|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
กลับบ้านแล้ว..
หลังจากไปพักฟื้นอยู่บ้านคุณปู่คุณย่ามาหนึ่งเดือน ตอนนี้คุณแม่กะหนูมิกิกลับมาบ้านแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมและร่วมแสดงความยินดีนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

จากวันนั้น....
คืนวันที่ 3 พย. เริ่มปวดท้องขึ้นมาแปล๊บ ๆ ท้องแข็งมาเป็นพัก ๆ ทำเอานอนไม่หลับเลยทีเดียว
เช้าวันที่ 4 พย. อาการปวดท้องยังไม่หาย ป่าป๊าไปทำงานตามปกติ แต่ก็โทรมาถามอาการตลอด แต่ชักปวดขึ้นเรื่อย ๆ เอะ...เราปวดอึรึเปล่า ไปนั่งเบ่งหน้าดำหน้าแดงก็ไม่ออก แต่ก็ปวดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ร่วมกับอาการท้องแข็งเป็นพัก ๆ และเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ๆ ๆ
บ่าย คุณปู่โทรมาถามอาการ และจะมารับไปโรงบาล แต่เราขอดูอาการก่อนซักพัก เผื่อไม่ไช่ปวดท้องคลอด(ก็ไม่รู้นี่นา )
บ่ายแก่ ๆ ป๊าโทรมา บอกจะกลับบ้านแล้ว จะพาไปโรงบาล เราบอกว่า ทำงานไปเหอะ ยังไม่เป็นไร (กัดฟันกรอด ๆ ) เจ็บอะเจ็บ.....เจ็บเป็นพัก ๆ ทุก 5-10 นาที
ตกเย็น ป๊าเลิกงาน รีบเก็บกระเป๋า พาไปบ้านคุณปู่ เผื่อจะคลอดจริง ๆ ในเร็ว ๆ นี้ หรือพรุ่งนี้ซึ่งป๊าไปทำงาน จะได้มีคนพาไปโรงบาลได้
กลางคืน อาบน้ำ เตรียมจะนอน ท้องแข็งเป๊ก ๆ ปวดหนักขึ้น ๆ เหมือนปวดท้องเมนส์ + ปวดอึ คูณหลาย ๆ เท่า ปวดหลังตรงกระเบนเหน็บร้าวมาด้านหน้า แต่ก็ยังพยายามนอน แต่มันหลับไม่ได้ นอนกัดฟันกรอด ๆ ๆ
ตี 3 นอนครางอิ๊ด ๆ ๆ ป๊าบอกว่า ท่าทางม๊าจะไม่ไหวแล้ว ไปโรงบาลเหอะ เดี๋ยว ๆ ๆ ยังไม่อยากไปตอนนี้ เผื่อแค่เจ็บหลอก ๆ รอดูอีกแป๊บนะ
ตี 4 กว่า ๆ ไม่ไหวแล้ว มันปวดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ปลุกป่าป๊า...บอกว่าไม่ไหวแล้ว ไปโรงบาลเหอะ ป๊าคว้าโทรศัพท์ โทรไปโรงบาล เล่าอาการ หมอบอก มาโรงบาลได้แล้ว ป๊าคว้ากระเป๋าใส่รถ บึ่งไปโรงบาลทันที
ตี 5 กว่า ๆ ถึงโรงบาล ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องจ้า อยู่ห้องไกล้ ๆ ได้ยินเสียง ร้องโหยหวย อยู่ห้องข้าง ๆ (ห้องคลอด) พยาบาลพาไปชั่งน้ำหนัก แล้วให้นอนรอ เอาสายวัดมาคาดพุง ซักพักหมอก็มา มาจับ ๆ ล้วง ๆ หมอบอก ปากมดลูกเปิดประมาณ 1-2 ซม.แล้ว แต่คงอีกนาน ท้องแรกด้วย จะกลับบ้านรอดูอาการก่อนก็ได้นะครับ อ้าว....กลับก็กลับ แล้วก็พากันกลับบ้าน
6 โมงเช้ากว่า ๆ ปวด ๆ ๆ ๆ ปวดอึรึเปล่า ไปเบ่งก็ไม่ออก แต่มีเลือดไหล ตอนนี้ไม่ครางอิ๊ด ๆ แล้ว แต่ร้องโอ้ย ๆ ๆ ป๊าโทรไปลางาน แล้วโทรไปโรงบาลอีกที บอกว่าเลือดไหล ปวดหนักขึ้นด้วย หมอบอกว่าแสดงว่าใกล้คลอดแล้ว มาโรงบาลได้แล้ว แล้วก็กระเตงกันไปโรงบาลอีกรอบ
7 โมงกว่า ๆ ถึงโรงบาล เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนรอ ซักพักหมอมาล้วง เปิด 4 ซม. แล้ว ให้นอนที่ห้องรอคลอด ป๊ามายืนอยู่ข้าง ๆ คอยนวดหลังให้
นอนปวดจาก 7 โมงเช้า กว่าจะเปิดครบ 10 ซม.
บ่ายกว่า ๆ พยาบาลพาเข้าห้องคลอด อณุญาติให้ป๊าเข้าไปด้วยได้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเราเป็นกระเรี่ยง ภาษาญี่ปุ่นไม่แข็งแรง
ปวด ๆ ๆ อยากเบ่ง ๆ ๆ ๆ เบ่งอึ๊ด ๆ ๆ ๆ หมอบอกอย่าเบ่ง เดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน รอเด็กเอาหัวมาจ่อซะก่อน ทีนี้ค่อยเบ่ง ก็มันปวดนี่โว้ย..ให้ทำไงอะ
บ่าย 2 กว่า ๆ ยังมองไม่เห็นหัว ไม่มีทีท่าว่าจะเอามาจ่อ หมอมาก็ล้วงแล้วล้วงอีก โดนล้วงไปกี่ที แทบจำไม่ได้ ทีนี้หมอให้เบ่ง เผื่อจะเอาหัวมาจ่อ เอ๊า..เบ่ง.......อื๊บ ๆ ๆ อ๊าก ๆ ๆ ๆ จำไม่ได้ว่าเบ่งไปกี่ครั้ง แต่รู้ว่าเบ่งอยู่นานมาก ก็ไม่มีทีท่าว่าเด็กน้อยจะเอาหัวออกมาให้เห็น ทีนี้หมอก็ซาวด์ดู เอ...หัวก็อยู่ตรงนี้นี่นา อยู่ตรงอุ้งเชิงกรานต์แล้ว เอ๊าเบ่งต่อไป...
4 โมงเย็น ยังเบ่งไม่เลิก... ร่างกายเริ่มล้าแล้ว เตียงข้าง ๆ เค๊าเข้ามา เบ่ง ๆ ๆ แล้วก็ออกไป คนแล้วคนเล่า แต่เรา ยังเบ่งหน้าดำหน้าแดงอยู่ต่อไป หมอซาวด์ดูอีก เอ..ยังอยู่ตรงอุ้งเชิงกราน เอ๊าพยายามต่อไป... เบ่ง ๆ ๆ ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ป่าป๊าที่คอยจับมืออยู่ข้าง ๆ ร้องให้ตาแดงด้วยความสงสาร " ม่าม๊า กำบาเระ กำบาเระเนะ..."
6 โมงเย็น หมอตัดสินใจให้ยาเร่งคลอดผ่านสายน้ำเกลือเนื่องจาก - มดลูกเปิดครบนานแล้ว - เด็กไม่มีทีท่าว่าจะออกมา - แม่เริ่มจะหมดแรงแล้ว แต่การใช้ยาจะทำให้มดลูกบีบตัวแรงขึ้น คุณแม่จะปวดท้องมากขึ้น ทนไหวมั๊ย?? หูย..ยังไงก็ได้ค่ะหมอ มาถึงตรงนี้แล้ว
หลังจากให้ยาผ่านสายน้ำเกลือ เริ่มปวดหนักขึ้น เริ่มให้เบ่งอีก...เบ่ง...เบ่ง...เบ่ง... ซักพักใหญ่ ๆหมอบอก เด็กเอาหัวลงมาใกล้ ๆ แล้ว คลำดูก็เจอหัวเด็กแล้ว คุณแม่พยายามเบ่งอีกนะครับ จากนั้นก็ตั้งหน้าเบ่งหน้าดำหน้าแดงอีกต่อไป แต่...เบ่งยังไงก็ไม่ออก เบ่งจนหมดแรง จำได้ว่าสลบเหมือดไปสองสามครั้ง แล้วหมอก็เอาออกซิเจนมาครอบปาก จมูก ลืมตาขึ้นมาเห็นป๊ายืนบีบมืออยู่ข้าง ๆ ตาแดง ๆ " ม่าม๊า กำบาเระ ๆ ๆ ๆ " ฟื้นแล้วหมอก็ให้เบ่งต่อ (สาบานนะ ว่านี่คือโรงบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอนี้)
2 ทุ่มกว่า ๆ หมอเรียกป๊าไปคุย คุณแม่เบ่งไม่ออก ไม่มีแรงแล้วด้วย จะผ่าตอนนี้ก็ยากนะ เพราะหัวเด็กลงมาต่ำมากแล้ว อีกอย่างหมอไม่อยากให้เจ็บสองต่อ แต่หมอคิดว่า น่าจะใช้วิธีใช้เครื่องช่วยดูด กับการใช้คีมคีบออกมา การใช้เครื่องเป็นสูญยากาศคล้าย ๆ ถ้วยดูดตรงหัวเด็กออกมา ส่วนวิธีการใช้คีมก็ใช้เครื่องมือเข้าไปคีมเอาหัวเด็กออกมา คุณพ่ออยากจะให้หมอใช้วิธีใหน?? ป่าป๊าบอกหมอว่า ขอวิธีที่คุณแม่กับคุณลูกปลอดภัยที่สุดครับ (ป๊าลืมบอกหมอไปด้วยว่าขอวิธีที่คุณแม่เจ็บน้อยที่สุดด้วย)
หมอบอกควรเป็นวิธีใช้คีม แต่คุณแม่จะเจ็บหน่อย ต้องทนเอา แผลฝีเย็บจะกว้าง กรีดหลายแผล เพราะต้องเอาเครื่องมือเข้าไปแล้วคีบออกมา แต่หมอจะเย็บให้เรียบร้อย แต่อาจจะเหมือนเดิมรึเปล่า หมอไม่รับประกัน แต่จะทำให้ดีที่สุด
แล้วคุณหมอก็ได้เชิญป๊าให้ออกไปรอข้างนอก เนื่องจากมันหวาดเสียว (กลัวป๊าจะเป็นลมไปซะก่อน)
หมอสั่งพยาบาลเตรียมเครื่องมือ โทรตามหมออีกคน (ที่ชำนาญในการใช้คีม) แล้วเครื่องมือต่าง ๆ ก็มาวางรายล้อม หมอหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมาหลอดเบ่อเร่อ เราถามว่าจะทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บไช่ใหม? หมอตอบว่า จะทำให้คุณรู้สึกชาตรงแผลฝีเย็บก่อนที่หมอจะตัด เรารีบถาม บล๊อคหลังไช่ใหม? หมอรีบตอบเช่นกัน ยาชาเท่านั้นครับ
ซักพักหมออีกคนก็มา เปลี่ยนกันเอามือเข้าไปล้วง ๆ คลำ ๆ ดูหัวเด็ก มือทั้งดุ้น อยู่ตรงใหน ๆ ๆ จะได้คีบถูก (เจ็บนะโว้ย....)
ซักพักหมอหยิบคีมขึ้นมาเล็ง ลมแทบจับ.....อันเท่าพับพีใบเขื่อง ๆ สองอัน พยาบาลเอามือมาปิดตา แล้วบอกว่า อย่ามองดีกว่านะคะ แล้วพยาบาลหลาย ๆ คนก็มารายล้อมเตียงเรา ช่วยกันจับแข้งจับหา จับแขนเราล็อคไว้ (ทำไมต้องล็อค กลัวเราหนีไปใหน..วินาทีนั้นยังไม่เข้าใจ) หมอบอกว่า หมอจะใช้เครื่องมือช่วย แต่คุณแม่ต้องช่วยหมอเบ่งด้วยนะครับ พอหมอให้เบ่งก็เบ่งเลยนะครับ
และแล้ววินาทีนั้นก็มาถึง เมื่อพับพีใบเขื่องสองอันถูกยัดเข้าไป " กรี๊ดดด..ย๊ากกกก..จ๊ากกก...โอ๊ยยย...อ๊ากกก...." (มีทุกเวอร์ชั่น) หมอพยาบาลพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า "อึ๊บบบบ" เราเบ่งสุดชีวิต ร้องเสียงหลง... ย๊ากกกกกกก อ๊ากกกกกกกก สิ้นเสียงอึ๊บจากพี่ ๆ พยาบาล เสียงหมอสองคนแย่งกันพูดว่า ดี ดี ครับ หัวออกมาแล้ว เอ๊าขออีกครั้งครับ ครั้งสุดท้าย " กำบาเระ ๆ ๆ ๆ" เสียงจากพยาบาลหลาย ๆ คน และ " ม่าม๊า...กำบาเระ.. ๆ ๆ ๆ " เสียงตะโกนจากป๊าข้างนอกห้องคลอด ( ไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเค๊าแถวนั้นเลยนะ) เรารวบรวมกำหลังเฮือกสุดท้าย...ย๊ากกก... แล้วก็โพล๊ะ..... ทุกคนที่รายล้อมเตียงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " โอเมเดโตะ ๆ ๆ ๆ " แต่เรา " คุณหมอ ๆ ลูกแข็งแรงมั๊ย มีนิ้วครบสิบนิ้วป่าว" หมอยิ้ม " แข็งแรงปลอดภัยดีครับ "
หลังจากหมอคลอดรกเสร็จ จัดการเย็บแผล ซึ่งใช้เวลานานมาก จนยาชาเริ่มหมดฤทธิ เราเริ่มบ่นอีกรอบ " เจ็บ ๆ ๆ อะหมอ" หมอสั่งยาชาที่พยาบาลอีกรอบ แล้วหมอสองคนก็ก้มหน้าคุยกันไป เย็บแผลกันไป
พยาบาลอุ้มเด็กน้อยตัวแดง ๆ มาไว้ในอ้อมกอดเรา น้ำตาไหล.......เด็กน้อยของแม่ นี่แหละ " ชีวิตที่ฉันต้องปกป้อง "
เสร็จแล้วคุณหมอออกไปคุยกับป๊าข้างนอก หมอชี้แจงว่า เหตุที่คุณแม่เบ่งไม่ออกเนื่องจาก สายรกของเด็กสั้นเกินไปครับ เลยยื้อกันอยู่ข้างใน แต่ยังไงตอนนี้ก็ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกครับ ป่าป๊าโค้งขอบคุณคุณหมอทั้งน้ำตา......
ที่ป้ายข้อมือเด็กน้อยเขียนว่า....
5 / 11 / 05 ชื่อ...(คุณแม่.......) เพศ หญิง น้ำหนัก 2816 g. เวลา 8 : 56 pm.
 แรกคลอด ป๊ามัวแต่ตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก ถ่ายรูปลูกสาวได้แค่ใบเดียว
 1 เดือน เหมือนไผหว่า???
Create Date : 08 ธันวาคม 2548 |
|
13 comments |
Last Update : 12 ธันวาคม 2548 12:18:15 น. |
Counter : 1049 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: นู๋โนริ 12 ธันวาคม 2548 13:06:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาปุ้ย 12 ธันวาคม 2548 14:05:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: iamname 12 ธันวาคม 2548 14:19:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hana* 12 ธันวาคม 2548 18:59:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: lisalee 12 ธันวาคม 2548 19:00:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hiroki 13 ธันวาคม 2548 0:48:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: วดี 16 ธันวาคม 2548 15:12:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: lisalee 30 ธันวาคม 2548 12:16:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาปุ้ย 31 ธันวาคม 2548 14:05:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ai IP: 203.172.49.69 25 เมษายน 2549 21:41:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
หนึ่งเดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหก(มั้ย) กลายเป็นสาวน้อยผิวชมพูผ่องเลย รูป(บน)นี้ เริ่มมีเค้าหน้าเหมือนแม่กาปุ้ยแล้วจ้า