--but life goes on, and this old world will keep on turning--
อุ่นไอ..ในคืนหนาว(1)

-1-
กรุงโกเบ ประเทศญี่ปุ่น

11 ธันวาคม 2545 01.52น.


ลมหนาวที่พัดวู่หวิวอยู่ภายนอกทำให้บานหน้าต่าง ที่แม้ว่าจะปิดสนิท กระทบกันเป็นเสียงดังกึงๆ อยู่ตลอดเวลา หญิงสาวที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับจอคอมพิวเตอร์ถอนใจ บิดตัวอย่างเมื่อยขบ เงยหน้าขึ้นดูนาฬิกาที่ผนังก่อนจะครางออกมาเบาๆ

"ตีสองแล้วเหรอเนี่ย.."

งานยังไม่เสร็จ พรุ่งนี้จะเอาอะไรไปส่งอาจารย์ละนี่ แถมยังปวดหัวรุมๆ เพราะฤทธิ์ของลมหนาวที่กรรโชกแรง ยิ่งมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่บนภูเขาเสียด้วย ถ้าเดินไปเรียนโดยไม่ใส่หมวกและผ้าพันคอแล้วละก็ ได้กลับมานั่งปวดหัว เจ็บคออยู่อย่างนี้ทุกทีไป

แต่เธอก็ยังลืมอยู่ทุกที

ฤดูหนาวของเมืองนี้แม้ว่าอุณหภูมิจะไม่ต่ำเท่าฝั่งตะวันออกของประเทศ ที่เธอเคยอยู่ก่อนจะย้ายมาเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ก็จริง หากลมหนาวที่พัดแรงอย่างร้ายกาจก็ทำให้รู้สึกหนาวไม่น้อยไปกว่ากัน หรืออาจจะหนาวมากกว่าอีกฝั่งเสียอีก


สิชลชงกาแฟ เพื่อที่จะกลับมานั่งหน้าจคอมพิวเตอร์อย่างเหงาๆ อีกครั้ง เหงา หนาว เครียด นี่คงเป็นความรู้สึกเบื้องต้นของคนที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนเลยกระมัง ทำไมเธอถึงไม่ชินเสียทีนะ อยู่มาตั้งหลายปีแล้ว

สายตาเหลือบไปเห็นรูปของใครคนหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่หัวเตียง รูปของเธอกับชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดลำลองสบายๆ ยืนคู่กัน ฉากหลังเป็นฟ้าใสๆ กับหาดทรายริมทะเลชะอำ อยู่ในกรอบรูปเซรามิคส์สีหวาน ซึ่งตั้งอยู่ตรงนั้นมาหลายปีแล้ว แม้ว่าคนในรูปจะไม่ได้เป็น"คนรู้ใจ" ของเธออีกต่อไป แต่เธอก็ยังยินดีที่จะปล่อยให้มันตั้งอยู่อย่างนั้น นานนักแล้ว

เพราะเขายังคงเป็น..คนที่อยู่ในใจเธอ..เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ยังไม่เคยมีใครเข้ามาแทนที่เขาเสียที ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร น้ำใสๆ ทำท่าจะรินหยดออกจากปลายตาอีก เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เธอเหงา และได้เห็นภาพนั้นอยู่ในสายตา..


คอมพิวเตอร์ส่งเสียงบอกว่ามีใครคนหนึ่งเรียกเข้ามา ที่มุมล่างของจอปรากฎชื่อใครคนหนึ่งกับรูปหน้าเซ็งๆ หญิงสาววางถ้วยกาแฟ คลิกเมาส์โดยไม่รอช้า การคุยกับใครสักคนตอนนี้อาจทำให้สมองที่ตื้อตันเริ่มทำงาน หรือทำให้หายเหงาลงบ้างก็ได้

"ทำอะไรอยู่ป่านนี้" ฝ่ายนั้นพิมพ์มา

"ทำรายงาน" เธอต่อด้วยรูปหน้าเซ็งๆ บ้าง "เวย์ทำอะไร"

"เพิ่งกลับ ไปกินเหล้ามา"

"กลับตอนตี2 เนี่ยนะ หอเธอเค้าให้เข้าเหรอยะ"

"นี่ หอชายนะ เปิด24 ชม.ว้อย"

"แล้วมีรถไฟกลับเหรอ" เธอพิมพ์ต่อไปเรื่อยๆ หยดน้ำตาเมื่อครู่แห้งเหือดไปแล้ว

"ปั่นจักรยานไป"

"บ้า หนาวตาย"

"กินเหล้ามาตั้งเยอะ ยังร้อนท้องอยู่เลย ไม่หนาว" ต่อด้วยหน้าตายิ้มขยิบตา

"นึกยังไงไปกินเหล้านะ" เธอถาม คราวนี้อีกฝ่ายเงียบไปนาน ก่อนจะพิมพ์ตัวใหญ่เป็นพิเศษ

"อกหัก" ตามด้วยใบหน้าร้องไห้สามอันติดๆ กัน

"จากใครยะ นี่แอบไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่" เธอถามอย่างไม่เชื่อนัก รู้จักอีกฝ่ายดีเนื่องจากเป็นเพื่อนที่เดินทางมาเรียนต่อที่นี่พร้อมกัน เรียนร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนภาษา จนเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายด้วยกัน รวมแล้วเกือบห้าปี สนิทสนมกันจนแทบจะเรียกได้ว่า รู้ไส้รู้พุง เพิ่งจะมาแยกกันก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่เอง


ณุศรออกจะเป็นคนร่าเริง สนุกสนานเฮฮาก็จริง หากก็ได้แต่เฮฮาไปวันๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะจีบ หรือแม้แต่จะไปถูกตาต้องใจใครจริงจัง แม้ว่าจะมีสาวๆ มาหลงกรี๊ด เพราะความคมเข้มของหน้าตา ที่ต่างจากคนที่นี่อยู่มากก็ตาม เธอจึงคิดว่าฝ่ายนั้นคงจะล้อเล่นเสียมากกว่า

"คนในคลับ ดูรูปมั้ยล่ะ" ฝ่ายนั้นส่งไฟล์มาให้ก่อนที่เธอจะตอบรับเสียอีก

สิชลกดรับรูปนั้น ก่อนจะเปิดออกดู เป็นรูปคู่ที่คนเป็นเพื่อนถ่ายกับสาวญี่ปุ่นหน้าใสคนหนึ่ง
"น่ารักดี" เธอบอกไปสั้นๆ

"เค้ามาชอบเรา" ฝ่ายนั้นตอบกลับมารวดเร็ว สิชลยิ้มออกมาอย่างหมั่นไส้

"โม้" ตามด้วยหน้าล้อเลียน

"จริงเว้ย" หน้าโกรธห้าหน้าติดๆ กัน

"ไม่เชื่อ แล้วทำไมอกหัก"

"ก็พอเป็นแฟนกัน เค้าก็ทิ้งเราอะดิ"

"อ้าว"

"จริงๆ นี่เพิ่งเลิกไปเมื่อวาน" หน้าร้องไห้อีกสามหน้า เว่อร์จริงๆ

"ไม่เห็นเคยเล่า" เธอกับอีกฝ่ายเจอกันในนี้เกือบทุกวันแท้ๆ

"ก็เพิ่งเป็นแฟนกันได้อาทิตย์เดียว"

"หา 555" รอยยิ้มเริ่มกลับมาสู่ริมฝีปาก โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ไอ้เวย์เอ๊ย

"ไม่ต้องมาหา พอเราชอบเค้า เค้าก็ทิ้งเรา ผู้หญิงใจร้ายทั้งโลกเลย" ร้องไห้อีกแล้ว

"นี่ซีเรียสเหรอ" เธอชักเป็นห่วง

"ซีเรียสซิ ผู้หญิงใจร้าย เกลียดผู้หญิงจริงๆ เลย" ร้องไห้อีก

"นี่อย่าเหมาดิ้ ผู้หญิงดีๆ ก็มีย่ะ" เธอชักโมโห

"ไปอยู่ไหนกันหมดล่ะ คนดีๆ น่ะ" คราวนี้หน้าโกรธเชียว

"เรานี่ไงคนดี 5555 สมน้ำหน้า ถูกทิ้ง"

"เหอะ ! นั่นไง ใจร้าย " ฝ่ายนั้นตอบมาพร้อมรูปหน้าเซ็งๆ ก่อนจะเงียบไป


สิชลเปิดหน้ารายงานขึ้นมาพิมพ์ต่ออย่างอารมณ์ดีขึ้น เหมือนกับทุกครั้งที่คุยกับเขา จนบางครา เธอยังอดถามตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมถึงไม่รักผู้ชายคนนี้นะ

ทั้งที่เธอกับเขาก็เข้ากันได้ดี คุยกันสนุกได้ทุกเรื่อง รับรู้ทุกความทุกข์ ความสุขของกันและกันมานาน ถ้าเธอร้องไห้ ก็เป็นเขานั่นแหละที่ปลอบโยน แม้ว่าจะคล้ายคลึงไปทางการเยาะเย้ยเสียมากกว่า และเมื่อเขาทุกข์ใจ ก็เป็นเธอที่รับฟัง เพื่อจะขัดคอ ประชดประชันต่างๆ นานา จนเขาหัวเราะได้

เธออาจจะยังกลัวกับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ ด้วยความรักที่ผ่านไปทำให้เธอแทบล้มลงทั้งชีวิตความเจ็บปวดที่ยังจารจำ ราวกับเป็นบทเรียนว่าเธอไม่ควรทุ่มเทให้กับความรักอีกต่อไป

"ไปอาบน้ำมา ค่อยอุ่นหน่อย" ฝ่ายนั้นกลับมาในที่สุด คงอารมณ์ปกติขึ้นแล้วละซิ

"ไม่ได้ถามย่ะ" สิชลเริ่มสนุกกับการต่อปากต่อคำ

"ก็จะบอก มีไรมั้ย นี่เมื่อวานที่นี่หิมะตก"

"เธอบอกชั้นแล้ว ที่นี่ไม่ยักตกมั่งนะ"

"ที่โน่นหนาวมั้ย อุ่นกว่าที่นี่ซิท่า"

"ลมแรงมากกว่า แต่คงไม่ถึงกับหิมะตกหรอก"

"อาบน้ำแล้วตาสว่าง หายง่วงแฮะ" เขาส่งหน้ายิ้มมาอีกสามอัน

"แต่เราง่วงว่ะ งานยังไม่เสร็จเลย ยากจัง" หน้าร้องไห้ คอยดูนะ เดี๋ยวมันก็เสนอตัวช่วย

"งานอะไร ช่วยมั้ย" นั่นไง

"ไม่ต้อง ชั้นขี้เกียจแก้ย่ะ คราวก่อนโจทย์เคมีก็ทีนึงแล้ว ไม่รู้ก็อย่ามั่วซิ" เล่นตัวไว้ก่อน

"นั่นมันผิดพลาดทางเทคนิคว้อย" หน้าโกรธอีกแล้ว ก่อนจะถามมาอีก

"ตกลงงานอะไร เอามาดิ เดี๋ยวช่วย"

"งานคอม" เธอส่งหน้าที่ทำอยู่ไปให้ ฝ่ายนั้นหายไปครู่หนึ่งก็ตอบกลับมา

"ง่ายๆ แค่นี้ก็ทำไม่ได้ โด่เอ๊ย" นึกแล้วว่ามันต้องว่าอย่างนี้

"นี่ ก็เธอมันวิดวะคอมนี่ยะ ชั้นน่ะวิดยานะ" เธอตอบกลับไปอย่างแค้นๆ

"เดี๋ยวทำให้ คุยไปดิ้ เดี๋ยวเราทำไปด้วย"

"คุยอะไร" สิชลบิดขี้เกียจ มีคนทำให้ก็ดีแล้ว ฝ่ายนั้นน่ะ รับรองใช้เวลาไม่เกินสิบนาที

"อะไรก็ได้"

"นึกไม่ออก" เธอตอบส่งๆ คลิกหาเวบฟังเพลง หาเพลงฟังเล่นอย่างสบายอารมณ์

"เรื่องพี่โตก็ได้" จู่ๆ ฝ่ายนั้นก็พิมพ์กลับมา หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง สิชลชะงักกึก ถามอย่างหงุดหงิดหน่อยๆ

"บ้าเหรอ อยู่ดีๆ ถามขึ้นมาทำไม"

"เห็นหลังๆ นี่ไม่บ่นถึงเลย ลืมได้แล้วเหรอ"

"เออ" เธอตอบอย่างรำคาญ ไอ้เวย์บ้า ทำเสียอารมณ์หมด

"ไม่เชื่อ" อ้าว ไหงพูดม้าๆ งี้ล่ะ

"อะไรวะ" เธอส่งหน้าโกรธไปให้ด้วย

"ร้องไห้คิดถึงเค้าอยู่แหงๆ เลย รู้หรอก" กระบวนเยาะเย้ยคน ไม่มีใครเกินตานี่หรอก

"ป่าวเว้ย อย่ามั่ว" เธอตอบกลับ ทั้งๆที่เมื่อครู่ก็น้ำตาซึมอยู่หยกๆ

"แล้วตอนนี้ไม่แอบปลื้มใครมั่งเหรอ" หนอย เห็นชั้นเป็นคนบ้าผู้ชายรึไง

"ไม่"

"จริงอ้ะ"

"เออซิ"

"แล้วมีใครมาจีบมั้ย" ก่อนที่เธอจะพิมพ์ตอบ ฝ่ายนั้นก็พิมพ์มาอีก

"ไม่มีชัวร์ๆ ฮ่าๆๆๆ ไม่น่าถามเลย"

"ทุเรศ ทำงานไปเลยไป ไม่ต้องมากวนทีน" สิชลเข่นเขี้ยวพลางพิมพ์พลาง

"ด่าเราอีกแล้ว เห็นมั้ย ผู้หญิงใจร้าย" คราวนี้หน้าร้องไห้ติดกันเป็นพืด ก่อนจะเงียบหายไปอีก


สิชลหันมาดาวน์โหลดเพลงต่อ ขี้เกียจทำแล้วงาน ให้นายเวย์ทำให้นั่นแหละดีแล้ว แปลกใจนิดหน่อยที่ฝ่ายนั้นถามถึงอดีตคนรู้ใจของเธอขึ้นมาในวันนี้ เพราะปกติเขาแทบจะไม่พูดถึง ขนาดเธอบ่นขึ้นมาก่อน เขายังทำท่ารำคาญ ตอบมาด้วยถ้อยคำประเภท
"โอ๊ย น่าเบื่อ ไม่มีเรื่องคุยที่มันจรรโลงใจกว่านี้รึไง"

ฝ่ายนั้นหายไปนาน ดูเขาจะใช้เวลาทำงานให้เธอนานผิดปกติคนอย่างเขาไปหน่อยแล้ว อย่างนี้ต้องเยาะเย้ย สิชลพิมพ์ข้อความต่อไปทันที

"เสร็จยัง ง่วงแล้วนะ ช้าจัง ทำไม่ได้ละซิ"

"เสร็จตั้งนานแล้ว" ฝ่ายนั้นส่งไฟล์กลับมาให้

"แล้วก็ไม่บอก" เธอส่งหน้าโกรธตามไปติดๆ

"รอให้ดิวร้องไห้เสร็จก่อน" อะไรของมันนะ

"ไม่ได้ร้อง เอ๊ะ พูดไม่รู้เรื่องเหรอ ไม่ต้องมาหาเพื่อนอกหักเลยนะ เราลืมเค้าไปตั้งนานแล้ว" เธอพิมพ์ยาวเหยียดอย่างฉุนๆ

"ลืมไปแล้วจริงๆ เหรอ" ตามด้วยหน้าขยิบตา

"เออ ลืมไปเป็นชาติแล้ว จะทำไม"

อีกฝ่ายหายไปนาน ก่อนจะพิมพ์กลับมาเป็นตัวโตสีชมพูว่า

"งั้นให้โอกาสเราได้มั้ย" ตามด้วยรูปหัวใจอีกหลายดวง

"จะบ้าเหรอ" สิชลตอบกลับไปอย่างตกใจแกมงง

"เมารึเปล่า ไปนอนไป"

ฝ่ายนั้นตอบกลับมาด้วยหน้าร้องไห้ ก่อนจะตามมาด้วยอักษรตัวใหญ่ สีแดงจ้า

"ใจร้าย"

สิชลหัวเราะพรืดออกมาอย่างอดไม่อยู่ เมาแน่ๆ ไอ้เวย์

"ไปนอนซะ แต๊งกิ้วนะที่ช่วยทำงาน"

"แล้วดิวยังไม่นอนเหรอ" ตัวหนังสือกลับมาเป็นปกติแล้วตอนนี้

"โหลดเพลงอยู่ พรุ่งนี้เราเรียนบ่ายน่ะ ตื่นสายได้" เธอตอบด้วยหน้ายิ้มอีก

ฝ่ายนั้นส่งรูปริมฝีปากจูบมาให้ สิชลขมวดคิ้วอย่างทั้งขันทั้งรำคาญ ตอบไปสั้นๆ

"ไป๊"

ฝ่ายนั้นก็ยังส่งจูบมาอีก

"ไป๊"

มาอีกหนึ่งจูบ

"ไป๊ ไปนอน"

คราวนี้มาสามจูบเลย เอาเข้าไป

"ไป๊ ไป๊ ไป๊"

ฝ่ายนั้นส่งหน้าโกรธตามมาทันที

"เอามา"

"เอาอะไร" เธอชักรำคาญจริงๆ กะจะลุกไปชงกาแฟอีกแก้วซะหน่อย

อีกฝ่ายส่งรูปจูบมาอีก ตามด้วยคำเดิม

"เอามา"

อ้อ เธอเพิ่งเข้าใจ จะเอาจูบเหรอ

"ไม่ให้"

"ใจร้าย" ตามมาด้วยหน้าโกรธสามอัน

"ไม่ให้ ฮ่าๆ" เธอไม่ยอมแพ้

คราวนี้ฝ่ายนั้นส่งหน้าร้องไห้มาติดๆ กัน ต่อด้วย

"เอามา แค่ส่งมาก็จะไปนอนแล้ว"

"ไม่ให้เว้ย"

"เอามา" ร้องไห้อีกแล้ว

"ไปนอนไป๊" เธอส่ายหน้าอย่างขันๆ

"ไม่นอน ไม่ให้ก็ไม่นอน" ไอ้เพื่อนคนนี้โรคจิตแน่ๆ

"ไม่ให้" เธอบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงไม่ยอมๆ ไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

"ใจร้าย" ฝ่ายนั้นตอบกลับมาอีก สิชลหัวเราะ นึกภาพออกว่าอีกฝ่ายคงทำท่างอนๆ อยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นแน่


สุดท้ายเธอก็ส่งจูบตอบไปจนได้ ไม่รู้หรอกว่าหน้าตัวเองเป็นสีชมพูขึ้นมาจางๆ

"ไปนอนซะ" เธอส่งรูปพระจันทร์เสี้ยวตามไปอีก

ฝ่ายนั้นส่งรูปรอยยิ้มกว้างขวางมาให้

ตามมาด้วยรูปหัวใจ

ดอกไม้

จูบ

ดวงดาว

พระจันทร์

ก่อนจะลงท้ายด้วยประโยคสั้นๆ ที่ทำให้สิชลต้องเบิกตากว้าง

"ฝันดีนะ คิดถึงดิวมากจ้ะ"


ฝ่ายนั้นออฟไลน์ไปแล้ว แต่สิชลยังนั่งนิ่งๆ มองบทสนทนาเมื่อครู่อยู่ชั่วอึดใจ กระพริบตานิดหนึ่ง ก่อนจะย้อนกลับไปอ่านใหม่ด้วยความรู้สึกแสนแปลก

สุดท้ายก็คลิกเซฟบทสนทนานั้นไว้ โดยที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะเธอกับฝ่ายนั้นคุยกันทางอินเตอร์เน็ตแทบจะทุกวันก็ว่าได้ เนื่องจากออนไลน์ในเวลาเดียวกันเสมอ บางวันก็นั่งคุยกันทีละหลายๆ ชั่วโมง โดยที่ทำงานไป เถียงกันไปด้วยตลอด

ความรู้สึกขันๆ แกมรำคาญเมื่อครู่กลายเป็นความรู้สึกปลอดโปร่ง อ่อนหวานในอารมณ์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมานานนักหนา ละอองไอบางอย่างหลั่งริน เป็นไออุ่นในหัวใจเหงาๆ ที่กำลังจะร้องไห้เพราะทนเหงาอีกต่อไปไม่ไหว..
อย่างน้อย.. เธอก็ไม่ต้องร้องไห้แล้ว สำหรับคืนนี้

รู้อยู่หรอกว่าคนเป็นเพื่อนคงจะเมา เลยเล่นอะไรแผลงๆ ไปอย่างนั้นเอง หญิงสาวบอกตัวเองเช่นนั้น รู้ดีว่าเขาคงไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าจะล้อเธอเล่น

แต่มันก็เป็นความอบอุ่นในหัวใจ อย่างที่เธอไม่เคยได้รับมาแสนนาน สิชลฮัมเพลงเบาๆ เมื่อคลิกเซฟงานทุกอย่างที่ทำไว้ นอนก่อนดีกว่า เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาทำต่อ

หากก่อนจะชัทดาวน์ระบบ ใครคนหนึ่งก็ไซน์อินเข้ามา เธอคลิกเรียกทันที ก่อนที่สมองจะสั่งการเสียอีก

"ลืมอะไรเวย์"

ฝ่ายนั้นส่งรอยยิ้มล้อๆ กลับมา ก่อนจะพิมพ์ข้อความ

"ลืมถามว่าปีใหม่ดิวจะมาโตเกียวรึเปล่า"

"ไม่ไป ทำไมเหรอ" เธอถามกลับ

เขาส่งรอยยิ้มมาอีก

"งั้นจะว่าอะไรมั้ย ถ้าเราจะไปหาที่โน่น"

สิชลไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังยิ้ม ด้วยใบหน้าที่เป็นสีจัดขึ้นมาในวินาทีนั้น เมื่อพิมพ์ตอบ

"ไม่ว่า"

"งั้นวันที่23เจอกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปจองตั๋วรถไฟ"

เธอไม่ต้องตอบ เพราะฝ่ายนั้นไซน์เอาท์ไปแล้ว หลังจบประโยคด้วยรูปหัวใจสีแดงเจิดจ้า



หญิงสาวสอดตัวเข้าในผ้าห่มผืนหนาที่แสนอุ่น รอยยิ้มยังคงระบายอยู่ทั้งใบหน้า ภายในผ้าห่มอุ่น แต่มันคงไม่เท่าความอบอุ่น อ่อนหวานในใจเธอขณะนี้

บางที.. บางทีพรุ่งนี้เธอจะลองค้นใจตัวเองดูสักที ว่ายังมีใครคนเดิมอยู่อย่างวันที่ผ่านๆ มาหรือเปล่า..

หรือว่าเป็นใครอีกคนที่ทำให้หัวใจเธออุ่นอย่างตอนนี้..

สิชลหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้ม กับความรู้สึกแสนแปลกที่ซ่านซึมไปทั้งใจ

โดยไม่ได้มองดูรูปที่ตั้งไว้ที่หัวเตียงอย่างเดิมเคยด้วยซ้ำ..



03.48น. วันเดียวกัน



Create Date : 25 มิถุนายน 2551
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 22:57:59 น. 0 comments
Counter : 326 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โยษิตา
Location :
Kobe Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนไทย แต่ระหกระเหินมาใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่ประเทศหมู่เกาะประเทศหนึ่ง กินเวลาสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่ (โถ่)

เป็นคนจับจดมาก อยากทำไปทุกอย่าง แต่ทำไม่ได้ดีซักอย่าง รู้น้อยกว่าเป็ด ควรจะเรียกว่ารู้อย่างลูกเป็ด หรือไข่เป็ด

ที่แน่ๆ ชอบอ่านกระทู้พันทิป มากถึงมากที่สุด



Longer - Dan Fogelberg
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
25 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add โยษิตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.