Bloggang.com : JasonSจัง!!! : Movie Talk..... ตอน Riddick พี่เหม่งล่ำบึ๊กปะทะเอเลี่ยนพันธ์อสูร

Movie Talk..... ตอน Riddick พี่เหม่งล่ำบึ๊กปะทะเอเลี่ยนพันธ์อสูร

ไม่แน่ใจว่าเทรนด์ของพระเอกหนังแอ็กชั่นฮอลลีวูดสมัยนี้ จะต้องโกนหัวจนล้านเลี่ยนเตียนโล่งรึปล่าว ถึงจะออกลุยกับเหล่าร้ายได้ ไล่มาตั้งแต่รุ่นน้าอย่าง บรูซ วิลลิส ที่อึดตายยากไม่เลิกรา ตามมาด้วยกล้ามใหญ่บิ๊กบึ้มอย่าง The Rock และพี่เหม่งรุ่นน้องอย่าง เจสัน สเตแธม ซึ่งมีงานหนังชุกอย่างต่อเนื่อง และที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่วิน เบนซิน เอ๊ย ดีเซล ที่ได้ดิบได้ดีจากหนังชุด Fast & Furious ซึ่งได้ข่าวว่าจะมีสร้างอย่างน้อยถึงภาค 9 (พระเจ้าช่วย) แต่ช้าก่อน หนังเรื่องแรกที่ทำให้พระเอกโล้นล่ำบึ๊กคนนี้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกลับเป็นหนังแอ็กชั่น ไซไฟ เกรดบี อย่าง Pitch Black (2543) หรือชื่อไทย “ฝูงค้างคาวฉลาม สยองจักรวาล” ต่างหาก

ใครที่จำเนื้อเรื่องของหนังภาคแรกไม่ได้ ผมสรุปให้สั้นๆว่า พระเอกของเรารับบทเป็น อาชญากรโหดนามว่า ริดดิค (Vin Diesel) และถูกจับกุมตัวอยู่บนยานอวกาศลำหนึ่ง และยานเกิดสูญเสียการควบคุม จนต้องร่อนลงฉุกเฉิน ณ ดาวดวงหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก พวกพระเอกของเราจึงต้องเผชิญหน้ากับฝูงค้างคาวฉลามต่าวดาวที่แสนร้ายกาจ บนดาวลึกลับในสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าปลอดภัยเอาเสียเลย อ่านเนื้อเรื่องแล้วหลายคนคงบอกว่า นั่นมันหนังแนวเอเลี่ยนชัดๆ ใช่แล้วครับเนื้อเรื่องหนังแนวนี้ก็ไม่ได้ฉีกหนีไปจากเดิมสักเท่าไร ซึ่งหนังทุนสร้างเพียง 23 ล้านเหรียญเรื่องนี้กลับถูกใจบรรดาคอหนังเกรดบี จนทำรายได้ในอเมริกาไปถึง 39 ล้านเหรียญ นั่นก็เพียงพอให้มีภาค 2 ตามออกมาในอีก 4 ปีให้หลังในชื่อ The Chronicles of Riddick (ชือไทย ริดดิค) ก่อนที่รายได้ของภาค 2 จะแป๊กสนิท จน project ภาค 3 ไม่มีทีท่าว่าจะเกิด แต่ในที่สุดเพราะบารมีของพี่บึ๊กดีเซล นี่แหละที่ทำให้หนังภาคที่ 3 เกิดขึ้นมาจนได้

5. Riddic Rule The Dark- "ริดดิค 3"
( 6 กันยายน 2556/SFX Central พระราม 9 โรง 4)

เนื้อหาของภาคนี้ พระเอกริดดิคของเรา ถูกทิ้งให้เผชิญชะตากรรมอยู่บนดาวมฤตยู ซึ่งพระเอกของเราก็ได้พบเพื่อนใหม่เป็นสุนัขต่างดาวคู่ใจที่คอยปกป้องพระเอกจากผู้คุกคามและสัตว์ร้าย ในขณะที่เหล่านักล่าค่าหัวได้เดินทางมาที่ดาวดวงนี้เพื่อออกตามล่าริดดิคเช่นกัน ซึ่งนอกจากริดดิคต้องพยายามหลบหนีการตามล่าของนักล่าค่าหัวแล้ว เขายังต้องผจญกับอสุรกายลูกครึ่งที่มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์แรปเตอร์+แมงป่อง ที่มีหางเป็นอาวุธอีกด้วย

ยอมรับครับว่าวันที่ผมเข้าไปชมหนังเรื่องนี้ ผมรู้สึกง่วงมากๆ แล้วก็เพิ่งทานข้าวเย็นไปอิ่มๆด้วย ดังนั้นพอหนังดำเนินเรื่องช่วงแรกไปได้ไม่เท่าไร ผมก็เข้าสู่นิทราโดยไม่รู้ตัว สะดุ้งอีกทีพระเอกของเราก็ถูกทิ้งให้อยู่บนดาวร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บท Vaako ที่แสดงโดย Karl Urban ที่โผล่มาตอนต้นเรื่องจึงผ่านสายตาผมไปอย่างช่วยไม่ได้ เนื้อหาของหนังอาจจะต่อเนื่องจากภาคสองก็จริง แต่ธีมของหนังนั้นกลับไปสู่รากเหง้าของภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด มีอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งเป็นฉากที่ริดดิคบุกมาที่ค่ายพักของเหล่านักล่าค่าหัว เพื่อจะมาขโมยแบ็ตเตอรี่ไป โดยใช้จิตวิทยากดดันหลอกล่อศัตรู รวมถึงคนดูหนังได้อย่างอยู่หมัด เพียงแค่คำไม่กี่คำที่แปะอยู่บนตู้เซฟ ก็ทำให้โทนหนังออกมาแนวเขย่าขวัญคนดูได้ชะงักนัก ซึ่งผมถือว่าฉากนี้เป็นฉากที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้เลยทีเดียวครับ

สำหรับคำสบถคำหยาบต่างๆไม่ว่าฟักแฟงแตงกวา หนังเรื่องนี้มีจัดให้ครบครับ แล้วก็มีเยอะหลายคำมากๆ ฉากสยดสยองประเภทฟันหัวขาดกระเด็น ก็มีให้เห็นโดยไม่ต้องเซ็นเซ่อร์ เรียกว่าจัดเต็มกันทั้งเรื่อง ซึ่งเรท R ที่หนังได้รับการันตีความโหด มันส์ ฮาได้เป็นอย่างดี ตัวร้ายของเรื่อง ซานทาน่า ที่รับบทโดย จอร์ดี้ โมลล่า ก็แสดงได้แบบตีบทแตกจริงๆ เรียกว่าเป็นตัวขโมยซีนของตัวละครอื่นๆได้หมดครับ ถ้าไม่มีพี่เขาหนังคงขาดรสชาดไปเยอะทีเดียว ผมเชื่อเหลือเกินว่า คงมีหลายคนคิดเหมือนผมเช่นกัน ส่วนอสูรกายจอมโหดในหนังเรื่องนี้อาจไม่สะใจคอหนังเอเลี่ยนเพราะมีแค่สายพันธ์เดียว (ไม่รวมสุนัขต่างดาวนะ) แต่ก็มีหลายร้อยตัวเรียกว่าทำให้พระเอกของเราเกือบเอาตัวไม่รอดเลยก็แล้วกัน ใครที่ชอบหนังแนวนี้ผมว่า ลองเข้ามาชมไม่ผิดหวังแน่นอนโดยเฉพาะแฟนๆหนังของวิน ดีเซล ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สำหรับ รายได้เปิดตัว Riddick ใน Box Office บ้านเรา หนังทำรายได้ขึ้นอันดับที่ 1 อย่างที่คาดการณ์ไว้ 29.24 ล้านบาท (รายได้เปิดตัววันแรก 6.58 ล้านบาท – ข้อมูลจาก Facebook Bioscope) มากกว่ารายรับเปิดตัวของ The Chronicles of Riddic ที่ทำไว้ 12.6 ล้านบาท เมื่อปี 2547 ส่วนแชมป์เก่า Olympus Has Fallen หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 2 ด้วยรายรับ 10.19 ล้านบาท และรายได้รวมผ่านหลัก 45 ล้านบาทไปแล้ว ส่วนใครที่แอบเชียร์หนังผี The Conjuring หนังได้เสียงร่ำลือปากต่อปาก ทำให้ตอนนี้ยังคงอยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยรายได้16 ล้านบาทแล้วครับ

ที่มาข้อมูลรายได้หนัง นิตยสารเอนเตอร์เทน