diary นี้เพิ่งมาทำย้อนหลัง เลยจำรายละเอียดไม่ครบถ้วน
จึงบอกไว้ตรงนี้
...................................................
.................... เริ่มบันทึกการเดินทาง ...............................
เย็นวันที่ 2กพ.
เราเตรียมกระเป๋าเดินทาง
โดยมีกำลังใจคือคุณน้อยหน่า ที่นอนเฝ้าเราตลอดเวลา
น้อยหน่า จะไม่ชอบกระเป๋าใหญ่สีแดงใบนี้
เพราะทุกครั้งที่เราหยิบออกมา หมายถึงเราจะไม่อยู่บ้านหลายวัน
เมื่อต้นปีเราก็เพิ่งไปญี่ปุ่นมาเกือบ 10วัน
น้อยหน่ามารอส่งเราขึ้นรถ ^^
ประมาณเที่ยงคืน พี่ชายและพ่อมาส่งที่สุวรรณภูมิ
พอมาถึง เราก็หาทำเลที่ชั้น4 พักผ่อนรอเวลาตี5
เพื่อเคาเตอร์เช็คอินเปิด
มีอาหาร หนังสือ มือถือ และ เครื่องนอนมาเรียบร้อย
จับจองพื้นที่หน้า gate ที่ต้องเช็คอินเลย
มีเพื่อนชาวเกาหลีอยู่เป็นเพื่อนอีกเพียบ
พอเกือบตี2 เราก็ตีตั๋วนอนละ
ไม่อันตราย เพราะมีเพื่อนผู้หญิงรวมนอนเยอะแยะ
แต่ต้องระวังกระเป๋าส่วนตัว เราก็นอนทับไว้
ส่วนกระเป๋าเดินทางเราก็เอามาหนุนหัวเพื่อความสบายใจ
เวลาตี4ปลายๆเราก็ตื่น เพื่อรอเช็คอินตั๋ว
เคาเตอร์การบินไทย จะเปิดเช็คอินตั๋วรวมทุกเที่ยวบิน
เพราะงั้นแถวยาวจ้าถ้ามาช้า (สมัยนั้นยังโง่อยู่ ไม่ได้ทำเช็คอิน online )
ก็เข้าแถวรอไปซิ
ในแถวก็มีคนอินเดียเยอะมาก
กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเค้า ทำเอาเราเวียนหัวเลยละ
เมื่อโหลดกระเป๋าเรียบร้อย
ก็ได้เวลาสบายตัว ก็เลยไปหาอาหารเช้าทานรองท้องเสียหน่อย
เพราะกว่าจะได้ทานบนเครื่องก็คง 8 โมงเช้าโน้น
เลือกร้านเดิมคือ S&P กินข้าวต้มเบาๆ
ทานข้าวต้มเสร็จ
ก็เข้าด่านตม.เพื่อไปที่ gate
เราซื้อลิปสติก chanel มาแท่งนึง ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ^^
โชคชะตา หรือ พรหมลิขิตนะ
ที่ทำให้ฉันได้นั่งกับหนุ่มหล่อคนนี้ ชาวอินเดีย - -"
โชคดีที่น่าจะเป็นอินเดียรุ่นใหม่ที่กลิ่นตัวไม่มีเลย
แถมสุภาพด้วย ไม่เอะอะเหมือนอินเดียคนอื่นๆในเครื่อง
ลำนี้คนอินเดียปาไปค่อนลำ งงเลย
ฉันนึกว่ากำลังจะบินไปบอมเบ 55
ได้นั่งริมหน้าต่าง ฝั่งพระอาทิตย์สาดแสง
แสงจ้ามาก แต่ก็สวยมาก
พอเครื่องขึ้น แอร์ก็เสริฟน้ำดื่ม
เรารับน้ำแอ๊ปเปิ๊ลเหมือนเคย
ดื่มเครื่องดื่ม
ชมวิวสวยๆไปด้วย
จากวิวภายนอกที่เห็น เทียบกับหน้าจอตำแหน่งเครื่อง
คาดว่าแม่่น้ำสายนี้คือ แม่น้ำโขง ^^
เครื่องเข้าเขตเวียดนาม เกือบถึง
นาดัง ก็เริ่มเสริฟอาหารเช้า
มีให้เลือกคือชุด breakfast
และ ข้าวอะไรสักอย่างนี่ละ
เราเลือกชุด breakfast เพราะชอบกินไข่ออมเล็ต
ออมเล็ตที่ชื่นชอบ
แต่ไม่ชอบของการบินไทย
เพราะมันค่อนข้างแข็ง ไม่นุ่มนิ่มแบบที่เราชอบกิน
แต่ยังไงก็จะกิน เพราะชอบกินไข่ออมเล็ต
อิ่มแล้วก็พักผ่อนซิ เก็บแรงไว้เดินเที่ยวคนเดียว
จัดเต็มเครื่องเนอน
นอนแป๊ปเดียวก็ใกล้ land แล้ว
มองลงไปเห็นเกาะต่างๆ เห็นเรือ ก็แสดงว่าจะถึงละ
พอเครื่องลงก็ไม่ได้ถ่ายรูปละ
เพราะยุ่งๆกับขั้นตอนต่างๆ
ไปคนเดียวด้วยไม่อยากเปรี้ยวถ่ายโน้นถ่ายนี้
เดี๋ยวเกิดมีปัญหาจะยุ่ง ^^
การผ่านตม.ก็เรียบร้อยดี แอบลุ้นเล็กๆ
เพราะผู้หญิงไทยไปคนเดียวอาจโดนเรียกได้
ออกจากสนามบิน
ก็นั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง
มาต่อ shutter bus เข้าที่พัก
รถจอดด้านหลังรร.ที่พักเลย
เราพักที่ รร.YMCA ตรงริมแม่น้ำเลย วิวดีสุดๆ
เช็คอินห้องพักได้รับข่าวดีคือ ได้อัพเกรดห้องพักเป็น... ห้องสวีทจ้า
ห้องวิวดีมาก เป็นห้องหัวมุม
เห็นการแสดงแสงสีเสียงโอเป่ร่าจากในห้องเลย
แต่ แต่ แต่ ..... นอนคนเดียวจ้า
น่ากลัวกว่าเดิมเพราะห้องใหญ่ 55
ที่สำคัญคือรูปถ่ายห้องพัก หาไม่เจอละ หายหมด
เหลือแต่รูปผลไม้ต้อนรับภาพนี้ภาพเดียวเลย (แอบเสียใจ)
เก็บของเสร็จก็ลงไปเดินเล่นใกล้ๆรร.
ซึ่งเป็นแหล่งช๊อปปิ้งอยู่แล้ว มีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง
ออกตัวก่อนว่า ..... วันแรกนี้เราถ่ายรูปน้อยมาก
เพราะไม่อยากอวดตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยว ด้วยว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกลัวจะไม่ปลอดภัยนัก
ทำตัวเนียนๆเป็นชาวฮ่องกงปลอดภัยกว่า
เดินเล่นสักพักก็หิว เลยแวะกินข้าว
เป็นร้าน fastfood แบบอาหารท้องถิ่น
จำชื่อร้านไม่ได้แต่มีสาขาเยอะ เมนูอาหารหลากหลายดี
ที่สำคัญคือคนท้องถิ่นกินกันเยอะ เป็นแนวบริการตัวเอง
เราสั่งข้าวหน้าไก่+เป็น และเครื่องดื่ม
อาหารอร่อยใช้ได้เลย ราคาจำได้ว่าไม่แพงด้วยละ
นั่งกินไปชมวิวถนนนาธานไปด้วย
เมื่อกินเสร็จก็เดินเล่น ซื้อของเล็กๆน้อยๆจนเกือบค่ำ
ก่อนเข้ารร.แวะ supermarket .... กอบโกยเสบียงเพื่อมื้อค่ำ
ถึงห้องพัก ก็พักผ่อนจนหิวมื้อค่ำก็จัดเลยตามนี้
กินไป ชมโชว์แสงสีแสงโอเป่ร่าจากห้องพักได้เลย
อาหารก็อร่อยตามสภาพ
มีเรื่องน่าระทึกเล็กน้อย
สัก4ทุ่มมั้งมีคนมาเคาะประตูจ้า
เรากำลังอาบน้ำอยู่ก็เลยไม่ได้ออกมา สักพักก็เคาะอีกเราก็กลัวซิ
เพราะไปส่องตาแมวแล้วไม่เห็นใคร
อะไรหว๋า คนหรือผี
ตอนนี้ผีไม่กลัวละ กลัวคนมากกว่า
เพราะเราพักคนเดียว พนักงานรู้ว่าเราพักคนเดียว คิดฟุ้งซ่านไปหมดเวลานี้
ก็พยายามล๊อคให้แน่นหนา
สักพักใหญ่ มีโทรศัพท์เข้าห้อง
ปลายสายพูดภาษาอังกฤษว่า ... มีกระเป๋ามาส่ง
(อีเวร ... ตะโกนในใจ) ... แล้วตอบกลับไปว่า .... No .... แล้ววางหูเลย
แล้วรีบเข้านอนล๊อคประตู 2 ชั้นเลยครานี้
เพราะห้องสวีทมีห้องนอนแยกห้องออกไปล๊อคได้อีกชั้น
แล้วก็หลับไป (555 ยังหลับลง เชื่อเลย)
ขอจบ blog ไว้ตรงนี้
blogต่อไป >>> กดตรงนี้ .... วันที่2 ฮ่องกงชิลล์ๆ ชุดอาหารเช้า อุด้งเที่ยง บะหมี่ดึก
ขอให้มีความสุข กับ Trip ของคุณ