Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
6 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 

...ท่อระบายอารมณ์...

'โง่ไปแล้วเรา บ้าไปแล้วเรา'

 

แม้จะพยายามเตือนตัวเองอยู่อย่างนี้ แต่ก็ไม่สามารถข่มความโกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ได้

 

โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า พระท่านว่าไว้ อืม ก็จริง แต่ก็โกรธน่ะ ทำยังไงได้เล่า

 

 

นี่มันเรื่องอะไรกันหนอ ที่เราต้องมา โง่ๆ บ้าๆ อยู่เป็นนานสองนาน...

 

 

ปัจจุบันผมอาศัยอยู่อาคารพาณิชย์ หรือที่เรียกง่ายๆว่าตึกแถว เป็นตึกแถวสองชั้น ที่อยู่ติดกับห้องอื่นอีกสองห้อง โชคดี ด้วยสองห้องที่ขนาบข้างนั้น เป็นร้านอาหารตามสั่ง ช่วยให้ไม่ต้องไปหาที่กินข้าวไกลๆ แพงๆ คนเยอะๆ ...

 

 

ครับ แต่ในบางครั้ง ความโชคดีก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง...

 

 

ก็ด้วยความไม่ถูกกันของสองร้านนั่นยังไง ซึ่งอันที่จริงก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับผมผู้มาใหม่ และไม่ใช่คนแถวนี้ แต่ใครกันหนอที่บอกไว้ ‘มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนเชื่อมโยงกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง’ และมันก็จริงเป็นที่สุด

 

 

 

นอกจากตัวอาคารที่ต่อเนื่องกันแล้ว ยังมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมเราไว้ด้วยกัน ทำให้เราผูกพันกันยิ่งขึ้น และอะไรบางอย่างนั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่า 'ท่อระบายน้ำ' นั่นเอง เป็นท่อน้ำทิ้งที่อยู่ด้านหลังอาคารทั้งสามซึ่งเชื่อมต่อกัน และทำหน้าที่ระบายน้ำจากห้องแรก (ซึ่งขอเรียกว่า ‘ร้าน ก.(นามสมมติ’)) ผ่านห้องผมและไปไหลออกที่ห้องสุดท้าย (‘ร้าน ข. (นามสมมติ’))

 

 

ครับ ก็เหมือนอากาศนั่นแหละ จะมีใครไปสนใจ ตราบเท่าที่ยังหายใจเป็นปกติ ...

 

 

เช่นเดียวกับผมที่ไม่เคยสนใจท่อน้ำทิ้งหลังบ้านเลย จนกระทั่งหลายเดือนก่อน เมื่อผมเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วปะเข้ากับกลิ่นเหม็นคล้ายอาหารบูดเน่าผสมอาเจียนค้างคืน (อย่างไง อย่างงั้นเลยครับ)

 

เมื่อค่อยๆฟุดฟิดสำรวจที่มาของกลิ่นที่ทำให้ผมซาบซึ้งถึงความสำคัญของอากาศบริสุทธิ์แล้ว ผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่่หน้าประตูห้องน้ำ ที่ปิดสนิท !

 

 

เอาล่ะ ณ จุดนี้ ขอเดินกลับออกไปข้างนอกก่อน แล้วหูบ (ใช่ครับ หูบ) อากาศเข้าไปให้มากที่สุด

 

 

ที่หน้าห้องน้ำอีกครั้ง ผมค่อยๆแง้มประตูช้าๆ (แต่ไม่ถึงกับช้ามากเพราะจะกลั้นหูบไม่ค่อยอยู่ !)

 

 

และด้วยหูบสุดท้ายที่เหลือนั่นเอง ที่ผมได้ประจักษ์ว่ามีบางสิ่งเอ่อขึ้นมาจากช่องระบายน้ำ ลักษณะเป็นก้อนหยึยๆ สีเทาทึมๆ หยักๆ ก่อให้เกิดอาการ อึกๆอักๆ ผลักให้รีบวิ่งออกมาสูดอากาศอีกครั้ง ไม่สิ อีกหลายครั้ง ก่อนจะทำใจเข้าไปดูให้แน่ชัดว่าสิ่งนั้นคืออะไร ...

 

 

ในที่สุดผมก็ตระหนักถึงความบาดหมางระหว่างสองร้าน ผ่านเจ้าก้อนหยึยๆนี่เอง เพราะนี่คือเศษอาหารและคราบไขมันจากร้าน ก.(นามสมมติ) ที่สะสมเป็นสายใยสีเทาทึมส่งมาถึงผม และหยุดอยู่ที่(ห้อง)ผม...คนเดียว...

 

 

เนิ่นนานก่อนที่ผมจะย้ายมาเช่าอยู่ที่นี่นั้น เรื่องท่อระบายน้ำเป็นปัญหาโลกแตกของสองร้านอยู่แล้ว ด้วยเหตุที่ร้าน ก.ได้เทน้ำและเศษอาหารลงท่อ ซึ่งอันที่จริงควรจะไหลผ่านห้องทั้งสามแล้วออกไปทางด้านหลังร้าน ข.  แล้วปัญหาคืออะไรครับ? คือมันไม่ไหลออกไงครับ จะด้วยการออกแบบที่ไม่ดีของท่อหรือด้วยเศษอาหารจำนวนมากก็ไม่อาจทราบได้ ที่ทำให้สายใยหยึยก่อตัวขึ้นที่​ร้าน ข.

 

 

...และคล้ายจะไม่ยอมให้สายใยเทาทึมก่อตัวขึ้นเพียงอย่างเดียว สายใยแห่งความบาดหมางจึงเริ่มขึ้น...

เมื่อร้าน ข. บอกเรื่องนี้ให้ร้าน ก.ฟัง และฝากให้ช่วยกรองเศษต่างๆก่อนที่จะเทน้ำลงท่อ ซึ่งเขาก็รับฟังแต่โดยดี และตอบกลับสั้นๆว่า “มึงอิจฉากู”

 

 

...ครับ จบข่าว...

 

 

และนี่เองที่ทำให้ร้าน ข. ติดตั้งตัวกรองเศษอาหารและคราบไขมันต่างๆไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปสร้างสายใยใดๆภายในร้าน แน่นอนว่า ย่อมเป็นการสร้างความบาดหมางมากขึ้น และทั้งสองร้านต่างดำรงความขัดแย้งนี้ไว้ จนกระทั่งวันนั้น วันที่ผมมาถึง !

 

ด้วยความเหมาะเจาะพอดีของค่าเช่าและทำเล ทำให้ตัดสินใจไม่ยากในการย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ โดยสามารถจัดพื้นที่ด้านล่างไว้สำหรับพนักงาน 3-4 คน ที่จะเข้ามาทำงานเฉพาะช่วงกลางวัน ส่วนผมเองพักอยู่ชั้นบนของอาคาร ซึ่งก็สะดวกในการดูแลงานต่างๆ ถูกต้องตามหลักอาคารพาณิชย์ทั่วๆไป

 

แต่ทว่า... อาจจะไม่ถูกหลักฮวงจุ้ยก็เป็นได้

 

 

หลังจากเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ก็พบว่าห้องข้างๆ(ร้าน ก.) นอกจากเป็น’ร้านอาหารตามสั่ง’แล้ว ในบางคืนยังถือโอกาสเปิดเป็น’ร้านคาราโอเกะตามใจ’ อีกด้วย และอาจเป็นด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ ที่ทำให้ผมรับรู้ได้ถึงความสนุกสนานเฮฮาจากห้องข้างเคียง ผ่านบทเพลงบ้าง เสียงหัวเราะบ้าง และอะไรอื่นๆที่ฟังไม่ได้ศัพท์แต่ต้องรับรู้บ้าง

 

 

(แต่จริงๆนะครับ เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมจะบอกให้ว่า เวรกรรมมีจริง เอ่อ ไม่ใช่ว่าเขาจะได้รับกรรมอะไรหรอกนะ ผมนี่แหละครับ สมัยวัยรุ่นเคยทำคนอื่นเขาไว้เยอะ...สาธุ)

 

 

ครับ เพื่อนบ้านกัน เรื่องเท่านี้จะเป็นไรไป ไม่ได้สังสรรค์กันทุกคืนสักหน่อย ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมา อยู่มาอย่างนี้จนกระทั่งวันนั้น...

 

 

เป็นความผิดของผมเอง ที่ประเมินสายใยเทาทึมไว้ต่ำเกินไป คิดว่าวันสองวันคงค่อยๆระบายคลี่คลายไปเอง จนเมื่อผมสังเกตเห็นพนักงานมีอาการคล้ายเมากาวนั่นแหละ จึงรีบแจ้งให้เจ้าของห้องช่วยเข้ามาเจรจาหาทางออกให้โดยด่วน !

 

แล้วการเจรจาก็เริ่มขึ้น...

 

และจบลงด้วยคำตอบสั้นๆจากร้าน ก....

 

 

ครับ ในที่สุดก็ต้องมีการติดตั้งตัวกรองไว้กับท่อน้ำหลังห้องผมเช่นกัน ก็ช่วยให้ไม่ต้องซาบซึ้งกับคุณค่าของอากาศบริสุทธิ์ให้มากจนเกินไป แม้ว่าทางร้าน ก. จะไม่พอใจ แต่นี่คือทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น จนกว่าจะมีคำตอบที่ยาวและเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้...

 

 

หลังจากบทสรุปในวันนั้น ผมก็ได้อยู่อย่างผาสุกเรื่อยมา จนกระทั่งเช้าวันนี้...

 

 

เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่าง... “แล้วปะเข้ากับกลิ่นเหม็นคล้ายอาหารบูดเน่าผสมอาเจียนค้างคืน (อย่างไง อย่างงั้นเลยครับ)

 

เมื่อค่อยๆฟุดฟิดสำรวจที่มาของกลิ่นที่ทำให้ผมซาบซึ้งถึงความสำคัญของอากาศบริสุทธิ์แล้ว ผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่่หน้าประตูห้องน้ำ ที่ปิดสนิท !” ...

 

 




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2556
2 comments
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2556 18:27:57 น.
Counter : 664 Pageviews.

 

Thank you very much

 

โดย: Kai (nookookai8 ) 6 กุมภาพันธ์ 2556 18:34:34 น.  

 

 

โดย: Singkhon2008 6 กุมภาพันธ์ 2556 20:08:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Singkhon2008
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครกันหนอบอกไว้ 'เมื่ออ่านมากๆเข้า ไม่นาน ตัวหนังสือจะไหลออกมาเอง' ... (มีด้วยเหรอ แบบนี้!)

ครับ เป็นเช่นนั้น ด้วยความที่ชอบอ่านมากถึงมากที่สุด เมื่อนานเข้า อาจเป็นด้วยไม่มีพื้นที่เหลือพอให้เก็บตัวอักษรอีกต่อไป จึงต้องปล่อยให้มันไหลออกมาบ้าง...

เขียนสนุกๆครับ ก็อยากให้อ่านสนุกๆเช่นกัน

ขอบคุณครับ
Friends' blogs
[Add Singkhon2008's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.