กว่าที่จะเริ่มต้นอ่านเนื้อหาที่แท้จริงของหนังสือได้ ผมก็จำต้องไล่สายตา เพื่อฝ่าด่าน คำนิยม ของเหล่าผู้มีชื่อเสียง ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีความสามารถ ผู้มีประสบการณ์ และผู้ฯลฯ นับสิบท่าน โดยค่อยๆผ่านด่านต่างๆมาด้วยความ เร็ว ช้า หนัก เบา แตกต่างกันไปตามแต่แนวคิดของผู้ฯลฯ เหล่านั้น ที่มีต่อสิ่งที่ผมกำลังจะได้สัมผัสด้วยตัวเองเป็นลำดับถัดไป
แน่นอนว่า แม้จะยังไม่ได้รับรู้เนื้อหาของหนังสือนี้แม้แต่น้อย แต่ด้วยจำนวนนับสิบหน้าของคำนิยมโดยเหล่า บิ๊กๆ ทั้งหลายนั้น ย่อมทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการ ตกบันไดพลอยนิยม ไปกับเขาด้วยเช่นกัน
และอย่างคนที่มีอาการพลอยนิยม ผมก็เริ่มก้าวเข้าสู่บทแรกของหนังสือ พฤติกรรมพยากรณ์ หรือ Predictably Irrational (ซึ่งอันที่จริงหากจะแปลกันตามตัวอักษรแล้ว น่าจะเป็น ความไร้เหตุผลที่สามารถคาดการณ์ได้ มากกว่า แต่คิดว่าที่สำนักพิมพ์เลือกใช้คำว่า พฤติกรรมพยากรณ์ เพราะน่าจะทำให้หนังสือมีความ ขลัง มากขึ้นนั่นเอง ออกแนว เทพธิดาพยากรณ์ อะไรเทือกนั้น)
สืบเนื่องมาจากความเจ็บปวด ใช่ครับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างนั้น ด้วยความสงสัยอันเกิดมาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนนาม Dan Ariely ว่า ถ้าหากคนเราสามารถที่จะเลือก แบบ ของความรู้สึกเจ็บปวดที่ตนเองกำลังจะได้รับได้นั้น เราจะเลือกแบบไหน ระหว่างความเจ็บปวดแบบ หักดิบ คืออย่างรุนแรงและรวดเร็ว หรือแบบ เจ็บนี้อีกนาน คือเจ็บปวดไม่รุนแรงนักแต่ต้องทนอยู่กับมันเป็นเวลานาน... นั่นน่ะสิครับ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกแบบไหน?
(หากยังนึกไม่ออก ก็ขอให้ลองจินตนาการว่า มีใครคนหนึ่งแอบนำเทปกาวชนิดเหนียวพิเศษ ขนาดใหญ่เป็นพิเศษแปะและรีดเรียบสนิทไปกับหน้าแข้งหรือแขนที่อุดมไปด้วยเส้นขนของคุณ แล้วเอ่ยถามคุณว่า จะให้กระชากออกอย่างรวดเร็ว หรือ ค่อยๆดึงออกช้าๆ ดีเอ่ย? นั่นแหละครับ แล้วคุณจะเลือกแบบไหน?)
เพื่อคลายความสงสัยดังกล่าว เขาจึงเริ่มทำการทดลอง เก็บข้อมูล วิเคราะห์ จนสามารถที่จะสรุปผลออกมา และทำให้เขาได้คำตอบที่ต้องการว่า หากเลือกได้ ผู้คนส่วนใหญ่จะเลือกความเจ็บปวดแบบไหนกัน
แม้ว่าจะได้คำตอบที่ต้องการแล้ว แต่อาจเป็นด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัย และด้วยความเป็นนักค้นคว้าหาความจริงของผู้เขียน ทำให้เขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงเรื่องรูปแบบของความเจ็บปวดเท่านั้น หากยังตั้งคำถามไปถึงพฤติกรรมอื่นๆอีกหลากหลายของมนุษย์ โดยเฉพาะพฤติกรรมหลายๆอย่างที่ดูเหมือน ไร้เหตุผล ของคนเรา...
ทำไมเราจึงเลือกสินค้าเพราะโปรโมชั่นซื้อ1แถม1 ทั้งที่เราไม่ได้ต้องการของสิ่งนั้นจริงๆ ?
ทำไมเรามีความรู้สึกดีกับสินค้าบางอย่างที่มีราคาแพงทั้งๆที่มันก็เหมือนกันแบบเป๊ะๆกับของราคาถูกนั่นแหละ?
หากเลือกได้ เราอยากจับปลามือเดียว หรือสองมือ? (หรือจะขอใช้ teen ช่วยด้วย?)
เรามักจะก่นด่านักการเมืองว่า ขี้โกง แต่หากเราอยู่ในสถานการณ์ที่ อนุญาต ให้โกงได้ เราจะขอแอบซดน้ำแกงปลาไหลชามโตนั้นด้วยหรือเปล่า?
...ฯลฯ
น่าสะอึกนะครับ กับเรื่องราวของหลายๆพฤติกรรม ที่ชวนให้ย้อนมองกลับมาที่ตัวเอง ว่าที่นั่งอ่านอยู่นี่ก็ ไร้เหตุผลตัวพ่อ กับเขาอยู่เหมือนกัน
อาจเป็นด้วยกลวิธีการสื่อสารของผู้เขียนซึ่งแฝงไปด้วยความสนุกสนาน หรืออาจเป็นด้วยเรื่องราวที่ชวนให้สะอึก สะกิด และสะท้อนในหลายๆสิ่งอย่าง ทำให้ผมชื่นชอบหนังสือเล่มนี้เป็นพิเศษ นี่ก็ติดขัดอยู่เพียงว่าผมเป็นเพียงบุรุษเจื่อนๆคนหนึ่งเท่านั้น หาได้เป็นบิ๊กๆในทางใดทางหนึ่งไม่ มิฉะนั้นแล้วผมจะขอเขียนคำนิยมกับเขาด้วยคน
...อืม แม้อันที่จริงคำนิยมจะเป็นเพียงหีบห่อและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคุณค่าที่แท้จริงของหนังสือเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก็คงเป็นดังที่คุณ Dan Ariely เล่าให้ฟังว่า หีบห่อจะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ดูดีกว่าที่เป็นจริงได้อย่างไร
และแม้ว่าหีบห่ออันหนาเตอะเทอะทะ อาจส่งผลให้ผู้อ่านต้องมา ตกบันไดพลอยนิยม ไปด้วยก็ตาม แต่จริงๆนะ ถ้าผมเป็นบิ๊กกับเขาเสียหน่อย ผมก็คงจะขอแปะเพิ่มความหนาของหีบห่อให้อยู่ดี...
...ผมว่า บางครั้งคนเราก็ต้องไร้เหตุผลกันบ้าง จริงไหมครับ?
ปล.หนังสือ พฤติกรรม พยากรณ์ (Predictably Irrational) โดย Dan Ariely ภาคต่อเนื่อง... ด้วยกลัวว่าวิธีการเขียนแบบเอาสนุกไว้ก่อนของผมนั้น อาจก่อให้เกิดผลเสียอย่างหนึ่งอย่างใดต่อหนังสือเล่มนี้ดังนั้น ก่อนอื่น ผมคงต้องขอกล่าวถึงหนังสืออย่างจริงจังสักเล็กน้อย(ถ้าจริงจังมาก ...จะเหนื่อย!) |