Museum Tour : Guggenheim
คนที่ชอบเรื่องสวย ๆ งาม ๆ โดยเฉพาะภาพเขียนสวย ๆ จากทั่วโลก ต้องมาเที่ยวที่นี่ค่ะ Guggenheim Museum ซึ่งเป็นที่จัดงานศิลปะทั้งภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบของศิลปินระดับโลก ภาพเขียนสีถ่าน ภาพถ่ายมุมกว้าง มุมปกติ ซึ่งมีคุณค่าจากหลายยุคสมัยของโลก
ภาพนี้ถ่ายระหว่างทางเดินไป Guggenheim Museum ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Fifth Avenue (at 89th Street) เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันพฤหัสบดี โดยคิดค่าเข้าชมคนละ USD 18 สถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นับว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างมากกับรูปทรงกระบอกฐานแคบ มีทางเดินเป็นวงต่อกับตัวตึกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวอาคารมีทั้งหมด 6 ชั้น โดยชั้นที่แสดงภาพเขียนจะแบ่งเป็นภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบซึ่งแสดงอยู่บนชั้น 2 ในส่วนของ The Thannhauser Gallery สำหรับภาพสีถ่าน ภาพเรขาคณิต ภาพถ่าย หรือภาพ abstract ต่าง ๆ ถูกแยกแสดงไว้ในแต่ละชั้น จนครบทุกชั้น โดยชั้นล่างและชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึก ภาพที่สร้างความประทับใจให้เราไม่แพ้งานภาพเขียนต่าง ๆ ก็ต้องยกให้นักออกแบบตัวตึกที่ทำให้ระเบียงของอาคารชั้น 5 กลายเป็นจุดชมวิว ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์สวย ๆ ของ Central Park ได้อย่างเต็มตา

Gallery ทั้งหมดนี้ของพิพิธภัณฑ์นี้ได้มาจากการรวบรวมของ Solomon R. Guggenheim โดยเริ่มสะสมมาตั้งแต่ปีค.ศ.1929 รวมงานแสดงทั้งหมดกว่า 150 ชิ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สำหรับภาพเขียนสีน้ำมันทั้งหมดที่แสดงอยู่บนชั้น 2 ล้วนเป็นภาพ original ซึ่งเศรษฐีชาวเยอรมันนามว่า Heinrich Thannhauser และบุตรชาย Justin ร่วมกันเป็นผู้ประมูลมาจากศิลปินชื่อก้องโลกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 ภาพเขียนหลายภาพของ Thannhauser ถูกยึดไปโดยพวกนาซีภายหลังจากยุคสงครามโลกครั้งที่สอง จนท้ายที่สุด Thannhauser จึงได้นำภาพเขียนที่เหลืออยู่ทั้งหมดมาไว้ที่นิวยอร์ค เพื่อมอบให้กับ Guggenheim Foundation ในปี 1963
เป็นที่น่าเสียดายที่เขาอนุญาตให้ขึ้นชมตัวเปล่าไม่สามารถถ่ายรูปจากในพิพิธภัณฑ์มาได้ เขาคงกลัวว่าภาพสีน้ำมันจะโดนแสงแฟลชมาก ๆ แล้วจะทำให้มีผลต่อสีของภาพน่ะค่ะ เลยได้แต่เก็บภาพอยู่ข้างนอก ส่วนข้างในสวยจับใจแค่ไหน บรรยายออกมาไม่ถูกเลยค่ะ…..more than words…..ส่วนภาพที่เห็นบรรยายอยู่ข้างล่างนั้น download มาจาก internet //www.guggenheimcollection.org ค่ะ

ฉันหลงใหลในผลงานของ Claude Monet ซึ่งแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะ ความโดดเด่น และเอกลักษณ์ของตนออกมาด้วยความงดงาม นุ่มนวล ของภาพธรรมชาติ ทิวทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพ The Palazzo Ducal, Seen from San Giorgio Maggiore ซึ่งเขียนไว้ในปี 1908 นั้นได้ถ่ายทอดความงดงามของเมืองริมผืนน้ำสีฟ้าได้อย่างนุ่มนวล หวานซึ้งตามสไตล์ของ Monet

ผลงานของVincent Van Gogh (1853-1890) ที่ทำให้ต้องสะดุดมองเหมือนต้องมนต์อีกภาพหนึ่งคือภาพ Roadway with Underpass
(Le Viadue) ซึ่งวาดในปี 1887 รวมถึงภาพ Winter Scene (1933) โดย Gabriele Munter ซึ่งบรรจงแต่งแต้มสีสันของเกล็ดหิมะสีขาว ลงบนผืนผ้าใบ สร้างภาพเหมือนเคลื่อนไหว มีชีวิตชีวา ปุยหิมะสีขาวดูฟูนุ่มนวลอย่างน่าประหลาด จนแทบไม่อยากละสายตาจาก
Roadway with Underpass

Winter Scene (1933) โดย Gabriele Munter

ภาพที่เป็น Highlight ของที่นี่คงจะเป็นภาพ Women in Evening Dress เขียนในปี 1877-80 โดย Edouard Manet (1832-1883) ขนาดใหญ่สูงเกือบ 1.8 เมตร เป็นภาพวาดสีน้ำมันของหญิงสาวชาวตะวันตกในชุดราตรีที่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ผสานความแข็งแกร่ง ขัดแย้งกับความหวานบนใบหน้าได้อย่างลงตัว ภาพนี้จึงเป็นภาพที่ผู้คนหยุดดูแทบจะมากที่สุดก็ว่าได้

เมื่อเราไม่สามารถภาพถ่ายติดมือไปได้ ก่อนจากที่นี่ไปเราจึงไม่ลืมเก็บความทรงจำโดยซื้อของที่ระลึกติดไปด้วย เป็นภาพพิมพ์ผืนใหญ่ และโปสการ์ดใบเล็กถ่ายถอดภาพของศิลปินแต่ละคนไว้ หนึ่งในรูปที่ซื้อมาเป็นผลงานของ Edouard Manet ชื่อภาพ Before the Mirror ซึ่งเขียนในปี ค.ศ. 1876

ส่วนรูปนี้เป็นรูปโปรดของเราคือ Starry Night ของ Van Gogh ค่ะ ตั้งใจจะซื้อกลับมาแต่ปรากฏว่าภาพเขียนขายดีจนหมดสต๊อกค่ะ

เมื่อเขียนถึงอีกครั้งก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จำได้ว่าเราใช้เวลาชมภาพแต่ละภาพค่อนข้างนาน เพราะภาพทุกภาพเหมือนมีแรงดึงดูดให้เราหยุดอยู่กับที่ ยิ่งมองก็ยิ่งลึกซึ้งเหมือนต้องมนต์เลยค่ะ แม้ไม่อยากจากไป แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เราจึงต้องอำลาแกลเลอรี่แสนสวยแห่งนี้ไปด้วยความประทับใจไม่รู้ลืม
Good Bye New York and thank you everyone, we all had very great time here...
ฉันนั่งทบทวนเรื่องราวในอาทิตย์ที่ผ่านมาและผ่านไป อดีตเป็นอะไรที่เราจับต้องไม่ได้ ผ่านไปแล้วก็ไม่ย้อนกลับจะทิ้งไว้เพียงแต่ร่องรอยแห่งความทรงจำให้ได้หวนคิดถึงกันบ้าง และหวังว่าพวกเราจะอมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดถึงมัน

Create Date : 08 มกราคม 2550
Last Update : 8 มกราคม 2550 9:06:31 น.		28 comments
Counter : 1066 Pageviews.
Share Tweet