ไปมาเก๊า กับ ส.ว. (สูงวัย) วันที่สาม (Red Market-Kum Iam Temple-Guia Fortress-Macau Tower-กวนอิมทอง)

วันที่สามนี้ สมาชิกท่านหนึ่งต้องเดินทางกลับก่อน เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ เช้านี้เราเหลือ 8 คนรวมฉันที่ไปทาน "ติ่มซำ" เป็นอาหารเช้า อีก 2 ท่านไปรอส่งที่สนามบินกลับมาทานไม่ทัน เราได้รับคำแนะนำให้ไปทานที่ร้านนี้ ดูชื่อป้ายร้านเองนะคะ อยู่ใกล้ที่พักค่ะ เดินไปสบาย ๆ บริการดี สะอาดสะอ้านดี แถมอาหารก็อร่อย คิดสตางค์แล้ว เหลือเชื่อ คิดเป็นเงินไทย คนละไม่ถึง 300 บาทค่ะ...ชมส่วนหนึ่งของติ่มซำที่สั่งนะคะ


ป้ายชื่อภัตตาคาร


ภายในภัตตาคาร


ติ่มซำบางส่วน


ชิ้นใหญ่นะคะ

พนักงานบริการเราดีมาก แนะนำอาหารมากมาย เราก็ไม่ขัดศรัทธา เธอบอกว่าชอบคนไทย ญาติไปเมืองไทยแล้วชอบมาก (แหม! นี่ขนาดตัวเองไม่ได้ไปนะคะเนี่ย)

วันนี้เราต้องย้ายโรงแรมค่ะ ก็ดีได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เราไปพักที่โรงแรมเก่าจำชื่อไม่ได้เพราะเป็นชื่อจีน แต่ก็สามารถลากกระเป๋า เดินไปเดินมาจี๊ดเดียวก็ถึงสบาย ๆ ที่นี่ห้องพักกว้างขวางนะคะ ไม่ชอบที่ปูพรม มันมีกลิ่นอับ ๆ ค่ะ แต่ก็ไม่มีทางเลือก ขอซุกหัวอีกคืนเดียว ตรงข้ามโรงแรม เป็นร้านขายขนมของฝากค่ะ ก็เป็นร้านเดียวกับที่ Food Street แต่ที่ร้านนี้เข้าใจว่าเป็นร้านดั้งเดิมค่ะ


กำลังเช็คอินเข้าพัก


ร้านขายขนมตรงข้ามโรงแรม


วันนี้เราไป Red Market กัน นั่งรถเมล์เช่นเคย เป็นรถคันเล็กค่ะ วิ่งซิ่งตามซอกซอยได้อย่างน่าหวาดเสียว แต่เชื่อฝีมือคนขับค่ะ


พี่ ๆ บอกให้ถ่ายรูปไว้ ที่ห้อยต่องแต่ง คือปลาเค็มค่ะ

คนขับรถเมล์บอกว่าถึงแล้ว ก็ลงรถกันพรึ่บพรั่บ .... อะไรกันนี้จ๊ะ....รถรับเจ้าสาวค่ะ...เขาใช้รถตู้กันเลยนะคะ....คนขับรถก็ดีค่ะ เป็นคนถ่ายรูปให้ดิฉัน
พอถ่ายเสร็จ ก็ขับซิ่งออกไปเลย (วันนี้ เขาว่าเป็นวันดีทั่วโลกค่ะ)


รถเจ้าสาว


ด้านหลังรถ

เดินข้ามฝั่งไป Red Market ก็กลิ่นแบบตลาดสดนะคะ เดี๋ยวกลับมาแล้วกัน เราไปไหว้พระกันก่อนดีกว่า


นี่แหละค่ะ "ตลาดแดง"

..ดูตามแผนที่แล้ว..เราก็เดินอีกแล้วค่ะ ไปยังวัดเจ้าแม่กวนอิม (Kum Iam Temple) ซึ่งใช้เวลาเดินไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็เดินดูบรรยากาศเมือง ๆ ล่ะค่ะ






ด้านหน้าวัดค่ะ


ในวัดนะคะ

ไหว้พระแล้ว ตามแผนที่ บอกว่านั่งรถสายเมล์สาย 12 จะไปถึง Cable Car ที่หมายถัดไปของเรา เพื่อที่จะไปดูประภาคาร (Lighthouse) หรือเขาใช้คำว่า Guia Fortress ค่ะ ถามคนขับรถเมล์ คนนี้"กวน" teen มากค่ะ บอกว่า "ไม่รู้จัก" ดังนั้น คงเดาถูกนะคะ "เดิน" อีกแล้วครับท่าน ...555555.......

จนถึงสถานี Cable Car ดูที่ป้ายรถเมล์ค่ะ สาย 12 ผ่านจริง ๆ.......ขึ้นกระเช้าที่นี่ ราคาถูกมาก ๆ คนละ HK$ 3.- เองค่ะ กระเช้าที่นี่ บรรทุกได้ครั้งละ 4 คนเท่านั้น มีขนาดเล็กกว่า "กระเช้านองปิง" ที่ฮ่องกงค่ะ


ตั๋ว ไป-กลับ เคเบิลค้าร์ (กระเช้า)


กระเช้าขนาด 4 คน

ถึงที่หมาย แล้วก็เดินขึ้นเขาต่อ ถนนดีค่ะ แต่ไม่ให้รถขึ้นไป เดินตามป้ายบอกทางจนถึงด้านบน "ประภาคาร" บนเขาลูกนี้ วิวสวยนะคะ


ด้านซ้ายเป็นโบสถ์ ด้านขวาเป็นประภาคารค่ะ


ที่สูง ๆ ด้านหลังคือโรงแรมลิสบัว


ส.ว. ก็มาถึงเหมือนกัน (หอบแฮ่ก ๆ )

ข้ามไปชอตหนึ่งคือระหว่างเดินมาที่ Cable car เราได้ยินเสียงเครื่องยนต์ค่ะ ดังแสบแก้วหูเลย..ก็สงสัยกันส่ามันเสียงเครื่องอะไร....แล้วก็นึกได้ว่า ช่วงที่เรามา 19-22 นั้น ที่นี่มีการแข่งรถค่ะ เรียกว่า "Macau Grand Prix 2009" ซึ่งสนามแข่งจะอยู่บริเวณนี้ค่ะ

ตอนขาลง ดิฉันเห็นคนมุงอะไรกันนะ โอ่! แม่เจ้า......นั่นมันรถแข่งนี่หน่า...โอ๊ย มันเร็ว จนมองแทบไม่ทัน ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์....ชักช้าไม่ได้การ ขอวิ่งเข้าไปแจม ดูของจริงสักหน่อย..555555....ไม่ได้เห็นเต็มสนามนะคะ แค่ช่องว่างระหว่างแนวตึกค่ะ แต่ก็มีคนตั้งกล้องถ่ายรูปกันมากมาย ดิฉันน่ะถ่ายไม่ได้สักรูปเลยค่ะ กล้องความไวไม่พอ


ซอกนี้แหละค่ะ ดูรถแข่งกัน เห็นจิ๋ว ๆ นั่น รถสูตร 1 นะคะ

ขากลับเดินไปยัง Cable Car หลงทางสิคะ ที่นี่เป็นสถานที่ออกกำลังกายด้วยค่ะ แต่เดินผิดทิศ หลงทางไปร่วมครึ่งชั่วโมงกับพี่อีก 3 คนกว่าจะไปถึงสถานีกระเช้าค่ะ......เหนื่อย ...มากกกก.......

และแล้วเราก็เดินต่ะ เพื่อไปยังถนน Horta E Costa มีร้านขายของตามทางค่ะ แต่ก็ไม่มีใครได้ซื้ออะไร เพราะเป็นของที่พวกเรามีแล้วทั้งนั้น.....วันนี้ทานเที่ยงกันตอนประมาณบ่าย 3 ตั้งใจจะไปทานที่ร้านหมูแดงหมูกรอบร้านที่เขาว่าอร่อย แต่ไปสายเขาเก็บหมดแล้ว ก็เลยได้ร้านใกล้ ๆ กัน รสชาติใช้ได้ เขากำลังปิดร้าน แต่มีของ ก็เลยโชคดีของร้านเรียกเข้าเข้ามา สั่งหมูแดงหมูกรอบ อีก4 จานใหญ่ เรียกว่า "ส้มหล่น" ตอนปิดร้านค่ะ555555 ไม่มีมู้ดถ่ายรูปแล้วแหละ ขอโซ้ยก่อน รอไม่ไหวแล้ว.......


ด้านหน้าร้านอาหารค่ะ

และแล้วเราก็ข้ามมาฝั่งตรงข้ามนะคะ เดินดูตลาดซึ่งคล้าย ๆ เยาวราชบ้านเรา พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เพราะเราต้องไปเที่ยวต่อค่ะ ......นั่งรถเมล์ไปยัง Macau Tower ค่ะ เห็นแต่วิวไกล ๆ ผ่านไปผ่านมา วันนี้ต้องไปให้ถึงค่ะ ท่าน ส.ว. ลงมติว่าไม่ขึ้นไป เพราะไม่อยากไปโลดโผนอะไรให้หัวใจวาบหวิวเล่น เราก็เดินชมบริเวณรอบ ๆ


พระอาทิตย์กำลังตก


ซึ้งค่ะ


ด้านล่าง Macau Tower


มีการแสดงบนเวทีนี้ หากดิฉันแสดง คงเป็น "ละครลิง" ค่ะ


ถ่ายกับโมเดลก็ยังดี

นับว่าเราโชคดีนะคะ ที่นี่เขามีงาน Food Festival ด้วยล่ะ เข้าไปเดินเล่นสักหน่อย ได้บรรยากาศครึกครื้นดีค่ะ เขาตกแต่งร้านสวยค่ะ เรียกว่าลงทุนน่าดู เพื่อเรียกคนเข้ามาซื้ออาหารค่ะ


Food Festival


ครึกครื้นดีค่ะ นึกถึงงานวัดบองเรา

ตอนนี้เราจะกลับแล้วนะคะ เห็นป้าย Free Shuttle Bus ชอบสิคะ พอไปถามเขาก็ชี้ให้เดินไปทางโน้น...ก็ไปค่ะ เดินไปตั้งไกล ไม่ยักเจอแฮะ เริ่มมืดแล้วด้วย แต่ช้าก่อน....ไม่ถอยค่ะ....ตามแผนที่บอกว่าเดินทางนี้ไปถึง “องค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีทองกลางน้ำ” ค่ะ เราก็เดินตามทางไปเรื่อย ๆ ...เมื่อยก็นั่งพักคุยกันลั่น เฮฮา ..พักกัน 2 ครั้งค่ะ ....ไม่ถึงสักที...ฝรั่งเดินสวนผ่านมาค่ะ เลยถามว่าทางที่เขาผ่านมา มีรูปปั้นเจ้าแม่ใช่ไหม.....แกตอบว่า “ Yes, you can walk” .....5555555.....ฝรั่งไม่ได้โกหกค่ะ แคนวอล์ค จริง ๆ ...อีกเกือบครึ่งชั่วโมง ถึงได้เห็นเจ้าแม่เด่นเป็นสง่าค่ะ5555555555You Can Walk” ......ก็เลยเอามาใช้แซวเล่นกันครื้นเครงค่ะ.....บ่นไม่ได้นี่นา..มาแล้วนี่........


ฉากหลังสวยระหว่างทางที่เดิน

เรามาถึงดึกไปค่ะ เขาปิดไม่ให้ชมข้างใน ก็เลยไหว้ที่ด้านนอกค่ะ ...เจ้าแม่คงรับรู้ว่าพวกเรา “ทรหด” กันแค่ไหน ดั้นด้นมากราบท่านได้


องค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ โปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีนค่ะ ใบหน้าท่านคล้ายตะวันตกค่ะ

จากจุดนี้ เราเริ่มสับสนกับเส้นทางแล้วแหละ จึงเดินตามแผนที่ไปเรื่อย ๆ เพื่อหาสายรถเมล์ที่จะผ่านที่พัก...แต่ยิ่งเดินยิ่งมั่วค่ะ ก็ไปสอบถาม เขาบอกว่าให้ไปที่ โรงแรม Sands ค่ะ แต่ต้องเดินนะคะ เพราะไม่มีรถเมล์สายไหนผ่านโดยตรง.......เดินไป ก็ถามไป ในที่สุด พวกเราก็เดินมาถึง Sands ได้ค่ะ....ยังไม่หิวนะ...เพราะเราขอแวะ “คาสิโน” ที่นี่สักพักก่อนน่ะสิจ๊ะ...............อ้อ!..ในคาสิโน ห้ามถ่ายรูปค่ะ......


แชะรูปกับรถแข่งสุดโปรดสักหน่อย Sands เป็นสปอนเซอร์ค่ะ เลยเอารถมาวางโชว์ได้

มาที่นี่ ดีอย่างตรงที่เราสามารถนั่งรถฟรีได้ค่อนข้างหลายสายค่ะ ...จากแซนด์ ก็ไปนั่งรถฟรีไปลงที่ ท่าเรือเฟอรี่ค่ะ ระหว่างทางก็ผ่าน Fisherman’s Wharf สวยดีค่ะ แต่หมดปัญญาแล้วคงไปอีกไม่ไหว ถึงท่าเรือก็เปลี่ยนสายมานั่งสายที่พาเราไปลิสบัวแกรนด์ค่ะ .....แล้วก็เดินกลับที่พักได้แบบสบายหายห่วงนะคะ

แวะทานอาหารที่ Happyness Street เช่นเคย เป็นร้านบะหมี่-เกี๊ยว-โจ๊ก อร่อยดีค่ะ ของหวานเป็นแปะก๊วยนะคะ ราคาไม่ต้องถามค่ะ เท่าไหร่ก็จ่าย เงินกองกลางยังเหลือ

ค่ำคืนนี้ ส.ว.ใช้พลังงานกับการเดินทนหลายช่วง.. เจ้ามือเลยขอพักผ่อน 1 วัน......ฉันเองก็อาบน้ำแล้วก็ดูละครช่อง 3 หลับไปเมื่อไหร่ก็ปล่อยให้ละครดูคนแทนแล้วกัน.....มะ..หวาย...แล้ว.......

วันนี้ โหลดรูปในตะกร้าได้หนืดมากค่ะ แต่ก็จะพยายามเขียนวันที่ 4 ให้จบในตอนต่อไป ขอบพระคุณที่ติดตามนะคะ

ดิฉันพยายามเล่าให้เห็นภาพค่ะ อาจจะเยิ่นเย้อไป..แต่สำหรับส่วนตัวแล้ว..เป็นความทรงจำ..ที่นึกถึงแล้วภาพก็ผุดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ค่ะ

ขอเบอร์มือถือด้วยนะคะ....จะโทรไปถามว่า "สนุกไหมคะ"

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552		3 comments
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 10:16:28 น.
Counter : 3434 Pageviews.
Share Tweet