พิธีหมั้น และสวมแหวนบ่าวสาว
หนึ่งในพิธีแต่งงานไทยที่สำคัญ เถ้าแก่ฝ่ายชายจะนำสินสอดทองหมั้นตามที่ตกลงกัน และเปิดกรวยพานสินสอดให้ผู้ใหญ่เจ้าสาวนับ หลังจากนับเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันโปรยถั่ว งา ข้าวเปลือก ข้าวตอก ดอกไม้ เพื่อเป็นเคล็ดว่าคู่บ่าวสาวอยู่อย่างมีความสุข มีเงินงอกเงย จากนั้นแม่เจ้าสาวจะห่อสินสอดด้วยผ้า แล้วแบกไว้บนบ่าตามประเพณี ก่อนที่บ่าวสาวจะสวมแหวนตามฤกษ์ที่ได้จัดเตรียมไว้
พิธีรับไหว้ และพิธียกน้ำชา
ในพิธีแต่งงานแบบไทย พิธีรับไหว้เป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณญาติผู้ใหญ่ โดยบ่าวสาวจะนำพานดอกไม้ธูปเทียนและของรับไหว้ต่อญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ในพิธีจีน จะมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันที่เรียกว่า "ขั่งเต๊" โดยจะเปลี่ยนเป็นการยกน้ำชาแทน หลังจากบ่าวสาวไหว้เรียบร้อยแล้ว ญาติผู้ใหญ่จะมอบซองเงินให้บ่าวสาวเพื่อเป็นเงินก้นถุงต่อไป
พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ (รดน้ำสังข์)
พิธีสำคัญที่ขาดไม่ได้ในงานแต่งงานแบบไทย คือ พิธีรดน้ำสังข์ โดยจะนำน้ำที่ผ่านการเจริญพระพุทธมนต์ในพิธีสงฆ์ช่วงเช้า มาใส่ในหอยสังข์ซึ่งในศาสนาพราหมณ์เชื่อกันว่าเป็นสิ่งมงคล เพื่อนำมาให้ญาติและแขกร่วมงานใช้รดน้ำมนต์พร้อมอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความสุขและครองคู่กันอย่างยาวนาน
Let's Celebrate!
ตามธรรมเนียมงานแต่ง เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ ก็ต้องมีการจัดงานเลี้ยงรับรองแขก รวมถึงถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกับญาติสนิท มิตรสหาย ที่มาร่วมแสดงความยินดี แต่ด้วยความที่บ่าวสาวก็บ้าถ่ายรูปกันทั้งคู่ พอเห็นกล้องหน่อยก็สู้ไม่ถอย ดังนั้น อย่าแปลกใจ หากวันนั้นมาถึงงานแล้ว จะหาบ่าวสาวไม่เจอ ก็มัวแต่ต่อนยอน ถ่ายภาพกันอยู่นั่นเอง ขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเรา ขาดตกบกพร่องประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
พิธีการบนเวที
สิ้นเสียงเพลง presentation ประตูห้องจัดเลี้ยงก็ได้แง้มออกเราจับมือคล้องแขนและเริ่มก้าวเดินไปด้วยกันเสมือนกับการเริ่มต้นเดินทางของชีวิตคู่ ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดี
พิธีบนเวที อาจจะดูธรรมดา เนื่องจากเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง จะร้องเพลงโชว์ก็กลัวแขกจะแตกตื่น เลยเลือกที่จะจัดงานอย่างเรียบง่าย แต่ยังคงแฝงด้วยพิธีการอย่างครบถ้วน ทั้งคล้องมาลัย โยนช่อดอกไม้ และพิธีสำคัญ คือการจุดเทียนมงคลสมรส ซึ่งสื่อถึงการรวมกันเป็นหนึ่งของคนสองคน และการตกลงที่จะอยู่รวมกันไปตลอดทั้งชีวิต



พิธีส่งตัวเข้าหอ
พิธีส่งตัวเข้าหอ หรือพิธีร่วมเรียงเคียงหมอน ถือเป็นส่วนท้ายสุดของพิธีแต่งงาน การส่งตัวเข้าหอสมัยโบราณ จะให้คู่สามี-ภรรยา ที่เคารพนับถือ และอยู่กันอย่างยาวนาน มาทำพิธีปูเตียงให้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตของคู่บ่าวสาว จากนั้นคู่สามี-ภรรยาที่ปูเตียงจะนำพานส่งตัวประกอบด้วยของที่มีความหมาย พร้อมทั้งกล่าวคำอวยพร
"แต่งงานแล้ว ให้อยู่เย็นเหมือนฟัก ใจหนักเหมือนหินศิลา ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ร่ำรวยเงินทอง อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนให้เหมือนแมวคราวนอนหวด"
เมื่อเสร็จพิธีส่งตัว คู่บ่าวสาวกราบพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย และรับพรจากท่าน เป็นอันเสร็จพิธีแต่งงานโดยสมบูรณ์
ชีวิตคู่อาจไม่ใช่เพียงแค่พิธีวิวาห์ที่สวยงาม หากแต่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทาง การแต่งงานเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทางร่วมกันของคนสองคนที่จะเลือกใช้ชีวิตในเส้นทางเดียวกัน เรายังต้องฝ่าฟันบททดสอบอีกมากมายที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด แต่การมี "คนที่ใช่" ที่พร้อมจะเดินเคียงข้างกัน ไม่ว่าจะผ่านช่่วงเวลาสุขหรือทุกข์ ก็เป็นบททดสอบที่เราพร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยกันต่อไป และนี่คือปฐมบทแห่งการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเราครับ