ป้อมพระจุลฯไกลบ้านห่างน้อง...และห่างแชมป์เอฟ.เอ.คัพ
15 ก.ค.52 สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด สมุทรปราการ 2-4 สมาคมกีฬากรุงเก่า (1-1 ดวลจุดโทษ)
ผมมีความทรงจำกับสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมดอยู่ 2 เรื่อง...เป็นเรื่องราวสมัยวัยรุ่น...แฮ่ม!...เมื่อนานโขมาแล้ว
1. ผมเคยมาแข่งฟุตบอลนักเรียนอายุไม่เกิน 14 ปีของกทม.ที่นี่...แต่จะตรงกว่าไหม ถ้าบอกว่ามา นั่งสำรอง น่ะ ^^! จำได้ว่าตอนนั้นเป็นรอบ 8 ทีมสุดท้าย เราแพ้อิสลามวิทยาลัย 2-4
2. ผม (สมัยอายุ 15) เคยไปคัดทีมเขต 10 กทม.เพื่อไปแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ (เขากำหนดอายุไว้ 18) ที่นี่ ผลหรอ? ไม่ติดสิครับ (ต่อให้ผมอายุ 18 ก็คงไม่ติดเหมือนกันแหละ เหอ เหอ ^^!)
ฟังแล้วไม่น่าจะมีอะไรประทับใจกับสนามนี้เลยเนอะ...แต่ผมก็ประทับใจ ด้วยความที่เป็นสนามใกล้บ้านด้วยมั้ง ผมจึงคิดเหมือนหลาย ๆ สมาชิกในบอร์ดพันธ์ทิพย์ว่าอยากมีทีมของชาวฝั่งธนฯที่ใช้สนามนี้เป็นสนามเหย้าบ้าง
ผมเริ่มปฏิบัติการหาทีมมาลงที่นี่ เท่าที่นักเขียนเล็ก ๆ อย่างผมจะทำได้
วันที่ไปดูราชประชาเปิดศึก โอลดี้ โกลดี้ กับราชวิถีในเลกแรกที่สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรี (วันนั้นเลื่อนแข่ง) ผมก็พยายามแหย่
ราชประชานี่แหละฟะ ทีมในความทรงจำ ถ้ามาเป็นทีมของชาวฝั่งธนฯก็แจ่มไปเลย...แต่ก็ยอมแพ้เพราะดูเหมือนทีมตราชฎาจะฝังตัวแน่นไว้ที่เมืองนนท์แล้ว
ราชวิถีก็ได้ แม้จะไม่ทันยุครุ่งเรือง แต่ทีมนี้ก็คุ้นชื่อผมมาตั้งแต่สมัยดูบอลใหม่ ๆ
ลองแย็บ ๆ ใส่ท่านประธานสโมสร พล.ต.มจ.จุลเจิม ยุคลดู
คำตอบของท่านคือเคยขอกรุงเทพฯใช้สนามแล้ว แต่ทางกทม.โยนสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาที่มีนบุรีมาให้ แล้วยังไงไม่รู้ สุดท้ายไปลงที่สนามบีอีซีเทโร
เมื่อบวกกับที่ทำการสโมสรตั้งอยู่ละแวกนั้น...เลิกหวัง ราชวิถีของชาวฝั่งธนฯ ซะดีกว่า
แต่แล้วฟ้าก็ส่งทีมสีฟ้าลงมาให้ผมฟ้า (คว้า-พูดไม่ชัด) ไว้เป็นอีกหนึ่งทีมเชียร์ ทีมนั้นคือสมุทรปราการ เอฟ.ซี.ที่จะใช้สนามนี้เป็นสนามเหย้าตลอดเลก 2 ของฤดูกาลนี้
ก็ยังดี อย่างน้อยผมก็ประทับใจ ทีมป้อมปราการ ทีมนี้หลายอย่าง
ชุดแข่งสวย (สีเหมือนอาร์เจนตินาเลย)
ต้องต่อสู้กับการอยู่รอด (ด้านการเงิน) แต่ทีมยังมีผลงานดีแล้วก็ยังมีแฟน ๆ พร้อมหนุนหลังอีก
นักเตะสมุทรปราการก้าวเท้าลงสนามเหย้าของเลกหลังฤดูกาลนี้
วันเจอไทยซัมมิทในดิวิชัน 2 ที่ใช้สนามนี้ครั้งแรก ผมพลาดชมเกมเพราะติดประชุม (วันอาทิตย์นี่นะ)
วันนี้พวกเขามีโปรแกรมเอฟ.เอ.คัพรอบสองกับสมาคมกีฬากรุงเก่า...ผมบอกกับตัวเองว่าจะไม่พลาด
แล้วก็เหมือน บิวท์ สุดขีดด้วยนะเพราะก่อนหน้านั้น 1 วัน ผมต้องเขียนบทรายการที่ตัวเองโปรดิวซ์อยู่...เป็นสารคดีเรื่อง ป้อมพระจุลฯ
เขียนไปก็นึกอยากดูคู่นี้ไปด้วย
ป้อมพระจุลจอมเกล้ามีบทบาทอย่างมากใน ยุทธนาวี ณ ปากล่องน้ำเจ้าพระยา เมื่อ รศ.112 เมื่อเป็นปราการสำคัญในการสกัดกั้นเรือรบฝรั่งเศสไม่ให้ล่วงล้ำอธิปไตยเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย
แม้กำลังอาวุธยุทโธปกรณ์จะอ่อนด้อยกว่า แต่พลทหารที่ประจำอยู่ในป้อมพระจุลฯก็สู้สุดฤทธิ์...แม้สุดท้ายจะแพ้จนทำให้ไทยต้องเสียดินแดนบางส่วนแก่ฝรั่งเศสก็ตาม...
อากาศแจ่มใสมากสำหรับการดวลแข้งเอฟ.เอ.คัพรอบสองในวันนี้
โฉมหน้าทีมสมาคมกีฬากรุงเก่า คู่แข่งสมุทรปราการในวันนี้
สมาคมกีฬากรุงเก่า คู่ต่อกรของสมุทรปราการวันนี้เป็นทีมระดับถ้วย ข ดูเผิน ๆ เหมือนจะโนเนม แต่พอดูรายชื่อแล้ว...ก็โอนะ พงษ์ศักดิ์ คงแก้วงี้, อนันต์ ปานทองงี้, บัญชา นุนารถงี้ พวกนี้เคยเล่นสโมสรใหญ่ ๆ มาทั้งนั้น แล้วไหนจะมีเลิศชาย อิสราสุวิภากรและโจ้ เนื่องเกิด สองขุนพลฟุตซอลชื่อดังอีก
ไม่ใช่งานง่าย ๆ ของทีมฟ้า-ขาวจากปากน้ำแน่ ๆ
ต้นเกมสูสีกันมาก ๆ แต่พอผ่าน 15 นาทีไปแล้ว สมุทรปราการเริ่มคุมเกมได้และเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกได้มากกว่าโดยมีอุสมาเน ดิยามานกา จอมทัพแอฟริกันทำหน้าที่แจกจ่ายบอลในแดนกลาง ดูหุ่นของหมอนี่แล้วผมนึกไปถึงปาทริก วิเอรา มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส เพียงแต่ไม่ดุดันเท่า
ในขณะที่แดนหน้านั้นปราโมทย์ บุตะโรดวูบวาบดี หาโอกาสยิงได้บ่อย เพียงแต่ไม่ค่อยเด็ดขาดเท่านั้นเอง ถึงกระนั้นแฟน ๆ ก็ยังให้กำลังใจ (หรือสร้างความกดดันหว่า?) ตะโกนบอกว่า
ปราโมทย์...วันนี้ขอแฮท-ทริกนะ!
ส่วนสมาคมกีฬากรุงเก่านั้นอาศัยจังหวะโต้กลับ โดยพึ่งพาเลิศชายคอยขึ้นเกมทางกราบขวา ซึ่งก็ทำได้ดีไม่น้อย เอกราช รักษาได้ทำตามนามสกุลจริง ๆ เพราะต้องออกแรง รักษา ประตูไปไม่น้อย
กองเชียร์ทีมปากน้ำรวมใจกันพร้อม ๆ กับนักเตะในสนาม
ลีลาของอาดู จามฟี ดาวเตะกานาของเจ้าบ้าน
ช็อตนี้ย้ายไปเลื้อยทางขวา
ส่วนนี่ลีลาของเลิศชาย ทำเอากองหลังป้อมปราการ "เสีย" ไปเลย
อีกลีลาของเลิศชาย
โฉมหน้าของวิเอรา...เอ้ย! ดิยามานกา
อาดู จามฟีศูนย์หน้าซูเปอร์สตาร์ชาวกานาของทีมป้อมปราการมาโดดเด่นในครึ่งหลัง เมื่อมีโอกาสยิงฟรีคิกสวย ๆ หลายลูก แต่ก็ชนเสาบ้าง ชนคานบ้าง ชวดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
กลับกลายเป็นทีมเยือนซะอีกที่ขึ้นนำไปก่อนจากการยิงของเชาวลิต นิลกรณ์ในนาที 57 น่าแปลกที่ไม่มีเสียงเฮในสนามเลย ไม่มีเสียงครวญครางของฝ่ายเสียประตูด้วยเพราะกองเชียร์ปากน้ำพร้อมใจกันส่งเสียงกระตุ้นนักเตะทันทีที่เสียประตู
พอได้ประตูนำสมาคมกรุงเก่าก็เล่นกันผ่อนคลายขึ้น ต่อบอลกันไปมา ในขณะที่สมุทรปราการแม้จะพยายามเร่งเกมเพื่อตีเสมอแต่กลับไม่ดุดันอย่างที่ควรจะเป็นเลย
นาที 79 ทักษิณ ไชยรส (ชื่อเป็นมงคลมาก ๆ) พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่ออาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย คอรัป...เอ้ย! อาศัยความผิดพลาดของแผงหลังทีมเยือนต่างหาก หลุดเข้าไปยิง บอลกำลังกลิ้งหลุน ๆ จะเข้าอยู่แล้ว แต่กลับถูกแผงหลังกรุงเก่าสกัดออกมาทันท่วงที
แต่นาทีต่อมาเสียงเฮก็ดังลั่นสนามอยู่ดี เมื่ออาดูมีดวงจนได้ ยิงตุงตาข่ายได้สำเร็จ
เกมน่าจะจบใน 90 นาที แต่อาดูก็ดันยิงฟรีคิกเช็ดคาน (อีกแล้ว) ในนาทีสุดท้าย
รวมมิตรลูกยิงฟรีคิกของอาดูในครึ่งหลัง เฉี่ยวเสา, ชนเสา, ชนคาน
นักเตะเจ้าถิ่นป้องกันกันสุดฤทธิ์
คู่นึงบู๊ อีกคู่นึงมอง
นักเตะปากน้ำบอมบ์แหลกหวังตีเสมอ
สมุทรปราการเฮกันทั้งในสนามและบนอัฒจันทร์
เก่งนัก อาดูก็ต้องถูกหยุดด้วยวิธีนี้
ครึ่งชั่วโมงของการต่อเวลาไม่ค่อยมีอะไรให้จดจำในสนามมากนัก แต่นอกสนามแล้วก็หลายเรื่องอยู่
ผมได้เห็นบ่าววีตัวเป็น ๆ มานั่งลุ้นเพื่อน ๆ ที่ข้างสนาม (ครึ่งหลังผมไปถ่ายรูปบนอัฒจันทร์เลยไม่ได้สังเกต แต่ครึ่งแรกนักร้องชื่อดังไม่ได้อยู่ที่ม้านั่งสำรองแน่ ๆ)
แฟน ๆ สมุทรปราการส่งเสียงเยาะเย้ยไทยซัมมิท ทีมในถิ่นเดียวกันที่เพิ่งตกรอบจากการแพ้เพื่อนตำรวจไป 0-3 ในเวลาเดียวกัน
และ
อาการ ไม่น่ารัก ของพ.ต.ท.ดร.วีระพล วงศ์ศาสตร์สาย ผู้จัดการทีมสมาคมกีฬากรุงเก่า ลำพังต่อว่าต่อขานผู้ตัดสิน...ผมมองว่าเป็นเรื่องปรกติ แต่ลูกติดพันหลังจากนั้น...ผมว่ามันเกินไป
แล้วยังมีตอนที่แฟน ๆ ฟ้า-ขาวตะโกนแซวนักเตะกรุงเก่าที่เจ็บว่า เจ็บก็เปลี่ยนตัวออกไป ท่านผจก.ทีมที่น่าเคารพก็ตะโกนตอบโต้กองเชียร์แถมยังหุนหันขึ้นอัฒจันทร์ไปเผชิญหน้ากับเหล่าแฟน ๆ อีก
ต้องเข้าใจว่าท่านทำอะไรทำเต็มที่ ท่านไม่ใช่คนเกเรแต่ท่านเป็นนักเลงที่ไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบ พอจบเกมก็หายโกรธ มันเป็นบุคลิกของท่านด้วย ผมอยู่กับท่านมา...รู้ครับ มันก็เป็นสีสันหนึ่งนะ ถ้ามองอย่างนั้นมันก็จบ จักรี หนองน้อย อดีตปราการหลังแข้งโหดของตำรวจที่ผันตัวเองมาเป็นเทรนเนอร์ทีมกรุงเก่าชี้แจงถึงพฤติกรรมผู้จัดการทีม
ไม่รู้สิครับ ผมเป็นคนนอก ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรหรอก แต่จากภาพที่เห็น...มันก็แค่ไม่น่ารักเท่านั้นเอง อะไรนะ คิกขุไป ไม่สมชายชาติตำรวจหรอ ก็ได้ ๆ เปลี่ยนเป็น มันไม่ค่อย หล่อ ก็ได้
อย่างที่บอก ช่วงต่อเวลาไม่ค่อยมีอะไร รวมถึงสกอร์ด้วย สุดท้ายจึงต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
สมุทรปราการทำท่าจะผ่านเข้ารอบด้วยจุดโทษ (อีกรอบนึง) เมื่อ 2 ลูกแรกของกรุงเก่านั้นพลาดหมด ลูกที่ 2 ของสมุทรปราการถ้าประพัฒน์ ยะกัณฐะ กัปตันทีมยิงเข้าจะนำห่าง ๆ 2 ลูกทันที
แต่ปราการหลังตัวแกร่งกลับยิงชนเสา!
ปลุกชีพทีมเยือนจากถ้วย ข ทันที กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด กรุงเก่าก็ไม่สิ้นคนยิงจุดโทษเข้าฉันนั้น สมาคมกีฬากรุงเก่ายิงลูกที่ 3 และ 4 เข้า ในขณะที่สมุทรปราการยิงลูกที่ 3 ไม่เข้า ตอนนี้ความกดดันกลับมาอยู่บนบ่าของอาดู สตาร์ชาวกานาที่รับบทเพชฌฆาตลูกที่ 4 แล้ว
เสียงฮือฮาจากกลุ่มนักข่าวบอกว่าหมอนี่เก็บไปแล้ว 3 คานในเกม
วินาทีต่อมาดาวเตะหมายเลข 10 ของสมุทรปราการก็ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเมื่อเขาเก็บ คาน ที่ 4 ได้สำเร็จ เพียงแต่ของอย่างนี้สะสมเยอะ ไม่มีโบนัสให้ แลกของรางวัลก็ไม่ได้ แต่ทำให้ทีมแพ้ได้
เลิศชายก้าวเดินออกไปรับหน้าที่สังหารเป็นคนที่ 5 ซึ่งอาจจะเป็นคนสุดท้ายได้เลย ถ้ายิงเข้า แล้วก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของเขาเลย สมาคมกีฬากรุงเก่าพลิกชนะไม่น่าเชื่อ 4-2!
บ่าววี นักเตะพิเศษของสมุทรปราการ
เบอร์ 10 (อาดู) ของสมุทรปราการยิงจุดโทษพลาดชนคาน
แต่เบอร์ 10 (เลิศชาย) ของกรุงเก่ายิงเข้าและพาทีมเข้ารอบสาม
เกมนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ดีเพราะบอลเราไม่ได้ฟิตซ้อม แต่ดึงมาเล่นเลย แถมยังต้องสู้กับทีมที่ซ้อมมาทั้งปีด้วย พอใจนะ แต่รอบหน้าคงต้องซ้อมหน่อย จักรี หนองน้อยออกอาการปลื้ม ก่อนจะหยอดว่า รอบหน้าเจอทีมไหนก็ได้ เจอทีมพรีเมียร์ลีกก็ดี ผมยินดีนะ
ส่วนบัญชา นุนารถ ที่เซฟจุดโทษช่วยกรุงเก่าไปแค่ลูกเดียว แต่ในเกมก็ช่วยเซฟหลายหนเหมือนกันบอกว่า เกมวันนี้เราเล่นได้ดี ส่วนจุดโทษผมสบาย ๆ นะ เดาถูกก็ถูก เดาไม่ถูกก็ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องของดวงด้วยเพราะจะว่าไป ผมก็เซฟได้แค่ลูกเดียว นอกนั้นก็ชนเสา ชนคาน
ในขณะที่ผู้อับโชคอย่างอาดูบอกว่า 4 คานต้องบอกว่าโชคไม่ดี แต่ก็โอเคนะ เกมฟุตบอลคุณเล่นเพื่อชนะ แต่บางครั้งมันทำไม่ได้ สุดท้ายมันก็แค่เกม ๆ หนึ่ง
บ่าววี วีระยุทธ นานช้า ผู้เล่นที่เป็นมากกว่าผู้เล่นของสมุทรปราการบอกว่า ของเค้าเก๋า แต่ของเราได้สด เรายิงชนคานเยอะ 3-4 ครั้ง น้อง ๆ ทำกันเต็มที่แล้ว ผลลงเอยแบบนี้ก็ยอมรับ ยินดีกับทีมกรุงเก่าด้วยครับ
สมุทรปราการตกรอบทำให้ผมรู้สึกเหมือนตอนเขียนบทรายการเมื่อวานนี้เลย...แม้กำลังพลในป้อมพระจุลฯจะพยายามต้านเรือรบฝรั่งเศสอย่างไร สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้เพราะความพร้อมน้อยกว่าอยู่ดี ผมไม่ได้บอกว่ากรุงเก่ามีความพร้อมมากกว่าในวันนี้นะ แต่ผมมองว่าแม้สมุทรปราการจะมีปัญหารุมเร้ามาตลอด (บ่าววีกระซิบบอกว่านักเตะรับเงินเดือนบ้าง ไม่ได้รับบ้าง) เหล่าผู้เล่นยังสร้างผลงานได้ดีขนาดนี้ ก็สมควรยกนิ้วให้แล้วแหละ
ส่วนเรื่องสนามเหย้าของทีมนั้น ปัจจุบันทางอบจ.ให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างสนามอยู่ คาดว่าจะใช้ได้ในฤดูกาลหน้า เมื่อผสมผสานกับเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ ให้ กลับบ้านเรา รักรออยู่ ผมก็ต้องทำใจว่าสุดท้ายสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมดก็ยังไม่มีทีมไหนมาลงอยู่ดี
ผมจากสนามออกมาพร้อมกับฮัมเพลงในใจ
ป้อมพระจุลฯไกลบ้านห่างน้อง เมื่อฝนมาฟากฟ้าคะนอง ได้ยินถึงน้องหรือไม่ พี่ส่งสัญญาฝากฟ้าครวญมาจากห้วงหัวใจ...ว่าจะเอาใจช่วยทีมสีฟ้า-ขาวทีมนี้ต่อไป (แม้จะไม่ใช่แฟน แต่ก็ทำแทนกันได้หน่า)
Create Date : 16 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 3:42:16 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1183 Pageviews. |
|
|
//www.samutprakanfc.com/sites/all/webboard/index.php