มิถุนายน 2562

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
15
16
21
22
23
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
ตอนที่ 6 Review ๛ Eastern Europe ๛ [Fussen] 15 May 2019
15 May 2019

ตื่นเช้ามาก็ลากระเป๋ามา Check Out พร้อมจ่ายเงิน โรงแรมที่นี่ส่วนใหญ่จ่ายเงินตอน Check Out ค่ะ





โรงแรมนี้มีอาหารเช้าด้วยค่ะ คิดรวมอยู่ในค่าโรงแรมแล้ว











อิ่มแล้วก็ฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรมก่อนค่ะ แล้วออกเดินทางกันเลย วันนี้พวกเราจะไป ปราสาท Neuschwanstein กันค่ะ เดินไปที่ป้ายรถบัสที่ลงเมื่อวานนี้



ด้านในสถานีเป็นร้านขายของที่ระลึก ขายหนังสือ และมี counter ขายตั๋วอยู่ค่ะ สามารถซื้อ Bayern Ticket ได้ตรงนี้ค่ะ พวกเราเลยวางแผนว่าจะซื้อตอนเย็นๆ เอาไว้นั่งรถไฟไป Garmisch-Partenkirchen เย็นนี้กัน แต่พวกเราพลาดค่ะ พลาดตรงเราควรซื้อตอนเช้าเลย แล้วใช้เป็นตั๋วขากลับจากปราสาท Neuschwanstein ได้ เพราะ Bayern Ticket ใช้ได้ตอน 9 โมงเช้า ถึง ตี3 ของวันถัดไป ฉนั้นตอนเช้าใช้ไม่ได้เพราะขึ้นรถบัสรอบ 8 โมงเช้า แต่ขากลับใช้ได้ แต่ดันพลาดไม่ซื้อเลย แต่กลับไปซื้อตั๋วรถบัส ไป-กลับ ซะงั้น T-T มารู้ตัวตอนเย็นแล้ว





ขึ้นรถบัสสาย 78 ค่ะ ไปลงปราสาท Neuschwanstein



นั่งรถบัสประมาณ 8-10 นาทีก็มาถึงปราสาท Neuschwanstein แล้วค่ะ





เดินไปแลกตั๋วและจองรอบชมภายในปราสาทกันก่อน





ได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้เขามี Audio เป็นภาษาไทยแล้ว ก็เลยเลือกรอบ 10:05 ค่ะ จะได้มีเวลาแวะไปสะพาน Marienbruck ก่อนด้วย กลัวสายๆแล้วคนจะเยอะ



เอา Mehrtagestickets Bayen / 14-day tickets ที่ซื้อไว้ตอนไป Würzburg Residence ไปแลกตั๋วเข้าปราสาท Neuschwanstein พร้อมกับเลือกรอบการเข้าชมค่ะ



มีรถม้าบริการขึ้นไปบนปราสาทค่ะ ขาไป 7€ ขากลับ 3.5€



เดินเลยมาหน่อย ตรงนี้คือ ปราสาท Hohenschwangau ถ้าจะเข้าชมต้องซื้อตั๋วเพิ่มค่ะ Mehrtagestickets Bayen / 14-day tickets ใช้ไม่ได้



พวกเราใช้บริการรถบัส คิดว่าเดินคงไม่ไหว ฝนตก หิมะตก หนาวมากๆ และมี 1 คนขาเจ็บ



ค่าบริการรถบัส



มีคนยืนรออยู่นิดหน่อย อาจเป็นเพราะยังเช้าอยู่



ยืนรอซักพักรถบัสก็มา



ซื้อตั๋วกับคนขับ



นั่งรถบัสขึ้นเขาประมาณ 12 นาทีก็ถึงจุดลงรถบัสค่ะ จากตรงนี้ต้องเดินไปอีกนะคะ ไม่ใช่ถึงหน้าปราสาทเลย



หิมะกำลังตก หนาวมากๆ เดินๆอยู่ หิมะหล่นใส่หัว แพระ! ตกใจ



ยังเหลือเวลาอีกเยอะกว่าจะถึงรอบเช้าชมภายในปราสาทก็เลยเดินมาที่สะพาน Marienbruck ก่อนค่ะ  ไม่มีคนเลย ไม่มีใครแย่งถ่ายรูป





ถึงว่าทำไมไม่มีคน สภาพแบบนี้นี่เอง มองไม่เห็นปราสาท Neuschwanstein เลย T-T





เดินไปที่ปราสาท Neuschwanstein ก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับมาที่ สะพาน Marienbruck ใหม่อีกรอบ เที่ยงๆอากาศคงจะดีขึ้น ท้องฟ้าคงจะสดใสขึ้น ภาวนาขอให้เป็นอย่างนั้น



ปราสาท Neuschwanstein (นอยชวานสไตน์) สร้างขึ้นในช่วงปี 1869-1886 ตามพระประสงค์ของพระเจ้าลุดวิกที่2 แห่งบาวาเรีย เพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ และอุทิศให้กับ ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชาวเยอรมันและผู้ประพันธ์เพลงโอเปร่าชื่อดัง ที่ประองค์ทรงชื่นชอบอย่างมาก ซึ่งการที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงทุ่มทุนสร้างปราสาทในฝัน เพื่อจะให้ตรงกับบทประพันธ์โอเปร่าของวากเนอร์ ว่าด้วยอัศวินหงส์ขาว โลเฮนกริน และไม่ให้ความหรูหราตระการตาอ่อนด้อยกว่าปราสาทในฝรั่งเศส ทำให้พระองค์ถูกต่อต้านอย่างหนักจากเหล่าขุนนาง ในที่สุดคณะรัฐมนตรีก็ปลดพระองค์จากบัลลังก์ ด้วยข้อหาไม่มีความสามารถในการบริหาร ทั้งยังนำงบประมาณแผ่นดินและเงินในคลังของราชสำนักไปใช้อย่างมหาศาล และต้องกู้เงินมาเพิ่มโดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด .. พระองค์ถูกพาไปประทับแบบจำกัดบริเวณที่ ปราสาทแบร์ก ในแคว้นบาวาเรีย กระทั่งสิ้นพระชนม์อย่างลึกลับในทะเลสาบ ขณะชันษาเพียง 40 ปี
ที่มา : https://travel.mthai.com/world-travel/82626.html





นอกจากฝนและหิมะจะตกแล้ว ด้านหน้ายังปรับปรุงซ่อมแซมอี๊ก เฮ้อ ชีวิต



ด้านหน้าปราสาทมีห้องน้ำฟรีให้เข้าด้วยนะคะ



ใกล้ถึงรอบเวลาเข้าชมแล้ว พวกเราก็มาต่อคิว



ซักพักก็มีเจ้าหน้าที่เรียกให้เข้าทางด้านนี้ แล้วให้เอาเป้ไปสะพายไว้ด้านหน้า



เวลาเข้าชมเขาจะให้เดินไปพร้อมๆกันค่ะ ภายในก็สวยงาม แต่ห้องจะแคบๆ ไม่กว้างขวางเหมือนที่ Munich Residenz จะแบ่งเป็นห้องๆ ห้องบรรทม ห้องทรงพระอักษร ห้องของข้าราชบริพาร ชมเสร็จแล้วด้านในจะมี Café ให้พักดื่มกาแฟ ทานขนมกัน พวกเราก็นั่งพัก เพื่อรอให้ถึงเวลาเที่ยง หวังว่าท้องฟ้าจะปลอดโปร่งบ้าง



เที่ยงแล้วท้องฟ้าคงปลอดโปร่งแล้วหละ เสี่ยงออกไปดูหน่อย



ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่งขึ้นมานิดนึง พอจะมีความหวังกับสะพาน Marienbruck บ้างละ





พวกเราก็เลยเดินไปที่สะพาน Marienbruck อีกรอบ





ระหว่างทางหันกลับไปเห็นภาพปราสาท Neuschwanstein อยู่ด้านหลังแบบนี้ ก็เลยหยุดถ่ายรูป ซักพักก็มีคนมาถ่ายตรงเราถ่ายกันเยอะเลย ก็เลยเดินต่อไปสะพานดีกว่า



เดินมาที่สะพาน Marienbruck คนเยอะเลย เห็นเขากำลังถ่ายรูปกัน เริ่มมีความหวังขึ้นมาละ





เอานะ เท่านี้ก็ยังดี ดีกว่าไม่เห็นอะไรเลย อุตสาห์วาดฝันไว้ว่าจะเอารูปปราสาท Neuschwanstein เป็นภาพหน้าปกในเฟสซะหน่อย คงต้อพับความฝันนี้ไป





ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วก็ เดินกลับมารอรถบัสตรงจุดเดิมค่ะ



นั่งรถบัสลงมาเห็น คนยืนต่อคิวกันเพียบเลย ตอนบ่ายคนก็จะเยอะประมาณนี้





เดินไปเที่ยงตรงทะเลสาบต่อ























เดินกลับมาขึ้นรถตรงจุดเดียวกับตอนลง ระหว่างทางเจอจุดขายบัตร คนไม่เยอะเลยค่ะ แต่ไปเยอะตรงจุดขึ้นรถบัส



ยืนรอซักพัก รถบัสก็มา







นั่งรถบัสมาลงที่สถานี Füssen



เดินไปที่โรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าและพักทานกาแฟ (อีกแล้ว) ที่โรงแรมมีเครื่องกดกาแฟค่ะ อร่อยดี ก็เลยกดกันซะหลายรอบ แก้วละ €1





ซักพัก ก็มีคุณลุง กับคุณป้า ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าของโรงแรมหรือเปล่า เขาเอาขนมมาให้พวกเรา เป็นขนมที่เป็นอาหารเช้าในโรงแรมเมื่อเช้านี้



พวกเราไปเดินไปเมือง Füssen ต่อค่ะ









4 โมงเย็นแล้ว ไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วเดินทางไป Garmisch-Partenkirchen ต่อ



เดินมาถึงป้ายรถบัส กะจะซื้อ Bayern Ticket ปรากฎว่าปิดซะงั้น



ก็เลยเดินหาๆ ว่าจะซื้อจากตรงไหนได้ ก็เลยเดินมาถามร้านนี้ค่ะ เขาบอกซื้อที่นี่ได้



ก็เลยซื้อจากเขาเลย



เนื่องจากการสื่อสารกันที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องซักเท่าไหร่ ก็เลยได้ตารางรถไป Munich แถมมาด้วย 555



แล้วก็เดินมารอตรงฝั่งตรงข้าม



จากการ Search ในเว็บ DB เขาบอกให้ขึ้นรถบัสสาย 74 แต่พวกเราเห็นตรงป้ายรอรถบัสเขียน 74 / 100 ก็เลยคิดว่าสาย 100 ก็คงไปได้ พอรถบัสสาย100 มาพวกเราก็เลยถามว่าผ่าน Reutte มั้ยเพราะต้องไปต่อรถไฟที่นั่น เขาบอกว่าผ่าน แต่ Bayern Ticket ใช้ไม่ได้นะ ต้องซื้อตั๋ว €5 นะ พวกเราก็เลยเอาเหอะ จ่ายๆไปละกัน เย็นมากแล้ว เดี๋ยวไม่มีรถไปจะซวย



ตกลงกันได้แล้วก็ยกกระเป๋าเก็บใต้ท้องรถค่ะ



วิวเมืองนี้สวยมากค่ะ คิดถึงสวิสฯ ขึ้นมาเลยทีเดียว



นั่งรถบัสประมาณครึ่งชม.ก็มาถึง Reutte แล้วค่ะ เมืองนี้อยู่ในเขตประเทศออสเตรีย คือพวกเรานั่งรถบัสมาลงออสเตรีย แล้วนั่งรถไฟกลับไปเยอรมันใหม่ น่ะค่ะ เพราะต้องมาต่อรถไฟที่นี่ ป้ายรถบัสกับสถานีรถไฟใกล้กันมากค่ะ



นั่งรถไฟจาก Reutte ไปลง Garmisch-Partenkirchen





วิวระหว่างทาง คือดีงาม





ประมาณ 1 ชม.หน่อยๆ ก็มาถึง Garmisch-Partenkirchen



รถไฟกำลังจะจุ๊บกัน



มาถึงสถานีรถไฟก็งงๆ โรงแรมอยู่หนใด อยู่ใกล้เกินก็มักจะงงๆ หาไม่เจอ



เดินวนไปวนมา ข้ามฝั่งรถไฟ ไปมาก็เดินมาเจอจนได้ค่ะ





คืนนี้พวกเราจะนอนที่นี่กันค่ะ พรุ่งนี้เดินทางไป Innsbruck ต่อ



ด้านในตกแต่งแนวลอฟๆ



เดินเข้ามา Check In พร้อมจ่ายเงิน โรงแรมนี้จ่ายเงินตอน Check In เลยค่ะ



เป็นเตียงนอนแบบ Twin และ เตียง 2 ชั้น







โรงแรมนี้ส่วนใหญ่นักกีฬาสกีจะมาพักค่ะ เพราะอยู่ใกล้ล้านสกี อยู่ตรงข้ามโรงแรมนี่เอง การตกแต่งเขาก็จะออกแนวๆนี้



นอกหน้าต่างวิวดีมากค่ะ มีภูเขาเป็น Background



เตียง 2 ชั้นมีไฟหัวเตียงเป็นสีๆด้วย



เตียง Twin มีลิ้นชักให้ปลายเตียง



ห้องน้ำจะแยกส่วนกัน อาบน้ำ ส้วม อ่างน้ำ ถึงแม้จะพักรวมกัน 4 คน แต่ไม่ต้องแย่งห้องน้ำกัน เพราะเขาแยกกิจกรรมให้ค่ะ ^^









เริ่มหิวแล้วออกไปหาอะไรทานกันดีกว่า





มาซ้อมเดินไปสถานีรถไฟกันก่อน เพราะพรุ่งนี้เช้าพวกเราต้องลากกระเป๋าไปขึ้นรถไฟ Innsbruck แต่เช้า กลัวไม่ทัน ต้องเดินจากโรงแรมให้ทันภายใน 5 นาที ที่เลือกพักที่นี่ซึ่งจริงๆต้องพักที่ Innsbruck เพราะว่า จาก Füssen มาต้องนั่งรถบัสมาต่อรถไฟ แล้วตามที่ดูในตารางเวลารถในเว็บ DB แล้วปรากฎว่ามีเวลาต่อรถแค่ 3 นาที ทำให้ไม่กล้าซื้อตั๋วรถไฟกลัวต่อไม่ทัน และไม่รู้ว่ารถบัสจะมาทันเวลาหรือเปล่า ก็เลยวางแผนไว้ว่าจะใช้ Bayern Ticket เพื่อความปลอดภัย ซึ่งตั๋ว Bayern Ticket มันสิ้นสุดแค่ Garmisch-Partenkirchen มันไม่มีผลถึง Innsbruck ค่ะ จึงแวะพักที่ Garmisch-Partenkirchen ก่อนแล้วเช้าค่อยนั่งรถไฟไป Innsbruck ต่อ



เดินข้ามไป Supermarket อีกฝั่ง เพื่อไปหาซื้ออะไรกินกัน



แต่ปรากฎว่ามันปิดแล้ว



เดินไปเดินมาเจอ Burger King ยังไม่ปิด



นี่แหละที่พึ่งในยามยากของพวกเรา ซอสมะเขือเทศฟรีเน้อ





ค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้ค่ะ


 
 



Create Date : 13 มิถุนายน 2562
Last Update : 13 กันยายน 2564 14:15:29 น.
Counter : 411 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Journeyjib
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]