Bloggang.com : JasonSจัง!!! : สรุปรายได้ภาพยนตร์ในไตรมาสแรก ปี 2548 "หลวงพี่เท่ง" 138 ล้านบาท ครองแชมป์ไตรมาสแรก

สรุปรายได้ภาพยนตร์ในไตรมาสแรก ปี 2548 "หลวงพี่เท่ง" 138 ล้านบาท ครองแชมป์ไตรมาสแรก

จากนิตยสาร Flicks ปีที่2 ฉบับที่ 81 วันที่ 15 - 21 เมษายน 2548

(รายได้ตั้งแต่ 1 มกราคม – 3 เมษายน 2548)

1) หลวงพี่เท่ง(The Holy Man) (พระนครฟิล์ม) รายได้รวม 138.0* ล้านบาท
2) Kung Fu Hustle (Columbia) รายได้รวม 77.0 ล้านบาท
3) Constantine(Warner) รายได้รวม 69.9 ล้านบาท
4) National Treasure (Buana Vista) รายได้รวม 61.1 ล้านบาท
5) บุปผาราตรี เฟส 2 (Rahtree Return) (สหมงคลฟิล์ม) รายได้รวม 56.8* ล้านบาท
6) จอมขมังเวทย์ (Necromancer) (อาร์เอสฟิล์ม) รายได้รวม 39.7* ล้านบาท
7) Elektra (FOX) รายได้รวม 35.2 ล้านบาท
8) เอ๋อเหรอ (สหมงคลฟิล์ม) รายได้รวม 30.7 ล้านบาท
9) จี้ (Andaman Girl) (แมทชิ่ง) รายได้รวม 26.9 ล้านบาท
10) Meet the Fockers (UIP) รายได้รวม 17.9 ล้านบาท
11) คนเห็นผี 10 (The Eye 10) รายได้รวม 16.3* ล้านบาท

ที่มา: จากเครือโรงภาพยนตร์ และผู้สร้างผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์

หมายเหตุ: * หมายถึง รายได้ที่ยังไม่สิ้นสุดโปรแกรมการฉาย

บทวิเคราะห์ภาพรวม Box office ไตรมาสแรก

จากการวิเคราะห์ตัวเลขรายได้รวมของภาพยนตร์ในไตรมาสแรก พบว่า ใน 10 อันดับแรกมีภาพยนตร์ไทย ติดอันดับอยู่ 5 เรื่อง , ภาพยนตร์ฝรั่ง 4 เรื่อง และภาพยนตร์จีนอีก 1 เรื่อง สำหรับตัวเลขรายได้รวม 10 อันดับแรกทำเงินรวมกันทั้งสิ้น 553.2 ล้านบาท มากกว่ารายรับรวม 394.8 ล้านบาทของ Top 10 ของปี 2547 อยู่ 29%

ว่ากันถึงหนังไทยก่อน ปีนี้หนังไทยทำรายรับรวมประมาณ 292.1 ล้านบาท โดยภาพยนตร์แนว ตลกขบขัน สนุกสนาน ที่ใช้ดาราตลกเป็นตัวชูโรง ยังคงได้รับความนิยมในหมู่คนดู อย่างเหนียวแน่น เช่นเดียวกับปีที่แล้ว(หม่ำ จ๊กม๊ก - บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม) ซึ่งปีนี้ เท่ง เถิดเทิง ทำให้ “หลวงพี่เท่ง” โกยรายได้มากเป็นประวัติการณ์เกือบ 140 ล้านบาทไปแล้ว ครองแชมป์อันดับหนึ่งประจำไตรมาสแรกไปแบบขาดลอยและถล่มทลาย ในขณะที่หนังแนวตลกปนสยองขวัญ อีกเรื่องก็ทำรายรับไปร่วมๆ 60 ล้านบาท เข้าเป้าไปเรียบร้อยโรงเรียนบุปผาราตรีเช่นกัน ในขณะที่หนังไทยอีก 3 เรื่อง “จอมขมังเวทย์ – เอ๋อเหรอ – จี้” ซึ่งเป็นหนังแนวแอ๊กชั่นและตลก ทำรายรับเฉลี่ยอยู่ในระดับ 27 – 40 ล้านบาท เป็นที่น่าสังเกตว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ ไม่มีหนังไทยแนวดรามา เข้ามาทำรายได้ติดอันดับเลยแม้แต่เรื่องเดียว ไม่เหมือนปีที่แล้วที่มีทั้ง “โหมโรง” และ “ไอ้ฟัก” คงต้องมาติดตามว่า รายได้ของหนังไทยในไตรมาสที่สอง จะยังคงเดินหน้าเก็บเงินไปได้แค่ไหน กับหนังที่รอคิวฉายอย่าง เดอะเมีย, นานาช่า, ก็เคยสัญญา, เจ็ดประจัญบาน 2, มหา’ลัย เหมืองแร่

คราวนี้ก็พูดกันถึงหนังฝรั่งบ้าง ช่วงไตรมาสแรกมีหนังฝรั่งที่น่าสนใจเพียงไม่กี่เรื่อง เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีหนังเรียกสตางค์คนดูเท่าไหร่นัก โดยหนังฝรั่งทำรายได้รวมประมาณ 184.1 ล้านบาท และหนังที่ขายสตาร์อย่าง คีอานู รีฟส์ เรื่อง "Constantine" เป็นแชมป์หนังฝรั่งทำเงินประจำไตรมาสแรกนี้ โดยทำรายได้ไปเฉียดๆ 70 ล้าน มากกว่าแชมป์หนังฝรั่งปีที่แล้ว The Last Samurai (58.8 ล้านบาท) โดยที่เหลืออีกสามเรื่อง ก็เป็นหนังแอ๊กชั่น ผจญภัยอย่าง National Treasure กับฮีโร่หญิง Elektra ที่ทำรายรับไป 59.5 และ 31.3 ล้านบาทตามลำดับ ที่เหลือเป็นหนังคอมิดี้ที่ทำเงินถล่มทลายในอเมริกา แต่ก็มาแป๊กที่บ้านเรา Meet the Fockers เก็บรายรับไปร่วมๆ 18 ล้านบาท ก็คงต้องมาติดตามสถานการณ์ของหนังฝรั่งในไตรมาสที่ 2 นี้ เพราะจะเริ่มมีกองทัพหนังฟอร์มยักษ์ประจำ Summer ของฮอลลีวู้ดออกมากวาดรายได้ ไม่ว่าจะเป็น Star Wars Episode III ของจอร์จ ลูคัส, War of the World ของสปีลเบิร์ก ซึ่งทั้งสองเรื่องจัดได้ว่าเป็นหนังเต็ง 100 ล้านของปีนี้เลยทีเดียว

และหลังจากที่รายได้หนังจีนในไทยเงียบหายไปนาน หนังจีนเพียงหนึ่งเดียว “คนเล็ก หมัดเทวดา”ก็ปลุกชีพรายได้หนังจีนในเมืองไทยที่ซบเซาไปนาน ให้กลับมาคึกคัก (ชั่วคราว) ด้วยตัวเลข 77.0 ล้านบาท ครองแชมป์หนังจีนทำเงินสูงสุดตลอดกาลในไทยไปเลย เอาชนะอดีตแชมป์เมื่อหลายปีก่อน “Who am I” ของเฉินหลง (46.5 ล้านบาท) ไปขาดลอย สำหรับหนังจีนในไตรมาสที่สอง ยังมองไม่เห็นจริงๆ ว่าจะมีหนังเรื่องไหนทำรายได้ใกล้เคียง Kung Fu Hustle อีก คงต้องรอหนังโจวซิงฉือ หรือ หนังเฉินหลง เรื่องใหม่ในปีหน้าล่ะครับ

สรุปรายได้หนังในไตรมาสแรก หนังไทยมาแรงแซงเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยหนังฝรั่งและหนังจีน และเมื่อดูหน้าหนังที่จะออกฉายในไตรมาสที่ 2 หนังฝรั่งมีสิทธิ์ทำรายได้แซงหน้าหนังไทยกลับมาคว้าแชมป์แน่นอน เพราะมีกองทัพหนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวฉายแบบต่อเนื่อง คงต้องลุ้นรายได้ของหนังไทยว่าเรื่องใดจะเข้าวิน เรื่องใดจะเจ็บตัว เรื่องใดจะสร้างเซอร์ไพรส์ แบบที่ หลวงพี่เท่ง ทำไว้ อีกสามเดือนมาพบกันครับ

Create Date : 18 เมษายน 2548

Last Update : 18 เมษายน 2548 22:03:06 น.

8 comments

Counter : 1236 Pageviews.

น่าเสียใจ เอ้ย! น่าดีใจกับเจ้าของหนังที่โกยเงินเป็นกอบเป็นกำด้วยนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าหนังพันธุ์นี้จะได้เงินเกือบจะ 150 ล้านเข้าไปแล้ว เฮ้อ............

โดย: das Kino

วันที่: 18 เมษายน 2548 เวลา:21:48:50 น.