มาจะกล่าวบทไป . . . ตะลุ่ง ตุ้งแช่!
"ชีวิตวันอาทิตย์ของข้าพเจ้าก็คล้ายๆ กับของ John Luther Adams คือ ตื่น 8 นาฬิกามาล้างหน้าแปรงฟัน ดื่มด่ำกับกาแฟ (ที่ไม่ใช่ Espresso) และอาหารเช้า (ที่ไม่ใช่ไข่) ที่ภรรยาเตรียมไว้ให้ อ่านไบเบิล อธิษฐานและนั่งพักสงบยามเช้าชื่นชมธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่หลังอพาร์ตเมนท์ 9:25 นาฬิกาจึงเดินออกไปเรียนไบเบิลที่โบสถ์หนึ่ง เมื่อถึงเวลา 10:30 นาฬิกาภรรยาออกจากบ้านมารับที่โบสถ์นี้เพื่อไปนมัสการพระเจ้าอีกโบสถ์หนึ่งด้วยกัน อยู่ที่โบสถ์นั้นจนกระทั่ง 1:00 นาฬิกา เวลา 1:30 นาฬิกากลับถึงบ้านและทานอาหารที่เหลือในตู้เย็นเป็นอาหารกลางวันร่วมกัน (ถึงไม่หรูหราแต่ได้ทานอาหารด้วยกันเสมอ) ระหว่างที่รับประทานอาหารได้ดู "เป็นต่อ New Season" ไปด้วย ประมาณ 2 นาฬิกาจึงเริ่มอ่านหนังสือ ศึกษาเพลงใหม่ๆ ติดตามข่าวสาร ทำงานที่มั่นหมายไว้ หรือเตรียมอาหาร (ข้าพเจ้ายังหนุ่มยังแน่น จึงไม่ต้องนอนกลางวัน) เมื่อใกล้ 3:30 นาฬิกาได้เวลาเตรียมตัวออกไปทำงานจนกระทั่งเวลา 8:00 นาฬิกา เมื่อกลับถึงบ้านประมาณ 8:30 นาฬิกาจึงได้ทานอาหารเย็น (ของเหลือในตู้เย็นอีกนั่นแหละ) 9:00 นาฬิกาอาบน้ำอาบท่า เมื่อเสร็จแล้วมานั่งดู Netflix หรือรายการทำอาหารบ้าง พูดคุยสารทุกข์สุขดิบกับภรรยาบ้าง กลั่นกรองชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านมาตลอดสัปดาห์โดยเขียนบันทึกบ้าง พูดบ้าง อธิษฐานบ้าง เวลา 11:30 นาฬิกาข้าพเจ้าและภรรยาจึงเข้านอน
ชีวิตของข้าพเจ้าในวันอื่นๆ ก็มักจะทำสิ่งคล้ายๆ กัน ระหว่างสัปดาห์นั้น (ถ้าอากาศไม่หนาวจนเกินไป) มักจะมีโอกาสออกไปวิ่งรอบๆ ชุมชน (สวยงามและรื่นรมย์ไม่แพ้ Central Park เลยทีเดียว) หากจะกล่าวสรุปเกี่ยวกับชีวิตของข้าพเจ้าแล้วนั้น คงจะกล่าวได้ว่า ชีวิตไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ต้องรีบร้อนในการทำสิ่งใด มีเวลาคิดใคร่ครวญในส่ิงต่างๆ มีความสุขกับสิ่งที่มีและสิ่งที่เป็น กล่าวได้ว่าเป็น Slow Life ที่แท้จริงอย่างที่ใครๆ ใฝ่ฝัน จะเสียอยู่อย่างเดียวนี่แหละ คือ ข้าพเจ้ายังไม่เคยได้รางวัล Pulitzer Prize เท่านั้นเอง สงสัยต้องไปหาแรงบันดาลใจที่ Alaska แล้วสินะ"
พล่ามมายืดยาว เอาเป็นว่า วันอาทิตย์ของกระผมก็เป็นเช่นนี้แล
แล้ววันอาทิตย์ของท่าน เป็นอย่างไรกันบ้าง? มาเล่าสู่กันฟังนะครับ