บางครั้งฟุตบอลเป็นเรื่องของการมองโลกในแง่ดี

5 ส.ค.52 สนามกีฬาคลองจั่น
เพื่อนตำรวจ 2-1 จุฬาฯ ยูไนเต็ด

วันที่ 9 มิถุนายน ปี 37 จำไม่ได้ว่าวันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสแค่ไหน?...แต่อารมณ์ของผมน่ะแจ่มใสสุด ๆ

“ชื่อต้องตานะ” สาวน้อยตาสวยคนนั้นเอ่ยบอกผมเบา ๆ พร้อมกับเขียนชื่อ, ชื่อเล่น, ที่อยู่และเบอร์โทรของเธอลงในสมุดเล่มเล็ก ๆ ที่ผมยื่นให้

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของห้องเชียร์คณะผมที่เด็กปี 1 จะต้องมีสมุดเชียร์คนละเล่มสำหรับจดเนื้อเพลงจุฬาฯวันละเพลง รวมทั้งไล่ล่าชื่อเพื่อน ๆให้ได้อีกวันละ 10 ชื่อ

วันนั้นเป็นวันที่ 3 ของห้องเชียร์ แต่เป็นวันแรกที่ผมได้คุยกับสาวสวยจากรั้วศึกษานารีคนนี้ ความที่ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง ผมชวนเธอคุย (แบบโง่ ๆ) ว่า (*^_^*)

“ผูกผมด้วยยางรัดสีเขียวมาทุกวันนะ...เราจะได้จำได้”

แต่...ต่อให้เธอผูกสีอื่นมา...ทำไมผมจะจำเธอไม่ได้ล่ะ เพราะหลังจากวันนั้น แค่หลับตา หน้าหวาน ๆ ของเธอก็โผล่เข้ามาทักทายผม

นอนหลับ (-.-)Zzz... ผมก็ฝันถึงเธอเกือบทุกคืน

(สมัยนั้นยังไม่มีมุกเสี่ยว ๆ แบบ “มาวิ่งเล่นในหัวใจฉัน” แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ)

นิยายรักนักศึกษาเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องเป็นชายหนุ่มขี้อายคนหนึ่งที่พยายามตามจีบหญิงสาวที่เขารักถึง 4 ปี แต่ลงท้ายพระเอกและนางเอกในท้องเรื่องก็เป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น

จากวันที่เรียนจบออกมา ผมมีความรักอีกหลายครั้ง แห้วบ้าง, ร้างรากันบ้าง, กิ๊กกั๊กกันชั่วคราวบ้าง, มีความสัมพันธ์กันแบบงงงงบ้าง...แต่ความรู้สึกหวานแหววแบบที่เคยมีให้หญิงสาวนัยน์ตาสดใสซึ่งมีรอยยิ้มแสนหวานฉ่ำคนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย

อาจจะเป็นเพราะวัยที่เติบใหญ่ขึ้น

หรืออาจจะเป็นเพราะการได้ผจญโลกที่กว้างขึ้น

บางครั้งปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้โลกของเราหม่น ๆ ราวกับบรรยากาศในหนังประเภทฟิล์มนัวร์

...

โชเซ เฟร์เรยราทุ่มเทเต็มที่และยังมองโลกในแง่ดี เชื่อมั่นอนาคตของทีมเสือสามย่านอยู่เสมอ

5 สิงหาคม ปีนี้ ท้องฟ้าเดี๋ยวนี้ช่างดูแปลก ๆ นาทีนี้หม่นหมอง นาทีต่อไปอาจจะมีแดดสดใส

ช่วงสี่โมงเย็นเป็นช่วงเวลาที่แดดสดใส รวมทั้งเป็นฤกษ์งามยามดีที่ขุนพล “เสือสามย่าน” จุฬาฯ ยูไนเต็ดจะได้ประเดิมศึกลูกหนังน็อคเอาท์ เอฟ.เอ.คัพเป็นครั้งแรกกับ “ว่าที่แชมป์ดิวิชัน 1” อย่างเพื่อนตำรวจ

แม้จะเพิ่งแพ้บางกอกกลาส 2-4 มาหมาด ๆ แต่โชเซ เฟร์เรยรา โค้ชใหญ่ชาวบราซิลกลับไม่ยี่หระกับศึกนัดนี้ เขาจัดนักเตะสำรองลงยืดเส้นยืดสายหลายคน

คู่เซนเตอร์ใช้เนโตยืนคู่กับนันทพล พิบูลย์ผล

ขณะที่คู่กลางได้โอกาสลองใช้ชานนท์ วงษ์อารีย์ประสานงานกับเฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ 2 นักเตะที่ได้มาใหม่ในเลก 2

“ความจริงทีมเราไม่มีตัวสำรอง พวกเขาเป็นกลุ่มนักเตะที่เล่นด้วยกันมาตลอด อยู่ที่ว่าผมจะเลือกใช้ใครในนัดไหน ซึ่งวันนี้ก็เป็นโอกาสลองกลุ่มนักเตะที่ไม่ค่อยได้ลงบ้าง” พ่อมดลูกหนังจากบราซิลเปิดใจ “สำหรับเนโตนั้น ผมรู้ตั้งแต่เขามาเมืองไทยแล้วว่านอกจากจะเล่นมิดฟิลด์ตัรับได้แล้ว ยังสามารถเล่นเซนเตอร์ได้ด้วย ผมมองว่าตอนนี้เขามีประโยชน์มากกว่าหากเล่นเซนเตอร์ เขาตัวสูง สกัดลูกโหม่งได้ดี ซึ่งน่าจะเหมาะเกมนี้มากกว่า”

ทางฝั่งเจ้าบ้านก็ไม่น้อยหน้ากันเลย ชัยยงค์ ขำเปี่ยม โค้ชใหญ่ดร็อปตัวจริงนั่งข้างสนามหลายต่อหลายคน ไล่ตั้งแต่ดาวซัลโว มานิตย์ น้อยเวช, ปีกดาวรุ่ง เอกอาทิตย์ สมจิตร, มิดฟิลด์ตัวแกร่ง สุรพงษ์ ธรรมวงศา, เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก๋า อานนท์ นานอก ไปจนถึงแบ็กขวาฝีเท้าจัด ศรัณยู อินต๊ะราช

อุดม จอกรบกับพนมกร สายสอนนำลูกทีมลงสนาม (อุดมเหลือแค่ครึ่งหน้าเพราะถูกช่างภาพเพื่อนตำรวจบัง ผมเลยต้องพยายามเปลี่ยนมุมและก็ช้าไปซะแระ...ขอบ่นหน่อย ไม่ชอบช่างภาพที่ถ่ายแบบไม่แคร์คนอื่นจังเลย)

ท้องฟ้าก่อนแข่งเหมือนจะครึ้ม แต่พอเริ่มเกมกลับแดดร้อนจัด

โฉมหน้านักเตะ "เสือสามย่าน" ที่ใช้เนโตยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ส่งอารอนล่าตาข่ายคู่กับสมปอง สอแหลบ

ส่วนนี่ของเจ้าบ้านที่พักตัวจริงอย่างน้อย 5 คน

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่า? เกมในครึ่งแรกจึงออกมาแบบเนือย ๆ ดูไม่ค่อยเร้าใจเท่าไหร่ เสือสามย่านมีโอกาสยิงไกล 2 ครั้งหลังผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปแล้วจากเฉลิมศักดิ์กับอารอน ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวบราซิล แต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของสมพงษ์ ยอดอาจ ผู้รักษาประตูทีมโล่ห์เงิน

วันนี้เนโตในบทบาทหมายเลข 5 แบบเยอรมัน (เซนเตอร์ฮาล์ฟ) ดูเล่นได้โดดเด่นกว่านัดแรกที่ผมเห็น (นัดเจอสมุทรสงคราม) ในบทบาทหมายเลข 5 แบบบราซิล (มิดฟิลด์ตัวรับ) เขาใช้ความสูงใหญ่โหม่งสกัดบอลได้สวย ๆ หลายครั้ง ส่วนการอ่านเกมก็ถือว่าใช้ได้

โอกาสหวาดเสียวที่สุดในครึ่งแรกเป็นของเจ้าบ้านเมื่อนริศ พูนทรัพย์ได้โอกาสสับไกเต็ม ๆ ไปแฉลบกองหลังทีมเยือน ดีที่บอลพุ่งเข้าหน้าต่าง

กิตติภูมิ ปาภูงาพยายามสกัดกั้นการเดินเกมของพนมกร สายสอน

ชานนท์ วงษ์อารีย์ลากบอลหนีโกเบนัน ลียง เอ็นกาตตา

เนโตให้หวยหรือนั่น

อารอนกับสมปอง สอแหลบ คู่หน้าเสือสามย่านประสานงานในวันนี้ได้เหมือนในภาพ (ไปกันคนละทิศ คนละทาง)

แม้จะเป็นทีมเยือน แต่กองเชียร์ของจุฬาฯ ยูไนเต็ดก็มีปริมาณที่ "พอไหว"

เกมแสนน่าเบื่อในครึ่งแรกเปลี่ยนไปในครึ่งหลัง ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนตำรวจไปกินอะไรมาเหมือนกันถึงได้บุกขย่มทีมเยือนจนเรรวน

ครึ่งชั่วโมงของเกมผ่านไป เนโตเกือบทำประตูขึ้นนำได้...แต่ถ้าได้จริง สกอร์จะเป็นของเจ้าบ้านนะเพราะเขาโหม่งผิดเหลี่ยมแฉลบ ดีที่ลูกข้ามคานไป

แต่จากลูกเตะมุม จุฬาฯ ยูไนเต็ดก็ไม่รอดพ้นการเสียประตูอยู่ดี แม้ในจังหวะแรกฌอง-มาร์ก เอ็นกูลูจะเซฟได้สวย ๆ แล้ว แต่ก็ยังโดนจิมมี วูล์ฟ ศูนย์หน้าตัวเก่งเจ้าบ้านตามกระซวกซ้ำอยู่ดี

เพื่อนตำรวจดีใจได้แค่ 3 นาทีก็ต้องเงียบกริบเมื่ออารอนโชว์ลีลาบราซิล กึ่งยิงกึ่งผ่านลูกฟรีคิกเข้าไปที่หน้าประตู แต่นักเตะทุกคนทั้งเสื้อเลือดหมูและเสื้อขาวพร้อมใจกันร้องเพลงของหลุยส์ แรพเตอร์กันซะหมด

“ไม่เอาหรอกเกรงใจ”

บอลก็เลยฮุคเข้าเสาสองไปแบบสวยงาม

พนมกรณ์ สายสอนที่วันนี้รับบทกัปตันทีมให้ทีมตราโล่โชว์ฟอร์มโดดเด่นขึ้นในครึ่งหลัง ลากบอลสร้างความหวาดเสียวได้หลายครั้งหลายครา

จนนาทีที่ 72 พนมกรลากซะจนอุดม จอกรบเสียศูนย์ก่อนจะเปิดไปหน้าประตูให้นริศยิง เหมือนเดิม...เอ็นกูลูพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในไทยพรีเมียร์ลีกเมื่อเซฟได้ในจังหวะแรก...เพียงแต่บอลที่ทะลักออกมานั้นดันไปเข้าทางออสเซียน นิสซิม สตาร์เจ้าบ้านที่ตามเข้าซ้ำแบบสบาย ๆ

เพื่อนตำรวจ 2-1 จุฬาฯ ยูไนเต็ดแล้ว!

โชเซ เฟร์เรยราอยู่เฉยไม่ไหว เริ่มทยอยเปลี่ยนตัวลงไปทีละคนจนครบสาม ทำเอาโฉมหน้าของทีมเปลี่ยนไปเยอะ...หมายถึงระบบของทีมอ่ะนะ

เปลี่ยนไพฑูรย์ นนทะดีแทนเฉลิมศักดิ์ นาทีที่ 74 เพื่อให้ไพฑูรย์เล่นปีกซ้ายแล้วหุบเอากิตติศักดิ์ ปิ่นทองมาเล่นกลาง

เปลี่ยนเรจินัลโดแทนเนโตในนาทีที่ 76 ตามระบบโควตาต่างชาติ จึงต้องถอยกิตติศักดิ์ลงไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ ผมแอบงงว่าในเมื่อต้องเปลี่ยน “เอล ตังเก้” เรจินัลโดลงไปแทนเนโตอยู่แล้ว ทำไมไม่เก็บเจ้าเอ็ม เฉลิมศักดิ์ที่ตำแหน่งหลัก (จริง ๆ) คือเซนเตอร์ฮาล์ฟเอาไว้

และสุดท้ายเปลี่ยนศักดา ชุติภัคพงศ์ลงไปแทนกิตติภูมิ ปาภูงาในนาทีที่ 78 เข้าใจว่าเจ้าเด่นจะเจ็บนิด ๆ

9 นาทีสุดท้าย อารอนมีโอกาสสังหารฟรีคิกอีกครั้ง แต่คราวนี้สมพงษ์เซฟไว้ได้อย่างสวยงาม

เกมของเสือสามย่านดูตื้อ ๆ ไปเหมือนหมดไอเดีย อารอนซึ่งถอยมาเล่นเป็นมิดฟิลด์เก็บบอลได้ ลากบอลได้ แต่เปิดบอลให้เพื่อนไม่ได้เลย

เรจินัลโดแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เพียงพอจะทลายแผงหลังเจ้าบ้านด้วยลำพังตัวคนเดียว

ช่วง 5 นาทีสุดท้าย “เสือยงค์” เน้นเต็มที่ ออกมาตะโกนสั่งนริศ

“ลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวที่ 5 เลย”

ลำพังมิดฟิลด์ 4 ตัว จุฬาฯ ยูไนเต็ดก็ไม่สามารถชิงความได้เปรียบในแดนกลางได้แล้ว พอโดนแพ็กแบบนี้ก็จบข่าวสิครับ

เสือสามย่านกระเด็นตกรอบเอฟ.เอ.คัพ...แค่รอบแรกที่ทีมระดับพรีเมียร์ลีกลงแข่งนั่นแหละ

กิตติศักดิ์ ปิ่นทองหลอกล่อกองหลังเพื่อนตำรวจ

อารอนขับเคี่ยวกับออสเซียน

ฌอง-มาร์ก เอ็นกูลู ประตูจอมหนึบออกมาตัดบอลกลางอากาศ

จิมมี วูล์ฟถอดเสื้อเฮหลังยิงนำ 1-0

กิตติศักดิ์คนเดียวจะแหวกหลัง 5 คนไหวไหมนั่น

อารอนยิงฟรีคิกกึ่งยิงกึ่งผ่าน สุดท้ายไม่โดนใครเลยและไปจบที่ก้นตาข่าย 1-1

อารอนลองอีกครั้ง แต่คราวนี้สมพงษ์ ยอดอาจเซฟไว้ได้

เนโตถูกเปลี่ยนตัวออก แล้วก็ออกมานั่งเซ็ง

สมปอง สอแหลบโรมรันลูกโหม่งกับแผงหลังเจ้าบ้าน

ท้ายเกมเพื่อนตำรวจพยายามดึงเวลา จิมมี วูล์ฟเลยออกสเต็ปยั่วประสาทอุดม

“วันนี้พวกเขาดูใจสู้มากกว่าเรา รวมทั้งพละกำลังที่ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าด้วย อากาศร้อนแบบนี้ เกมเราเลยตื้อ ๆ เล่นกันไม่ดีเลย” โชเซ เฟร์เรยราเปิดใจ

แพ้สองนัดติดต่อกัน เริ่มรู้สึกกดดันบ้างไหม? จอมคนจากบราซิลฟังคำถามนี้แล้วก็ทำหน้าเครียด ๆ ก่อนจะตอบว่า “ความกดดันมันอยู่คู่กับเกมฟุตบอลอยู่แล้วแหละ ผมก็เต็มที่ในการปรับทีมนี้ให้ดีขึ้น แต่ถ้าผู้บริหารมองว่าผมยังทำงานได้ไม่ดีพอ อยากจะเปลี่ยนโค้ชก็สามารถทำได้ เพียงแต่ตอนนี้ผมก็ยังทุ่มเทให้กับทีมแบบเต็มร้อยต่อไป”

ส่วนชัยยงค์ ขำเปี่ยมพูดถึงเกมนี้ว่า “วันนี้เราไม่เสี่ยงเอาตัวจริงลงหมด จึงผสมผสานตัวสำรองด้วย แต่สถานการณ์บังคับให้เราต้องเปลี่ยนตัวจริงลง ทำให้สู้กับเขาได้ อย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นว่าถ้าเราได้ขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก เราก็น่าจะสามารถสู้กับทีมต่าง ๆ ได้”

เห็นหน้าเศร้า ๆ ของขุนพลเสือสามย่านแล้วผมพลอยเศร้าไปด้วย สักพักเสียง BOOM BAKA จากแฟน ๆ จุฬาฯ ยูไนเต็ดก็ดังขึ้น...ผมไม่รู้ว่าเสียงแห่งความรักและความหวังเสียงนี้จะช่วยปลอบประโลมนักเตะได้มากขนาดไหน? แต่สำหรับผมแล้ว...

ความทรงจำสมัยห้องเชียร์ล่องลอยกลับมาอีกครั้ง

ภาพรอยยิ้มหวาน ๆ ของเธอ...ต้องตา ลอยกลับมาอีกครั้ง

นานแค่ไหนนะที่ผมมองโลกไม่ค่อยสดใสเหมือนเมื่อครั้งสมัยเรียนร่วมคณะกับเธอคนนั้น ตอนนั้นแม้จะรู้ว่าเธอคิดกับผมยังไง แต่ผมยังมองโลกในแง่ดีเสมอ เฝ้ารอวันที่จะสมหวังในรักครั้งแรก...พลังแห่งการมองโลกในแง่ดีนั่นเองที่หล่อเลี้ยงให้ผมทุ่มเทอยู่ที่เธอคนเดียวได้ถึง 4 ปี!

อืม...บางครั้งการมองโลกในแง่ดี ๆ ก็ทำให้โลกกลับมาสดใสขึ้นได้เหมือนกันนะ ใช่...ตกรอบเอฟ.เอ.คัพไป อย่างน้อยจุฬาฯ ยูไนเต็ดก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง สามารถลุ้นหนีตกชั้นได้อย่างเต็มที่อีกครั้งและถ้าทำได้จริง ผมว่าเสียงเฮจะดังกว่าเสียงเฮ (หากว่าชนะ) ในวันนี้เยอะ

อย่าลืมว่าตอนที่แมนฯยูฯกลับมาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกหลังจากรอคอยมาเกิน 1/4 ศตวรรษ...ปีนั้นปีศาจแดงก็ตกรอบเอฟ.เอ.คัพตั้งแต่รอบสาม (รอบแรกของทีมระดับพรีเมียร์ลีก) เหมือนกัน แถมยังแพ้ให้ทีมท้ายตารางอย่างเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดด้วย

คิดได้แล้ว ผมก็เดินออกจากสนาม ดูความ “สวย ๆ งาม ๆ” ของของที่ระลึกของเพื่อนตำรวจ (จะ “ของ” ไปถึงไหน?)

ฉับพลันก็มีสาวหน้าหมวยแสนน่ารักมาสวัสดีผม สมองรีบประมวลข้อมูล ตู๊ด ๆ ๆ (ไม่ตู๊ดดีกว่า...ฟังสยองยังไงก็ไม่รู้ เอาเป็น แมน ๆ ๆ ดีกว่า ^^)

อ้อ! สาวน้อยถือโถจับสลากที่ผมเจอวันเพื่อนตำรวจเชือดโหดสงขลา 3-0 นั่นเอง เธอชื่อกิฟท์ เธอที่ทำให้ผมกลับไปเป็นหนุ่มขี้อาย เงอะ ๆ งะ ๆ ไม่สามารถคุยอะไรเป็นเรื่องเป็นราวได้ดังใจคิดนั่นเอง

อย่างน้อยเธอก็จำผมได้นะ

รอยยิ้มใส ๆ ของเธอทำให้โลกหม่น ๆ จากความพ่ายแพ้กลายเป็นโลกที่สดใสในทันที แล้วผมก็เห็น “ข้อดี” ของความพ่ายแพ้ในวันนี้ได้อีกข้อหนึ่ง

รอบหน้าขอให้เพื่อนตำรวจได้เล่นในบ้านอีกเถอะ

ผมจะได้มาเจอเธออีกครั้ง

Create Date : 07 สิงหาคม 2552		2 comments
Last Update : 7 สิงหาคม 2552 2:55:44 น.
Counter : 2179 Pageviews.
Share Tweet