เช้าวันใหม่ในมะละกาแต่เป็นวันสุดท้ายสำหรับการเที่ยวในประเทศมาเลเซีย เราตื่นสายตามเคยหลังจากอาบน้ำเสร็จเราก็ลงไปหาข้าวเช้ากิน โดยเมนูนี้เราได้เล็งเอาไว้ตั้งแต่ก่อนมาเที่ยวแล้วว่าจะต้องกินให้ได้นั่นก็คือ Chicken Rice Ball ที่มีขายเฉพาะที่มะละกาเพียงแห่งเดียวเท่านั้นลักษณะโดยรวมก็ขอให้นึกถึงข้าวมันไก่บ้านเราเพียงแต่ว่าข้าวมันเค้าจะเป็นก้อนกลมๆ และเสิร์ฟพร้อมกับไก่สับใครจะกินข้าวกี่ลูกก็สั่งได้ ราคาลูกละประมาณ 0.2 RM และไก่ก็จะมีทั้งแบบต้มหรือย่างตกราคาจานละ 2 RM กินคู่กับไมโลเย็นเครื่องดื่มยอดฮิตของชาวมาเลย์
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันดีแล้วเราก็กลับไปเก็บของลงเป้เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไปสิงคโปร์ เมื่อดูแผนที่จาก Lonely Planet แล้วเราเห็นว่าสถานีขนส่งกับที่พักอยู่ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่จึงตกลงกันว่าจะเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ เพราะกว่ารถจะออกก็ตั้งบ่าย 3 ว่าแล้วเราจึงออกเดินไปเรื่อย ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากๆ เพราะหลังจากที่ใช้เวลาเดินตามแผนที่อยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราก็ยังไม่เห็นวี่แววของสถานีขนส่งแถมเป้ที่แบกอยู่ก็เหมือนว่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วยังต้องเดินตากแดดยามบ่ายอีกต่างหาก เราเดินวนอยู่บริเวณที่ Lonly Planet บอกว่าเป็นสถานีขนส่งอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่พบเจอสถานที่ที่มีหน้าตาเหมือนกับที่เราลงรถมาสักทีจึงต้องถามกับผู้คนแถวนั้นดูจึงได้ความว่า สถานีที่อยู่ในแผนที่นั้นเป็นสถานีเก่าตอนนี้เค้าย้ายไปที่ใหม่แล้ว ว่าแล้วก็อย่ามัวแต่เดินอยู่เลยนั่งรถเมล์ไปดีกว่าเดี๋ยวจะตกรถไปสิงคโปร์ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเราลืมไปว่า Lonly Planet ของเราเป็นเวอร์ชั่นปี 2001 มันเก่าไปตั้ง 3 ปี อย่างว่าแหละอยากใช้ของถูกมันก็ต้องมีข้อเสียกันบ้าง
หลังจากที่กระเสือกกระสนพาตัวเองและเป้ใบใหญ่มาอยู่บนรถบัสได้ทันเวลาอย่างฉิวเฉียว รถบัสซุปเปอร์โค้ชสีแดงคันนี้ก็พาเราเดินทางออกจากมะละกาทันที โดยมุ่งหน้าสู่ปลายสุดแผ่นดินของแหลมมาลายูอันเป็นที่ตั้งของเมืองยะโฮร์บารู เมืองที่เป็นประตูสู่ประเทศสิงคโปร์เราใช้เวลาส่วนใหญ่ที่อยู่บนรถไปกับการงีบหลับเพื่อชดเชยเรี่ยวแรงที่เสียไปกับการเดินทางในมะละกา และเมื่อรถแวะจอดระหว่างทางผมรีบลงสำรวจหาของกินทันทีโรตีซาร์ดีน เป็นชื่อของเสบียงระหว่างทางที่เราติดมือขึ้นมากินกันบนรถคนละ 1 อัน ลักษณะของมันไม่ใช่เป็นโรตีแต่มีลักษณะเหมือนกับขนมปังแผ่นใหญ่ 2 แผ่นประกบกันมีไส้ตรงกลางคิดว่าน่าจะเป็นปลาทูน่า และมีสีเหลืองจากที่นำไปชุบไข่แล้วทอดจนผิวด้านนอกกรอบนิดๆ ด้านในนุ่มๆ ยิ่งกินยิ่งอร่อยและเราก็มาถึงเมืองยะโฮร์บารูหลังจากที่ใช้เวลาอยู่บนรถเกือบ 4 ชั่วโมง รถบัสก็เข้าจอดที่ด่านตรวจหนังสือเดินทางของประเทศมาเลเซีย ที่นี่เราพบว่ามีชาวสิงค์โปร์เป็นจำนวนมากกำลังต่อแถวตรวจพาสปอร์ต เพื่อเดินทางกลับบ้านหลังจากที่เข้ามาเที่ยวมาเลเซียในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เราจึงต้องเข้าคิวซึ่งต้องรอนานมากเพื่อที่จะประทับตราสำหรับเป็นการยืนยันการเดินทางออกจากมาเลเซียในหนังสือเดินทางของเราจากนั้นเราก็กลับไปขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางข้ามประเทศไปยังสิงคโปร์ โดยรถบัสจะต้องข้ามสะพานที่ทอดตัวผ่านช่องแคบอันเป็นพรมแดนที่กั้นระหว่าง 2 ประเทศ
และสุดยอด ก้อคือ โรตีซาดีน เป็นทีเด็ด
ประจำ ทิปนี้ .. ทิปหน้าไปไหนกันดีอ่ะ..
d[-__-"]b