|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การประกันภัยบ้านและสำนักงานธุรกิจ
การประกันภัยบ้าน (Household) และ สำนักงานธุรกิจ (Business) นั้นมีพื้นฐานมาจากการทำประกันภัยอัคคีภัย เนื่องจากความต้องการของผู้ บริโภคที่เปลี่ยนไปและความเหมาะสมต่อสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทประกันภัยจึงได้รวบรวมความคุ้มครองที่เป็นที่นิยมและจัดทำกรมธรรม์ ประเภทรวมขึ้น โดยจะเน้นคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก ไฟ ระเบิด และน้ำ การถูกโจรกรรม ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
นอกจากนี้ บางบริษัทยังให้คุณเลือกซื้อความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มได้ตามต้องการ เช่น ในกรณีสูญเสียชีวิต ไฟฟ้าลัดวงจร และการชดเชยค่าเช่า ที่พักอาศัยชั่วคราวหากเกิดบ้านหรือสำนักงานธุรกิจไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกด้วย
การประกันภัยบ้านและธุรกิจเป็นวิธีที่ดีในการบรรเทาความเสียหายหากมีเหตุการณ์อันไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นกับบ้านหรือธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ ค่าเบี้ยประกันภัยบ้านและธุรกิจจัดอยู่ได้ว่ามีราคาค่อนข้างไม่แพง เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่จะได้รับ ความคุ้มครอง ทุนประกันภัย ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิด 1,000,000 บาท การโจรกรรม 5,000 บาท/ชิ้น ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ไม่เกิน 500,000 บาท เบี้ยประกันภัยสุทธิ 2,000 บาท
นอกจากความคุ้มครองพื้นฐานที่ควรมี เช่น ในกรณีการเกิดเพลิงไหม้ การโจรกรรม ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก บางบริษัทอาจมีความคุ้มครองให้คุณเลือกเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร และ การชดเชยค่าเช่า เป็นต้น โดยเบี้ยประกันภัยจะแพงขึ้น ทั้งนี้ ควรพิจารณาให้ดีกว่า ความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นนั้นเหมาะสมกับความต้องการของคุณหรือไม่
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการประกันภัยบ้านและสำนักงานธุรกิจ ลักษณะสิ่งปลูกสร้าง โดยทั่วไปบริษัทประกันภัยจะรับประกันภัยสิ่งปลูกสร้างที่เป็นตึก หรือ ครึ่งตึกครึ่งไม้ เท่านั้น ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่ เป็นไม้จะไม่รับประกันภัย ทรัพย์สินบางประเภทไม่คุ้มครอง เช่น เงิน ธนบัตร ทองแท่ง อัญมณีมีค่า โบราณวัตถุ เอกสาร ภาพเขียน หลักทรัพย์ และแสตมป์ เป็นต้น ความคุ้มครองการถูกโจรกรรม จะมีขอบเขตของวงเงินในการชดใช้ ทั้งเป็นต่อชิ้น เช่น ไม่เกิน 10,000 บาทและโดยรวมต่อครั้ง เช่น ทั้งหมดไม่เกิน 500,000 บาทต่อครั้ง สถานที่ตั้ง อยู่ในเขตอันตราย หมายถึงเป็นเขตที่กรมการประกันภัยกำหนดว่าเป็นเขตที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ ง่าย เช่น สถานที่ที่ใกล้แหล่งชุมชนแออัด ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณต้องเสียเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นจากที่ระบุไว้ สำหรับลูกค้าทั่วไป อย่างไรก็ตาม เขตอันตรายดังกล่าวมีเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของทางบริษัทสามารถ บอกกับคุณทางโทรศัพท์ได้ว่า ที่ตั้งของคุณอยู่ในเขตดังกล่าวหรือไม่ ระบุวัสดุของสิ่งปลูกสร้าง เช่น เป็นตึก หรือครึ่งตึกครึ่งไม้ เป็นต้น กำหนดทุนประกันภัยตามมูลค่าตัวอาคารจริงทั้งนี้ แต่ละบริษัทประกันภัยจะมีขอบเขตของทุนที่รับได้ เช่น ภายในวงเงิน 200,000 บาทถึง 30,000,000 บาทมูลค่าที่ระบุควรใกล้มูลค่าจริงที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของ การทำประกันภัยเกิน (Over-insured) หรือน้อยกว่า (Under- insured) ทุนที่แท้จริง หากคุณไม่ทราบทุนประกันภัยดังกล่าว คุณสามารถใช้เครื่องช่วยคำนวณของเราเป็นแนวทางในการกำหนด ทุนประกันภัย ซึ่งจะคิดตามราคากลางที่ถูกกำหนดโดยกรมการประกันภัย ระบุมูลค่าทรัพย์สินอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งตบแต่งต่าง ๆ ถ้าเป็นสำนักงานธุรกิจ จะต้องระบุจำนวนทุนประกันภัยของ สต็อก สินค้า ของคุณด้วย กรอกใบสมัคร และทำตามขั้นตอนที่ระบุ กรมธรรม์ของคุณจะถูกจัดส่งให้ถึงบ้านทางไปรษณีย์ หลังจากที่คุณซื้อประกันภัยแล้ว คุณจะได้รับกรมธรรม์ส่งให้ถึงที่ คุณควรศึกษารายละเอียดในกรมธรรม์ก่อนเก็บกรมธรรม์ไว้ในที่ มิดชิดและปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กรมธรรม์ได้รับความเสียหาย เช่น เพลิงไหม้ แนะนำว่าควรแยกเก็บกรมธรรม์ไว้ที่อื่นที่ ไม่ใช่บ้าน หรือสำนักงาน เช่น ธนาคาร หรือสลับที่เก็บ เช่น กรมธรรม์ของบ้านเก็บไว้ที่สำนักงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เอกสารสำคัญ ถูกทำลายเมื่อ เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ติดต่อบริษัทประกันภัยทันทีที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ คุณควรเก็บเบอร์ติดต่อไว้ให้สะดวกต่อการแจ้งเหตุ และถ้าหากบ้านหรือสำนักงานธุรกิจ เกิดความเสียหายขึ้น ควรรีบแจ้งบริษัทประกันภัยทันทีพร้อมกับเสนอหลักฐานตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
Create Date : 26 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2551 17:40:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 253 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|