Hotline News Today
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2568
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 พฤษภาคม 2568
 
All Blogs
 

ปฐมบทแห่งการเริ่มต้นชีวิตคู่

เมื่อชีวิตพลิกผันทำให้ไม่ได้เขียน blog มานานหลายปี จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เข้ามาเขียน blog นี้ หลังจากพาคุณแม่ไปเที่ยวเกาหลี และไม่คิดว่าจะเป็นทริปสุดท้ายที่ได้มีโอกาสพาท่านเที่ยว คุณแม่จากไปหลังจากนั้นไม่นาน นับแต่นั้นก็ไม่มีแรงบันดาลใจกลับมาเขียนอีกเลย วันนั้นโลกทั้งใบเหมือนพังทลาย ถามตัวเองในใจว่าเราจะอยู่คนเดียวได้ไหม แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งกลับเข้ามาในชีวิต เข้ามาปลอบประโลมจิตใจ ไม่ปล่อยให้เราเหงา เป็นกำลังใจให้เราก้าวออกเผชิญสู่โลกได้อีกครั้ง เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง และดูเหมือนว่าครั้งนี้ เรายิ่งเข้าใจอะไรกันมากขึ้น จากที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแต่งงาน จนในที่สุดเราก็ตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไม่ลังเล

อันที่จริง เราแต่งงานกันมากว่า 3 ปีแล้ว ถือได้ว่าเป็นบ่าวสาวยุคโควิคเลยก็ว่าได้ วันนี้อยากจะกลับมาเขียน blog ไว้เป็นบันทึกความทรงจำของเราทั้งคู่ เราเลือกที่จะจัดงานแต่งงานเรียบง่ายแบบพิธีไทย ด้วยบรรยากาศแบบอบอุ่นพร้อมญาติสนิทมิตรสหาย ทุกครั้งที่หวนคิดถึงงานแต่งในวันนั้น ก็มีความสุขทุกครั้ง แม้จะมีอะไรต้องทำเยอะแยะมากมาย เพราะเนื่องจากเป็นช่วงโควิค มีอุปสรรคและข้อจำกัดมากมายที่ต้องเผชิญ แต่เราก็สนุกและไม่เคยเหนื่อยกับการจัดงานเลย ในทางกลับกัน ยิ่งทำให้เรามีความสุขในการทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันมากขึ้น และนี่คือเรื่องราวที่อยากจะย้อนเล่าให้ฟังในวันแต่งงานของเราครับ 

 
พิธีสงฆ์
ตามธรรมเนียมพิธีแต่งงานไทยดั้งเดิม จะมีพิธีสงฆ์และตักบาตรร่วมกัน เพื่อเป็นการสร้างความสิริมงคล บ่าวสาวจะจุดธูปเทียนบูชาพระ รวมถึงการถวายขันและเทียนเพื่อให้พระทำน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อจะนำมาทำน้ำสังข์สำหรับหลั่งน้ำในพิธีรดน้ำต่อไป






 
แห่ขันหมาก
ขนบธรรมเนียมที่สืบทอดแต่โบราณ เพื่อให้คนทั่วไปรับทราบว่าบ่าวสาวกำลังแต่งงาน อีกทั้งเป็นการให้เกียรติและแสดงความเคารพต่อพ่อแม่เจ้าสาวอย่างถูกต้องประเพณี

 
 





 
พิธีหมั้น และสวมแหวนบ่าวสาว
หนึ่งในพิธีแต่งงานไทยที่สำคัญ เถ้าแก่ฝ่ายชายจะนำสินสอดทองหมั้นตามที่ตกลงกัน และเปิดกรวยพานสินสอดให้ผู้ใหญ่เจ้าสาวนับ หลังจากนับเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันโปรยถั่ว งา ข้าวเปลือก ข้าวตอก ดอกไม้ เพื่อเป็นเคล็ดว่าคู่บ่าวสาวอยู่อย่างมีความสุข มีเงินงอกเงย จากนั้นแม่เจ้าสาวจะห่อสินสอดด้วยผ้า แล้วแบกไว้บนบ่าตามประเพณี ก่อนที่บ่าวสาวจะสวมแหวนตามฤกษ์ที่ได้จัดเตรียมไว้





 
พิธีรับไหว้ และพิธียกน้ำชา
ในพิธีแต่งงานแบบไทย พิธีรับไหว้เป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณญาติผู้ใหญ่ โดยบ่าวสาวจะนำพานดอกไม้ธูปเทียนและของรับไหว้ต่อญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ในพิธีจีน จะมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันที่เรียกว่า "ขั่งเต๊" โดยจะเปลี่ยนเป็นการยกน้ำชาแทน หลังจากบ่าวสาวไหว้เรียบร้อยแล้ว ญาติผู้ใหญ่จะมอบซองเงินให้บ่าวสาวเพื่อเป็นเงินก้นถุงต่อไป




 
พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ (รดน้ำสังข์)
พิธีสำคัญที่ขาดไม่ได้ในงานแต่งงานแบบไทย คือ พิธีรดน้ำสังข์ โดยจะนำน้ำที่ผ่านการเจริญพระพุทธมนต์ในพิธีสงฆ์ช่วงเช้า มาใส่ในหอยสังข์ซึ่งในศาสนาพราหมณ์เชื่อกันว่าเป็นสิ่งมงคล เพื่อนำมาให้ญาติและแขกร่วมงานใช้รดน้ำมนต์พร้อมอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความสุขและครองคู่กันอย่างยาวนาน




 
Let's Celebrate!
ตามธรรมเนียมงานแต่ง เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ ก็ต้องมีการจัดงานเลี้ยงรับรองแขก รวมถึงถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกับญาติสนิท มิตรสหาย ที่มาร่วมแสดงความยินดี แต่ด้วยความที่บ่าวสาวก็บ้าถ่ายรูปกันทั้งคู่ พอเห็นกล้องหน่อยก็สู้ไม่ถอย ดังนั้น อย่าแปลกใจ หากวันนั้นมาถึงงานแล้ว จะหาบ่าวสาวไม่เจอ ก็มัวแต่ต่อนยอน ถ่ายภาพกันอยู่นั่นเอง ขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเรา ขาดตกบกพร่องประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ






 
พิธีการบนเวที
สิ้นเสียงเพลง presentation ประตูห้องจัดเลี้ยงก็ได้แง้มออกเราจับมือคล้องแขนและเริ่มก้าวเดินไปด้วยกันเสมือนกับการเริ่มต้นเดินทางของชีวิตคู่ ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดี
พิธีบนเวที อาจจะดูธรรมดา เนื่องจากเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง จะร้องเพลงโชว์ก็กลัวแขกจะแตกตื่น เลยเลือกที่จะจัดงานอย่างเรียบง่าย แต่ยังคงแฝงด้วยพิธีการอย่างครบถ้วน ทั้งคล้องมาลัย โยนช่อดอกไม้ และพิธีสำคัญ คือการจุดเทียนมงคลสมรส ซึ่งสื่อถึงการรวมกันเป็นหนึ่งของคนสองคน และการตกลงที่จะอยู่รวมกันไปตลอดทั้งชีวิต




   
 
 
พิธีส่งตัวเข้าหอ
พิธีส่งตัวเข้าหอ หรือพิธีร่วมเรียงเคียงหมอน ถือเป็นส่วนท้ายสุดของพิธีแต่งงาน การส่งตัวเข้าหอสมัยโบราณ จะให้คู่สามี-ภรรยา ที่เคารพนับถือ และอยู่กันอย่างยาวนาน มาทำพิธีปูเตียงให้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตของคู่บ่าวสาว จากนั้นคู่สามี-ภรรยาที่ปูเตียงจะนำพานส่งตัวประกอบด้วยของที่มีความหมาย พร้อมทั้งกล่าวคำอวยพร
"แต่งงานแล้ว ให้อยู่เย็นเหมือนฟัก ใจหนักเหมือนหินศิลา ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ร่ำรวยเงินทอง อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนให้เหมือนแมวคราวนอนหวด"
เมื่อเสร็จพิธีส่งตัว คู่บ่าวสาวกราบพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย และรับพรจากท่าน เป็นอันเสร็จพิธีแต่งงานโดยสมบูรณ์






ชีวิตคู่อาจไม่ใช่เพียงแค่พิธีวิวาห์ที่สวยงาม หากแต่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทาง การแต่งงานเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทางร่วมกันของคนสองคนที่จะเลือกใช้ชีวิตในเส้นทางเดียวกัน เรายังต้องฝ่าฟันบททดสอบอีกมากมายที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด แต่การมี "คนที่ใช่" ที่พร้อมจะเดินเคียงข้างกัน ไม่ว่าจะผ่านช่่วงเวลาสุขหรือทุกข์ ก็เป็นบททดสอบที่เราพร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยกันต่อไป และนี่คือปฐมบทแห่งการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเราครับ
 




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2568
1 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2568 17:15:13 น.
Counter : 676 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว

 

น่ารักมากค่ะ ขอให้มีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขมากๆตลอดไป

 

โดย: ชอบมากๆค่ะ IP: 184.22.103.11 22 พฤษภาคม 2568 22:01:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Crackerjack
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Google
Friends' blogs
[Add Crackerjack's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.