากตอนนี้นายกฯรัฐมนตรีคนปัจจุบัน คือ ท่าน ฟุคุดะ ที่ได้รับการตำหนิติติงมาว่า ตั้งรับ มากเกินไป (จากบทความใน Wall Street journal Fukudas low key style frustrated Japan)จึงได้สร้าง อาซากุระ เคย์ตะ ที่นิยม กลยุทธ์เชิงรุก เข้ามาเปรียบเทียบ ทั้งความกล้าที่จะแสดงความรู้สึกของตนแบบตรง ๆ เมื่อโดนโจมตีเรื่องครอบครัว การก้าวไปข้างหน้าเพื่อแก้ปัญหาอย่างไม่หวั่นไหว และ ยังกล้าจะแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกา.... เหล่านี้คือสิ่งที่คนญี่ปุ่นโหยหาจากวงการเมือง
นอกจากนั้นยังมีการจำลองสิ่ง(น่าเบื่อ)ที่เราพบเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอันได้แก่การสาดโคลนของนักการเมืองในระหว่างเลือกตั้ง รวมทั้งการกลวิธีการประหัตประหารกันทางการเมือง(แบบเบาะ ๆ) พอให้เห็นภาพ และ ครีเอทเอาวิธีการแก้ปัญหาแบบแปลก ๆ และ สร้างสรรค์ลงไป เป็นจริงได้หรือเปล่าไม่ทราบ แต่เรื่องบอกให้เราทราบว่า ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ก็คงเพราะ แบบนี้ละครจึงได้ชื่อเรื่องว่า CHANGEหากสังเกตดี ๆ นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางความคิด และ กายภาพของตัวละครแล้ว ... ในแต่ละตอนยังสื่อให้เห็นการปฏิวัติความคิดทางการเมืองบางอย่างที่ฝังรากลึกจนเป็นประเพณี
........... ถ้าเห็นแก่ประชาชนแล้ว ทำไมพรรคฝ่ายค้าน และ ฝ่ายรัฐบาลจะจับมือกันไม่ได้ ............ .......... ถ้าเห็นแก่ประชาชนแล้ว ทำไมรัฐบาลจะยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่ประชาชนไม่ได้ ............ ........... ถ้าเห็นแก่ประชาชนแล้ว ทำไมรัฐบาลจะกล้าคัดง้างกับประเทศมหาอำนาจไม่ได้ ...........
การเมืองทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็คงประสบปัญหาคล้าย ๆ กัน คำว่า ประชาชน นั้นหายไป หรือไม่ ก็ไม่มีความหมาย นักการเมือง วันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนต่างเล่น การเมือง มากกว่าจะสนใจ การ ของบ้านเมือง และ เจตนารมณ์ที่ใส่ใจเจตจำนงของประชาชน
สุดท้ายสิ่งที่ CHANGE ได้ฝากเอาไว้น่าจะเป็นกระแสที่ว่า........ เราทุกคนหากว่ามีความเชื่อ และ เคารพในการเมือง เชื่อ และ เคารพในระบอบการบริหารประเทศล่ะก็ หนึ่งเสียงของเราจะมีความหมายค่ะ หากขาดเสียซึ่งความเชื่อ ความเคารพ และ การตระหนักในหน้าที่ของตน ไม่เคารพกฎเกณฑ์ที่มี ...... ไม่ว่าจะกี่เสียงก็ไม่มีความหมาย
ดังนั้นทั้งระบบจะต้องดำเนินไปด้วยกัน เราจึง เปลี่ยนแปลง ค่ะ
สายตาของเคย์ตะจากวันแรกที่เป็น ส.ส. คนที่ขาดความเชื่อความมั่นใจ ณ ที่ที่ตนเองยืนอยู่ ไม่รู้ว่าเรามาทำอะไร และ จะทำอะไรได้ ....... มาถึงอาซากุระ เคย์ตะในตอนสุดท้าย ที่บัดนี้ความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม ........ รู้แล้วว่าเราทำอะไรได้ ตระหนักแล้วว่าหน้าที่ที่แท้จริงคืออะไร และ ต้องการจะกระทำสิ่งใดต่อไป หากทุกคนไม่ว่า นักการเมือง หรือ ประชาชนคนธรรมดา ตระหนักในหน้าที่ได้เช่นเดียวกับที่ อาซาคุระ เคย์ตะ ได้แจ้งในใจ ....... การเมือง แม้กระทั่งประเทศ จะเปลี่ยนไปแน่นอนค่ะ คิมุมั่นใจ
ดังนั้น .... โปรดเชื่อในการเมืองซักครั้ง และ ปฏิบัติไปตามครรลอง แล้วดูผลที่ตามมา .... CHANGE คงตั้งใจจะบอกเราเช่นนี้
ละครเรื่องนี้อาจไม่ใช่ละครที่อลังการงานสร้างในฉาก หรือ โปรดัคชัน แต่ คุณค่าของมันอยู่ที่แนวคิดย่อยง่าย และ ได้สาระที่เจือหลายอารมณ์
อยากให้เรื่องนี้มาฉายที่เมืองไทย อยากจริง ๆ ค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ทางสถานีได้เห็นคุณค่าของละครเรื่องนี้ อยากให้เห็นว่าการเมืองแบบ Feel Good และ มีความเป็น Positive ยังคงมี แต่ทั้งหมดนี้ เราต้องช่วยกันค่ะ
****************************************************
ในพาร์ทของการแสดงคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เล่นดีกันทุกคน .... ขอพูดในส่วนของคิมุระซังนิดเดียว บทนี้เป็น Something to be proud of ของ คิมุระซังค่ะ อย่าพลาดฉากกล่าว speech เด็ดขาดสำหรับทุกท่านที่จะดู
Create Date : 20 กรกฎาคม 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 13:01:52 น. |
Counter : 469 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 20 กรกฎาคม 2551 17:40:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: TK's Friend IP: 58.8.33.46 18 กันยายน 2551 13:32:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เขียนวิจารณ์ได้ดีมาก
และลึกเลยออกไปจากหนังอีก
แสดงว่าถึงไม่ตกผลึก
แต่ก็วิเคราะห์จากสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย
เดิมอยากดูเรื่องนี้มาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านแล้ว
ยิ่งอยากดูอีก 5 เท่าเลยค่ะ
หาดูได้จากไหนคะเนี่ย