บล็อกนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ธรรมะ ข้อคิด-ข้อเตือนใจที่ได้จาก FW-MAIL ของเพื่อน ๆ และ WEBSITE ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เน้นสุด ๆ เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม ศีลทั้ง 5 ข้อ เพราะเราเข้าใจแล้วว่า...ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว ที่สำคัญสุด ๆ คือ ต้องการบอกว่า...กรรมในปัจจุบัน ส่งผลต่อเรามากที่สุด...ต้องการให้คุณเลือกทำกรรมดีในปัจจุบันก่อนที่มันจะสายเกินไป...

พ่อแม่.....ผู้สร้างมงคลให้ชีวิต

พ่อแม่....ผู้สร้างมงคลให้ชีวิต

สาเหตุหนึ่งก็คือ "การไม่ได้ทำตัวเป็นลูกที่ดี"

การไม่ทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ นั้น เท่าที่ผมได้รับฟังปัญหา ก็มีอย่างนี้

1.ชอบเถียงพ่อเถียงแม่

2.ชอบทำให้พ่อแม่เสียใจ บางรายถึงกับทำให้พ่อแม่ร้องไห้

3.ไม่เลี้ยงดู ไม่ปรนนิบัติพ่อแม่ตามสมควร

4.สร้างแต่ปัญหาให้พ่อแม่

5.ขโมยของที่เป็นสมบัติของพ่อแม่

6.ด่าว่า กล่าวคำที่เป็นการล่วงเกินพ่อแม่

7.ทำร้ายร่างกาย และจิตใจต่อพ่อแม่

บุคคลใดก็ตามที่กระทำอย่างนี้ จะต้องได้รับ

"กรรม" หนัก ยิ่งข้อที่ 6 และ 7 คือด่าว่าและทำร้ายพ่อแม่

"กรรม" จะยิ่งหนักมากมายมหาศาล

โอกาสได้ไปภพภูมิต่ำถึงนรกอเวจีมีมาก

ชีวิตของผู้กระทำการตามนี้จะไม่มีความสุขเลยชั่วชีวิต

จะไม่มีความสบายใจ มักจะมีเรื่องหงุดหงิด เรื่องทุกข์

ทั้งทุกข์กายและทุกข์ใจเกิดขึ้นบ่อยๆ อะไรที่คิดว่าน่าจะได้มา

น่าจะสร้างความสุข น่าจะประสบผลสำเร็จ ก็มักจะไม่ได้ มีการเลื่อน คลาดเคลื่อน

>>จนสุดท้ายก็ไม่ได้เลย>>

สำหรับคนที่ได้กระทำในสิ่งที่เลวร้าย

หรือไม่สวยงามไม่น่ารักกับพ่อกับแม่แล้วนั้น

บางทีอาจจะไม่รู้ตัวหรอกครับว่า

กำลังรับกรรมในส่วนนี้อยู่บางทีการกระทำที่เราทำกับพ่อแม่นั้น

อาจจะทำไปโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าพ่อแม่จะเสียใจ

ในสิ่งที่เราทำ เพราะเรา "คาดไม่ถึง">อย่างเช่น

>ถ้าพ่อแม่ทำกับข้าวมาให้กิน

>เพราะเห็นว่าเราทำงานมาเหนื่อยเราหิว

>เรากลับพูดสวนกลับไปว่า

” ไม่ต้องมาสนใจหรอกน่า เดี๋ยวหากินเองได้ โตแล้วนะ ไม่ต้องมายุ่ง ”

>เรื่องแบบนี้หรอกซึ่งเราเองก็ไม่ได้คิดอะไร

>ไม่ได้คิดว่าพ่อแม่ยุ่งอะไรนักหนาหรอก

>เพียงแต่อยากทำอาหารกินหรือหากินเอง

>จะได้ไม่ต้องรบกวนใคร

>แต่…พ่อแม่ได้ฟังอย่างนั้น เกิดความรู้สึกแล้ว

>อุตส่าห์หวังดี

>อยากทำอะไรอร่อยๆ ให้กิน ด้วยความหวังดี

>ด้วยความเป็นห่วงได้ยินอย่างนั้น ก็เสียใจน้อยใจ คิดว่าลูกไม่สนใจ

>ไม่เห็นถึงความหวังดีบางรายอาจจะน้อยใจ

>จนเก็บไปร้องไห้ก็มีนี่แหละครับ

>เหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยในรายของลูกที่ยังอยู่ร่วมกับพ่อแม่

>หรือเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้คือการทำให้พ่อแม่เสียใจ น้อยใจ

>แม้ว่าเราเองจะไม่ตั้งใจก็ตาม

>>บาป….ครับ>>>>>>>>และมีเหตุการณ์อีกหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงว่า

>การกระทำและคำพูดของเราจะทำร้าย "จิตใจ" ของพ่อแม่

>ด้วยความไม่ตั้งใจแม้จะไม่ตั้งใจอย่างไรก็ตาม มันก็บาป..ครับเป็น

"กรรม"

>ที่ต้องชดใช้ในอนาคต

>มีทางหนึ่งที่พอจะช่วยได้ ก็คือต้องได้รับ

"อโหสิ"

>>หรือได้รับการ >>"อภัย"

>>จากพ่อแม่>>

>อยากจะบอกว่าการทำร้ายจิตใจให้พ่อแม่ให้ได้รับความไม่สบายทั้งกายและใจนั้น

>เป็นบาปเป็นกรรมที่มีผลหนักหนามหาศาลและเป็นกรรมที่ทำให้เราไม่เจริญ

>ไม่มีความสุข ไม่มีความเจริญก้าวหน้า

>ไม่มีสิ่งที่เป็นมงคลเกิดขึ้นในชีวิต เทวดา พรหม มนุษย์ สัตว์ ไม่ชอบ

>ไม่อยากยุ่งเกี่ยว

>หรือไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ด้วยอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว

>คิดกันหรือยังครับว่าเราควรจะ "ขอขมา"

>พ่อแม่ได้แล้ว>>>>หรือว่ายังคิดกันไม่ออก..ก็ตามใจ

>วิธีการขอขมาพ่อแม่

>เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

>ความจริงไม่มีอะไรมากเลย เพียงแค่เข้าไป

>"กราบ" พ่อแม่ แล้วเอ่ยปากขอ "ขมา"

ในสิ่งที่ที่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ร้องไห้ เสียความรู้สึก

แล้วก็ให้พ่อแม่ยกโทษ อโหสิกรรมให้ก็แค่นี้ครับ

>ง่ายจะตายไป

>แต่เรื่องที่สำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เลย

ก็คือต้องไปขอ "ขมา" >>อย่างจริงใจนะครับ แบบหลอกๆ หรือโกหก หรือไม่จริงใจ

>>ไม่ได้ผลแน่นอน

>เริ่มต้นอย่างนี้ก่อนก็ได้

>1. ลองเลือกดูสักวันที่พร้อม ไม่ต้องถึงขนาดดูฤกษ์ยามนะครับ นั่นมันก็เกินไป

ยิ่งศาสนาพุทธสอนไว้ด้วยว่า ฤกษ์ที่ดีที่สุดก็คือ

ฤกษ์สะดวก แต่บางคน "เขิน" ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร ที่จะเข้าไป

"ขอขมา" พ่อแม่

ก็อาจจะเลือกวันที่เป็นประเพณีนิยมที่คนเขาทำกันทั้งบ้านทั้งเมืองก็ได้

อาจจะเป็นวันปีใหม่ สงกรานต์ วันแม่ วันเข้าพรรษา วันพระสำคัญๆ วันเกิดเรา

วันเกิดพ่อแม่ คือจะเอาวันไหนก็เลือกสักวัน

อย่าไปให้ความสำคัญว่าจะเป็นวันไหนมากนัก

วันไหนที่พร้อมก็ทำได้เลย ถ้ามัวมารอเอาวันนั้นวันนี้

เดี๋ยวคุณก็ไม่ได้ทำกันพอดี

>2. นำสิ่งของที่ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนหรือสิ่งที่ดี ที่เห็นแล้วสดชื่น

อาจจะเป็นพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียนแพ น้ำอบ น้ำปรุง

หรืออะไรก็ได้ที่ดูเข้ากับบรรยากาศ

หรือถ้าไม่มีจริงๆ ก็ไม่ต้อง

ซึ่งเหล่านี้มันไม่สำคัญสำคัญเท่ากับเอา "จิต" ที่ตั้งมั่น

ที่จริงใจไปกราบเข้าไปกราบ..คือกราบเลยนะครับ

ให้ดูว่าเคารพพ่อเคารพแม่อย่างจริงใจ

กราบพ่อกราบแม่ทำไมจะกราบไม่ได้

กราบได้สนิทใจกว่ากราบคนอื่นอีกตอนนี้หลายคนอาจจะกระดาก เขินอาย

ซึ่งก็ไม่รู้จะกระดากไปทำไม ? แต่มีจริงๆ นะครับ

เท่าที่คุยกับหลายๆ คน กระดากจริงๆ

อาจจะเป็นเพราะว่าไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยชิน

ไม่เคยกราบพ่อกราบแม่มาก่อน เลยเขินอายกราบไปเถิดครับ

กราบตอนนี้ยังดียังมีพ่อแม่ให้กราบ

ถ้าไปกราบศพกราบรูปตอนที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว

จะมานั่งเสียใจทีหลังนะครับอย่าเขิน อย่าอาย อย่ากระดาก

>>ถ้าจะทำความดี

>>เมื่อกราบแล้ว พูดกับพ่อแม่นะครับว่า….(ในทำนองคล้ายๆ แบบนี้)

>>“ สิ่งใดก็ตาม

>>การกระทำใดก็ตามที่ลูกได้เคยทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ

>>เสียใจ น้อยใจ

>>หรือทำให้เกิดกรรมที่ไม่ดีต่อพ่อแม่

>>บัดนี้ลูกได้สำนึกผิดแล้วในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำกรรมไม่ดี

>>ขอกราบขอขมาพ่อแม่ด้วย ขอให้พ่อแม่อโหสิกรรม

>>และให้อภัยในกรรมที่ไม่ดีที่ได้เคยทำมาแล้วด้วย "

>>ทำนองนี้แหละครับ

>>แต่ข้อนี้อย่าลืมว่า ทุกอย่างที่ทำ ต้องออกมาจาก

>>"จิต" >>ที่ต้องการทำอย่างนั้นจริง

>>ต้องการขอขมาจริงๆอย่าสักแต่ว่าทำเพียงให้พ้นๆ ไป ต้องมาจากใจ และจาก

>>"จิต" ที่บริสุทธิ์ใจ

>3. พูดเสร็จแล้วก็ ให้พ่อแม่เอ่ยปากให้

"อโหสิ" และให้ "อภัย" ให้ และอาจจะตามด้วยการขอพร ขอคำพูดที่ดีๆ

ขอคำพูดที่เป็นมงคลจากพ่อแม่ด้วยและก็เช่นกัน พ่อแม่ก็ต้องให้ "อภัย"

และ "อโหสิกรรม" ลูกจาก "จิต" ที่เต็มใจ จริงใจ จริงๆ

พร้อมที่จะให้อภัยลูกด้วยความบริสุทธิ์ใจ>>แค่นี้ครับ…เสร็จแล้ว

แค่นี้จริงๆ กับการสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับชีวิต>>>>>>>>แต่ "แค่นี้"

นั้น ได้สร้างบุญกุศลมหาศาล

>>และสร้างอานิสงส์ที่เยี่ยมยอดให้กับเราแล้วอย่างน้อยก็ได้ลด "กรรม"

>>ในส่วนที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรได้ส่วนหนึ่ง ไม่ต้องรับ "กรรม" ที่เดียว 2 กรรมพร้อมกัน

และคุณเองก็ยังเอาความรู้ตรงนี้ไปประยุกต์ใช้กับคนอื่น ที่คุณได้เคยทำกรรมไม่ดีกับเขาก็ได้

เพราะอย่างน้อยการที่เจ้ากรรมนายเวรยกโทษให้ ก็น่าจะเป็นสิ่งดี

>>อย่างนั้นใช่มั้ยครับ

>>อย่าลืมเรื่องที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ…."อย่าซ้ำรอยเดิม"

>>สิ่งที่ควรทำกับพ่อแม่

>>เพียงคุณทำให้พ่อแม่สบายใจ

>>สบายกาย

>>บำรุงให้ท่านได้มีความสุขตามอัตภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจ

>>เรื่องของร่างกาย เรื่องอาหารการกิน เรื่องสุขภาพถ้าคุณทำได้

>>ทำให้พ่อแม่มีความสุขได้แล้ว

>>คุณไม่ต้องมานั่งอธิษฐานขออะไรจากเทพ

>>เทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ

>>เพราะถ้าคุณบำรุงดูแลพ่อแม่อย่างที่บอกแล้ว

>>คุณได้แล้ว คุณได้กุศล

>>ได้บุญแล้วได้อย่างมหาศาลด้วย

>>เป็นการได้แบบอัตโนมัติ

>>ทำปุ๊ปได้ปั๊บการบำรุงดูแล

>>การสร้างความสุขความสบายใจ

>>และการกตัญญูกับพ่อแม่นั้น

>>เป็นคุณธรรมที่

>>สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงยกย่องว่า

>>เป็นคุณธรรมที่ประเสริฐ

>>ได้บุญได้กุศล

>>ได้อานิสงส์มหาศาลอานิสงส์นั้นจะเป็นผลให้คุณได้รับสิ่งที่เหลือเชื่อ

>>แทบไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้ อะไรที่ติดขัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน

>>เรื่องความรัก หรือเรื่องจิปาถะต่างๆ ก็จะดีขึ้น

>>คลี่คลายไปในทางที่ดีเงินทองก็จะไม่ขัดสน ถ้ามันยากจนหนักเข้า

>>ก็ไม่ถึงกับบรรลัยฉิบหาย เดี๋ยวก็จะมีบางสิ่งบางอย่างทำให้ดีขึ้น

>>หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้รอดตาย รอดจากวิกฤตได้บอกไม่หมดจริงๆ ครับ

>>กับอานิสงส์ของการมีความกตัญญู การทำให้พ่อแม่มีความสบายใจ

>>การบำรุงดูแลพ่อแม่ เพราะเขียนกัน 3 วัน 3 คืน (หรือมากกว่านั้น)

>>ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า อานิสงส์จะมีอะไรบ้างเอาเป็นว่า สรุปง่ายๆ

ก็คือ

>>สิ่งที่เคยไม่ดีในอดีต สิ่งที่ไม่ดีในปัจจุบัน และสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ

>>ในอนาคต จะ "ดีขึ้น" อย่างน่าอัศจรรรย์ อย่างคาดไม่ถึง

>>ผมเขียนเรื่องนี้มาจากประสบการณ์ตรง ยี่ห้อ นายอโณทัย

>>ต้องเขียนจากความเป็นจริงเท่านั้น ทำได้ปฏิบัติได้จึงเอามาบอกต่อ

>>ยืนยันกันอย่างนี้ ไม่เชื่อกันหรือครับ ?

>>ก่อนจบเรื่องนี้ก็มาสรุปกันนิดหน่อย

>>

>>และแถมท้ายสิ่งที่ทำให้พอแม่สบายใจอีกข้อสองข้อ

>>1.การขอขมาพ่อแม่

>>เมื่อสำนึกได้ว่าเคยทำสิ่งไม่ดีกับพ่อแม่ไว้

>>2.อย่า "ซ้ำรอยเดิม" ทำในสิ่งที่เคยทำไม่ดีอีก

>>3.บำรุง ดูแล กตัญญู สร้างความสุข ความสบายใจ

>>ให้พ่อแม่ตามอัตภาพ

>>4.ข้อนี้แถม ในวันที่สำคัญต่างๆ ควรมากราบพ่อแม่

>>เพื่อให้พ่อแม่ได้รู้สึกว่าตัวเองยังเป็นที่ "ต้องการ" และมี

>>"ความสำคัญ" ต่อลูกหลาน

>>วันเกิด ควรมาหาผู้ที่ทำให้เกิดก่อน

>>(ก็พ่อแม่นั้นแหละ) มาขอพร มากราบ

>>มาไหว้ก่อน เอาของขวัญ ของชอบ

>>หรือสิ่งที่ดีๆ มาให้พ่อแม่ก่อน

>>แล้วจะไปทำอย่างอื่นหรือไปฉลองกับใครก็ตามใจ

>>แต่ทางที่ดีควรพาพ่อแม่ไปทานข้าวนั่นแหละดีที่สุด

>>ส่วนเพื่อนนั้นไปกินกันวันไหนก็ได้

>>ถ้าอยากจะกินวันเกิดควรนึกถึงผู้ที่ทำให้เกิดมามากที่สุดผมไปหาพ่อแม่

>>(ตอนนี้เหลือคุณแม่คนเดียว) ทุกๆ วัน (คล้าย) เกิดของผม

>>ทำเป็นประจำมาหลายสิบปีแล้วหรือจะเป็นวันสำคัญต่างๆ วันปีใหม่

>>วันสงกรานต์ วันเกิดพ่อแม่ วันพ่อ วันแม่ ฯลฯ ไปหาพ่อแม่ได้ก็ไป

>>แต่ถ้าไปหาไม่ได้ เพราะความจำเป็นบางอย่าง ก็ติดต่อสื่อสาร อย่างเช่น

>>โทรไปหา เขียนการ์ด เขียนจดหมายไปหาก็ยังดี ถ้าไปหาด้วยตัวเองไม่ได้

>>ไปด้วยเสียง

>>ด้วยตัวอักษรก็ยังดีนี่แหละครับมงคลที่ได้จากพ่อแม่

>>อโณทัย เขตต์บรรพต

>>บทความนี้คัดลอกจากหนังสือ "สิ่งที่ชาวพุทธควรรู้

ขอขอบพระคุณ บทความดีดี ที่ได้รับต่อมาจากเพื่อนๆ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมเราจะมีแต่คนดี

ขอส่งความปรารถนาดีถึงทุกท่าน

ผมจะเป็นคนดี….และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เป็นคนดี

//www.extrasoul.com/book1.html>>>>//www.palungjit.com/board/showthread.php?t=33169




 

Create Date : 12 กันยายน 2553
1 comments
Last Update : 12 กันยายน 2553 21:02:56 น.
Counter : 303 Pageviews.

 

 

โดย: บ้านแก่งม่วง 13 ตุลาคม 2553 19:40:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จิรัฐวรรณ
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




lozocat
lozocatlozocat
ครูจอย...เชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว...กรรมที่กระทำแล้วจะดีหรือชั่วย่อมจะส่งผลในไม่ช้าก็เร็ว...สิ่งที่จะยุติกรรมได้...คือ อโหสิกรรม
lozocatlozocat
จำนวนผู้ชม

ตอนนี้พยายามทำความดีอยู่ค่ะ เคยทำไม่ดีมาพอแล้ว

lozocat

http://joy123456789.bloggang.com

lozocat
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
12 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add จิรัฐวรรณ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.