สัมผัสเสี้ยวหนึ่งของธรรมชาติที่ถ้ำเขาวง และ ห้วยขาแข้ง(Humble to Nature)




"ปัจจุบันคนบางคนมักจะมีความรู้สึกที่ว่า เราชอบปลูกต้นไม้ เราก็จะดูแลต้นไม้ของตัวเอง แต่กลับไม่สนใจดูแลต้นไม้นอกเหนือจากนั้น หรือแม้แต่คนที่เลี้ยงสัตว์ เขาให้อาหารสุนัขบ้านตัวเอง แต่กลับรังเกียจหมาบ้านอื่น ทำยังไงเราถึงจะเข้าใจในความจริงที่ว่าเราควรรักธรรมชาติรอบตัว ไม่ต่างจากรักสิ่งรอบๆ บ้านเรา"


อ. ประมวล เพ็งจันทร์
(คัดลอกจากเวปของ www.greenworld.or.th ขออนุญาตชักชวนให้เข้าไปอ่านบทความแบบเต็ม ๆ นะคะ)


จากการที่เราไปร่วมงาน จุลกฐิน ที่อำเภอบ้านไร่ จ. อุทัยธานี ก็เลยถือโอกาสไปเยือนวัดถ้ำเขาวง ถ้ำพุหวาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานเขาวง และห้วยขาแข้งซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนักค่ะ


ระหว่างทางไปวัดถ้ำเขาวงจากวัดทัพคล้าย เห็นป้ายต้นไม้ยักษ์ ก็เลยเลี้ยวรถเข้าไปดูค่ะ





ต้นเซียง หรือต้นผึ้ง อายุประมาณ 300-400 ปีค่ะ












วัดถ้ำเขาวงค่ะ สวย สงบ และสะอาดค่ะ



(หากอยากชมรายละเอียดและรูปเพิ่มเติมของวัดถ้ำเขาวง เชิญที่เวป //touronthai.com ค่ะ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)









ไปต่อกันที่ถ้ำพุหวายค่ะ




มีเจ้าหน้าที่นำทาง ทางขึ้นชันเหมือนกัน แต่แค่ 800 เมตรค่ะ
และมีไฟฉายให้เช่าอันละ 25 บาทค่ะ








หินงอก หินย้อย เป็นรูปต่าง ๆ ค่ะ เช่นรูปโลมา รูปนกกระจอกเทศ เจ้าแม่กวนอิม สมอง อ่างน้ำ น้ำตก เป็นต้น ฯลฯ ค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าปีหนึ่งงอกแค่ประมาณ 7 มม. ค่ะ และไม่ควรจับ เพราะไขมันจากมือเราจะไปทำปฏิกริยาเคมีให้หินหยุดงอกค่ะ




(หากอยากชมรายละเอียดและดูรูปเพิ่มเติมของถ้ำพุหวาย รวมทั้งการเกิดถ้ำ การเกิดหินงอก หินย้อย เชิญที่เวป //touronthai.com ค่ะ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)






ในถ้ำมืดสนิทค่ะ ทางออกอยู่อีกฝั่งของเขา
พอเห็นแสง เจ้าตัวเล็กไปก่อนเลยนะคะ






ชิงชิงวาดสิ่งที่ชอบที่สุด
หินงอกรูปนกกรจอกเทศ






อิงอิงวาดสิ่งที่กลัวที่สุด
ความมืดและค้างคาวค่ะ









อยากไปนานแล้วค่ะ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เปิดให้เที่ยวชมสามทาง







เราเข้าทางสำนักงานเขตฯห้วยขาแข้ง อำเภอลานสักค่ะ
เป็นทางที่ไปง่ายสุดค่ะ เพราะเด็กน้อยและคนแก่ไม่พร้อมลุยค่ะ


(ท่านสามารถเข้าไปชมชมรายละเอียดเพิ่มเติมของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดย คลิกที่นี่ ค่ะ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)




อาคารนิทรรศการมรดกโลกทางธรรมชาติ ทุ่งใหญ่นเรศวร - ห้วยขาแข้ง "แหล่งเรียนรู้คู่ธรรมชาติ"






เริ่มด้วยหลักเกณฑ์ และความสำคัญของการเป็นมรดกโลกค่ะ







แสดงความเชื่อมโยงกันในผืนป่า ระหว่าง ดิน น้ำ สัตว์ และพืช







เป็นอาคารนิทรรศการที่เด็ก ๆ หยิบจับได้ค่ะ มีทั้งที่หมุนได้ เลื่อนได้ ฉายไฟฉายจำลองแสงสะท้อนจากตาสัตว์ ตัวอย่างพืชพันธุ์ เจ้าหน้าที่ใจดีมากนอกจากนำชม อธิบาย ยังมอบลูกยางให้สาวน้อยเป็นที่ระลึกค่ะ เราไปเย็นมากแล้ว เลยนำเราชมทางเดินศึกษาธรรมชาติ “บ้านของเสือ” เองอีกด้วย ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้เป็นอย่างมากค่ะ



ทางเดินศึกษาธรรมชาติ “บ้านของเสือ”






เจ้าหน้าที่กรุณาแนะนำในสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในป่าด้วยค่ะ เช่น ในเรื่องของพืชพันธุ์ ในรูปเป็นต้นสาปเสือซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาการอักเสบ ต้นกล้วยไม้ดิน(นางอั้ว ซึ่งมีตำนาน) และ จอมปลวกค่ะ โดยพยายามชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงกันของสรรพสิ่งในธรรมชาติ แล้วแนะนำให้เด็ก ๆ หัดสังเกตพืชหรือนกรอบ ๆ บ้านเป็นการเริ่มต้นค่ะ







แนะนำให้ดูรอยเท้าแล้วแยกแยะรอยเท้า สัตว์กินเนื้อ กับสัตว์กินพืช พูดจบสาวน้อยบอกอันนี้ใช่ไหม เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล้วบอก ใช่ครับ นี่อุ้งเท้าหมาป่าครับ สาวน้อยเราช่างสังเกตดีมากค่ะ แล้วก็ยังดูรอยสีกับต้นไม้ รอยลับเขี้ยวกับต้นไม้ แถมยังลงทุนดมกลิ่นต้นไม้ว่าต้นไหนมีสเปรย์ของสัตว์บ้างค่ะ ชี้ให้ดูโป่งดิน และการใช้แร่ธาตุจากโป่งดินของสัตว์ ดูลำธาร ดูหนองน้ำ(แกบอกว่าต้องขุดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยสัตว์ป่าให้มีน้ำพอเพียงในการบริโภค ไม่มีรูป เพราะว่าเดินยังไม่ถึงดี แกบอกให้หลบออกไปเร็ว ๆ ตื่นเต้นกันเล็กน้อย พอพ้นออกมาแกบอกเห็นงูจงอางในหนองน้ำ ตอนแรกคิดว่าตะกวดเดินเข้าไปใกล้ ลายไม่ใช่)




อนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร





เดินข้ามสะพานไปนิดเดียวค่ะ








เด็ก ๆ พิจารณากันใหญ่นะคะ อนุสาวรีย์คุณสืบใช้อัตราส่วนเท่าครึ่ง ปรกติคุณแม่โฮมสคูลลูกเอง และเลี้ยงลูกแบบยังให้อยู่ในโลกแห่งแฟนตาซี ไม่เคยบอกเรื่องการฆ่าตัวตาย แต่ครั้งนี้ตัดสินใจบอกและชี้ให้เห็นความแตกต่างของการฆ่าตัวตายด้วยวัตถุประสงค์ที่เพื่อตนเองกับเพื่อมวลมนุษย์เพื่อส่วนรวม






บ้านพักที่คุณสืบเคยใช้ชีวิต และจบชีวิตลงค่ะ ถามเจ้าหน้าที่ท่านที่พาเรานำชมนิทรรศการ และบ้านของเสือ ว่ามีคนบอกว่าแกยังอยู่จริงไหมคะ เขาตอบหน้าตาเฉยเลยว่า จริงครับ มีคนเห็น และได้ยินบ่อย ๆ แกเป็นห่วงของแกนะครับ







ใช้เวลาเขียนถึงคุณสืบนานเลยค่ะ แถมไม่ให้เราอ่านเสียด้วย ใครได้ไปฝากอ่านด้วยนะคะ น่าจะลงชื่อว่า From Ching


คุณแม่ก็หวังอีกแล้วค่ะว่า เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้จากธรรมชาติด้วยใจ สัมผัสได้ถึงความสวยงามของธรรมชาติ เกิดจิตสำนึก ความรักในธรรมชาติ มีความเข้าใจความจริงในธรรมชาติในวันข้างหน้า พร้อมทั้งกล้าหาญและรับผิดชอบต่อการกระทำของตน ผ่านการนอบน้อมและการเคารพ ธรรมชาตินั่นเองค่ะ


ขอบคุณ BG สวย ๆ จากคุณยายกุ๊กไก่ และ line สวย ๆ จากคุณญามี่ค่ะ


Create Date : 19 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 0:02:19 น. 10 comments
Counter : 2249 Pageviews.

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:7:26:21 น.  

 
ปีหน้าไปกันอีกนะคะ


โดย: แม่ผึ้ง IP: 110.169.202.167 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:41:20 น.  

 
คุณเค็นค่ะ....

ชอบใจกับเส้นทาง...ที่ได้พาเด็กๆ แวะไปสัมผัสและเรียนรู้ จากธรรมชาติ

เห็นภาพวัด(เพียงบางส่วน) สำคัญ..สงบ สะอาด

ชอบภาพวาด...พี่ชิง..คิดว่าไม่ต้องมากมาย ก็ได้อารมณ์ค่ะ



โดย: 3K-guy วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:27:33 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณ Kavanich96 ที่พาแมวมาเยี่ยมค่ะ


หวังว่านะแม่ผึ้ง


คุณเก๋ ปีหน้าไปไหมคะ หากเค็นไม่ได้ไปก็จะฝากฝังป้าเนยให้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ชิงชิงโตพอที่จะเรียนรู้อะไรได้เองผ่านการเปิดใจสัมผัสธรรมชาติ แต่อิงอิงยังคงมัวแต่ระวังตัว กลัวโน่น กลัวนี่ ไม่รู้เห็นอะไรบ้างหรือเปล่าค่ะ


วัดเขาสะอาดจริง ๆ ค่ะ ที่นั่งในศาลาไม่มีฝุ่นเลยค่ะ

เรื่องภาพวาดพี่ชิงเขาวาดเก่ง สร้างสรรค์ แต่ไม่แน่ใจว่าวาดเสร็จเร็วเพราะตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น หรือไม่ตั้งใจมากพอค่ะ หลายท่านดูเผิน ๆ ก็จะรู้สึกว่าไม่มีทักษะ แต่แม่ก็ชอบเหมือนกันค่ะ คิดว่าดีกว่าวาดเหมือนเส้นสวยแต่ไม่ได้มาจากตนเอง


โดย: chinging วันที่: 21 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:12:48 น.  

 
พากันไปเยี่ยมคุณสืบที่ห้วยขาแข้งด้วย ดีจังครับ
ถึงตอนนี้...สมุดที่น้องชิงชิงเขียนเล่มนั้นคงผ่านไปหลายหน้า
หรืออาจขึ้นเล่มใหม่แล้วก็ได้เนอะ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:01:16 น.  

 
เอ มีความหมายแฝงว่ามีคนไปมากมาย แล้วก็ผ่านเลยไปหรือเปล่าคะ คุณทุเรียน


โดย: chinging วันที่: 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:14:29 น.  

 
คุณเค็นค่ะ หน้าบล็อกไม่ได้หายค่ะ แต่ว่าอันไหนเอาไปทำรายงานแล้วจะปิดไว้ก่อน แบบป้องกันการหลงค่ะ 5555555


โดย: 3K-guy วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:9:30:06 น.  

 
เป็นเช่นนั้นเอง


โดย: chinging วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:9:56:05 น.  

 
ที่ห้วยขาแข้งนี่ ดูเหมือนไม่ค่อยมีคนเข้ามาเลยรึเปล่าคะ ดีนะ มีโอกาสก็อยากไปเหมือนกัน (แต่ขอไม่ไปเจอเรื่องตื่นเต้น แบบที่คุณเค็นไปเจอเลย ชอบแบบเรียบ ๆ ดีกว่าน่ะ)


โดย: จิบ IP: 115.87.64.204 วันที่: 27 ธันวาคม 2555 เวลา:0:50:45 น.  

 
คนไปเยอะค่ะ คุณทุเรียนฯยังแซวเลยว่าป่านนี้เขาเปลี่ยนเล่มสมุดลงนามที่ระลึกไปเล่มใหม่แล้ว


โดย: chinging วันที่: 28 ธันวาคม 2555 เวลา:23:32:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

chinging
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]








INVITING THE BELL TO SOUND


Body, speech, and mind in perfect oneness-
I send my heart along with the sound of the bell,
May the hearers awaken from forgetfulness
and transcend all anxiety and sorrow.


HEARING THE BELL


Listen, listen,
this wonderful sound
bring me back
to my true self.


THICH NHAT HANH






9 Latest Blogs
ขอขอบคุณ คุณSevenDaffodils
ในคำแนะนำวิธีการทำ Latest Blogs ค่ะ



New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chinging's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.