มิถุนายน 2562

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
15
16
21
22
23
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
ตอนที่ 16 Review ๛ Eastern Europe ๛ [Prague] 25-26 May 2019
25 May 2019

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวยุโรปของพวกเราแล้วค่ะ เช้าตื่นตี 5 ออกไปสะพานชาลส์กันอีกรอบ คราวนี้สมาชิกยินยอมพร้อมใจไปด้วยกัน เพราะรู้แล้วว่าคนเยอะจริงๆ 555 ไม่ต้องแต่งหน้า ใช้แว่นดำอำพรางความชั่วร้ายเอา 555 คนเยอะกว่าเมื่อวานเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ มีคนที่เมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับ 555



มาเดินถ่ายรูปกันแบบตาปรือๆ ง่วงนอนมาก





พอไม่มีคนปรากดูเป็นเมืองที่มีเสนห์นะคะ เพราะได้พิจารณาตึก อาคาร บ้านเรือน ได้มากขึ้น



ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วก็เดินกลับไปที่โรงแรม ไปนอนต่อ นอนยาวตื่นขึ้นมาอีกที สายเลยค่ะ 9 โมงกว่าแน่ะ



ตื่นขึ้นมาก็ทานอาหารเช้า หนึ่งในสมาชิก ตื่นเช้ามาทำอาหารเช้าให้พวกเราทาน นางเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทานกันไม่หมดค่ะ เหลือเอาไว้ตอนใกล้เที่ยงอีกรอบ โรงแรมเขาให้ check out ได้ตอน 11 โมง พวกเราใช้เวลากันเต็มที่ เพราะตื่นสาย



คนอื่นๆเขาไปเดินเล่น แต่จิ๊บขอไปซื้อของละลายเงินโคนใน Tesco หน่อย



เดินออกมาจาก Tesco เห็นบันไดเลื่อนเลยเดินขึ้นไปอีกชั้น



เห็น BILLA เอ๊ะ! ทำไมมีเหมือนห้างเมื่อวานที่เราไป



พอเดินหมุนมาหน่อย เจอทางออกไปรถไฟ นั่นไง ห้างเดียวกัน อยู่ห่างจากโรงแรมแค่ 300 เมตร แล้วเมื่อวานจะนั่งรถไฟ+เดินอีก 300 เมตรทำไมเนี่ย



ใกล้เวลานัดรถมารับเพื่อไปสนามบิน เดินกลับโรงแรม ระหว่างทาง เจอขนมโรล แวะซื้อทานอีกรอบค่ะ คราวนี้เอาวนิลาบ้าง อร่อยไปอีกแบบ



จิ๊บจองรถตู้กับเว็บ https://www.prague-airport-transfers.co.uk   ค่ะ จองเมื่อวาน หลังจากที่ปรึกษากับสมาชิกแล้วว่าลากกระเป๋าไปขึ้นรถไฟ แล้วต่อรถบัสไม่ไหวแน่ๆ ทางก็ขรุขระเหลือเกิน กระเป๋าเกือบ 30 kg. ก็เลยลอง Search ดูว่ามีรถที่รับส่งสนามบินหรือไม่ เจอเว็บนี้ ก็เลยจองรถผ่านเว็บเลยค่ะ จองเสร็จเขาก็ส่งรายละเอียดมาทาง E-Mail  นัดเวลาให้เขามารับที่หน้าโรงแรมได้เลย จ่ายเงินกับคนขับค่ะตอนถึงสนามบิน ราคา 625CZK หรือ €24.69  /คัน จิ๊บกรอกเบอร์โทรของ Sim2fly ใส่ลงไป เขาก็ส่ง SMS มาว่าอาจจะเลทประมาณ 5-7 นาที แต่จริงๆเขามาตรงเวลาเป๊ะเลยค่ะ บ่ายโมงตรง พอมาถึงเขาก็ส่ง SMS มาแจ้งว่ารถมาถึงแล้ว จิ๊บเดินออกไปดูหน้าโรงแรม เขายกป้ายชื่อจิ๊บขึ้นมา ว่าชื่อนี้ใช่มั้ย พวกเราก็ลากกระเป๋าออกมาใส่ไว้ในรถ เขาช่วยยกดีมากค่ะ



ประมาณครึ่งชม.ก็มาถึงสนามบินปรากค่ะ



มาถึงสนามบินก็มาดูจอว่าต้องไป Check In ที่ Counter ไหน เวลา 16:40 Munich Check In ที่ 250-252 ค่ะ พวกเราต้องนั่งเครื่องไปลง Munich ก่อนค่ะ แล้วนั่งจาก Munich ไป มัตกัส แล้วก็ต่อเครื่องจากมัตกัส กลับไทยค่ะ 3 ต่อเลยค่ะ



นั่งเครื่องของ Lufthansa ค่ะ มา Check In ตรง Counter นี้



หันไปเห็นเขามีบริการ wrap กระเป๋า พวกเราก็ลากกระเป๋าไปเลยค่ะ เนื่องจากกระเป๋าหนักมากกลัวจะปริ กลัวของหายด้วย



ได้มาแล้วค่ะ ราคา €6 เห็นแล้วคิดถึงขนมเขียว ที่ใส่ไส้ถั่วเหลือง



Warp กระเป๋าเสร็จแล้วลากกระเป๋ามา Check In เราจะเจอกระเป๋าอีกทีที่ไทยเลยนะคะ ตอน Check In มีปัญหากันนิดหน่อยค่ะ เจ้าหน้าที่เขาแจ้งว่า ตามกฎของเขากระเป๋าห้ามเกิน 15kg./ใบ ค่ะ เขาให้กระเป๋าได้ไม่เกิน 2 ใบ และไม่เกิน 30kg. แต่ละใบห้ามเกิน 15kg. พวกเราก็ชี้แจงไปว่าพวกเราไม่ได้รายละเอียดตรงนี้เลยนะ ในเว็บก็บอกว่าไม่เกิน 30kg. แค่นั้น เขาก็เลยปล่อยพวกเราไป แต่ติด tag ที่กระเป๋าว่า heavy 25kg.



เขาให้ Boarding Pass มา 3 ใบเลยค่ะ นั่งเครื่อง 3 ต่อ



เอาเอกสารมายื่นขอ Tax Refund เป็นสินค้าที่ซื้อใน Outlet ที่เยอรมันค่ะ เอกสารต้องกรอกชื่อ เลข Passport ด้วยค่ะ



กรอกเสร็จจะไปยื่นตรงช่องสีส้ม เขาบอกให้ไปยื่นตรง Customs ก่อน  เจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปที่ป้ายตรง Counter ว่าเอาอะไรมาโชว์บ้าง สิ่งที่ต้องมาโชว์ก็ได้แค่ Passport, Invoice , Purchase Goods มาเจอตรงคำว่า Purchase Goods ก็ชะงักเลยค่ะ แล้วก็เดินไปบอกสมาชิกว่า ไม่ต้องเขียนแล้ว เพราะพวกเราเอาของที่ซื้อมาใส่กระเป๋าแล้ว Load ไปแล้วเมื่อกี้นี้ จบกัน €22 ที่คิดว่าจะได้ อดเลย T-T ไม่มีใครเอะใจเลยค่ะ มีพี่คนนึงเขาซื้อเสื้อมาแล้วเขาไม่เอาป้ายราคาออก จิ๊บก็ถามเขาอยู่นะว่า ทำไมไม่เอาป้ายราคาออก เขาบอกกลัวตอนขอ Refund Tax จะมีปัญหาต้องโชว์ของ แต่พอจะขอ Refund จริง แต่ละคน ลืมซะงั้น เอาของยัดใส่กระเป๋าหมดทุกคน พร้อม Wrap กระเป๋าและ Load ก็เลยเดินบ่นกระปอดกระแปด ไป



เศร้าใจกับ Tax Refund เสร็จแล้วก็เดินเพื่อไปรอขึ้นเครื่องค่ะ



ด้านในมีร้านให้ Shopping มากมายค่ะ แต่เศร้าใจกับ Tax Refund และหมดงบ ก็เลยแค่ Window-Shopping เฉยๆพอ



เดินมาจนถึง Gate ก็มานั่งรอขึ้นเครื่อง





เป็น Bus Gate ค่ะ นั่งรถบัสไปขึ้นเครื่อง



รถบัสมาจอดตรงข้างๆเครื่องบิน ตกใจ ไม่เคยขึ้นเครื่องลำเล็กๆแบบนี้มาก่อน ก่อนขึ้นรถบัสมา เจ้าหน้าที่เขาจะเอา Tag มาแขวนที่กระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องสำหรับใบที่ใหญ่เกินจะหิ้วขึ้นเครื่องได้ ให้เอาไปวางไว้ตรงรถทางขวามือค่ะ



วางกระเป๋าเสร็จก็เดินขึ้นบันไดไปค่ะ คล้ายๆเครื่องบินส่วนตัว แต่ไม่ใช่



ที่นั่งจะเป็น 2-2 ค่ะ เหมือนรถทัวร์



ตอนขึ้นเครื่องเขาจะแจกขนมด้วยค่ะ ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ซ้ายเค็ม ขวาหวานมาก ไม่มีความพอดี



นั่งรอเครื่อง Take Off



มีน้ำเปล่าและกาแฟเสริฟให้ค่ะ





ประมาณ 50 นาทีก็มาถึง Munich ค่ะ ลงจากเครื่องก็แวะหยิบกระเป๋าของตัวเองที่วางอยู่บนรถไปด้วย



แล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสเพื่อเข้าสนามบิน Munich





มาถึงแล้วก็เดินไปดู Gate ที่หน้าจอ แต่ Gate ยังไม่ออก เครื่องออกตอน 4 ทุ่ม



ก็เลยเดินดูๆของไปก่อนค่ะ



เดินไปดูของร้าน Duty Free เจอพี่พนักงานเป็นคนไทย เขาแนะนำว่ามีร้านอาหารไทยตรงนี้ เขารู้ว่าพวกเรานั้นเบื่ออาหารฝรั่งเต็มทน



ร้านนี้มีให้เลือก 4 เมนูค่ะ มีแกงเผ็ดทะเล ผัดกะเพราเนื้อ แกงเผ็ดเต้าหู้ อีกเมนูน่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ด ไม่แน่ใจ



จิ๊บเลือกแกงเผ็ดทะเล ชามใหญ่นะคะ ผักเยอะมาก กุ้งตัวใหญ่ด้วย มีอยู่ 4 ตัว





ค่าเสียหายค่ะ ตอนเป็นสกุลยูโร ยังไม่คิดอะไร แต่พอแปลงเป็นเงินไทยแล้วจะเป็นลม



อิ่มแล้วก็เดินต่อค่ะ ตอนแรกว่าจะเดินดูๆของก่อน ใกล้ๆเวลาค่อยเดินไปที่ Gate ก็เลยมาคิดๆ เอ๊ะ! ยังไม่ได้ผ่านตม.ขาออกเลยนี่ เดินไปเรื่อยๆ เจอตม.ตรงนี้พอดี โอ้โห คิวยาวมากเพราะเปิดแค่ 3 ช่อง แล้วถัดไปอีก 5 ช่องมีตม.ผู้หญิงนั่งอยู่ แต่นั่งเฉยๆ นะคะ ไม่มีใครไปต่อคิวตรงช่องของนางเพราะเว้นระยะไกลเกิน นางก็นั่งเท้าแขนเฉยๆ มองคนไปมา ไม่เรียก ไม่อะไรใดๆทั้งสิ้น จนมีกลุ่มคนจีนเขาก็ชี้ๆกันว่าตม.ผู้หญิงคนนี้ก็มีทำไมไม่มีใครไปยื่น Passport แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปบอก คนที่ต่อคิวอยู่หน้าสุด จนคู่รักฝรั่งคู่นึงเขาเดินไปบอกให้คนที่ต่อคิวอยู่หน้าสุดไปยื่น Passport ตรงช่องตม.ผู้หญิง คนอื่นๆก็เลยเดินตามค่ะ



ผ่านตม.เสร็จแล้วก็เดินต่อค่ะ ไปที่ Gate L



ต้องนั่งรถไฟไปต่อค่ะ ดีนะคะที่ตัดสินใจเดินมาเลย ถ้าเดิน Shopping แล้วมาตอนใกล้เครื่องออกนี่ มีแนวโน้มตกเครื่องแน่ๆ สนามบินไหนที่ไม่เคยไป ประมาทไม่ได้เลยค่ะ เพราะไม่รู้ว่าไกลขนาดไหน ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายกว่าจะถึง Gate



เดินตามป้ายมาถึง Gate ก็ต้องเอา Boarding Pass มาตรวจตรง Counter นี้ก่อนค่ะ เพราะเรามาจากปราก Boarding pass ไม่ได้ออกจากสนามบินนี้ ที่รู้เพราะลองเอา Boarding Pass ไปยื่นให้เขา เขาก็เช็คๆกับระบบแล้วก็เซ็นชื่อ มีบางคนไม่ได้ตรวจตรงนี้ พอเขาเรียกขึ้นเครื่องก็โดนเจ้าหน้าที่เชิญไปตรวจ Boarding Pass ก่อน



มานั่งรอซักพัก เขาก็เรียกขึ้นเครื่องค่ะ



Business Class มีโปรเหลือ 2 หมื่นกว่าๆแล้วค่อยว่ากัน



เดินผ่านเลยมาจนถึงชั้น Economy ที่นั่งแบ่งเป็น 2-4-2





เครื่อง Take Off ไปได้ซักพัก แอร์ก็เสริ์ฟอาหารค่ะ ได้ก่อนคนอื่นเพราะเลือกอาหาร Seafood ไว้





ระหว่างทางก็หลับบ้าง เล่นเกมส์บ้าง



มาถึง Muscat ตอน 6:40 ค่ะ เดินสโลสเล ไปดู Gate ที่จะต่อเครื่อง





ผ่านการตรวจโลหะ-ของเหลว ของที่ซื้อจาก Duty Free ที่ Munich เขาจะใส่ถุงปิดผนึกอย่างดี ห้ามแกะนะคะ พอเขาหิ้วขึ้นเครื่องแล้วมาถึงจุดตรวจที่ Muscat เขาจะให้เราเปิดกระเป๋าออก แล้วหยิบให้เขาดูว่าถุงปิดผนึกดีมั้ย ถ้าปิดผนึกอย่างดี ก็ผ่านได้ค่ะ ไม่โดนยึดของ ขวดน้ำเล็กๆ ที่แอร์แจกก่อนลงเครื่องเขาไม่ยึดค่ะ ถือไปจิบน้ำได้ ตรวจโลหะ-ของเหลวเสร็จก็เดินไปที่ Gate



ขึ้นเครื่องเวลา 9:00 น.ค่ะ





ที่นั่งจะเป็น 3-3-3 ค่ะ



มีหมอนกับผ้าห่มให้ค่ะ



พร้อมจอ TV ทุกที่นั่ง



เครื่อง Take Off ซักพัก เขาก็เสริฟขนม พร้อมเครื่องดื่มค่ะ



แล้วก็เสริ์ฟอาหาร พวกเราได้อาหารก่อนเช่นเคย เพราะเลือกอาหาร Seafood ไว้





ระหว่างทางก็นั่งชมก้อนเมฆไปเรื่อยๆค่ะ



ใกล้ถึงแล้วค่ะ เครื่องเริ่มลดระดับ เตรียมจะ Landing



เครื่องลงจอดแล้วก็เดินไปพบตม.กัน



หลังจากผ่านตม.แล้วก็มารับกระเป๋าที่สายพาน



แล้วก็เดินมาพบศุลกากรค่ะ เดินออกช่องเขียว เตรียมตัวโดนตรวจกระเป๋าเต็มที่ ใบเสร็จพร้อม ของพร้อม แต่เขาไม่เรียกตรวจ จิ๊บก็ชี้ไปที่กระเป๋าจิ๊บว่าจะสแกนมั้ย เจ้าหน้าที่ก็โบกมือไม่สแกน ซะงั้น อุตสาห์เตรียมตัว



จบแล้วค่ะ สำหรับ Trip ยุโรป ขอบคุณกำลังใจในการทำ Review จากทุกๆคนนะคะ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ 

 



Create Date : 26 มิถุนายน 2562
Last Update : 21 ตุลาคม 2564 6:21:54 น.
Counter : 584 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Journeyjib
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]