- มีระบบรองรับแรงกระแทกจากวิ่งทำให้ เครื่องมีเสียงที่เงียบ และรักษาอายุการใช้งานได้นานขึ้น
- มีระบบป้องกันอันตราย ในภาวะฉุกเฉิน ลดการบาดเจ็บ ซึ่งจะช่วยให้ท่านปลอดภัย และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
- ระบบประหยัดพลังงาน เพราะเครื่องจะทำการปิดเครื่องอัตโนมัต ตอนที่เราพับแผงคอนโซล
- อุปกรณ์มอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง เพราะใช้กำลังสูงสุด 2 แรงม้า ท่านจึงหมดกังวลในขณะที่ใช้งานต่อเนื่อง อีกทั้งยังรับประกันอีก 5 ปี รวมถึงแผงวงจร 1ปี
- เคลื่อนย้ายก็ง่าย เพราะมีล้อช่วยในการโยกย้าย
- ตัวเครื่องสามารถพับเก็บ ง่ายต่อการเคลื่นย้ายในกรณีเดินทางไปต่างจังหวัด
- หน้าจอแสดงผลการใช้งานด้วย LCD บอกโปรแกรม พลังงานที่ใช้ ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าสำคัญเลย เพราะเราต้องทราบกิจกรรมทั้งหมด และพลังงานที่เราเผาพลาญใขมันด้วย
- ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ
จุดด้อยของ ลู่วิ่งไฟฟ้า 360 Fitness
- อาจจะไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายคนเดียว โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะน้ำหนักเครื่องหนักถึง 76 กิโลกรัม หากจะต้องยกต้องมีคนช่วย
- อุปกรณ์เครื่องเล่น MP3 เสียงอาจจะไม่ประทับใจ เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านเทคนิคของเครื่อง
บทสรุป
จากผลการริวิว ลู่วิ่งไฟฟ้า 360 Fitness มาทั้งหมดนั้นโดยภาพรวมก็ถือว่า ตัวเครื่องมีความแข็งแรง บึกบึน เหมาะสำหรับใช้งานได้ดี โดยส่วนตัวผมก็ประทับใจ และอีกทั้งก็มีลูกค้าท่านอื่นที่ซื้อไปจาก ลาซาด้า ก็พูดเป็นแนวทางเดียวกัน ซึ่งในด้านข้อเสียนั้นอาจจะไม่ส่งผลกระทบโดยรวมต่อเครื่อง วึ่งก็ถือว่าน่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ
5 คำแนะนำในหลัก ๆ การเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า มีดังนี้ครับ
- ดูกำลังของมอเตอร์ ถ้ากำลังที่เหมาะสม ต้องระหว่าง 1.5-2 Hp เพื่อตอบสนองการใช้งานโดยที่มอเตอร์ไม่ทำงานหนัก และร้อนเกินไป
- ปรับองศาการวิ่งได้หรือไม่ เพราะมันจะช่วยเพิ่มแรงต้าน การออกกำลังกายให้เต็มที่มากขึ้น
- มีระบบรองรับการสั่น และการกระแทก หรือไม่ เพราะแน่นอนที่สุดถ้าไม่มีจุดนี้ เครื่องจะอายุการใช้งานสั้น อีกทั้งพิ้นบ้านของท่านก็จะได้รับแรงกระแทกเป็นรอย
- มีระบบป้องกันอุบัติเหตุ หรือไม่ เป็นเหตุผลสำคัญกว่าอื่นใด ซื้อเครื่องมาราคาถูกแต่ใช้งานแล้วไม่ปลอดภัยก็ไม่คุ้มนะครับ
- ตัวเครื่องรับประกันหรือไม่ การบริการหลังการขายเป็นอย่างไร เชื่อถือได้หรือไม่ ไม่ใช่ซื้อเครื่องมาพังแล้ว หาที่ซ่อมไม่ได้ อันนี้ลำบากแน่ครับ