รับปากกันไว้ ว่าจะนำเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้(หรือบางคนอาจรู้แล้วก็ได้) ของหนัง Star Wars มาเล่าสู่กันฟัง เอาเป็นว่าอ่านไว้ประดับความรู้ก่อนเข้าไปดู Episode III ก็ดีครับ อาจจะดูเข้าใจมากขึ้นก็เป็นได้
ก่อนอื่นเรามาดูภาพแผนผังด้านบนกันครับ นี่คึอแผนผังเกี่ยวกับตัวละครหลักๆ ตั้งแต่ Episode I จนถึง Episode VI เลยครับ โดยแบ่งเป็นซีกซ้ายและขวา หรือด้านผู้ร้ายกับพระเอก ก็คงไม่ผิดนัก จะเห็นว่า รูปของดาร์ธ เวเดอร์ส และ อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ จะอยู่ตรงกึ่งกลางของภาพเปรียบเสมือน มี2 ด้านอยู่ในตัวบุคคลเดียว ส่วนคนอื่นใครเป็นใครเชิญทัศนากันตามสะดวกครับ
รูปนี้ผมชอบมากๆครับ แบ่งออกเป็นด้าน Jedi และ Sith อย่างชัดเจน โดยมีรูปใบหน้าของ อนาคิน สกายวอร์คเกอร์และ ดาร์ธ เวเดอร์ส อยู่กลางภาพอย่างละซีกใบหน้า ซึ่งบ่งบอกความหมายของภาคนี้(Episode III)ได้เป็นอย่างดี
เอาล่ะครับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ผมไปค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจ หลายๆอย่างเกี่ยวกับหนังชุดนี้มาสนองแฟนๆ Star Wars จากนิตยสารหลายฉบับ โดยจะคัดมาแค่บางส่วนเท่านั้น ขอเริ่มจากตัวเอกของเรื่องเลยละกันครับ
- ชื่อ ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) มาจากการผสมคำว่า เดธ วอเทอร์ (Death Water) กับ ดาร์ค ฟาเธอร์ (Dark Father) อืมม..พระเจ้าจอร์จ มันยอดมากเลยชื่อนี้
- นอกจากนี้ลูคัส เคยตั้งใจจะให้ ดาร์ธ เวเดอร์ เป็นแค่นักล่าเงินรางวัลคนหนึ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เขาจึงนำคาแรคเตอร์ดังกล่าว ไปสร้างเป็นตัวละคร โบบ้า เฟ็ทท์ ใน Episode V แทน
- ชุดของดาร์ธ เวเดอร์ เป็นการผสมผสานชุดของสิงห์มอเตอร์ไซด์(ไม่ใช่วิน หน้าปากซอยนะ), เสื้อคลุมของพระในสมัยกลาง(ยุคมืด), หน้ากากกันแก๊สพิษ และหมวกของพวกนาซีเข้าไว้ด้วยกัน
- ชื่อเดิมของ ลุค สกายวอร์คเกอร์ที่ลูคัสตั้งไว้คือ ลุค ดาร์คไลท์เตอร์ และ ลุค สตาร์คิลเลอร์
- ลูคัส ได้ไอเดียของตัวละครชิวแบคก้ามาจากหมาขนยาวตัวหนึ่งของภรรยาชื่อ อินเดียน่า ซึ่งชอบมานั่งหน้ารถหมือนเป็นผูช่วย (แต่เสียงร้องเอมาจากหมี-สิงโต-ช้างน้ำและอูฐ) และภายหลังเขายังได้นำชื่อมันไปตั้งเป็นชื่อพระเอกหนังเรื่อง Raiders of the Lost Ark (1981) ที่ผู้ชมรู้จักกันดี...อินเดียน่า โจนส์
- ชื่อ "โยดา" มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง "นักรบ"
- แม้ โยดา ใน Episode I - III จะเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ แต่โยดาใน Episode V และ VI เป็นการใช้หุ่นชัก และให้เสียงพากย์โดยนักเชิดหุ่นฝีมือดี แฟรงค์ อ๊อซ
- การเชิดหุ่นโยดา จะใช้ผู้ช่วยอีก 2 คน เพื่อให้การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน มีความคล่องตัวและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
- จักรพรรดิ์พัลพาทีนที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกใน Episode V นี้ ผู้แสดงเป็นหญิงชราที่ถูกจับมาโปะเมคอัพหนาเตอะเข้าไป โดยมี คลิฟ เรวิลล์ เป็นผู้ให้เสียง ไม่ใช่ เอียน แม็คเดียร์มิด ที่สวมบทจักรพรรดิ์ใน Episode VI - Return of the Jedi และกลับมารับบทวุฒิสมาชิกพัลพาทีนอีกครั้ง ใน Episode I - III
(หมายเหตุ - ลูคัส ตัดสินใจให้ เอียนฯ มาแต่งหน้าเป็นจักรพรรดิ์ พัลพาทีนอีกครั้งเพื่อนำภาพที่ถ่ายทำใหม่ มาตัดต่อทับภาพเดิมในฉบับ Special Edition -DVD)
- อเล็ค กินเนสส์ เกือบจะไม่ได้มาแสดงเป็น โอบี-วัน เคโนบี ใน Episode V - The Empire Strikes Back เพราะเพิ่งไปผ่าตัดดวงตามา
- ชื่อ"แพดเม่" นำมาจากคำภาษาสันสกฤตที่แปลว่า "ดอกบัว"
- นาตาลี พอร์ตแมน มีปัญหาระหว่างการถ่ายทำไม่น้อย เพราะอยู่ในช่วงกำลังโตเป็นสาว เมื่อถ่าย Episode II ไปได้ครึ่งเรื่อง ลูคัสพบว่า เสียงของพอร์ตแมนเปลี่ยนไป จนต้องไปปรับเสียงในแล็บ และลงเสียงใหม่บางส่วน อีกทั้งลูคัสยังอยากให้เสียงของแพดเม่ และองค์หญิงอมิดาลา แตกต่างกันเล็กน้อย ก็ต้องนำเสียงไปปรับแก้กันอีกรอบ
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้นำมากล่าวถึงในที่นี้ ผมเอาเก็บไว้เล่าใน Episode ต่อไปดีกว่านะครับ แฟนพันธ์แท้ Star Wars ต้องไม่พลาดครับ...May the Force be with You
ที่มาของข้อมูล : Cinemag # 184, May 2002
Create Date : 10 พฤษภาคม 2548 |
|
14 comments |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2548 23:53:58 น. |
Counter : 2106 Pageviews. |
|
|