พ่อแม่.....ผู้สร้างมงคลให้ชีวิต
พ่อแม่....ผู้สร้างมงคลให้ชีวิต
สาเหตุหนึ่งก็คือ "การไม่ได้ทำตัวเป็นลูกที่ดี"
การไม่ทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ นั้น เท่าที่ผมได้รับฟังปัญหา ก็มีอย่างนี้
1.ชอบเถียงพ่อเถียงแม่
2.ชอบทำให้พ่อแม่เสียใจ บางรายถึงกับทำให้พ่อแม่ร้องไห้
3.ไม่เลี้ยงดู ไม่ปรนนิบัติพ่อแม่ตามสมควร
4.สร้างแต่ปัญหาให้พ่อแม่
5.ขโมยของที่เป็นสมบัติของพ่อแม่
6.ด่าว่า กล่าวคำที่เป็นการล่วงเกินพ่อแม่
7.ทำร้ายร่างกาย และจิตใจต่อพ่อแม่
บุคคลใดก็ตามที่กระทำอย่างนี้ จะต้องได้รับ
"กรรม" หนัก ยิ่งข้อที่ 6 และ 7 คือด่าว่าและทำร้ายพ่อแม่
"กรรม" จะยิ่งหนักมากมายมหาศาล
โอกาสได้ไปภพภูมิต่ำถึงนรกอเวจีมีมาก
ชีวิตของผู้กระทำการตามนี้จะไม่มีความสุขเลยชั่วชีวิต
จะไม่มีความสบายใจ มักจะมีเรื่องหงุดหงิด เรื่องทุกข์
ทั้งทุกข์กายและทุกข์ใจเกิดขึ้นบ่อยๆ อะไรที่คิดว่าน่าจะได้มา
น่าจะสร้างความสุข น่าจะประสบผลสำเร็จ ก็มักจะไม่ได้ มีการเลื่อน คลาดเคลื่อน
>>จนสุดท้ายก็ไม่ได้เลย>>
สำหรับคนที่ได้กระทำในสิ่งที่เลวร้าย
หรือไม่สวยงามไม่น่ารักกับพ่อกับแม่แล้วนั้น
บางทีอาจจะไม่รู้ตัวหรอกครับว่า
กำลังรับกรรมในส่วนนี้อยู่บางทีการกระทำที่เราทำกับพ่อแม่นั้น
อาจจะทำไปโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าพ่อแม่จะเสียใจ
ในสิ่งที่เราทำ เพราะเรา "คาดไม่ถึง">อย่างเช่น
>ถ้าพ่อแม่ทำกับข้าวมาให้กิน
>เพราะเห็นว่าเราทำงานมาเหนื่อยเราหิว
>เรากลับพูดสวนกลับไปว่า
” ไม่ต้องมาสนใจหรอกน่า เดี๋ยวหากินเองได้ โตแล้วนะ ไม่ต้องมายุ่ง ”
>เรื่องแบบนี้หรอกซึ่งเราเองก็ไม่ได้คิดอะไร
>ไม่ได้คิดว่าพ่อแม่ยุ่งอะไรนักหนาหรอก
>เพียงแต่อยากทำอาหารกินหรือหากินเอง
>จะได้ไม่ต้องรบกวนใคร
>แต่…พ่อแม่ได้ฟังอย่างนั้น เกิดความรู้สึกแล้ว
>อุตส่าห์หวังดี
>อยากทำอะไรอร่อยๆ ให้กิน ด้วยความหวังดี
>ด้วยความเป็นห่วงได้ยินอย่างนั้น ก็เสียใจน้อยใจ คิดว่าลูกไม่สนใจ
>ไม่เห็นถึงความหวังดีบางรายอาจจะน้อยใจ
>จนเก็บไปร้องไห้ก็มีนี่แหละครับ
>เหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยในรายของลูกที่ยังอยู่ร่วมกับพ่อแม่
>หรือเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้คือการทำให้พ่อแม่เสียใจ น้อยใจ
>แม้ว่าเราเองจะไม่ตั้งใจก็ตาม
>>บาป….ครับ>>>>>>>>และมีเหตุการณ์อีกหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงว่า
>การกระทำและคำพูดของเราจะทำร้าย "จิตใจ" ของพ่อแม่
>ด้วยความไม่ตั้งใจแม้จะไม่ตั้งใจอย่างไรก็ตาม มันก็บาป..ครับเป็น
"กรรม"
>ที่ต้องชดใช้ในอนาคต
>มีทางหนึ่งที่พอจะช่วยได้ ก็คือต้องได้รับ
"อโหสิ"
>>หรือได้รับการ >>"อภัย"
>>จากพ่อแม่>>
>อยากจะบอกว่าการทำร้ายจิตใจให้พ่อแม่ให้ได้รับความไม่สบายทั้งกายและใจนั้น
>เป็นบาปเป็นกรรมที่มีผลหนักหนามหาศาลและเป็นกรรมที่ทำให้เราไม่เจริญ
>ไม่มีความสุข ไม่มีความเจริญก้าวหน้า
>ไม่มีสิ่งที่เป็นมงคลเกิดขึ้นในชีวิต เทวดา พรหม มนุษย์ สัตว์ ไม่ชอบ
>ไม่อยากยุ่งเกี่ยว
>หรือไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ด้วยอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว
>คิดกันหรือยังครับว่าเราควรจะ "ขอขมา"
>พ่อแม่ได้แล้ว>>>>หรือว่ายังคิดกันไม่ออก..ก็ตามใจ
>วิธีการขอขมาพ่อแม่
>เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
>ความจริงไม่มีอะไรมากเลย เพียงแค่เข้าไป
>"กราบ" พ่อแม่ แล้วเอ่ยปากขอ "ขมา"
ในสิ่งที่ที่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ร้องไห้ เสียความรู้สึก
แล้วก็ให้พ่อแม่ยกโทษ อโหสิกรรมให้ก็แค่นี้ครับ
>ง่ายจะตายไป
>แต่เรื่องที่สำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เลย
ก็คือต้องไปขอ "ขมา" >>อย่างจริงใจนะครับ แบบหลอกๆ หรือโกหก หรือไม่จริงใจ
>>ไม่ได้ผลแน่นอน
>เริ่มต้นอย่างนี้ก่อนก็ได้
>1. ลองเลือกดูสักวันที่พร้อม ไม่ต้องถึงขนาดดูฤกษ์ยามนะครับ นั่นมันก็เกินไป
ยิ่งศาสนาพุทธสอนไว้ด้วยว่า ฤกษ์ที่ดีที่สุดก็คือ
ฤกษ์สะดวก แต่บางคน "เขิน" ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร ที่จะเข้าไป
"ขอขมา" พ่อแม่
ก็อาจจะเลือกวันที่เป็นประเพณีนิยมที่คนเขาทำกันทั้งบ้านทั้งเมืองก็ได้
อาจจะเป็นวันปีใหม่ สงกรานต์ วันแม่ วันเข้าพรรษา วันพระสำคัญๆ วันเกิดเรา
วันเกิดพ่อแม่ คือจะเอาวันไหนก็เลือกสักวัน
อย่าไปให้ความสำคัญว่าจะเป็นวันไหนมากนัก
วันไหนที่พร้อมก็ทำได้เลย ถ้ามัวมารอเอาวันนั้นวันนี้
เดี๋ยวคุณก็ไม่ได้ทำกันพอดี
>2. นำสิ่งของที่ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนหรือสิ่งที่ดี ที่เห็นแล้วสดชื่น
อาจจะเป็นพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียนแพ น้ำอบ น้ำปรุง
หรืออะไรก็ได้ที่ดูเข้ากับบรรยากาศ
หรือถ้าไม่มีจริงๆ ก็ไม่ต้อง
ซึ่งเหล่านี้มันไม่สำคัญสำคัญเท่ากับเอา "จิต" ที่ตั้งมั่น
ที่จริงใจไปกราบเข้าไปกราบ..คือกราบเลยนะครับ
ให้ดูว่าเคารพพ่อเคารพแม่อย่างจริงใจ
กราบพ่อกราบแม่ทำไมจะกราบไม่ได้
กราบได้สนิทใจกว่ากราบคนอื่นอีกตอนนี้หลายคนอาจจะกระดาก เขินอาย
ซึ่งก็ไม่รู้จะกระดากไปทำไม ? แต่มีจริงๆ นะครับ
เท่าที่คุยกับหลายๆ คน กระดากจริงๆ
อาจจะเป็นเพราะว่าไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยชิน
ไม่เคยกราบพ่อกราบแม่มาก่อน เลยเขินอายกราบไปเถิดครับ
กราบตอนนี้ยังดียังมีพ่อแม่ให้กราบ
ถ้าไปกราบศพกราบรูปตอนที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว
จะมานั่งเสียใจทีหลังนะครับอย่าเขิน อย่าอาย อย่ากระดาก
>>ถ้าจะทำความดี
>>เมื่อกราบแล้ว พูดกับพ่อแม่นะครับว่า….(ในทำนองคล้ายๆ แบบนี้)
>>“ สิ่งใดก็ตาม
>>การกระทำใดก็ตามที่ลูกได้เคยทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ
>>เสียใจ น้อยใจ
>>หรือทำให้เกิดกรรมที่ไม่ดีต่อพ่อแม่
>>บัดนี้ลูกได้สำนึกผิดแล้วในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำกรรมไม่ดี
>>ขอกราบขอขมาพ่อแม่ด้วย ขอให้พ่อแม่อโหสิกรรม
>>และให้อภัยในกรรมที่ไม่ดีที่ได้เคยทำมาแล้วด้วย "
>>ทำนองนี้แหละครับ
>>แต่ข้อนี้อย่าลืมว่า ทุกอย่างที่ทำ ต้องออกมาจาก
>>"จิต" >>ที่ต้องการทำอย่างนั้นจริง
>>ต้องการขอขมาจริงๆอย่าสักแต่ว่าทำเพียงให้พ้นๆ ไป ต้องมาจากใจ และจาก
>>"จิต" ที่บริสุทธิ์ใจ
>3. พูดเสร็จแล้วก็ ให้พ่อแม่เอ่ยปากให้
"อโหสิ" และให้ "อภัย" ให้ และอาจจะตามด้วยการขอพร ขอคำพูดที่ดีๆ
ขอคำพูดที่เป็นมงคลจากพ่อแม่ด้วยและก็เช่นกัน พ่อแม่ก็ต้องให้ "อภัย"
และ "อโหสิกรรม" ลูกจาก "จิต" ที่เต็มใจ จริงใจ จริงๆ
พร้อมที่จะให้อภัยลูกด้วยความบริสุทธิ์ใจ>>แค่นี้ครับ…เสร็จแล้ว
แค่นี้จริงๆ กับการสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับชีวิต>>>>>>>>แต่ "แค่นี้"
นั้น ได้สร้างบุญกุศลมหาศาล
>>และสร้างอานิสงส์ที่เยี่ยมยอดให้กับเราแล้วอย่างน้อยก็ได้ลด "กรรม"
>>ในส่วนที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรได้ส่วนหนึ่ง ไม่ต้องรับ "กรรม" ที่เดียว 2 กรรมพร้อมกัน
และคุณเองก็ยังเอาความรู้ตรงนี้ไปประยุกต์ใช้กับคนอื่น ที่คุณได้เคยทำกรรมไม่ดีกับเขาก็ได้
เพราะอย่างน้อยการที่เจ้ากรรมนายเวรยกโทษให้ ก็น่าจะเป็นสิ่งดี
>>อย่างนั้นใช่มั้ยครับ
>>อย่าลืมเรื่องที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ…."อย่าซ้ำรอยเดิม"
>>สิ่งที่ควรทำกับพ่อแม่
>>เพียงคุณทำให้พ่อแม่สบายใจ
>>สบายกาย
>>บำรุงให้ท่านได้มีความสุขตามอัตภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจ
>>เรื่องของร่างกาย เรื่องอาหารการกิน เรื่องสุขภาพถ้าคุณทำได้
>>ทำให้พ่อแม่มีความสุขได้แล้ว
>>คุณไม่ต้องมานั่งอธิษฐานขออะไรจากเทพ
>>เทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ
>>เพราะถ้าคุณบำรุงดูแลพ่อแม่อย่างที่บอกแล้ว
>>คุณได้แล้ว คุณได้กุศล
>>ได้บุญแล้วได้อย่างมหาศาลด้วย
>>เป็นการได้แบบอัตโนมัติ
>>ทำปุ๊ปได้ปั๊บการบำรุงดูแล
>>การสร้างความสุขความสบายใจ
>>และการกตัญญูกับพ่อแม่นั้น
>>เป็นคุณธรรมที่
>>สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงยกย่องว่า
>>เป็นคุณธรรมที่ประเสริฐ
>>ได้บุญได้กุศล
>>ได้อานิสงส์มหาศาลอานิสงส์นั้นจะเป็นผลให้คุณได้รับสิ่งที่เหลือเชื่อ
>>แทบไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้ อะไรที่ติดขัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน
>>เรื่องความรัก หรือเรื่องจิปาถะต่างๆ ก็จะดีขึ้น
>>คลี่คลายไปในทางที่ดีเงินทองก็จะไม่ขัดสน ถ้ามันยากจนหนักเข้า
>>ก็ไม่ถึงกับบรรลัยฉิบหาย เดี๋ยวก็จะมีบางสิ่งบางอย่างทำให้ดีขึ้น
>>หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้รอดตาย รอดจากวิกฤตได้บอกไม่หมดจริงๆ ครับ
>>กับอานิสงส์ของการมีความกตัญญู การทำให้พ่อแม่มีความสบายใจ
>>การบำรุงดูแลพ่อแม่ เพราะเขียนกัน 3 วัน 3 คืน (หรือมากกว่านั้น)
>>ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า อานิสงส์จะมีอะไรบ้างเอาเป็นว่า สรุปง่ายๆ
ก็คือ
>>สิ่งที่เคยไม่ดีในอดีต สิ่งที่ไม่ดีในปัจจุบัน และสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ
>>ในอนาคต จะ "ดีขึ้น" อย่างน่าอัศจรรรย์ อย่างคาดไม่ถึง
>>ผมเขียนเรื่องนี้มาจากประสบการณ์ตรง ยี่ห้อ นายอโณทัย
>>ต้องเขียนจากความเป็นจริงเท่านั้น ทำได้ปฏิบัติได้จึงเอามาบอกต่อ
>>ยืนยันกันอย่างนี้ ไม่เชื่อกันหรือครับ ?
>>ก่อนจบเรื่องนี้ก็มาสรุปกันนิดหน่อย
>>
>>และแถมท้ายสิ่งที่ทำให้พอแม่สบายใจอีกข้อสองข้อ
>>1.การขอขมาพ่อแม่
>>เมื่อสำนึกได้ว่าเคยทำสิ่งไม่ดีกับพ่อแม่ไว้
>>2.อย่า "ซ้ำรอยเดิม" ทำในสิ่งที่เคยทำไม่ดีอีก
>>3.บำรุง ดูแล กตัญญู สร้างความสุข ความสบายใจ
>>ให้พ่อแม่ตามอัตภาพ
>>4.ข้อนี้แถม ในวันที่สำคัญต่างๆ ควรมากราบพ่อแม่
>>เพื่อให้พ่อแม่ได้รู้สึกว่าตัวเองยังเป็นที่ "ต้องการ" และมี
>>"ความสำคัญ" ต่อลูกหลาน
>>วันเกิด ควรมาหาผู้ที่ทำให้เกิดก่อน
>>(ก็พ่อแม่นั้นแหละ) มาขอพร มากราบ
>>มาไหว้ก่อน เอาของขวัญ ของชอบ
>>หรือสิ่งที่ดีๆ มาให้พ่อแม่ก่อน
>>แล้วจะไปทำอย่างอื่นหรือไปฉลองกับใครก็ตามใจ
>>แต่ทางที่ดีควรพาพ่อแม่ไปทานข้าวนั่นแหละดีที่สุด
>>ส่วนเพื่อนนั้นไปกินกันวันไหนก็ได้
>>ถ้าอยากจะกินวันเกิดควรนึกถึงผู้ที่ทำให้เกิดมามากที่สุดผมไปหาพ่อแม่
>>(ตอนนี้เหลือคุณแม่คนเดียว) ทุกๆ วัน (คล้าย) เกิดของผม
>>ทำเป็นประจำมาหลายสิบปีแล้วหรือจะเป็นวันสำคัญต่างๆ วันปีใหม่
>>วันสงกรานต์ วันเกิดพ่อแม่ วันพ่อ วันแม่ ฯลฯ ไปหาพ่อแม่ได้ก็ไป
>>แต่ถ้าไปหาไม่ได้ เพราะความจำเป็นบางอย่าง ก็ติดต่อสื่อสาร อย่างเช่น
>>โทรไปหา เขียนการ์ด เขียนจดหมายไปหาก็ยังดี ถ้าไปหาด้วยตัวเองไม่ได้
>>ไปด้วยเสียง
>>ด้วยตัวอักษรก็ยังดีนี่แหละครับมงคลที่ได้จากพ่อแม่
>>อโณทัย เขตต์บรรพต
>>บทความนี้คัดลอกจากหนังสือ "สิ่งที่ชาวพุทธควรรู้
ขอขอบพระคุณ บทความดีดี ที่ได้รับต่อมาจากเพื่อนๆ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมเราจะมีแต่คนดี
ขอส่งความปรารถนาดีถึงทุกท่าน
ผมจะเป็นคนดี….และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เป็นคนดี
//www.extrasoul.com/book1.html>>>>//www.palungjit.com/board/showthread.php?t=33169
Create Date : 12 กันยายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2553 21:02:56 น. |
Counter : 303 Pageviews. |
|
|
|