Group Blog
 
 
มิถุนายน 2548
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
14 มิถุนายน 2548
 
All Blogs
 

วันที่โหดร้ายกับใจหนึ่งดวง

TO น้องอ๋อ
“สวัสดีจ้ะ ศิราณีที่รัก คิดถึงจังเลยนะมี เรื่องจะปรึกษานิดหน่อยถ้าไม่รบกวนโทรมาหาหน่อยสิคืนนี้นะ สายตรงเข้าบ้านจะได้คุยกันยาว ๆ หน่อย เซ็งมากเลย จะว่าไป เวลาไม่มีปัญหาชั้นก็ไม่คิดถึงเธอ แต่พอเจอปัญหาทีไร เธอคือคนแรก ที่ฉันคิดถึงเลยนะ ไม่เอาสิ อย่าทำหน้ามู่ทู่แบบนั้น ยิ้มหน่อยสิ อย่างนั้นล่ะ แต่ว่าคืนนี้อย่าลืมโทรนะ จะรอจ้ะ”
From พี่แต๋ว
ฉันก้มลงอ่านกระดาษโน้ตแผ่นนี้ด้วยความแปลกใจ นานแล้วที่ไม่เคยมีใครเขียนถึงฉันแบบนี้ แน่ล่ะ มันอยู่ที่โต๊ะทำงานของฉันนี่ ยังเช้าอยู่เสียด้วยไม่รู้ว่าวางอยู่ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นหรือเช้าวันนี้ก็ไม่รู้ แถมยังไม่ลงวันที่เสียอีก ยังไงฉันก็จะโทรไปหาแล้วกัน ว้า แย่จังเย็นนี้มีนัดเลี้ยงวันเกิดเสียด้วยสิ วันเกิดใครหว่า? ไม่ไปได้ไหม ฉันไม่ชอบงานรื่นเริงสักเท่าไร อ้าว!วันนี้วันเกิดฉันเองนี่นา ตัวเองยังลืมเลย เฮ้อ แล้วจะมีใครจำได้บ้างนะ นอกจากเพื่อนก๊วนเดิม 3 – 4 คนนั้นหนอ อากาศวันนี้แจ่มใสพอดู ฉันคงทำงานอย่างมีความสุขล่ะ อย่างน้อยในรอบปีก็คงมีวันนี้ล่ะที่ฉันจะนั่งอยู่ท่ามกลางเพื่อน ๆ คิดแล้วคงสนุก ทำงานดีกว่านะ ว่าแต่อยากให้ถึงคืนนี้เร็ว ๆ จัง เขาคนนั้นจะจำวันสำคัญของฉันได้ไหมหนอ ( ไม่ต้องสงสัยหรอก เขาคนนั้นก็เป็นคนพิเศษของฉันน่ะสิ ฉันชอบเขามานานแล้วนะ เขาดีนะ เหล้าไม่สูบ บุหรี่ไม่กิน อุ๊ย ไม่ใช่ บุหรี่ไม่สูบ สุราไม่ดื่ม ขยันทำงานด้วยนะ เห็นไหม แค่นี้ก็กินขาด ผู้ชายยุคนี้หาแบบนี้ไม่ใช่ง่ายหรอกนะ ถึงจะเหนียวไป นิด ก็เถอะนะ) ทำงานดีกว่า


กรึ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “สวัสดีค่ะ กัญญา รับสายมีอะไรให้รับใช้คะ” ฉันกรอกเสียงที่คิดว่าเพราะที่สุดลง ไป เช้าแบบนี้มีใครโทรมาแต่เช้านะ
“ไม่มีอะไรให้รับใช้หรอก แต่จะบอกว่าสุขสันต์วันเกิด นะคะ ปาฎิหารย์ โอม สมหวัง เพี้ยง” อวยพรแบบนี้คงไม่มีใครหรอก นอกจากคุณนายจอมขวัญอนาคตคุณนายปลัด หนึ่งในสี่ขาเม้าท์เพื่อนซี้ของฉันเอง “ทำไมจ้ะ ความคิดถึงหรือความใจร้อนอยากจะอวยพรวันเกิดฉันก่อนคนอื่นหรือไง ถึงได้โทรแต่เช้าล่ะ” ฉันถามกลับแบบอารมณ์ดีสุด ๆ ด้วยความคิดที่ว่าคืนนี้คงได้คุยกันมันส์หยดแน่นอน “อุ้ย ! เปล่า
จ้ะ ฉันเธอมาบอกว่าด้วยว่าคืนนี้ฉันไปไม่ได้นะจ้ะ มีธุรการแบบพิเศษ ยังไม่รู้เลิกเมื่อไรเลยนะ เอาเป็นว่าขอให้สนุกนะ แค่นี้ก่อนวันนี้งานฉันยุ่งมาก หัวหน้าเข้าแต่เช้าเลยล่ะ สวัสดีจ้ะ” ตื๊ดดดดด อ้าววางไปซะแล้ว ก็น่าเห็นใจอยู่หรอกธุรการของพวกราชการ มันก็โอทีของลูกจ้างดี ๆ นี่แหละ แต่ราชการ นาน ๆ มีที เงินเดือนก็น้อยมีทางได้ก็คว้าไว้ก่อน อย่างนี้อภัยได้อยู่แล้ว ว้าแต่ก็หายไปหนึ่งทหารเสือนะ เหลือแค่ 3 มีฉัน นิ่มอนงค์ แล้วก็แม่หงส์หยก ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด สวัสดีค่ะตึ๊ดดดดดดด อ้าวกลายเป็นข้อความเข้าในมือถือเสียนี่ มือที่ถือหูโทรศัพท์เลยเก้อ เลย กดดูเสียหน่อยซิ “Happy Birthday to you ขอโทษนะตอนนี้ฉันอยู่ราชบุรี รถเสีย คงกลับไปไม่ทันงานของเธอแล้วล่ะ แบตใกล้หมดด้วยเลยไม่ได้โทรหา อย่าโกรธนะ รักนะ หงส์หยก”


อ้าวอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ แม่อ๋อเอ๋ย ไม่สวยเลย เอาใหม่ เอาใหม่ วันนี้วันเกิดเธอนะ นั่นแหละต้องอย่างนั้น ยิ้มเข้าไว้อย่างน้อยวันนี้ก็เป็นวันเริ่มต้นอายุใหม่ของเธอต้องมีความสุขสิ ถ้าเธอทุกข์ในวันนี้ โกรธในวันนี้ เธอก็จะเป็นแบบนี้ไปอีกทั้งปีเลยนะ รู้หรือเปล่า (นั่นไง เอาอีกแล้วฉันเริ่มสอนตัวเองอีกแล้ว เปล่านะฉันไม่ได้พูดออกไปนะ แน่ล่ะสิ ถ้าหลุดปากออกไป เขาก็ว่าฉันบ้าน่ะสิ ฉันยังไม่บ้าซักหน่อย เออแต่คงใกล้แล้วล่ะ เล่นนั่งยิ้มคนเดียวแบบนี้) แม่หงส์หยก นักธุรกิจสาว วันหนึ่งๆของเธอไปโน่น มานี่ ตลอดเวลา เพื่อนคนดีทำไมเรื่องแค่นี้กระจอก เล็กน้อย อย่างน้อยวันนี้ฉันก็มีแม่สาวนิ่มอนงค์ไปนั่งกินข้าวเย็นล่ะนะ


ฉันเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้างฝา 17.25 น. ทำไมเขาไม่โทรมานะ หรือว่าเขาลืมวันเกิดฉัน คิดแล้วอยากร้องไห้ชะมัดเลย วันนั้นก็แยกจากกันดี ๆ นี่นา ไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะไม่โทร โอ้ย! น้อยใจจริง ๆ เลย “ ไม่เอาน่ะ อย่าคิดมาก เดี๋ยวแก่ไวนะตัว”(แน่ะเอาอีกแล้วฉันเริ่มคุยกันเองในตัวอีกแล้วนะ อ้าวได้เวลาแล้ว ไปรอรับนิ่มอนงค์ดีกว่าจะได้ช่วยกันเลือกว่าจะทานอะไรที่ไหนดี กินแค่สองคนภัตตาคารหรู ๆ ยังได้เลยนะนี่


เอ๊ะ หกโมงกว่าแล้วทำไมยายนิ่มยังไม่ออกมาลองกดหาดีกว่า
“หวัดดีจ้า อยู่ไหนแล้ว ฉันรอเธอมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ” ชั้นกรอกเสียงลงไปทันที “ขอโทษนะชั้นลืม ตอนนี้เราอยู่ที่โรงพยาบาล คือไม่ค่อยสบายน่ะ เลยมาหาหมอนี่ก็กำลังรอรับยาอยู่” “ไม่เป็นไร คืนนี้พักผ่อนเยอะ ๆ นะกินยา แล้วก็นอนห่มผ้าเสียด้วยล่ะ เป็นห่วงนะ” ว้า ท่าทางวันนี้คงเป็นวันโชคร้ายของฉันเสียแล้วล่ะสิ เอาเข้าจริง ๆ ฉันก็ไม่เหลือเพื่อนเลยสักคน คืนนี้จะมีอะไรหนัก ๆ อย่างนี้อีกไหมนะ กลับบ้านเถอะ แต่จะกินอะไรดีล่ะ มาม่าเถอะ โจ้กก็ได้ ที่บ้านคงยังเหลืออยู่บ้างหรอก
วันนี้รถเมล์โล่งดีจัง มันคงเป็นรถเที่ยวดึกแล้วน่ะสิ จะ 3 ทุ่มแล้วนะ ฉันเลือกที่นั่งด้านหลัง ๆ เพื่อที่จะปล่อยอารมณ์ผิดหวังได้เต็มที่ เฮ้อเพลงก็เศร้าดีแท้ บรรยากาศช่างเป็นใจให้ร้องไห้เสียจริง ๆ เลย ทำไมฉันต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ในวันที่ฉันควรจะสนุกสนานด้วยนะ เอ๊ะน้ำอะไรไหลมาเปียกทั้งสองข้างแก้มเลยนะ คงน้ำตาฉันเองน่ะสิ อยากร้องก็ร้องไปเถอะ แต่ฉันร้องไห้กับอะไร ล่ะ ร้องให้กับความผิดหวังในวันนี้ ร้องให้กับผู้ชายเฮงซวยคนนึง หรือจะร้องให้กับความโง่ ของฉันเอง ไม่สิต้องร้องให้กับความตั้งใจ ทุ่มเทเพื่อใครสักคนของฉันดีกว่า (ได้สิเธอร้องได้ปลดปล่อยมันออกมาเลย อย่าเก็บไว้ ความผิดหวัง ความเสียใจ ค่าโง่ ค่าเสียโอกาส ค่าเสียเวลา และเสียความรู้สึก ปล่อยมันออกมา อย่างนั้นแหละดีมากเลย แต่ต้องสัญญานะ ว่าผ่านคืนนี้ไปเธอจะไม่ร้องไห้ให้กับเหตุผลพวกนี้อีก ตกลงไหมคนเก่ง นั้นแหละเธอต้องเป็นให้ได้แบบนี้ เก่งมาก แต่อยาร้องเสียงดังนะอย่าลืมว่าเธอนั่งอยู่บนรถเมล์และเธอกำลังจะกลับบ้าน) เสียงในใจของฉันเริ่มสอนออกมาอีกแล้วล่ะสิ ทุกครั้งที่ฉันอ่อนแอ มันก็จะมีพลัง อำนาจมาสอนฉัน สั่งให้ฉันทำนั่นทำนี่เสมอเลย นี่แหละเพื่อนแท้ที่สุดของฉัน มันมาในทุกครั้งที่ฉันต้องการ ปลอบฉัน ให้กำลังใจ หรือแม้แต่ขู่ให้ฉันกลัว ไม่เคยเลยที่มันจะทิ้งให้ฉันอ่อนแอคนเดียว


“ค่าโดยสารด้วยครับ” เสียงเรียกของกระเป๋ารถ ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ความคิด พลางควานหาเงินในกระเป๋าถือ แต่เอ๊ะ กระดาษที่ฉันหยิบติดออกมาด้วย นี่มันจดหมายที่ฉันได้จากพี่แต๋ว เมื่อเช้านี้นี่นา ลืมไปซะสนิทเลย ท่าทางคงจะมีปัญหาใหญ่น่าดู หายไปนานแล้วนี่นา นึกแล้วก็ขำแฮะ ศิราณีที่พี่แต๋วแกเรียกฉันนั่นไง ก็กว่าแกจะเลือกคู่ลงตัวที่สามีคนนี้ ฉันก็หมดค่าโทรศัพท์ ไปเยอะเลยทีเดียว ก็แกเล่นมีปัญหานั้น ปัญหานี้มากมาย ฉันเลยกลายเป็นที่ปรึกษาทางด้านความรักและชีวิตคู่ของแกไปเลยทีเดียว นี่แหละน้า ผงเข้าตาตัวเองเขี่ยไม่ออก ปัญหาคนอื่นพูดได้ บอกได้ แก้ปัญหาได้ แต่ของตัวเองล่ะ หลงให้เขาหลอกใช้มาตั้งนาน เคลิ้มไปกับคำพูดไม่กี่คำ โง่ที่สุดเลย


“สวัสดีค่ะ น้องอ๋อ พี่แต๋วนะคะ” นั่นไงล่ะเสียงเครือมาเลยเชียวเรื่องใหญ่จริง ๆ เสียด้วย “ดีใจจริง ๆ ค่ะที่น้องอ๋อโทรมาตามที่พี่นัด (น่าแปลกนะผู้หญิง ดีใจแต่ทำไมทำเสียงเหมือนร้องไห้เลยล่ะ) พี่เครียดมากเลย สับสน หงุดหงิด อยากจะบ้าอยู่แล้วล่ะค่ะ ช่วยพี่ด้วยนะคะ คืออย่างนี้ค่ะ 2- 3 อาทิตย์มานี่ คุณเพิ่ม แฟนพี่น่ะ เขากลับบ้านหลังเที่ยงคืนทุกคืนเลยล่ะค่ะ พอพี่ถามนะ เขาก็บอกว่าเขาต้องทำงาน อันที่จริงพี่ก็เข้าใจงานของเขานะ แต่พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำงานมากมายขนาดนี้ กลับดึกๆ ดื่น ๆ หัวอกคนรอนะ มันเป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว โทรไปถามมากก็เดี๋ยวเขาก็จะรำคาญ (พูดแบบนี้แสดงว่าแกต้องเคยโทรไปหามาแล้วแน่เลย แต่ฉันก็ฟังแก แล้วก็ปล่อยให้แกร้องไห้ไป พูดไป แน่ล่ะ ถ้าฉันจะพูดอะไรฉันต้องรู้ก่อนสิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง มันจะได้เปิดประเด็นตรงจุด ฟังแล้วแกก็จะระแวงว่ากลัวว่าแฟนแกจะไปมีผู้หญิงคนใหม่ หรือไม่ก็ทำงานจริงแต่เอาเงินไปให้หญิงอื่น เฮ้อ!นี่แหละปัญหาของผู้หญิง ทำเป็นพูดดีไป เมื่อครู่นี้เธอเพิ่งร้องไห้เพราะเรื่องนี้ไปเองนะยะ) “ใจเย็น ๆ นะพี่ แล้ววันนี้เขาบอกว่าจะกลับมากี่โมงคะ” ฉันเริ่มปลอบเธอแล้วล่ะนะ “เขาบอกว่าเอาแน่นอนไม่ได้ แต่เขาจะรีบกลับ” พี่แต๋วตอบกลับมา ด้วยเสียงที่สั่นเครือ “ เขาไปทำงานไม่ใช่หรือ พี่ไม่น่าโกรธเขานะ” แต่เมื่อวานนี้มีผู้หญิงโทรมาหาพี่บอกว่าเย็นนี้เขาจะไปกินข้าวด้วยกัน แล้วก็ ไปเที่ยวกันต่อ เจอแบบนี้แล้วอ๋อจะโกรธไหมล่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นยังบอกพี่อีกนะว่าเย็นนี้คุณเพิ่มเขาต้องโทรมาบอกพี่ว่าจะต้องทำงานกลับดึก” คราวนี้เสียงเครือพร้อมกับอาการสะอึกสะอื้น ผู้ชายนะทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ “ใจเย็นนะคะพี่ พี่คะ ผู้หญิงที่พี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร กับผู้ชายที่พี่อยู่ด้วยกัน ผู้ชายที่พี่รัก พี่เชื่อใครมากกว่ากันคะ” ฝ่ายนั้นอึ้งไปนานเลยทีเดียว “พี่ไม่ต้องตอบอ๋อนะ พี่ตอบใจพี่เองแล้วกัน พี่แต๋วคะ รักต้องมาพร้อมกับความเชื่อใจ มั่นใจ นะมันถึงจะมีความสุข พี่รักแฟนพี่ แต่พี่ก็ระแวงว่าเขาจะไม่ซื่อสัตย์ แล้วพี่มีความสุขไหม” “แต่เขาโกหกพี่นะ” ฝ่ายนั้นเถียงออกมา “พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาโกหก เขาอาจมีงานจริง……” “ถึงไม่โกหกแต่ก็ปิดบัง จงใจไม่ให้พี่รู้อยู่ดี” คราวนี้สวนทันควัน ชนิดที่ฉันยังพูดไม่จบเลยทีเดียว “เขาปิดพี่จริงนะ อ๋อไม่เถียงหรอกแต่ถ้าสมมุติว่าผู้หญิงคนนั้นไม่โทรมา คุณเพิ่มแฟนพี่บอกว่าคืนนี้ทำงานนะกลับดึกหน่อย พี่จะทุกข์แบบนี้ไหม ก็เปล่า เห็นไหม เขาปิดบังเพราะเจตนาดีหรอก บางทีแค่ไปกินข้างแล้วคุยธุระกัน ผู้ชายเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องแบบนี้ให้ภรรยาฟังหรอก มันร้อน เหมือนเอาไฟเข้าบ้านนะ พี่ใจเย็น ๆ รอไว้คุยกับแฟนพี่ตอนที่พี่อารมณ์ดีกว่านี้สิ คุยกันด้วยเหตุผล อ๋อว่าเขาต้องบอกพี่หมดแหละ น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาก็จะตายนะพี่” รอบนี้คะแนนเป็นของฉันแล้วล่ะ พี่แต๋วนิ่งเงียบ แล้วก็ฟังฉันพูดอย่างใจจดจ่อเลยทีเดียว “พี่ต้องดีกว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้วล่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นแฟนพี่เขาจะเลือกพี่หรือ” พูดไปแล้วสะท้อนใจพิลึก ก็ไม่เพราะเขาเห็นผู้หญิงคนนั้นดีกว่าฉันหรือ ฉันถึงต้องเป็นแบบนี้ “แหม น้องอ๋อนี่พูดดีจัง ใครได้เป็นแฟนคงรักตายเลยนะนี่ ว่าแต่ไม่มีแฟนบ้างหรือ” ฉันน่ะหรือ


ฉันเพิ่งนัดเขาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง เขาโทรมาบอกว่าจะมาเอาหนังสือเรียน ฝากไว้นาน ๆ เกรงใจแย่ เลย แต่งานเลิกเย็นหน่อยให้รอนิดนึง อุตส่าห์นัดเจอกันที่ร้านไอติม หนังสือเล่มหนา ๆ ตั้งหลายเล่ม ก็หอบขึ้นรถเมล์ไปให้เขา มาถึงไม่ถามเราสักคำ หนักไหม เหนื่อยไหม
นั่นไง เขามาแล้ว เดี๋ยวคงทักเราหรอก โธ่เอ้ยอีตาบ้า มาถึงก็ตรงเข้าใส่หนังสือ ก้มหน้าก้มตาดูหนังสือ เราเสียอีก อดไม่ได้ “หิวไหม กินอะไรหรือเปล่า” “หิว แต่ยังไม่กินหรอก” ตอบมาได้แบบที่เยื่อใยก็ไม่มี ฉันไม่สนใจหรอกก็ยังนั่งละเลียดไอติมของฉันต่อไป แต่ก็ยังสังเกตเขาต่อไป เดือนนี้วันเกิดฉันนะ ถึงมันจะไม่ใช่วันนี้ก็เถอะ ทำไมไม่พูดอะไรบ้างล่ะ พูดสิฉันรอฟังอยู่นะ พูดสิ พูด “ติ๊ดดดดดด” โธ่ โทรศัพท์บ้า ใครกันโทรมาตอนนี้ แต่พอเขารับ เสียงที่ดังมามันเป็นเสียงผู้หญิงนี่นา นั่นยังทำร้ายกันไม่พอหรอก คำตอบของเขานี่สิ “อยู่ห้าง…. คนเดียว มาธุระ กำลังจะกลับ เดี๋ยวคุยกันต่อที่บ้าน นะ แค่นี้นะ” รีบคุย รีบวาง จากนั้นน่ะสิ ท่าทางลุกลี้ลุกลน ฉันล่ะก็ยังละเลียดกินไอติมของฉันต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่ในใจนะอยากที่จะร้องไห้เต็มทีแล้ว เขาก็เร่งให้เร็ว อ้างเหตุผลมายกแม่น้ำทั้ง5มาหว่านล้อมให้ฉันรีบกลับสักทีสารพัด เดี๋ยวมืดบ้าง เดี๋ยวรถติดบ้าง ฉันยังจ่ายเงินไม่ทันเสร็จเลย เขาก็หายลับไปกับผู้คนบนท้องถนนซะแล้ว หลังจากกนั้นล่ะ ฉันก็เศร้าน่ะสิ เจ็บแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก็จะรู้สึกได้ยังไง ก็ฉันไม่เคยรักใครแบบเขานี่นา


“ว่าไงคะ น้องอ๋อ น้องอ๋อมีแฟนไหมคะ เอ่อพี่หมายถึงคนรักน่ะค่ะ” “เอ่อ ค่ะ” ฉันยิ้ม แล้วก็คงพูดได้แค่นั้น “ว่าไงคะ เลยนิ่งเฉยเลย ตกลงมีไหมคะ แฟนน่ะค่ะ” เอาล่ะสิคราวนี้พี่แต๋วแกก็เลยไล่เบี้ยเอากับฉันเลย แล้วฉันจะตอบว่ายังไงดี ขืนตอบไปแกคงหัวเราะเยาะฉันแน่ ดีไม่ดีที่ฉันแนะนำไปแกคงไม่เชื่อฉันแน่ “ว้า พี่ก้อ ถามอะไรก็ไม่รู้ ไม่เอาละ อ๋อไม่พูดกับพี่ละ แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ” “เดี๋ยวค่ะ น้องอ๋อยังไม่ตอบพี่เลยนะคะ ตกลงว่าคะ” “ ตึ๊ด ตึ๊ดดดดดดด “อ้าววางไปซะแล้ว ตกลงเลยไม่รู้เลย”


เสียงนาฬิกาตี 11 ครั้งแล้ว นี่มัน 5 ทุ่มแล้ว ฉันวางสายจากพี่แต๋วแล้วก็นั่งอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม ยากันยุงหมดไปนานแล้ว นี่ถ้าเป็นเวลาปกติฉันคงคันคะเยอไปทั้งตัว แต่เวลานี้ ต่อให้ยุงทั้งโลกมารุมกัดที่ฉันคนเดียว ฉันคงไม่มีกระจิต กระใจจะตบมันหรอก วันนี้วันเกิดฉันนะ ในใจร่ำร้องแบบนี้ ทำไมเขาลืม ทำไมเขาลืม น้ำตาที่ค่อย ๆเอ่อไหลลงมาอาบหน้า ย้อยลงมาถึงคางก่อนที่จะหยดต่อลงไปที่ทรวงอก ราวกับว่ามันละไหลย้อนกลับไปสู่ที่ ๆ มันจากมา สรรพสิ่งรอบตัวเงียบสงัด ไม่มีเสียงหริ่งเรไร สายลมพัด ทุกอย่างจงใจที่จะอยู่นิ่ง มีเพียงเวลาเท่านั้นที่เดินไปอย่างช้า ๆ ใจของคนที่รอคอยนั้นเล่ากับร้อนรนยิ่งนัก การรอคอยแบบที่ไม่มีหวังมันทรมานได้ขนาดนี้นี่เอง เพิ่งรับรู้รสชาดว่ามันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง บัดเดี๋ยวนั้นก็มีเสียงดังแทรกความเงียบเข้า ฉันผวาเข้าหาโทรศัพท์เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่เสียงนาฬิกาต่างหาก ตี12 เที่ยงคืน ฉันจะยังรอต่อไปอีกหรือ รออีกหรือรอ ไม่รอ รอ รอ


กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง “โอ้ย นี่มันกี่โมง แล้วเนี่ยะ ตายแล้ว 7 โมงครึ่งตายละ สายแน่ ๆเลยฉัน” แต่เอ๊ะ วันนี้ฉันไม่ต้องไปทำงานนี่นา จะรีบทำไม ตื่นแล้วก็ลุกเถอะ ทำตัวเป็นคนใหม่ ให้สมกับอายุที่มันเพิ่มขึ้น ความทุกข์ความเศร้าทิ้งมันไป โลกนี้คนที่เธอรักไม่ได้มีแค่คนเดียว แล้วคนที่รักเธอก็มีตั้งมากมาย ขาดแค่เขาเธอคงไม่ตาย เข้มแข็งหน่อยสิจ๊ะ ที่รัก
………………………………………..



คำนำ

แต่งครั้งแรกในเดือนเกิด ปี 2544 อายุ 19 มั่ง ก่อนเล่นเน็ตเป็นชีวิตจิตใจแบบตอนนี้ล่ะ




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2548
3 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2548 22:53:18 น.
Counter : 739 Pageviews.

 

โอยตาลาย

กว่าจะอ่านจบ

 

โดย: zaesun 14 มิถุนายน 2548 23:02:27 น.  

 

 

โดย: แม่สาย 14 มิถุนายน 2548 23:05:10 น.  

 



**อืมม..เข้มแข็งไว้นะ**

**แต่ว่า ตอนนี้ ละ เข้มแข็ง แย้วอะยังอะตะเอง**

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 20 มิถุนายน 2548 13:02:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนของความเหงา
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คนของความเหงา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.