Ain't Just About 'CUTE'
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

>> ร ว ม มิ ต ร ห นั ง น อ ก ก ร ะ แ ส Vol.1

แวะมาอัพบล็อกหน่อย .. หายไปนานเลย แต่เชื่อป่ะ.. เดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่ได้ดูหนังเลยยยยยยย.. สาเหตุก็เพราะว่า มันเป็นช่วงของเดือนบวชถือศึลของชาวมุสลิมอ่ะค่ะ (เดือนรอมฎอน).. โรงหนังที่นี้ ก็เปิดบริการนะ แต่ทั้งวัน จะมีรอบฉายอยู่แค่ 3 รอบ นั่นก็คือ รอบบ่ายโมง รอบสามทุ่ม รอบเที่ยงคืน ตลอดทั้งเดือน แต่จะไม่มีหนังใหม่ๆเข้าฉายเลย คนก็ไม่ค่อยเข้าโรงหนังกันหรอก กลางคืน หลังแก้บวช (เวลาบวชของเดือนรอมฎอน จะเริ่มตั้งแต่ รุ่งสางของเช้า จนถึงพระอาทิตย์ หลังแก้บวช ก็มีการทำการละหมาด ที่เรียกว่า ตะรอแวะห์ ซึ่งจะทำกันในช่วงเดือนรอมฎอนเท่านั้น กว่าจะเสร็จก็สามทุ่ม สรุปแล้ว เวลาไม่เอื้ออำนวยเลย.. เห็นจูริงเป็นสาวสมัยใหม่อย่างนี้ แต่พอถึงช่วงถือศีล หนูจูก็เคร่งเหมือนกันนะ.. จริง จริ๊งงงงง

หมดเดือนรอมฎอนปุ๊บ หนูจูก็เริ่มปฏิบัติการไล่ล่าหนังทันที ผ่านมา 4 วัน ได้ไป 5 เรื่อง บวกกับหนังที่ได้ดูปลายสิงหาฯ ที่สมควรกล่าวถึงอีก 4 เรื่อง

เรียงตามความชอบแล้วกัน..

(ไม่เผยส่วนสำคัญของหนังเลยจ้ะ - SPOILER FREE)

The Edge of Heaven

ภาพยนตร์สัญชาติเยอรมันเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของคน 6 คน ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงต่อกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่เจอกันบ่อย ในหนังแนวนี้ (Magnolia, Babel, Crash) ก็คือ "ความบังเอิญ" ที่ถูกนำมาใช้ในการผูกเรื่องราวทั้งหมดให้มาเกี่ยวข้องกัน จนอาจจะพูดได้เลยว่า เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลย ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆแล้ว เรื่องราวต่างๆ ในหนังทุกเรื่อง มันก็ต่างเกิดขึ้นได้ด้วย "ความบังเอิญ" หากแต่ว่า มันจะเด่นและเห็นได้ชัดในแนวนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ
หากแต่ จะเล่าเรื่องราวที่มี "ความบังเอิญ" บรรจุอยู่ในเรื่องราวอย่างไร เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ให้คนดูตะขิดตะขวงใจ เพราะสุดท้ายแล้ว บททดสอบสำคัญของหนังเรื่องหนึ่งก็คือ การพาคนดูเดินหน้าไปพร้อมกับเรื่องราวที่เล่าอยู่ ไม่ให้คนดูสะดุดกลางทาง
ในหลายๆส่วนของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ขัดเกลาความบังเอิญมาใส่ในเรื่องราวได้เข้าที่เข้าทาง หลายส่วนถึงขั้นแยบยล ฉลาด และเยี่ยมยอดเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถวางความบังเอิญไว้บนเรื่องราวได้สวยงามนัก
หากแต่หนังยังมีข้อเด่นหลายๆอย่าง ที่สามารถกลบเกลื่อนจุดด้อยตรงนั้นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น จังหวะการเล่าเรื่อง ของผู้กำกับ Fatih Akin พร้อมการถ่ายภาพที่สวยงามและความฉลาดหลักแหลมในการเลือกมุมกล้องในหลายๆฉาก หรือจะเป็นการแสดงของนักแสดงทุกคนในหนังเรื่องนี้ ที่ส่วนตัวแล้ว เห็นว่า เป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ที่สุดของหนังเรื่องนี้
อีกสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ ชนะใจผู้เขียนไปเต็มๆ ก็คือ ถึงแม้หนังเรื่องนี้ จะมีจุดประสงค์หลักในการเล่าเรื่องราวโฟกัสไปที่ตัวละคร แต่ในขณะเดียวกัน ก็เปิดประเด็น ตั้งคำถามให้คนดู หลายๆอย่าง ไปพร้อมๆกับพัฒนาการของเนื้อเรื่องและตัวละคร
ฉะนั้น ถึงจะมีบางส่วน(เล็กๆ)ของหนังเรื่องนี้ ที่ไม่เพอร์เฟกมากมาย แต่ด้วยความดีส่วนอื่นๆของหนังเรื่องนี้ ทำให้ The Edge of Heaven เป็นภาพยนตร์ที่ทรงพลังมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปี
A

The Band's Visit

น่าจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับ อาหรับ-อิสราเอล ไม่กี่เรื่อง ที่ไม่ได้พูดถึงประเด็นทางการเมืองเลย
หนังเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักดนตรีชาวอียิปต์กลุ่มนึง ที่ต้องเดินทางไปเปิดการแสดงที่เมืองๆหนึ่งในอิสราเอล แต่ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย จึงลงท้ายไปอยู่อีกเมืองหนึ่งแทน
หนังเล่าเรื่องแบบเรียบๆเรื่อยๆ ด้วยอารมณ์ขำขันแบบอบอุ่นๆไปตลอดเรื่อง อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ สำหรับหนัง อาหรับ-อิสราเอล เรื่องนี้
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้ จะไม่นำประเด็นทางการเมืองมาเอ่ยถึงเลยสักตอน แต่น่าประหลาดใจ ที่ตัวหนังก็กลับประสบความสำเร๊จมากมาย ในสารที่ต้องการสื่อให้คนดู..
"ในความแตกต่าง.. เราทุกคนต่างก็มีอะไรเหมือนๆกันเกือบทุกอย่าง.. การใช้ชีวิต ความรัก ความหวัง.. ความเป็นมนุษย์.."
A

The Flight of the Red Balloon

เขาพูดกันว่า การใช้ชีวิตก็เหมือนกับการการเดินทาง หากเป็นอย่างนั้น การเดินทางของชีวิตมนุษย์ คงคล้ายกับการเดินทางของลูกบอลลูนมากที่สุด เพราะการเดินทางบนถนน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ก็ยังสามารถบังคับทิศทางของมันได้เสมอ เจอขวากหนาม คุณก็สามารถขว้างทิ้งข้างทางได้
แต่การเดินทางของบอลลูน ไม่เคยมากับความแน่นอน
ลูกบอลลูนอาจจะลอยไปไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่หากมีลมแรงมา ลูกบอลลูนก็จำเป็นต้องลอยไปตามกระแสของลม หรือบางครั้งลูกบอลลูนอาจจะลอยไปติดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พยายามดิ้นให้หลุดออกมาอย่างไร ก็ไม่หลุดออกมา จนกว่า มันจะถึงเวลาหลุดมาเอง (หรืออาจะเป็นด้วยลม หรือความช่วยเหลือจากใคร) จะแตกหรือหมดลมเมื่อไร ก็ไม่มีใครรู้ชัดแน่นอน
The Flight of the Red Balloon เป็นอีกหนึ่งหนังเยี่ยม ที่เล่าเรื่องของคนธรรมดาๆกับการเดินทางของชีวิต คุณแม่กับปัญหาชีวิต เด็กน้อยกับการเรียนรู้ในวัยกำลังโต หญิงสาวกับความฝันของตัวเอง ทั้งสามต่างก็อยู่ในช่วงๆหนึ่งของการเดินทางของชีวิต คนหนึ่งมาถึงจุดที่มีปลายทางดูเลือนลางเหลือเกิน อีกคนก็เดินทางมาถึงจุดที่ปลายทางเริ่มแสดงให้เห็น อีกคนก็เดินทางมาถึงจุดที่จุดมุ่งหมายดูสุกสดใสเต็มที่
ถึงตรงนี้ คงรู้กันแล้วว่า หนังเรื่องนี้ ไม่ใช่หนึ่งในหนังหลายๆเรื่องที่เดินเรื่องด้วยพล็อต (Plot-driven film) แต่เป็นหนึ่งในหนังจำพวกเดินเรื่องด้วยตัวละคร (Character-driven film)
ฉะนั้น องค์ประกอบสำคัญของหนังประเภทนี้ ก็คือ ตัวละคร และ การแสดง
และหนังเรื่องนี้ ก็มีองค์ประกอบทั้งสองส่วนที่อยู่ในขั้น เยี่ยมยอด ทั้งการเขียนตัวละครให้มีความน่าสนใจ มีมิติความเป็นมนุษย์ และการใส่วิญญาณให้ตัวละครจากนักแสดงที่ได้รับบทนั้นๆ ส่วนตัวชอบ Juliette Binoche ในเรื่องนี้มากๆ ตัวละครของเธอ สามารถกลายเป็นตัวละครที่น่าเบื่อและน่ารำคาญได้ง่ายมากๆ แต่ด้วยฝีมือระดับเธอ งานนี้ ไม่มีผิดหวัง
หนังดูจะด้อยไปนิดหนึ่ง ตรงการเดินเรื่อง ด้วยความที่จุดโฟกัสหลักของหนังอยู่ที่ตัวละคร ทำให้ในบางตอน หนังดูจะเพิกเฉยไปกับพล็อตเรื่อง/การเดินเรื่องไปนิด จนถึงจุดที่ทุกสิ่งหยุดนิ่ง กลายเป็นความเลื่อนลอยที่ไม่ให้อะไรกับตัวหนังเลย แต่โดยรวมแล้ว ยังเป็นจุดด้อยที่เ,้กเกินไป ที่จะมาทำลายจุดแข๊งของหนังส่วนอื่นๆ
A-

โอ้ยยย เหนื่อยแล้ว.. พิมพ์ตั้งนาน ได้แค่เนี่ย

Up the Yangtze

โอเค.. สั้นๆแล้วกันนา
สิ่งหนึ่ง ที่ถือเป็นสิ่งที่ทำให้หนังสารคดี เป็นที่หลงใหลของคอหนังหลายคน ก็คือ มันเปิดโลกกว้างในเราได้รู้ว่า ในส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ มันมีอะไรเกิดขึ้นอยู่
อย่างหนังสารคดีเรื่องนี้ ที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ที่จำเป็นต้องย้ายที่พำนักอาศัย เพราะที่อาศัยเดิม ดันไปขวางโปรเจกต์ใหญ่ของรัฐบาลจีน หนังใช้เวลาเล่าเรื่องราวส่วนนี้ ไปพร้อมๆกับการเล่าเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นสองคน เด็กสาว (หนึ่งในสมาชิกในครอบครัวนี้) และเด็กหนุ่ม (ที่มาจากครอบครัวมีฐานะอีกครอบครัวหนึ่ง) กับการใช้ชีวิตและความแตกต่างของทั้งสอง
ข้อด้อยประการเดียวของหนังเรื่องนี้ คือ งานโปรดักชั่น ในส่วนของการถ่ายภาพ การใช้ดนตรีประกอบ ที่ดูจะธรรมดาเกินไป บางฉากดูไม่ดีอย่างมาก
แต่ก็ยังชนะใจผู้เขียนไปด้วยเรื่องราวที่นำเสนอ ยอมรับว่า ดูแล้ว น้ำตาซึมไปหลายฉาก เห็นภาพของนักท่องเที่ยวสนุกกันบนเรือสำราญโดยที่ไม่รู้ว่า ใต้ลงไปนั้น เคยเป็นที่อยู่ของเพื่อนมนุษย์อยู่ แล้วสลดใจ หลายๆตอนทำให้สมเพชตัวเอง ดูแล้วนึกถึงตัวเอง บางครั้งเราไม่ค่อยพอใจกับชีวิตตัวเองเท่าไหร่ เพียงแค่ปัญหาเล้กๆน้อยๆ โดยลืมไปเลยว่า อีกกี่ล้านคน ที่เจออะไรหนักกว่าเรา
A-

In Bruges

สิ่งที่ได้สมตามที่หวัง - ความเท่ห์ .. การถ่ายภาพแบบสวยเท่ห์ ตัวละครเท่ห์ๆ คำพูดเท่ห์ๆ
สิ่งที่ได้มาเกินกว่าที่คาดไว้ - หนังทำให้เราน้ำตาซีมได้หลายตอนทีเดียว.. ไม่นึกเลย ว่าหนังหน้าตาอย่างนี้ จะซึ้้งได้เหมือนกัน
ชอบที่สุดในเรื่อง - Brendan Gleeson .. เป็นต้นเหตุของตอนซึ้งๆหลายๆตอน
สิ่งที่ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้ ได้ไม่เต็มที่ - 5 นาทีสุดท้าย .. ทำตอนจบออกมาได้หยาบๆอย่างมาก จากที่เป็นหนังที่เต็มไปด้วยสไตล์และชั้นเชิงในการทำหนัง กลับมาจบด้วยตอนจบธรรมดาๆทื่อๆไร้เสน่ห์อย่างสิ้นเชิง
แต่ก็ยังชอบนะ
A-

Miss Pettigrew Lives for a Day

ได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง Amy Adams และ Frances McDormand มีเหรอที่จะทำให้ผิดหวัง ถึงช่วงแรกๆของหนังจะดูเวอร์ๆไป แต่ก็ยังดูได้ดี เพียงเพราะนักแสดงหญิงทั้งสอง จนมาถึงช่วงที่พระนางร้องเพลง If I Didn't Care เท่านั้นแหละค่าาาาาาาา สายตาหวานๆ+เสียงนุ่มๆ ของพี่ Lee Pace (จองแล้ว) ทำเอาเคลิ้มเลย เป็นอีกคนที่แพ้เพลงรักเพราะๆ
A-

Encounters at the End of the World

หนังสารคดีเรื่องนี้ พาคุณไปพบกับชีวิตของผู้คน ณ ขั้วโลกใต้ พร้อมๆกับธรรมชาติของที่นั่น
หนังถ่ายภาพสวย เรื่องราวน่าสนใจ เพียงแต่บางที หลายๆตอนก็ดูไม่มีที่มาและไม่ได้ไปไหนเลย จนทำให้รู้สึกเอื่อยไปบ้าง และ.. เฉกเช่นเดียวกันกับ ผลงานสารคดีเรื่องก่อนของผู้กำกับ Werner Herzog คนนี้ Grizzly Man.. การบรรยายของเขาในหลายตอน ทำลายบรรยากาศหนังไปเลย
แต่การได้ไปเยือนขั้วโลกใต้สักครั้งนี่ ก็เป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมากๆแล้วล่ะ
B+

The Fall

งานภาพยอด โปรดักชั่นเริ่ด การแสดงเยี่ยม.. แต่เนื้อเรื่องในบางตอนยังขาดความน่าสนใจไป จนกลายเป็นฉากๆหนึ่งที่เอามาใส่เพื่อโชว์งานศิลป์ โดยไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องเลย ยิ่งช่วงหลังๆ ที่ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น จนเราแทบจะไม่อยากรู้สึกรู้สาอะไรไปกับชะตากรรมของตัวละครเลย
โดยรวมแล้ว โอเคนะ แต่เสียดายที่ว่า มันน่าจะดีได้กว่านี้ องค์ประกอบทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว พระเอกก็หล่อ ถ้าคนเล่า เล่าเรื่องได้สนุกและมีชั้นมีเชิงกว่านี้หน่อย คงจะชนะใจฉันไปเต็มๆเลย
B

Aleksandra

ตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำอะไรให้เรารู้สึกอะไรไปกับมันเลยจริงๆ จากที่พยายามนึกๆอยู่ว่าทำไม คือ มันไม่มีอารมณ์ร่วมเลยง่ะ มันไม่ใช่หนังที่แย่อะไร แต่น่าผิดหวัง
(บอกตรงๆ รู้สึกจริงๆว่า กระแสชื่นชมของหนังเรื่องนี้ ก็เพียงเพราะว่า 1. มันเป็นหนังต่างประเทศ 2. ประวัติผู้กำกับดี)
B-

จบแล้ว.. แล้วจะมาใหม่นะจ้ะ




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2551
12 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2551 11:28:45 น.
Counter : 3131 Pageviews.

 

หายไปนานเลยนะครับ

ว่าแต่ไม่ทำเฉลิมไทยสกอร์แล้วหรอครับ??

 

โดย: famaceu engr IP: 203.131.208.115 5 ตุลาคม 2551 15:15:52 น.  

 


ิอยากดู The Flight of the Red Balloon กับ Alexandra

 

โดย: merveillesxx 6 ตุลาคม 2551 2:49:07 น.  

 

แหม พูดอย่างนี้ก็เขิลลแย่สิ ฮ่าๆๆ

โห เข้าโรงขนาดนี้ภายในอาทิตย์นึง เท่ากับเราเข้าโรงประมาณสองเดือนเลยนะนี่ -,.-'

ที่ได้ดูก็คงเป็นพวกหนังฮอลลิวู้ดอ่ะนะ MPLFAD หนุกนะ เขียนถึงไปยาวๆแล้ว ไม่รู้จูริงผ่านตาบ้างอะป่าว In Bruges สมควรได้เข้าโรงฉายเยอะกว่าที่เข้าไปจริงๆ ชอบที่ โคลิน ฟาร์เรล เลือกเล่นหนังสเกลขนาดนี้อะน่ะ (บ้านเราก็คงจะได้ดู Pride and Glory ในเร็วๆนี้ ซึ่งเสียงตอบรับจากโตรอนโต้ก็กลางๆถึงดี) The Fall โอ้ย อยากไปเทือกเขาหิมาลัย อะไรมันจะงดงามหยดย้อยอะไรปานนั้น ส่วนเนื้อเรื่อง ถ้าตั้งใจทำโปรดักชั่นกันขนาดนี้แล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะน่ะ ฮ่าๆๆ

อยากดู Encounters at the End of the World ๆๆ The Flight of the Red Balloon ก็อยากดู (แต่น้อยกว่าเรื่องแรกนิดนึง) The Edge of Heaven เยี่ยมขนาดเป็นท๊อปอ๊อฟ 2008 เลยเรอะ งั้นคงต้องลองดูล่ะ (แต่ขี้เกียจดูหนังภาษาต่างด้าวอ่ะ 555+) เรื่องอื่นๆ โนว์ คอมเม้นส์ ^^

 

โดย: BdMd IP: 58.137.81.98 6 ตุลาคม 2551 10:06:14 น.  

 

ว้าวๆ คุณจูริงอัพบล็อกแล้ว

จากทั้งหมดในหน้านี้ เราได้ดูไปสี่เรื่องเองค่ะ

ไล่จากชอบมากสุดไปชอบน้อยสุดนะ

Encounter at the end of the world
ชอบเรื่องนี้มากที่สุด เพราะว่าได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยอมรับว่ามีบางตอนที่แอบน่าเบื่อเหมือนกัน ^^

The edge of heaven
เรื่องนี้ก้อชอบมากกกก พอดูจบแล้วอยากจะย้อนกลับไปดูใหม่ เพื่อดูว่าเราพลาดอะไรตรงไหนไปหรือเปล่า (เกี่ยวพันกับความบังเอิญที่คุณจูริงพูดถึงแหละค่ะ) แล้วอีกอย่างพระเอกน่ารักดี ^^

Miss Pettigrew lives for a day
ชอบดารานำหญิงทั้งสองคน เอมี่ อดัมส์เล่นได้น่ารักน่าหมั่นไส้ หนังดูได้เพลิดเพลิน ดูแล้วยิ้มตาม

In Bruges
เรื่องนี้คงเป็นความผิดของเราเองที่เข้าไม่ถึงหนัง อิอิ ดูจบเลยเกิดความรู้สึกเฉยๆหล่ะ

 

โดย: vanilla IP: 76.102.197.185 6 ตุลาคม 2551 13:05:48 น.  

 

อยากดู 3 เรื่องอะ ^_^
The Edge of Heaven
The Flight of the Red Balloon
The Fall

 

โดย: haro_haro 6 ตุลาคม 2551 14:56:17 น.  

 

จะได้ดูซักเรื่องไหมเนี่ย หาที่ไหนได้ล่ะ

 

โดย: คนขับช้า 8 ตุลาคม 2551 0:49:47 น.  

 

อยากดูThe Edge of Heaven ...ชอบหนังที่ตัวละครหลายๆตัวมาเกี่ยวพันกัน ถึงหนังจะดีจะเลวยังไงก็มักจะเข้าข้างหนังธีมแบบนี้เป็นพิเศษ

 

โดย: yatiko 9 ตุลาคม 2551 15:17:12 น.  

 

+ จริงๆ พี่เข้ามาอ่านหน้านี้หลายรอบแล้วเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้เขียนเม้นต์ซะทีอ่า แหะๆ

+ อ๋อ! จะแจ้งเรื่องที่สมัครเป็น คกก. ด้วยว่า เด๋วขอพี่จัดการชีวิตตัวเองอีกสักครู่ก่อนนะจ๊ะ ช่วงนี้ยุ่งๆ ป่วนๆ พิกล เด๋วขอศึกษารายละเอียด excel ในกระทู้นั้นสักนิด แล้วจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไปคร้าบ ขอบคุณที่ส่งข้อมูลให้ด้วยครับ

+ มาว่ากันถึงหนังที่นู๋จูว่าไว้บ้างดีกั่ว
* The Edge of Heaven - โห! ท็อปลิสต์ของปีนี้เลยเหรอเนี่ย ได้ยินกิตติศัพท์ของเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน แต่อยู่เมืองไทยจะมีโอกาสได้ดูมั้ยน้อ เหอๆ

* The Band's Visit - เหมือนจะเข้าในงานเทศกาลหนังสักอย่างเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้ดู แง้ๆ

* The Flight of the Red Balloon - เห็นคุณ renton เคยเขียนถึงต้นฉบับของหนังเรื่องนี้ไปเมื่อเร็วๆ นี้ น่าดูอ่ะครับ

* Up the Yangtze - หุๆ อาจเป็นเพราะพี่ไม่ค่อยถูกโรคกับสารคดีแฮะ เลยชอบแค่ประมาณนึงอ่ะครับ

* In Bruges - อารมณ์ยุโร๊ป ยุโรป อ่ะครับ ก็ชอบพอประมาณ แต่แอบง่วงเล็กน้อยในบางช่วง

* Miss Pettigrew Lives for a Day - เห็นคุณ Bd Md เขียนถึงอยู่ อยากดู 2 ดารานำอ่ะครับ

* Encounters at the End of the World - พี่ก็ไม่ค่อยถูกจริตกับ ผกก.แวเนอร์ เฮอร์โซก นะ ตอนดู Grizzly man ยังไม่ถึงกับชอบเท่าไหร่เลยอ่า แต่อยากดูวิวโลกน้ำแข็งอ่ะครับ

* The Fall - ใช่เลย ภาพสวย โปรดัคชั่นเจ๋ง ไอเดียพล็อตหลักจัดว่าดี ... แต่เรื่องเล่าในนิทานนั่นแหละที่ค่อนข้างกลวงโบ๋ เหมือนตั้งใจจะโชว์แค่โลเคชั่นอย่างเดียว

... ว่าแต่เปลี่ยนจาก เจ้าชายแคสเปียน มาเป็นปิ๊งพ่อหนุ่ม ลี เพซ แทนซะแล้วเหรอคับเนี่ย? เอิ๊กๆ

* Aleksandra - แหะๆ เรื่องนี้ไม่ทราบข้อมูลเลยจ้ะ

 

โดย: บลูยอชท์ 10 ตุลาคม 2551 19:06:39 น.  

 

ได้ดูเฉพาะ The Fall ค่ะ ชอบโลเกชั่นมากมาย ความผูกพันของรอยและอเล็กซานดร้าก็ชอบ

อยากดูไปซะทุกเรื่องเลยค่ะตามที่เล่ามา จริงๆก็มีหลายเรื่องอยู่ในครอบครอง แต่ยังใจแข็งดองไว้

สงสัยจะได้เอามาดูซะทีละ

 

โดย: renton_renton 12 ตุลาคม 2551 19:31:24 น.  

 

...อยู่เมืองไทยนอกจาก In Bruges และ The Fall แล้ว เรื่องอื่นไม่มีเข้าโรงปกติเลย

จะมี Up the Yangtze อีกเรื่องที่เข้าในงานเทศกาล BIFF แต่พอดีว่ามีงบจำกัด เวลาก็ไม่ค่อยสะดวกด้วย (คือคนจัดรอบสามารถทำให้หนังหลายเรื่องที่อยากดู ไปอยู่ในเวลาที่ไม่ว่างของข้าพเจ้าเกือบหมด)

In Bruges เข้านานแล้ว แต่พอดีว่าตอนนั้นไม่อยู่ กทม. กลับมาก็ยังหาจังหวะไปดูไม่ได้ สรุปจนมันออกโรงแล้วก็ยังไม่ได้ดู

The Fall ดูไปแล้ว ชอบมากๆ ครับ
ผมว่าหนังมันไม่เอืีอยเลยนะ และพอออกจากโรงหนัง ยังอยากฟังนิทานต่อจากรอยอีกสัก 500 เรื่อง...ฮ่าๆ

 

โดย: รังสีไอฟ่า 13 ตุลาคม 2551 17:33:25 น.  

 

นอกจากเป็นสาวก HSM แล้ว เป็นสาวกของ เอ็ดเวิร์ด ด้วยไหมเนี่ย เพราะ Twilight ก็กำลังจะเข้าแล้วเช่นกันน่ะ

 

โดย: BloodyMonday 21 ตุลาคม 2551 14:31:16 น.  

 

อยากดูไปซะทุกเรื่องเลย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาเหมือนก่อนแล้ว...เฮ้อ เศร้า

 

โดย: J.Atthaphan IP: 58.10.84.120 27 มีนาคม 2552 9:09:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จูริง
Location :
Cairo, Egypt

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนดูหนังธรรมดาๆคนหนึ่ง

แต่ชอบดูมากๆ

เฉลี่ยแล้ว ดูหนังวันละ 1.2536 เรื่อง (เวอร์)

TOP 10 OF 2009 .. as of Jul. 21
1. Revanche
2. Lake Tahoe
3. Anvil! The Story of Anvil
4. Du levande (You, The Living)
5. Üç maymun (Three Monkeys)
6. L'heure d'été (Summer Hours)
7. Up
8. Forbidden Lie$
9. Tokyo Sonata
10. Harry Potter and the Half-Blood Prince

TOP 10 OF 2008 .. FINAL!!
1. Waltz with Bashir
2. Wendy and Lucy
3. Man On Wire
4. Dear Zachary: A Letter to a Son About His Father
5. Paranoid Park
6. The Edge of Heaven
7. Young@Heart
8. Happy-Go-Lucky
9. Hunger
10. Let the Right One In
Friends' blogs
[Add จูริง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.