สิงหาคม 2555

 
 
 
1
2
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เภสัชขา...เอาตามที่เภสัชใช้ค่ะ

เภสัชฯขา.......แล้วเภสัชฯใช้อะไรอยู่บ้างคะ?

 

ตั้งใจจะเขียนเป็นภาคต่อ จากคราวก่อนที่ได้เขียน 4 Steps เพื่อผิวขาวไปแล้วเพราะจากประสบการณ์ที่อยู่ร้านยา หลังจากที่เภสัชได้เพียรพยายามอธิบายไป คำถามสุดท้ายของคุณๆที่ปรารถนาผิวขาวแล้วเข้ามาขอคำปรึกษาก็มักจะมาจบลงที่คำถามว่า “แล้วเภสัช ใช้อะไรอยู่คะ เอาตามที่เภสัชใช้ละกันค่ะ”(ในใจเภสัชกรีดร้อง สรุปว่าที่อธิบายไป ได้ฟังบ้างมั้ยคะ? อะฮึกอะฮึก แถมคุณๆส่วนมาก ขาวกว่าเภสัชอีกค่ะ) เอาเป็นว่า บทนี้เลยขอเขียนเป็น review ส่วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้อยู่ในปัจุบันแล้วกันค่ะ

 


ครีมกันแดด

 

สิ่งนี้เป็น must have item ค่ะ ถึงแม้บางวันจะสิงสถิตในอาคาร ไม่ได้โดนแสงแดดเลยแม้ซักน้อย แต่ก็ต้องทาครีมกันแดดค่ะ

 


Nivea Body UV Whitening Serum


กันแดดทาตัวส่งเข้าประกวดโดย Beiersdorf เจ้าของเดียวกับ Eucerin (อันนี้เป็นความชอบโดยส่วนตัวคือซื้อของถูกแต่คิดว่าได้ใช้ของแพง อิอิ) ส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์เป็น Ethylhexylmethoxycinnamate สารกันแดดในกลุ่ม chemical sunscreen มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV B บนหลอดของผลิตภัณฑ์แสดงเฉพาะค่า SPF 22 ไม่มีการแสดงค่า PA ไว้แต่พอพลิกด้านหลังหลอด บริษัทเค้าโปรยไว้ว่า “ปกป้องผิวจากแดดต่อเนื่องยาวนานทั้งรังสียูวีเอ/บี” โดยส่วนตัวคิดว่าอาจจะมั่นใจได้เฉพาะยูวีบี เท่านั้นแหละค่ะ แล้วค่า SPF ถือว่าค่อนข้างน้อยค่ะคงไม่สามารถปกป้องผิวได้ต่อเนื่องยาวนานแบบคำโฆษณา รวมทั้งวิตามิน ซี บริสุทธิ์ 95% กับซอย เป็ปไทด์ ก็ไม่คิดว่าจะได้มาซะเท่าไหร่ แต่ข้อดีที่แนะนำให้ซื้อก็เพราะ

 

1) ราคา (งกตลอดๆๆ) ราคาถูกมากค่ะซื้อมาประมาณ 200 ต้นๆ ในปริมาณครีม 350 ml (จะถูกไปไหนคะ?)

 

2) ในแง่ของความรู้สึกหลังทา ต้องบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่หนืดน้อยกว่าอีกหลายๆตัวของกันแดดเครือนี้ (ในความรู้สึกส่วนตัว Beiersdorf ถือเป็นเจ้าแม่แห่ง skin care ที่ทาแล้วหนืด เหนอะ ทั้ง Eucerin และ Nivea) แม้ว่าบริษัทจะเขียนว่าเป็น serum แต่เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นค่ะซึมง่ายประมาณนึง ไม่เหนอะมากค่ะ สรุปคือเอามาใช้เป็น whitening ทาตัวตามชื่อผลิตภัณฑ์จะดีกว่าใช้เพื่อหวังผลเป็นครีมกันแดดค่ะ

 

Biore UVaqua Rich Watery jelly SPF 30 และ Biore UV Aqua Rich Watery Mousse SPF 50

 

กันแดดที่เมื่อทาบนผิวจะเปลี่ยนเป็นน้ำทันทีทั้ง 2 ตัวผลิตภัณฑ์นี้ส่งเข้าประกวดโดย Kao เป็นผลิตภัณฑ์ที่ Made in Japan ค่ะ (มั่นใจเรื่องคุณภาพญี่ปุ่น ราคาไทยแลนด์ค่ะ) ส่วนประกอบมีทั้งที่ป้องกันทั้ง UV A และ UV B แต่ไม่ทำให้กรี๊ดเท่ากับการที่เป็นสูตรน้ำทาแล้วไม่วอก ไม่ลอย และไม่มีผลกับสีรองพื้นแต่อย่างใด สำหรับคุณสาวๆที่ต้องแต่งหน้า (ตอนซื้อ BA บอกว่าตัวที่เป็น mousse สามารถใช้เป็น make up base ได้เลยทีเดียว...ความจริง คือ ทาแล้วหน้าใสขึ้นนิดนึงค่ะแต่แทนที่ make up base ไม่ได้ค่ะ)

 

ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ของ Biore ต้องยอมรับว่าชนะใจค่ะก่อนหน้านี้เปลี่ยนกันแดดมาเรื่อยๆ ไม่เคยใช้ติดกันเกิน 1 หลอดแต่กลุ่ม Aqua rich นี่ทำให้ใช้ต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปีได้แล้วค่ะ เพราะชอบตรงที่ไม่เหนอะหนะเลยทำให้ทาซ้ำระหว่างวันได้แบบสบายๆค่ะ (กรณีคนที่ไม่ถูกกับแอลกอฮอล์ใน skin care เจ้ากลุ่มนี้ไม่เหมาะเลยค่ะ เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงค่ะ)


Scrub

 

กลุ่ม Mechanical exfoliation: Sanctuary Spa Covent Garden Body Scrub และ Oriflame Milk and Honey Gold Smoothing Sugar Scrub

 

ต้องบอกว่าในบรรดา scrub ทั้งหลายที่เคยใช้มา ยังไม่ได้ภักดีจีรังกับยี่ห้อไหนค่ะ แต่ตอนนี้ใช้ 2 ตัวนี้อยู่ ก็ใช้สลับๆกันค่ะ แต่ชอบเจ้า Sanctuary มากกว่า เพราะเม็ดสครับละเอียดกว่า และชอบแนวกลิ่นมากกว่า (Sanctuary กลิ่น orange oil แบบสดชื่น ส่วน Oriflame กลิ่นหอมหวานมากมาย) แต่ความรู้สึกหลังใช้คล้ายๆกันค่ะ คือทำให้ผิวเนียนเรียบลื่นทั้งคู่ค่ะ ขัดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งนะคะ

 



กลุ่ม Chemical exfoliation : Maxkin AHA 10%

 


เป็น skin care ที่หาง่ายมากๆ ตามร้านยาทั่วไป และราคาถูกมาก (อีกแล้ว) มีส่วนประกอบสำคัญคือ glycolic acid ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม AHA ภาษาไทยเรียก AHA ว่าเป็น “กรดผลไม้” และเจ้าตัว glycolic acid นี้ได้มาจากอ้อยค่ะ(เดาว่าเป็นที่มาของคำโปรยบนหลอดผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า “ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ”) ซึ่งทาง skin care กล่าวกันว่าเจ้า glycolic acid นี้เป็นตัวที่มีขนาดเล็กที่สุดและปลอดภัยที่สุดในกลุ่มเมื่อเทียบกับ AHA อื่นๆ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA นี้สามารถทาได้ทุกวันค่ะ เพราะจริงๆแล้ว AHA ไม่ทำให้ผิวบางลงนะคะข้อเสียของผลิตภัณฑ์ คือ เนื้อครีมค่อนข้างหนักค่ะ ตอนนี้เลยเอามาใช้ทาตัวค่ะ

 


Dietary supplement

 

ออกตัวไว้ก่อนว่าจากการเรียนเภสัชทำให้ในอดีตไม่ค่อยเชื่อเรื่องอาหารเสริมซะเท่าไหร่ค่ะ เพราะเชื่อในยา การกินอาหารให้ครบ5 หมู่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และบลาๆๆๆ แบบที่คุณๆเคยได้ยินจากปากเภสัชเวลาไปโรงพยาบาลหรือเดินเข้าร้านยานั่นแหละค่ะ ^^ แต่ทีนี้ด้วยเหตุบางประการคือ ได้ทำงานที่ต้องหมกมุ่นกับเจ้าวิตามิน และอาหารเสริม รวมทั้งจากประสบการณ์ส่วนตัวและคนรอบข้างทั้งหลายก็เลยทำให้เชื่อว่า “กิน (อาหารเสริม) ดีกว่าไม่กิน” นั้นจริงค่ะ แต่ต้องเลือกเป็น และกินให้ถูกต้องนะคะ

 

เข้าเรื่องละกันค่ะมาดูว่าตอนนี้ทานตัวไหนอยู่บ้าง ต้องบอกว่าตอนนี้เพราะเป็นอาหารเสริมที่ทานอยู่ในช่วงประมาณ1 เดือนนี้ค่ะ คือเปลี่ยนเรื่อยๆทั้งอาหารเสริม, skin care, และเครื่องสำอางค่ะ (เพราะชอบทดลองแล้วเอามาให้คำแนะนำค่ะ)

 



Glow

 


อาหารผิวที่ประทับใจที่ชื่อ “Glow” นี่แหละค่ะ ซื้อมาเพราะทำให้รู้สึกว่า ผิวช้านต้อง glowขึ้นแน่ๆ (ก่อนหน้านี้เคยซื้อ “Blink” ด้วยเหตุผลเดียวกัน ฮ่าๆๆ เภสัชก้อมีมุมเพ้อเจ้อนะคะ) พลิกดูส่วนประกอบต้องบอกตามตรงว่าไม่มีสารอาหารที่โดดเด่นจนแตกต่างจากอาหารผิวยี่ห้ออื่นๆ (ส่วนประกอบมีโปรตีนจากปลาทะเล, ฮอสเทลสกัด, ชาเขียวสกัด, ไบโอฟลาโวนอยด์, hydrolyzedcollagen, vitamin C, ไลโคพีน) แต่บริษัทก็ดูตั้งใจจะขายความเชื่อมั่นถึงขนาดจ้าง spin control ทำวิจัย ซึ่งส่วนมากมักจะเห็นในพวก skin care มากกว่า ส่วนผลหลังจากทานมา 1 เดือน ก็ยังนิ่งๆค่ะอาจต้องรอเดือนที่ 2 ค่อยประเมินดูอีกทีค่ะ


Grape seed


ต้องบอกว่า Grape seed เป็นสารอาหารตัวหนึ่งที่ขาดไม่ได้ค่ะ โดย Grape seed หรือ เมล็ดองุ่น มีสารสำคัญ คือ Oligomeric Proanthrocyanidin Complexes (OPC) ซึ่งจัดเป็นสารในกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์มีคุณสมบัติเป็น super antioxidant เพราะสามารถต้านอนุมูลอิสระแรงกว่าวิตามินซี 20 เท่าและแรงกว่าวิตามิน อี 50 เท่านอกจากนี้ยังช่วยให้วิตามินซี และอีทำงานได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งในศาสตร์การชะลอวัย หรือ Anti-aging ต้องถือว่าเจ้า OPC มีความสำคัญแบบมากมายทีเดียวเนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถจับกับคอลลาเจนและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวได้ จนมีบางคนกล่าวว่า OPC เป็น “oral cosmetic”

 

ประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อ Grape seed คือ ควรเลือกซื้อสารสกัดจากเมล็ดองุ่นที่มีการระบุปริมาณ OPC ย้ำอีกทีว่าต้องดูปริมาณ OPC นะคะ สำคัญมาก อย่าซื้อยี่ห้อที่ไม่แจ้งปริมาณ OPC ส่วนขนาดการรับประทานสามารถรับประทานได้ตั้งแต่ 50 – 300 mg/วันค่ะ โดยแนะนำให้ทานตอนท้องว่างนะคะเพราะ OPC อาจไปจับกับโปรตีนในอาหารได้ ทำให้ดูดซึมน้อยลงค่ะ

 


Alfalfa

 


เป็นสารอาหารที่ไม่ค่อยโด่งดังเท่าไหร่ในไทยแต่ต่างประเทศเห็นโฆษณากันโครมคราม เลยลองสืบๆหาข้อมูลดู พบว่าเจ้า Alfalfa มีการใช้มานานแสนนาน ทั้งอาหรับ, จีนและอายุรเวท ได้ฉายาจากชาวอาหรับโบราณว่าเป็น “father of all foods” (โอ้โห!!! พ่อแห่งอาหารทั้งมวลคิดได้ไง?) การศึกษาเรื่องประโยชน์ของ Alfalfa มีหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดว่าช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้ มีไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยในเรื่องอาการของผู้หญิงวัยทอง...แล้วซื้อมาทำไมล่ะเนี่ย?

 

เป็นที่รู้กันดีว่า Alfalfa เป็นแหล่งของคลอโรฟิลล์สารอาหารตัว hot hit ของธุรกิจขายตรงชื่อดัง ซึ่งโฆษณากันไว้ว่าคลอโรฟิลล์เปรียบเสมือนเลือดของต้นไม้ การทานคลอโรฟิลล์จึงเปรียบเหมือนการบำรุงเลือดฟอกเลือดให้สะอาด บางโฆษณาเห็นไปไกลถึงขนาดลดกลิ่นปาก กลิ่นตัวกันเลยทีเดียว ก็ต้องบอกว่าการศึกษาของ chlorophyll ก็ไม่ได้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือซะเท่าไหร่ค่ะ บุคลากรทางการแพทย์ส่วนมากจึงไม่เชื่อถือสรรพคุณของเจ้าchlorophyll ค่ะ ประกอบกับราคาผง chlorophyll อันแสนแพง ยิ่งทำให้ไม่อาจตัดใจซื้อมาทดลองได้ ก็เลยตัดสินใจสั่งเจ้า Alfalfa มาแทน เปรียบเหมือนการได้ chlorophyll ทางอ้อมบวกกับฉายา “father of all foods” ที่ดูน่าสนใจเหลือเกิน ซึ่งตอนนี้ทานไป 1 เดือน ความเห็นส่วนตัวพบว่า ช่วยทำให้อาการอ่อนเพลียหลังเลิกงานน้อยลงค่ะอาจจะเพราะผลจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่เรื่องอื่นๆยังไม่เห็นเด่นชัดค่ะ

 


ป.ล. ย่อมาจากปัจฉิมลิขิต^^อาหารเสริมทั้งหมดช่วงนี้เป็นของบริษัทเดียวกันคือ Natural care ที่บริการ Delivery ค่ะสาเหตุเนื่องจากหวังของแถมอ่ะค่ะ เลยต้องซื้อให้ครบยอด อิอิ ทำให้ดูไม่หลากหลายเลยคราวหน้าจะเอายี่ห้ออื่นๆที่เคยทานอยู่ / กำลังจะทานมาให้ดูนะคะ

ป.ล. สอง ยินดีเป็นอย่างยิ่งในการรับคำถามจากผู้ที่เข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชม Blog หรือข้อเสนอแนะใดๆก็ตามค่ะ 




Create Date : 05 สิงหาคม 2555
Last Update : 31 สิงหาคม 2555 14:01:02 น.
Counter : 27048 Pageviews.

9 comments
  
กำลังสั่ง grap seed มาทานพอดี..ดีจังเลยค่ะ..ได้ความรู้จากเภสัชโดยตรง..ขอบคุณนะคะ
โดย: jasmine5555 (w_jasmine5555 ) วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:22:05:51 น.
  
ไว้จะตามอ่านนะคะ ชอบๆ
โดย: TINNY GIRL (taemin01 ) วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:22:29:55 น.
  
ตามมาจากพันทิปคะ
แอบถามคุณเภสัชขานิ๊ดดนึงค่า อาหารเสริมพวกนี้สามารถทานต่อเนื่องได้ตลอดชีวิตมั้ยคะ ต้องมีกินเดือนเว้นเดือนอะไรแบบนั้นหรือเปล่า คือเห็นข้อมูลแต่ละที่มาไม่เหมือนกัน รบกวนถามคุณเภสัชเลยดีกว่าค่า
โดย: จี้ (JEEZAA ) วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:22:35:42 น.
  
อัพบล็อคเรื่อยๆ นะคะ จะติดตามอ่าน และเผื่อมีอะไรสงสัย จะได้แวะเข้ามาขอคำแนะนำด้วยค่ะ อิอิ ....
โดย: นู๋มาริ วันที่: 6 สิงหาคม 2555 เวลา:0:07:28 น.
  
สงสัยเกรปซีดค่ะ
ทำไมเภสัชจึงเลือกทาน Mega we care ทั้งที่ ปริมาณ mg แค่ 20 mg เอง เทียบกับ ของ วิสต้าแล้ว ต่างกันลิปเลย ของวิสตร้าัตั้ง 60 mg
จะเป็นการรบกวนไหมค่ะ ถ้าอยากจะขอร้องให้
ช่วย " ชำแหละ ส่วนผสม " ทั้ง 2 ตัวนี้
ระหว่าง Mega we care ตัวที่เภสัชทานอยู่ กับ ตัววิสตร้า เกรปซีด
ทั้ง ข้อดีข้อเสีย ให้หน่อยจะได้ไหมคะ เพราะว่า ตอนนี้เราค่อนข้างสับสน
กับการเลือกทานน่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะ
โดย: bunnycute (bunnycute ) วันที่: 6 สิงหาคม 2555 เวลา:9:28:08 น.
  
โอ้ว มาย บุ๊ดด้า...หายไปทำงานแป๊บเดียว ยอด pageviews ทะลุ 2 พัน (เกินความคาดฝัน) ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ตื้นตันเหลือหลาย ต่อไปจะขยันเขียนมาให้อ่านกันนะคะ ^^

@ jasmine5555, @TINNY GIRL, @นู๋มาริ ขอบคุณสำหรับการชื่นชมนะคะ ตัวลอยแย้วววว

@จี้ เป็นคำถามยอดฮิตมากค่ะ การทานวิตามินแบบไม่เกินค่า RDA ของวิตามินนั้นๆสามารถทานต่อเนื่องได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องกินๆเว้นๆค่ะ (ส่วนค่า RDA ของวิตามินแต่ละตัว ลอง search ถามอากู๋ (เกิ้ล) ดูค่ะ)

@bunnycute "ชำแหละ" เลยหรอคะ ดูโหดร้าย >.<
ต้องบอกว่า Vistra ทำเภสัชค่อนข้าง งง ค่ะ เพราะพลิกอ่านฉลากแล้ว เขียนว่า Grape seed extract 60 mg (12%) งง ตรง 12% ว่านี่หล่อนเป็น % ของสิ่งใดกัน เพราะไม่ได้บอกว่าเป็น %OPC รึป่าว? อาจต้องลองโทรถามบริษัทค่ะ

ส่วน Natural care มี Grape seed extract 20 mg (OPC 95%) แปลว่า 1 เม็ด มี OPC 19 mg เป็นสาเหตุให้ต้องกิน 3 เม็ดตามรูปค่ะ เพื่อที่จะได้ปริมาณ OPC ไม่น้อยกว่า 50 mg/วัน

โดย: KhunNooHaRa วันที่: 6 สิงหาคม 2555 เวลา:20:39:02 น.
  
ขอบคุณคะ
โดย: MizzPerfume วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:16:33:09 น.
  
จะเป็นการรบกวนไหมคะ
หากจะรบกวนให้เจ้าของ Blog ที่เป็นเภสัชโดยตรง
โทรสอบถามให้หน่อยสิคะ เพราะเราไม่มีความเรื่องนี้
หากโทรสอบถามโดนตรง อาจจะงงกับ ศัพท์ที่ทาง ผู้ผลิตแจ้งมาน่ะค่ะ
ได้โปรด Please+++++ ><
โดย: bunnycute (bunnycute ) วันที่: 8 สิงหาคม 2555 เวลา:12:28:24 น.
  
สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้าาาา อิอิ rassapoom rassapoom clinic รัสมิ์ภูมิ รัสมิ์ภูมิ คลินิก Neauvia ฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ Ultraformer ยกกระชับ ลดริ้วรอย สลายไขมันใต้ชั้นผิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม Drakarian สลายไขมันใต้ผิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ปาก เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ขน กำจัดขน Hair Removal ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์น้องสาว ดูดไขมันเหนียง คางสองชั้น FaceTite AccuTite Hifu Super Hifu มาส์กหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น ศัลยกรรมตาสองชั้น ฟิลเลอร์สะโพก ฟิลเลอร์เสริมสะโพก ฉีดฟิลเลอร์สะโพก ฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก Morpheus Morpheus Pro ยกกระชับผิว ฟิลเลอร์คาง โปรแกรมฟิลเลอร์คาง Exosome Exosome Plus Exosome Plus+ กระชับช่องคลอด ช่องคลอด Vaginal Vaginal Reju Skin Quality ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา Ultracol ไหมน้ำ Allergan โบ Allergan ฉีดโบ Allergan Super Skin Laser ฝ้า กระ ฝ้า กระ จุดด่างดำ Picocare 450 Laser ร้อยไหม ร้อยไหมคืออะไร Lenisna JUVELOOK สารเติมเต็ม REVIVE BELOTERO REVIVE Rejuran Gouri คอลลาเจน กระตุ้นคอลลาเจน Juvederm Juvederm Volite New Juvederm Volite Radiesse Radiesse Filler Sculptra คอลลาเจน เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ปลูกผม FUE ฟิลเลอร์ Filler ฉีดฟิลเลอร์ Thermage Thermage FLX ยกกระชับ ยกกระชับผิว Ulthera New Ulthera SPT Ulthera SPT EMFACE ยกกระชับ ยกกระชับกล้ามเนื้อ ฉีดแฟต สลายไขมัน ฉีดแฟตสลายไขมัน CoolSculpting Elite CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สลายไขมัน BodyTite ดูดไขมัน Emsculpt สร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน สอนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ สอนฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ให้ใจ สุขภาพ
โดย: teawpretty วันที่: 26 มีนาคม 2567 เวลา:16:42:43 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

KhunNooHaRa
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



เภสัชกร "คุณนู๋" จากการเรียกขานของเพื่อน เพื่อนแต่นิสัยตรงกันข้ามกับสิ่งที่เพื่อนเรียกโดยสิ้นเชิง

คลั่งไคล้ หลงไหล รักการอธิบาย ให้ข้อมูล และหาข้อมูลเกี่ยวกับ skin care, cosmetics, dietary supplements ต่างๆ

จึงมีความใฝ่ฝันที่จะสะสมประสบการณ์ แล้ว share ให้คนอื่นๆได้รับรู้ผ่านทาง Blog นี่แหละค่ะ....ตอนนี้ประสบการณ์เริ่มแน่น ทำตามฝันเลย ลุย!!!