แหล่งรวมงานเขียนของ ภ. ม. ภาคิโน PM Pakino
|
||||
ตอนที่ ๔ วิลล่าวัฒนา ตอนที่ ๔ วิลล่าวัฒนา ภายหลังจากที่รัฐบาลได้กราบบังคมทูลอัญเชิญ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลนั้น หม่อมสังวาลย์ (พระยศในขณะนั้นของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) ทรงเลื่อนฐานะขึ้นเป็น พระราชชนนีศรีสังวาลย์ ซึ่งโดยส่วนพระองค์แล้ว ไม่โปรดชื่อนี้เท่าใดนัก นอกจากนี้ ทูลกระหม่อมทั้งสอง คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณิวัฒนา และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ยังเลื่อนขึ้นเป็น เจ้าฟ้า อีกด้วย เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงมีพระชนมายุเพียง ๙ พรรษา รัฐบาลจึงตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อันมีพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพยอาภา (ทรงมีชายานาม หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา และทรงเป็นพระโอรสใน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์) และเจ้าพระยายมราช พระราชชนนีศรีสังวาลย์ ทรงย้ายบ้านจากแฟลตธรรมดา ณ เมืองโลซานน์ ไปเช่าบ้านค่อนข้างใหญ่ ที่ตำบลปุยยี (Pully) ซึ่งอยู่ใกล้กับโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ บ้านนี้มีครัวและสวนขนาดกว้างซึ่งภายหลังได้ใช้จัดงานเลี้ยงอาหารไทยทุกวันเสาร์เย็น โดยสมเด็จ ฯ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้ทรงส่งข้าหลวงในพระองค์มาประจำที่นี่ ๒ ท่าน และรัฐบาลไทยส่งราชองครักษ์และราชเลขาธิการมาประจำด้วย ทั้งนี้ พระราชชนนีศรีสังวาลย์ทรงตั้งชื่อบ้านนี้ว่า วิลล่าวัฒนา (Villa Vadhana) ปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงได้ตั้งชื่อพระตำหนักใหม่ในเขตวังเลอดิสของพระองค์ ที่กรุงเทพ ฯ ว่า พระตำหนักวิลล่าวัฒนา เช่นเดียวกัน หลายคนอาจสงสัยว่า เพราะเหตุใดพระราชชนนีศรีสังวาลย์ หรือสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและทูลกระหม่อมทั้งสามพระองค์ ถึงได้ไปประทับที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คำตอบนี้ต้องย้อนไปช่วงก่อนพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ และทั้งสี่พระองค์ยังทรงประทับอยู่ในประเทศไทย ภายหลังจากที่สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ ทรงสิ้นพระชนม์ ณ พระตำหนักใหม่ วังสระปทุมแล้ว สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นห่วงพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเนื่องจากไม่ทรงแข็งแรง ครั้นแรกทรงดำริที่จะไปประทับในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากทรงมีพระสหายอยู่ที่นั่นมาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร (ทรงมีศักดิ์เป็นพระมาตุลา) ไม่เห็นด้วย เพราะสหรัฐอเมริกาเป็นสาธารณรัฐ ควรไปอยู่ประเทศที่มีเจ้านายราชวงศ์ เช่น อังกฤษ จะดีกว่า แต่สมเด็จ ฯ ทรงไม่โปรดอากาศแบบหนาวจัดที่อังกฤษ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร จึงทรงแนะให้ไปประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ดีกว่า สมเด็จ ฯ ทรงตัดสินพระทัยไปประทับ ณ เมืองโลซานน์ซึ่งเป็นเมืองที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ทรงเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมจากประเทศไทย และเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยทูลกระหม่อมทั้งสามพระองค์พร้อมทั้ง พระพี่เลี้ยงเนื่อง จินตดุล (พระสหายสมเด็จ ฯ ตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์และศึกษาวิชาพยาบาลด้วยกันที่ศิริราช)และบุญเรือน (ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัน เป็นลูกสาวของป้ากับลุงของสมเด็จ ฯ) ไปยังโลซานน์ เมื่อราวต้นเดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๖) นับตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทั้งสี่พระองค์ทรงประทับ ณ โลซานน์ ตลอดเวลา จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๘๑ เป็นการเสด็จโดยทางเรือชื่อ มีโอเนีย หลังจากนั้นจึงทรงเสด็จกลับไปศึกษาต่อ ณ เมืองโลซานน์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เกิดขึ้นพอดี ทำให้การคมนาคมต่าง ๆ ไม่สะดวก จึงไม่ได้เสด็จนิวัติประเทศไทยอีกเป็นเวลานาน จนกระทั่งสงครามโลกสงบลง เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘ จึงทรงเสด็จนิวัติประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุ ๒๑ พรรษา โดยมีหมายกำหนดการเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่ออีกครั้งกลางเดือนมกราคมปีถัดไป ทว่าทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย จึงทรงเลื่อนหมายกำหนดการดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงสถาปนาพระราชชนนี ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณิวัฒนา ขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช พระราชกรณียกิจที่สำคัญประการหนึ่งที่เห็นควรนำมาเผยแพร่ นั่นคือ การเสด็จเยือนสำเพ็ง อย่างเป็นทางการ ในวันที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๘๙ เพื่อทรงประสานรอยร้าวระหว่างชาวไทยกับชาวจีนซึ่งครานั้นเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นเป็นจำนวนมาก ที่เรียกว่า เลี๊ยะพะ กลายเป็นสงครามกลางเมืองย่อม ๆ ความทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงทรงให้ออกหมายกำหนดการเสด็จเยือนสำเพ็ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอและสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ สร้างความยินดีแก่พสกนิกรชาวไทยและชาวจีนที่ค้าขายร่วมกันเป็นจำนวนมากในบริเวณนั้น และเตรียมการรับเสด็จอย่างใหญ่โตยิ่งนัก ตลอดระยะทางกว่า ๓ กิโลเมตรที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินนั้น ทรงใช้เวลาถึง ๔ ชั่วโมง ตรัสไต่ถามทุกข์สุขของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จนสามารถยุติความบาดหมางและเกิดความสงบขึ้นในที่สุด ก่อนที่เหตุการณ์อันวิปโยคที่สุดบนผืนแผ่นดินไทยจะคลืบคลานเข้ามา สมเด็จพระราชชนนี เคยตรัสเล่าให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร ฟังว่า หมอดูฝรั่งเคยทายไว้ว่า พระเชษฐาจะไม่ได้สวมมงกุฎ มงกุฎจะตกอยู่ที่พระอนุชา สร้างความกังวลพระทัยให้สมเด็จ ฯ ยิ่งนัก |
PeeEm
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีครับ ผมชื่อ ภาคิน มณีกุล ครับ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บริษัท ลานนาโปรดักส์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตวาซาบิรายใหญ่ของประเทศ งานอดิเรกของผม นอกจากส่วนใหญ่จะเล่นกีฬา คือ ปั่นจักรยานและเล่นแบดมินตัน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์และชอบเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อถ่ายรูปหรือพักผ่อนแล้ว ผมยังชอบเขียนบทความ เรื่องสั้น และนวนิยายอีกด้วยครับ เพื่อน ๆ คนไหนเข้ามาอ่านก็สามารถติชมได้นะครับ ขอบคุณครับ
Group Blog
All Blog |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |