|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
วันร้าย
อันนี้เป็นงานที่เขียนส่งเป็นการบ้าน ตอนแรกไม่กล้าเอาลงหรอก แต่ได้กัลยาณมิตรที่ดียุยงส่งเสริม เอ้า! เอาก็เอาวะ ในที่สุดก็ได้เอามาให้อ่านกัน วันร้ายวันหนึ่งที่ผ่านไป และฉันก็ยังอยู่...
ยินดีรับคำวิจารณ์นะคะ
วันร้าย!!
ฉันนั่งราบลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง มือหนึ่งยันพื้นไว้ อีกมือหนึ่งเกาะถังขยะใบเล็กที่ภายในถูกซ้อนทับด้วยถุงพลาสติกสีแดงซึ่งว่างเปล่า นั่นแสดงให้เห็นว่าถังสำหรับใส่ขยะติดเชื้อได้ถูกทำความสะอาดและเปลี่ยนแล้ว ภายในห้องนั้นมืด มีเพียงแสงไฟจากห้องผ่าตัดข้างๆส่องเข้ามาพอให้เห็นลักษณะภายในห้องได้รางๆ อาการปวดแสบท้องยังคงทวีมากขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อเม็ดเล็กๆซึมตามขมับและใบหน้า ความรู้สึกเหมือนลำไส้ที่ขดวนไปวนมาในท้องได้บิดเป็นเกลียว ทำให้เกิดอาการพะอืดพะอมอยากจะอาเจียนแต่อาเจียนไม่ออก ฉันเอื้อมมือไปหยิบยาในกระเป๋าที่อยู่ข้างๆตัว ปลายนิ้วสั่นแต่ยังควบคุมให้เอายาใส่ปาก เคี้ยวแล้วกลืนได้โดยไม่ต้องอาศัยน้ำสักหยดเดียว หลังทานยาสักครู่อาการพะอืดพะอมเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย แต่อาการปวดบิดมวนท้องยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ฉันเอนหลังพิงผนังห้อง มองเห็นผู้คนที่อยู่ห้องผ่าตัดข้างๆเดินไปเดินมา การผ่าตัดได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนในห้องนั้นยังคงทำงานเพื่อเตรียมขนย้ายผู้ป่วยออกไป ฉันหลับตาลงอย่างอ่อนล้าทั้งกายและใจ หางตาสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลออกมา
เข้า case แทนเราได้รึเปล่า ตอนห้าโมงเย็นเพื่อนรุ่นเดียวกันส่งเสียงมาทางโทรศัพท์ เพื่อขอความช่วยเหลือให้ฉันไปเข้าช่วยผ่าตัดแทน เนื่องจากฉันอยู่เวรอยู่แล้วคงไม่เป็นการลำบากมากนัก ฉันจึงโทรไปถามห้องฉุกเฉินว่ามีคนไข้ที่แพทย์เวรห้องฉุกเฉินจะ consult (ปรึกษา)หรือไม่ คำตอบที่ได้กลับมาว่าไม่มี ทำให้ตอบตกลงเพื่อนคนนั้นไปในทันทีด้วยความเต็มใจ
หมอคะ
มี case consult. เสียงพยาบาลห้องผ่าตัดเข้ามาบอก หลังจากรับโทรศัพท์แทนฉัน เนื่องจากเข้าช่วยผ่าตัดอยู่ และการผ่าตัดยังดำเนินไปไม่เสร็จ บอกให้เค้า consult หมอ
เลยค่ะ ให้บอกว่าหมอติด case อยู่OR 6 ฉันบอกให้แพทย์เวรที่ห้องฉุกเฉินติดต่อรุ่นพี่ที่อยู่เวรด้วยกันเลย เนื่องจากยังออกไปจากห้องผ่าตัดไม่ได้ การผ่าตัดดำเนินไปได้ด้วยดี ทุกอย่างเรียบร้อย จนกระทั่งเวลาใกล้สามทุ่ม หมอ เดี๋ยวมี case ต่อนะที่ OR 5 พยาบาลคนเดิมเข้ามาส่งข่าว การผ่าตัดที่ห้อง 6 ใกล้เสร็จแล้ว เหลืออีกเล็กน้อย ฉันเหลือบไปมองที่ห้อง 5 ก็พบว่าทั้งวิสัญญีแพทย์และพยาบาลห้องผ่าตัด เตรียมห้องผ่าตัดกันวุ่นวายเพื่อรับคนไข้ฉุกเฉิน พนักงานเปลเข็นผู้ป่วยเข้ามาที่ห้องผ่าตัด 5 และด้วยหน้าที่ทำให้ฉันต้องออกจากการช่วยผ่าตัดที่ห้อง 6 ไปช่วยผ่าตัดต่อที่ห้อง 5 ซึ่งวิสัญญีแพทย์ทำการเตรียมพร้อมผู้ป่วยสำหรับการดมยาสลบอยู่
เรามีเรื่องต้องคุยกัน เสร็จ case แล้วเรามีเรื่องต้องคุยกัน นั่นคือเสียงแรกที่ฉันได้ยินหลังจากก้าวเข้าไปในห้องผ่าตัดห้อง 5 โดยที่ประตูห้องผ่าตัดยังไม่ปิดสนิทเสียด้วยซ้ำ น้ำเสียงอันดุดันบ่งบอกว่าคงไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่ฉันไม่ได้กังวลสิ่งใดเนื่องจากมองไม่เห็นว่าตัวเองทำอะไรผิด ยังคงดื้อดึงถามด้วยความสงสัย ไม่อยากให้ค้างคาใจเมื่อต้องเข้าช่วยผ่าตัด เรื่องอะไรคะ พูดมาเลยก็ได้ค่ะ ฉันถามอย่างใจเย็น เธอทำอย่างนี้ได้อย่างไร มันเป็นหน้าที่อะไรของเธอที่ต้องไปช่วย OR 6 ทำไมไม่ให้เพื่อนเธอช่วย ทำอย่างนี้มันแกล้งกันชัดๆ แทนที่พี่จะได้มีเวลาอ่านหนังสือเพิ่มอีกสองชั่วโมง พี่คนนั้นตวาดฉันกลับมาด้วยเสียงดัง ทำให้คนทั้งห้องผ่าตัดหันมามองฉันเป็นจุดเดียว!!! ฉันหน้าชา พูดไม่ออก ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เดินออกไปเงียบๆจากห้องผ่าตัด หามุมสงบๆเพื่อสงบจิตใจตัวเองก่อนเข้าช่วยผ่าตัด แต่น้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อมันไหลแล้วทำอย่างไรตอนนั้นมันก็ไม่หยุดไหลจริงๆ ฉันนั่งร้องไห้เงียบๆอยู่มุมหนึ่ง แต่เพียงไม่นาน หยาดน้ำตายังไม่หยุดไหลเสียด้วยซ้ำ ฉันก็ต้องไปเข้าช่วยผ่าตัด!!! บอกตัวเอง ท่องไว้ในใจดังๆ ซ้ำๆขณะเดินไปที่ห้องผ่าตัด 5 ด้วยหน้าที่
.เพื่อคนไข้
สามชั่วโมงผ่านไป เข็มนาฬิกาชี้ว่ากำลังล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาไม่กี่นาที การผ่าตัดเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างเรียบร้อย
อาการปวดท้องของโรคกระเพาะ โรคประจำตัวดั้งเดิมที่ทวีมากขึ้นมาตั้งแต่ชั่วโมงที่สองของการผ่าตัดก็เป็นมากขึ้น ตามมาด้วยอาการพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน และที่มันกำเริบขึ้นมาในคืนอยู่เวรวันนี้ก็คงเป็นเพราะความเครียดร่วมกับฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลยแม้แต่น้ำตั้งแต่ห้าโมงเย็น!!!
ฉันยังคงนั่งเกาะถังขยะและร้องไห้อยู่ในห้องมืดนั้นเงียบๆคนเดียว มีคำถามสงสัยอยู่ในใจว่าฉันทำผิดตรงไหน? ฉันละเลยหน้าที่หรือ? หรือเพียงเพราะว่าการที่ฉันมาเข้าช่วยผ่าตัดแทนเพื่อนครั้งนี้นั้น ทำให้เขาต้องมาดู case ที่ห้องฉุกเฉินแทน และเสียเวลาสำหรับการอ่านหนังสือไปถึงสองชั่วโมง? ตลอดเวลาสามชั่วโมงที่ฉันเข้าช่วยผ่าตัด ไม่มีคำถามจากเขาสักคำว่า ทานข้าวหรือยัง หรือ ไปทำอะไรมา ไม่มีการถามถึงที่มาที่ไป, เหตุผลสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น มีเพียงคำด่า, คำตวาดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะตัวเองเสียประโยชน์ก็เท่านั้น คงไม่ต้องไปหวังถึงความห่วงใยว่าฉันมียาทานหรือยัง ไหวไหม ปวดท้องมากไหม แค่เขาไม่คิดว่าฉันเสแสร้งแกล้งทำก็บุญมากแล้ว
จนถึงวันนี้
.ฉันเลิกเข้าใจรุ่นพี่คนนั้น และทำใจได้แล้ว พร้อมทั้งรับรู้สัจธรรมที่ว่าบางครั้งการทำดี,ทำถูกต้อง ก็ไม่ได้เป็นการทำถูกใจใครไปเสียทุกคน มันขึ้นกับว่าใครคนนั้นได้หรือเสียประโยชน์ต่างหาก
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 1 สิงหาคม 2552 0:27:22 น. |
|
24 comments
|
Counter : 786 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นิเฟอซัง วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:29:27 น. |
|
|
|
โดย: harry_potty วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:59:14 น. |
|
|
|
โดย: janjijung IP: 58.8.83.146 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:15:46 น. |
|
|
|
โดย: The Zephyr วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:31:54 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:10:25 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:22:30 น. |
|
|
|
โดย: ่jingjo IP: 203.170.234.20 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:00:48 น. |
|
|
|
โดย: YraY_Tong วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:43:16 น. |
|
|
|
โดย: คุณยายจ้า IP: 203.151.46.131 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:51:11 น. |
|
|
|
โดย: gigAgain วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:50:34 น. |
|
|
|
โดย: RadoN วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:22:59 น. |
|
|
|
โดย: gigAgain วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:8:34:44 น. |
|
|
|
โดย: ดวงตาสวรรค์ วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:10:48:22 น. |
|
|
|
โดย: ป้ามด วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:9:20:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|