หลังจากที่ผ่านระยะเวลาที่อยู่ในรถมาประมาณ 4 ชั่วโมง ที่ต้องเจอกับฝนตกหลายครั้งและได้หลับเอาแรง 2 รอบ เราก็มาถึง KL.ในเวลาประมาณ 5 โมง เมื่อรถเข้าถึง KL.เราก็สามารถสังเกตเห็น ตึก Twin Tower ที่ตั้งสูงเด่น อยู่ไกลลิบได้ทันที สมกับที่เป็นตึกที่ สูงติดอันดับ 2 ของโลก (ที่ 1 คือ ตึกไทเป 101 ของไต้หวัน)

รถบัสปล่อยเราลงที่กลางเมือง KL.หลังจากที่ฝ่ารถติดในเมืองเกือบ 1 ชั่วโมง ทั้งๆที่ KL.มีรถไฟฟ้าอยู่หลายสาย (ประมาณ 6 – 7 เส้นทาง) แต่ก็ยังมีรถติดอยู่ (ใครว่ากรุงเทพมีปัญหารถติดอยู่ที่เดียว เพื่อนบ้านเราก็มีเหมือนกัน ไม่ต้องน้อยใจ...)

พอลงรถเราก็เริ่มออกเดินสำรวจหาที่พักทันทีโดยเราเลือกทำเลแถบ ถนน Pudu อันเป็นแหล่งรวมของรถบัส บรรยากาศของที่นี่คล้ายกับหมอชิต 2 บ้านเรา คือ มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ตลอดเวลาเพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองต่างๆของมาเลเซีย แถมยังอยู่ใกล้ไชน่าทาวน์อีกด้วย เราได้ที่พักชื่อ BACKPACKER INN ซึ่งมีสถานที่โอเคแต่ไม่ดีเท่าที่ปีนังแต่ก็เป็นห้องแอร์และใช้ห้องน้ำรวม ราคาคืนละ 40 RM เราตกลงพักที่นี่ 2 คืน สำหรับการสำรวจและท่องเที่ยวไปในเมืองหลวงของมาเลเซีย

หลังจากได้ที่พักและล้างหน้าล้างตาพักผ่อนกันประมาณ 1 ชั่วโมง เราจึงเริ่มต้นสำรวจ KL. ทันทีโดยในคืนนี้เราจะมีแผนการณ์ที่จะเดินชมย่านไชน่าทาวน์ และต่อด้วยสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับ Trip นี้ ก็คือ ตึกแฝดหรือ Twin Tower นั่นเอง

ก่อนออกจากที่พักเราได้ขอแผนที่จากเจ้าของโรงแรมมาด้วย (ฟรีไม่ต้องไปหาซื้อ) เพื่อใช้ดูประกอบกับ Lonely Planet อันเป็นที่พึ่งยามยากของเรา ซึ่งจะต้องพกพาไปทุกที่ติดตัวตลอดเวลา ว่าแล้วก็ไม่รอช้าเพราะทุกนาทีมีค่าเพื่อมาเที่ยว

เราใช้เวลาเดินอย่างช้าๆ ออกจากที่พักของเราไปยังไชน่าทาวน์ ซึ่งเป็นถนนที่มีการขายของกันอย่างคึกคัก มีสินค้านานาชนิดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ โดยมีตั้งแต่ของที่ระลึกนานาชนิด เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา ที่ส่วนใหญ่จะเป็นของจากแบรนด์ดังๆ บรรยากาศการค้าขายโดยรวมจะคล้ายกับร้านค้าในย่านสีลมและซอยพัฒพงษ์บ้านเราต่างกันตรงที่ไชน่าทาวน์ที่นี่ไม่มีบาร์อะโกโก้นั่นเอง

ราคาของสินค้าหลายๆ ชนิดยังแพงพอสมควร คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับทักษะการต่อราคาของแต่ละตน แต่ขอแนะนำให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบซื้อโดยเฉพาะของที่ระลึก เพราะยังมีแหล่งการค้าอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงที่ขายในราคาที่ถูกกว่าถึงครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

เราเดินชม (อย่างเดียว) ร้านค้าต่างๆ ในไชน่าทาวน์ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเริ่มหิวเลยต้องไปหาอะไรกินกันเสียหน่อยก่อนที่จะไปดูตึกแฝดอันโด่งดัง เราเลือกร้านอาหารแขกที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า แล้วผมก็ได้ลิ้มลองโรตีกับแกงพรานต้า ต้องขอบอกว่าโรตีเขาทอดได้อร่อยมากๆ คือกินโรตีเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว ยิ่งได้กินกับแกงพรานต้าแล้วจะรู้สึกได้ว่าอร่อยกว่าโรตีกล้วยหอมบ้านเราอีก

ค่ารถไฟฟ้าจากสถานีPasar Seniเพื่อไปสถานี KLCCอันเป็นที่ตั้งของตึกแฝดอยู่ที่ ประมาณ 1.60 RM และรถไฟฟ้าที่บางช่วงก็อยู่บนดินคือลอยฟ้าและบางช่วงก็มุดลงใต้ดิน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เราก็มาถึงสถานี KLCC

พอออกจากสถานีเราก็โผล่เข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใต้ตึกแฝดพอดี แต่เราไม่ได้มีแผนที่จะมาช้อปปิ้งจึงต้องหาทางออกจากห้างให้ได้ แต่ ด้วยความที่เป็นห้างใหญ่มากเราจึงเสียเวลาอยู่นานทีเดียวกว่าจะได้ออกจากห้างมาสู่บริเวณที่เป็นลานสำหรับชมตึกแฝด

บริเวณลานนี้จะมีการจัดเป็นสวนหย่อมและมีการแสดงน้ำพุประกอบกับแสงสี ช่วยทำให้บรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี่ดูสวยงามมากแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีสิ่งใดจะโดดเด่นสวยงามเกินไปกว่า Twin Tower ที่มีการประดับไฟที่ช่วยเสริมให้ตึกมีความสวยงามดูยิ่งใหญ่อลังการ สมกับเป็นตึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังและดึงดูดให้คนทั่วโลกมาแวะชม หากว่ามีโอกาสมาประเทศมาเลเซีย

ตอนนี้บรรยากาศรอบๆตัวล้วนแต่ดูสวยงามและตื่นตาไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงน้ำพุขนาดใหญ่ ตึกแฝดที่สูงตระหง่าน เสียงดนตรีที่ที่ดังมาจากร้านอาหารที่อยู่รอบบริเวณตึก รวมถึงผู้คนจากหลายมุมของโลกที่มาร่วมกันชื่นชมความงามของตึกแฝดแห่งนี้ และยังมีชาวมาเลย์อีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ออกมาชื่นชมและสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของตึกแฝดท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนที่เย็นสบาย เราใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบ 3 ชั่วโมง ทั้งที่กิจกรรมส่วนใหญ่ของเราคือการนั่งอ้อยอิ่งเพื่อชื่นชมบรรยากาศ เพราะว่าคงจะมีโอกาสไม่มากนักที่ผมจะมาชื่นชมสิ่งที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกในบรรยากาศที่แสนวิเศษเช่นนี้

เรากลับมาถึงที่พักเกือบเที่ยงคืนก็รีบอาบน้ำและเข้านอนทันที เพราะพรุ่งนี้เรามีโปรแกรมที่จะไปเที่ยวมนสถานที่น่าประทับใจอีกที่หนึ่งก็คือ เก็นติ้งไฮแลนด์ อันเป็นสถานที่ พักผ่อนและท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศมาเลเซียนั่นเอง

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 26 เมษายน 2548 2:53:21 น.		3 comments
Counter : 526 Pageviews.
Share Tweet