ปีนี้เรื่อย ๆ ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่เน๊อะ ชิลๆๆคะ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

อยากให้อ่านมักมาก

เรื่องนี้ดี อยากให้อ่านมากๆ

> อ่านทีไรนำตาคลอทุกที พึ่งรู้ว่า 2คนนี้เป็นใคร

> Wonderful story อ่านให้ได้นะ (ดีมากๆ) |


> >>> | ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน |

> >>> | แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ |
> >>> | ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี |
> >>> | วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ |
> >>> | ของฉันมีกัน |
> >>> | จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง |
> >>> | พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง |
> >>> | โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน |
> >>> | " ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด |
> >>> | ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน |
> >>> | พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า |
> >>> | " ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ" |
> >>> | พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น |
> >>> | ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า |
> >>> | " ผมขโมยเองครับ" |
> >>> | ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง |
> >>> | พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด |
> >>> | จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย |
> >>> | พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ |
> >>> | และด่าว่าน้องชายของฉัน |
> >>> | " ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก |
> >>> | แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย" |
> >>> | คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ |
> >>> | หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด |
> >>> | แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย |
> >>> | กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก |
> >>> | น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า |
> >>> | " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว" |
> >>> | ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ |
> >>> | ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ |
> >>> | |
> >>> | หลายปีผ่านไป |
> >>> | แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง |
> >>> | ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย |
> >>> | ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8 ปี ส่วนฉันอายุ 11 ปี... |
> >>> | เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น |
> >>> | เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน |
> >>> | ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย |
> >>> | ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังห วัดเช่นกัน |
> >>> | คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน |
> >>> | ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า |
> >>> | " ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ" |
> >>> | แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า |
> >>> | " แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน" |
> >>> | ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า |
> >>> | " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" |
> >>> | พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่ |
> >>> | " ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ |
> >>> | ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน |
> >>> | พ่อก็ จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้" |
> >>> | คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ |
> >>> | ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน |
> >>> | ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ |
> >>> | ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า |
> >>> | "
> >>> ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้"
> >>> |
> >>> | แต่ในขณะเดียวกัน |
> >>> | ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้ |
> >>> | ใครจะรู้ได้ ....... |
> >>> | วันต่อมาในตอนเช้ามืด |
> >>> | น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น |
> >>> | และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว |
> >>> | ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน |
> >>> | ขณะฉันกำลังหลับ |
> >>> | " พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ .... |
> >>> | ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่" |
> >>> | ฉันนั่งอยู่บนเตียง |
> >>> | อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า .......
> >>> ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป |
> >>> | |
> >>> | ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี ..... |
> >>> | ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน |
> >>> | รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น |
> >>> | กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ ....... |
> >>> | ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3 |
> >>> | วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก |
> >>> | เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า |
> >>> | " มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ" |
> >>> | ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ??? |
> >>> | ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ |
> >>> | ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง |
> >>> | ฉันถามเขาว่า |
> >>> | " ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ" |
> >>> | น้องชายข องฉันตอบยิ้มๆ ว่า |
> >>> | " ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ |
> >>> | ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี" |
> >>> | ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง |
> >>> | และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ |
> >>> | " พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง |
> >>> | เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม" |
> >>> | จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง |
> >>> | เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน |
> >>> | แล้วพูดว่า |
> >>> | " ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง"
> >>> ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด |
> >>> | ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน |
> >>> | |
> >>> | ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี . |
> >>> | วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก |
> >>> | ฉันสังเกตเห็นว่า |
> >>> | หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว |
> >>> | เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก |
> >>> | หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า |
> >>> | " แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อม กระจก |
> >>> | เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ" |
> >>> | แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า |
> >>> | " แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก |
> >>> | วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน |
> >>> | ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ |
> >>> | น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ" |
> >>> | ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา |
> >>> | ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ
> >>> |
> >>> | ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด " เจ็บมากไหม" |
> >>> | ฉันถาม |
> >>> | " ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ |
> >>> | มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด |
> >>> | แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ |
> >>> | และ..." |
> >>> | น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด |
> >>> | เพราะฉันหันหน้าหนีเขา |
> >>> | น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง |
> >>> | " เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ" |
> >>> | |
> >>> | ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี... |
> >>> | หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง |
> >>> |
> >>> หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน...
> >>> |
> >>> | แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ |
> >>> | ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง |
> >>> | แต่เมื่อออกไปแล้ว |
> >>> | ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี |
> >>> | จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม |
> >>> | น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย ้ายออกไป ... |
> >>> | เขาบอกกับฉันว่า |
> >>> | "
> >>> พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง"
> >>> |
> >>> | สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว |
> >>> | เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท |
> >>> | ... |
> >>> | แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ |
> >>> | เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา |
> >>> | วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล |
> >>> | และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด |
> >>> | เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล |
> >>> | ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล |
> >>> | น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา |
> >>> | ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ
> >>> หา!!! |
> >>> | ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้ |
> >>> | ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง" |
> >>> | คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด |
> >>> | ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา |
> >>> | " พ ี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน |
> >>> | ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ |
> >>> | คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" |
> >>> | น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..... |
> >>> | ฉันบอกกับน้องว่า |
> >>> | " แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..." |
> >>> | " ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" |
> >>> | น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ |
> >>> | ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี... |
> >>> | |
> >>> | เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ ปี |
> >>> | เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน |
> >>> | ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า |
> >>> | " ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้" น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล "
> >>> พี่สาวของผมครับ" ..... |
> >>> | และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม
> >>> โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง |
> >>> | เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. |
> >>> | เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน |
> >>> | วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง |
> >>> | พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง |
> >>> | และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล |
> >>> | เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว |
> >>> | เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ....... นับจากวันนั้น |
> >>> | ผมสาบานกับตัวเอง |
> >>> | ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี |
> >>> | และจะทำดีกับเธอ" |
> >>> | เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว |
> >>> | สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน |
> >>> | |
> >>> | คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ....... |
> >>> | " ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ" |
> >>> | ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ |
> >>> | น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง... |
> >>> | จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ |
> >>> | วันในชีวิตของคุณและเขา |
> >>> | คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ |
> >>> | แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง |
> >>> | .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ |
> >>> | พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน |
> >>> | หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม |
> >>> | |
> >>> | จบบริบูรณ์.... |
> >>> | |
> >>> | ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86
> >>> ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า 20 บริษัท |
> >>> | น้องชายอายุ 83 ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า > >>> |
> >>> | " ซัมซุง" |
> >>> | |

> >>> | และเรื่องราวของท่านทั้ง 2 คนกำลังถูกนำมาสร้างเป็นซี่รี่ย์
> >>> โดยดาราเล็กๆ คือ ซอง เฮ เคี ยว และ ลี ดอง ฮุค|
> >>> | > >>> | บู มิง ฮอง |
> >>> | เล่าเรื่อง |




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2552
1 comments
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 14:38:28 น.
Counter : 402 Pageviews.

 

ขอบคุณมากสำหรับเรื่องดีๆ
อ่านแล้วได้ข้อคิดมากๆๆๆ

 

โดย: kee IP: 192.168.182.21, 58.9.142.57 5 พฤศจิกายน 2552 19:20:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พลูด่างในอ่างดิน
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




>> my email : sasi2519@hotmail.com<<



Color Codes ป้ามด


Friends' blogs
[Add พลูด่างในอ่างดิน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.