บันทึก: วันนี้วันเกิดแม่ พรุ่งนี้วันพ่อ
เป็นปกติของบ้านผมที่วันเกิดคุณแม่กับวันพ่อแห่งชาติอยู่ใกล้ๆ กัน ในความทรงจำของคุณลูกเห็นคุณแม่และคุณพ่ออยู่ใกล้กันตลอดเหมือนกับวันทั้งสองวันนั้น
แต่ในความทรงจำเดียวกันนั้น คุณลูกเองกลับไม่ค่อยได้อยู่ใกล้ท่าน . . . .
ที่โรงเรียนมัธยม คุณลูกเอาแต่ซ้อมดนตรี ทั้งวันทั้งคืน เปิดเทอม ซ้อม ปิดเทอม ซ้อม ออกจากบ้านแต่เช้า กลับบ้านดึกดื่น
ที่มหาวิทยาลัย คุณลูกอยู่หอพัก กลับบ้านสัปดาห์ละครั้งบ้าง สองสัปดาห์บ้าง เดือนหนึ่งบ้าง ขลุกอยู่กับดนตรี ไข่วคว้าตามล่าหาฝัน
หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย คุณลูกยิ่งได้เจอท่านทั้งสองน้อยลงกว่าเดิมยิ่งนัก เพราะ ระเห็จมาหาฝันที่อเมริกา อยู่ที่นี่สองปี อยู่ที่นั่นสามปี ไม่รู้จะอยู่ที่ปัจจุบันกี่ปีกัน?
ช่วงปิดเทอมของทุกๆ ปีที่คุณลูกกลับไปเมืองไทยเท่านั้นที่จะได้เจอกัน ซึ่งคุณลูกเองไปนอนบ้านคนนี้ที คนนั้นที จนไม่ทราบแล้วว่า "บ้าน" อยู่ที่ใดกันแน่
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณเทคโนโลยีไฟเบอร์อ๊อบติคและอินเตอร์เน็ตเอาไว้ล่วงหน้า เพราะ ถึงแม้ว่ากายจะห่างกันครึ่งโลก แต่ยังได้เห็นหน้าค่าตากันอยู่เป็นประจำ วันนี้ตอนเช้าของที่ Ann Arbor, Michigan ก็ยังได้คุยกัน
คุณลูกไม่มีรูปถ่ายเท่ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ คุณลูกเป็นคนพูดไม่เก่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ทำให้ซึ้ง การเขียนเป็นส่ิงที่คุณลูกทำได้ดีกว่าการพูด คุณลูกจึงเลือกการเขียน
ที่เขียนวันนี้อยากจะกล่าวถึงความสำคัญและสรรเสริญวีรกรรมของ "คุณแม่คุณพ่อ" หรือ "คุณพ่อคุณแม่" ต่อชีวิตนักดนตรีเสียหน่อย
ย้อนกลับไป
ที่โรงเรียนมัธยม เอาแต่ซ้อมดนตรี ทั้งวันทั้งคืน เปิดเทอม ซ้อม ปิดเทอม ซ้อม ออกจากบ้านแต่เช้า กลับบ้านดึกดื่น
คุณพ่อตื่นแต่เช้ามาปลุกถึงเตียง (หลายครั้ง เพราะมักแอบลักไก่นอนต่อ) เมื่อครั้งอยู่โรงเรียนประถมคุณแม่จะตื่นมาพร้อมกับคุณพ่อเพื่อทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้คุณพ่อ พี่ชายและผม หลังจากเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมก็เลิกไป คุณพ่อไปส่งที่โรงเรียนไม่เคยขาด หรือเมื่อไปเรียนดนตรี ไปซ้อมนอกสถานที่ มีงานพิเศษ ไม่ว่าเช้าค่ำแค่ไหนคุณพ่อจะไป ทุกคืนคุณพ่อจะมารับที่โรงเรียนหลังเลิกซ้อม บางคืนที่ไปดูคอนเสิร์ต หากเลิกดึกคุณพ่อก็จะมารับถึงสถานที่ บางคืนที่มารับ รอแล้ว รอเล่า คุณลูกก็ยังไม่โผล่หัวออกมาจากโรงเรียน แต่ไม่เคยปริปากบ่นสักคำ คุณแม่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินมาจ่ายค่าเทอม (ผมโดดเรียนไปสักครึ่ง) ค่าขนม ค่าเดินทาง ค่าเรียนดนตรี ค่าเครื่องดนตรี ทั้งๆ ที่ฐานะที่บ้านนั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไร อยากกินอะไร ชอบกินอะไร คุณแม่จะจัดสรรหามาให้
ที่มหาวิทยาลัย อยู่หอพัก กลับบ้านสัปดาห์ละครั้งบ้าง สองสัปดาห์บ้าง เดือนหนึ่งบ้าง ขลุกอยู่กับดนตรี ไข่วคว้าตามล่าหาฝัน
คุณแม่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินมาจ่ายค่าเทอม (ผมไม่โดดเรียนแล้ว) ค่าขนม ค่าเดินทาง ค่าเรียนดนตรี ค่าเครื่องดนตรี ค่าหอพัก ทั้งๆ ที่ฐานะที่บ้านนั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไรเช่นเคย ทุกครั้งที่มีโอกาสมาส่งคุณลูกที่หอ คุณพ่อคุณแม่จะทำ ทั้งๆ ที่ศาลายาห่างไกลจากยานนาวาเหลือเกิน หากคุณลูกอยากกินอะไรที่ศาลายาหรือนครปฐมคุณพ่อคุณแม่ตามใจเสมอ หากต้องการ คุณพ่อจะไปรับส่งที่มหาวิทยาลัยไม่เคยขาด บางคืนที่ไปดูคอนเสิร์ต หากเลิกดึกคุณพ่อก็จะมารับถึงสถานที่และนำทั้งคุณลูก (และคุณเพื่อน) มาส่งถึงที่หอ บางคืนที่มารับ รอแล้ว รอเล่า คุณลูกก็ยังไม่โผล่หัวออกมา แต่ไม่เคยปริปากบ่นสักคำ คุณพ่อคุณแม่ติดตามดูคอนเสิร์ตของคุณลูกทุกๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจ
ที่อเมริกาหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ยิ่งได้เจอท่านทั้งสองน้อยลงกว่าเดิมยิ่งนัก เพราะ ระเห็จมาหาฝัน อยู่ที่นี่สองปี อยู่ที่นั่นสามปี ไม่รู้จะอยู่ที่ปัจจุบันกี่ปีกัน?
ทุกครั้งที่มีโอกาสมารับส่งคุณลูกที่สนามบิน คุณพ่อคุณแม่จะทำ ทั้งๆ ที่สุวรรณภูมิไกลจากยานนาวาเหลือเกิน ไม่ว่าไฟลต์เช้าค่ำแค่ไหน จะเห็นคุณพ่อคุณแม่เสมอ จำได้ว่าวันที่เดินทางไปอเมริกาครั้งแรก คุณพ่อน้ำตาหยด คุณลูกไม่เคยเห็นมาก่อน คุณพ่อคุณแม่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินมาช่วยเหลือเกื้อกูลความฝันของคุณลูกจนสำเร็จ ทั้งๆ ที่ฐานะที่บ้านนั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไรเช่นเคย คราวนี้ถึงขั้นต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาด้วย จนบัดนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ยังให้การช่วยเหลือทางการเงินอยู่อย่างไม่เคยเสียดาย แปลก-แต่ที่อเมริกาคุณลูกได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่มากกว่าแต่ก่อน คุณลูกไม่เคยกล่าวรักคุณพ่อคุณแม่จนได้มาอยู่ที่อเมริกา คุณลูกไม่เคยกอดคุณพ่อคุณแม่จนได้มาอยู่ที่อเมริกา ที่นี่ คำว่า "คิดถึงบ้าน คิดถึงคุณพ่อคุณแม่" วนเวียนไปมาในหัวของคุณลูกเสมอ
ช่วงปิดเทอมของทุกๆ ปีที่กลับไปเมืองไทยเท่านั้นที่จะได้เจอกัน ซึ่งไปนอนบ้านคนนี้ที คนนั้นที จนไม่ทราบแล้วว่า "บ้าน" อยู่ที่ใดกันแน่
คุณพ่อไม่ได้ไปรับไปส่งแล้วแต่ทิ้งรถหนึ่งคันไว้ให้ขับไปไหนมาไหนเสมอ คุณพ่อคุณแม่ยังติดตามดูคอนเสิร์ตของคุณลูกทุกๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจ แถมไปชวนเพื่อนๆ มาดูและให้เงินช่วยทำคอนเสิร์ตด้วยทั้งๆ ที่ฐานะที่บ้านนั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไร คุณลูกไม่ชอบกรุงเทพฯ แต่เมื่อไรที่ได้กลับ "บ้าน" (คอนโด) คุณแม่คุณพ่อดูแลคุณลูกอย่างดี อยากกินอะไร ชอบกินอะไร คุณแม่จะจัดสรรหามาให้ วันหยุดเสาร์อาทิตย์หากคุณลูกอยู่กรุงเทพฯ คุณพ่อคุณแม่จะพาไปกินอาหารดีๆ กันนอกบ้านเสมอ บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ถึงกับลากสังขารมาเยี่ยมคุณลูกและลูกสะใภ้ถึงราชบุรี คุณลูกทั้งสองชวนไปเที่ยวไหนก็ไปกันไม่มีอิดออด "บ้าน" เล็กๆ ที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่รักคุณลูกนั้นดีกว่าบ้านใหญ่โตโอ่อ่าสวยงามแต่ไม่มีความรัก
"วีรกรรม" เหล่านี้ที่คุณลูกกล่าวมิได้เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเพียงครั้งคราว แต่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตีค่าเป็นราคามิได้ และเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความทรงจำเท่านั้น
จากวันนั้นถึงวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังทำเหมือนเดิมทุกประการ - ขอเพียงแต่คุณลูกเอ่ยคำออกมา ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ จะฝ่าฟันไปให้ถึงที่สุด
คุณลูกคงเดินทางมาถึงจุดนี้ไม่ได้ หากไม่ได้ความรักจากคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา
"ความรัก" นั้นมีหลายแบบ แต่ละคนมีภาษารักที่แตกต่างกัน "การกระทำให้" เป็นภาษาของคุณพ่อคุณแม่ ท่านทำอย่างที่กล่าวมาตลอด เหนื่อยแต่ไม่เคยพูดให้คุณลูกได้ยิน เมื่อยังเด็ก วัยรุ่น คุณลูกไม่เข้าใจภาษานี้ ทำตัวเป็นกบฎให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยใจเสมอ เพราะ การกระทำให้ไม่ใช่ภาษารักของคุณลูกและคุณลูกไม่เข้าใจในภาษารักของท่าน คุณลูกใช้เวลานานนักกว่าจะเข้าใจภาษารัก กว่าจะกระจ่างก็โตแล้ว มาอยู่อเมริกาแล้ว รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปโดยที่มิได้ตอบแทนความรักที่คุณพ่อคุณแม่มีให้
แต่ในเวลาปัจจุบันนั้น วันที่คุณลูกคิดได้ คุณลูกเองกลับไม่ได้อยู่ใกล้ท่าน . . . .
ถึงแม้ว่ากายจะห่างกันครึ่งโลก วันนี้ที่คุณลูกเข้าใจ ความรักที่คุณลูกมีให้คุณพ่อคุณแม่ก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
ขอบคุณพระคุณพ่อคุณแม่
รักและคิดถึง
คุณลูก
Create Date : 04 ธันวาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2557 11:42:39 น. |
Counter : 792 Pageviews. |
|
|
|