No matter what I do, all I think about is you Even when I'm with my boo, boy y'know I'm crazy over you
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

วันที่สี่ อาซากุสะ อาเมะโยโกะ ชิบุย่า อากาฮิบารา




ตื่นเช้ามาด้วยอากาศสดชื่นค่ะ ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่ม วันนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทค่ะ วันนี้เป็นฟรีไทม์ของเรา วะฮิ๊ววววววววววว

วันนี้ตอนเช้าเลือกที่จะไม่กินค่ะ เบื่ออาหารเป็ด เบื่อมาม่าด้วย เชอะ เด๋วไปเดินเล่นเดินไปหม่ำไปก็ได้เชอะ วันนี้กระเหรี่ยงสองตัวจะเดินทางโดยใช้รถไฟ Metro Tokyo สาย Ginza Line ค่ะ เดินมาจากโรงแรมนิดเดียวก็ถึงสถานนี Nihonbashi แล้ว ที่แรกที่จะเดินทางไปคือ วัดอาซากุสะค่ะ แล้วเราจะเดินซื้อของฝากกันที่ถนนนากามิเสะค่ะ มามะ ตามกระเหรี่ยงกันมาเลยค่ะ


มาถึงแล้ว นักท่องเที่ยวเพียบเลยค่ะ อากาศเย็นสบายวันนี้ อยู่ที่ประมาณ 11 องศาค่ะ พอมาถึงด้านหน้าถนนนากามิเสะ ก็ถ่ายภาพซะหน่อย น้องไผ่ก็ไม่รอช้า ไปจิกตัวนักเรียนสองคนมาถ่ายกะเจ๊ เอาวะ โย่วววว (ดูท่าน้องสองคนนี้จิ ให้ความร่วมมือสุดริ๊ดดดดดดดดดดด)


มามะ ตามมาเร้ว วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ ทั้งญี่ปุ่นเอง ไม่ว่าจะนักเรียนมาทัศนศึกษา หรือว่าคนธรรมดามาเที่ยว ที่ไม่แพ้ใครคือ เดินๆไป จะได้ยินภาษาไทยเป็นระยะๆ เนื่องจากทัวร์มาลงค่ะ เราจะเดินผ่านถนนนากามิเสะแบบไม่ว่อกแว่กก่อนนะคะ(เดินไปเหลียวมองไป) ไปเที่ยววัดกันก่อน (ทำได้ไหมเนี่ย วุ้ย พวงกุญแจน่ารัก อุ๋ย ขนมน่ากิน)


เราเจอแล้วค่ะ โคมไฟบิ๊กเบิ้ม สัญญลักษณ์ของอาซากุสะ มาปุ๊บเห็นก่อนเลย ว่าแล้วกระเหรี่ยงก็ขอวัดขนาดความเบิ้มกะโคมไฟหน่อยจิ๊


เดินผ่านประตูเข้ามา เหลียวหันไปมองด้านหลังก็เจอกับรองเท้าแตะยักษ์(เนอะ รองเท้าแตะเนอะ) เงิ่ม แปลว่าไรหว่า


ระหว่างทางเดินไปวัด จะมีเครื่องรางของทางวัดขายค่ะ คุณน้าใจดีบอกกับพวกเราว่า เครื่องรางเหล่านี้ผ่านการปลุกเสกจากพระเรียบร้อยแล้ว จัดให้เป็นแพ็ค ราคามีตั้งแต่ 500-2000 เยนค่ะ คุณน้าเจ้าหน้าทีคนนี้ใจเย็นมาก พยายามอธิบายให้กระเหรี่ยงสองตัวเข้าใจ(เป็นภาษาญี่ปุ่นผสมอังกฤษ) กระเหรี่ยงสองตัวกระพริบตาปริบๆ ถามๆ แล้วสุดท้ายก็พลาดท่าเสียทีเช่นเคยค่ะ


เครื่องรางอีกแบบค่ะ อันนี้ไม่ได้ถามความหมายมา เพราะว่าลูกค้าเริ่มมามุงเยอะแล้ว เกรงใจคุณน้าเค้า


น้องไผ่ได้เครื่องรางมา 1 อันค่ะ เป็นเครื่องรางสมหวังทุกประการ ราคา 1000 เยนค่ะ


มองเห็นวัดแล้วค่ะ คนเยอะเชียว ไปกันต่อดีกว่า ไปไป (หึหึ น้องไผ่ถามว่าพี่ฝนคับ รู้สึกร้อนๆไหม เข้าภายในวัดแล้ว กัดหัวเพื่อนร่วมทางผิดไหมคะ)


ก่อนที่เราจะก้าวขาขึ้นไป ก็มีขบวนพระที่มาสวดมนต์เช้าเดินลงมาค่ะ สังเกตุชุดที่เค้าใส่ สวยค่ะ ยิ่งของจริงยิ่งสวย แต่ไม่กล้าเข้าใกล้มาก ไม่แน่ใจว่าพระที่นี่โดนตัวผู้หญิงได้ไหม เค้าเดินลงมาเป็นแถวเลยค่ะ กระเหรี่ยงไม่รู้จะทำไง เห็นเดินผ่าน เลยยกมือไหว้ แหะๆ


เพี้ยงงงงงงงงงงงงงง ขอให้โบนัสปลายปีหลายๆเดือนเถิ๊ดดดดดดดดดดดดดดด (หล่อนทำบุญ 20 เยน ขอซะ)


มุมนี้ถ่ายจากระเบียงบริเวณที่เราไปไหว้พระค่ะ ใบไม้สองสี สวยจัง
(แอบกระซิบ ตลอดทาง น้องไผ่กะพี่ฝน เห็นใบไม้เปลี่ยนสีไม่ได้ ต้องแวะถ่ายค่ะ ด้วยความที่อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่ทว่าในโตเกียวน้อยมากแล้ว ถ้าไปถึงนิกโก้ คงไม่มีเวลาแน่ เพราะงั้น เจอปุ๊บ ถ่ายๆๆๆๆๆๆๆๆ)

ป้ายนี้อยู่บริเวณทางขึ้นวัดค่ะ อ่านไม่ออก แต่รู้ว่าสวยดี น้องไผ่บอกว่า มันดูแล้วญี่ปุ๊นนนนนนนนน ญี่ปุ่น ถ่ายเลยพี่ฝน เด๋วเค้าไม่รู้ว่าเรามาญี่ปุ่นกัน


ระหว่างไหว้พระ สายตาก็เหลือบไปเห็น อุ๋ย น่ารัก แต่คนถ่ายภาพนี้น้องไผ่นะคะ (แอบออกตัว) -- แอบนินทา หนุ่มๆ ญี่ปุ่นหน้าใสมากค่ะ ตั้งแต่วันมา แอบมองไปหลายคน แอบถ่ายรูปมาก็หลายคน


อีกหนึ่งมุมยอดนิยมของอาซากุสะค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าที่สูงๆแหลมๆ เป็นวัด หรือว่าอะไร แต่พอมีต้นไม้ใบสีเหลืองเข้าคู่ปุ๊บ สวยค่ะ


วิวนี้สวยมากค่ะ น้ำใสแหนวเลย ท่าทางน้องปลาคงจะมีความสุข อากาศดีๆ วิวสวยๆ น้ำใสๆ มุมนี้สวยจริงๆค่ะ เสียดายทีคนส่วนมาก จะเดินอีกทาง เพราะมีซุ้มมาเปิดขายอาหาร ตรงนี้เป็นด้านข้างของวัดค่ะ


วัดนี้มีมุมสวยๆเยอะเลยค่ะ จบจากมุมนี้เด๋วเราจะเลี้ยวไปทางถนนเล็กๆด้านข้างวัดก่อน ไปดูจิ๊ เค้ามีไรบ้าง (อยากจะบอกว่า กระเหรี่ยงสองตัวพร้อมจะตื่นเต้นกับทุกอย่างรอบตัวค่ะ)


พอเลี้ยวไปปุ๊บ ก็เจอกับแผงขายอาหารสารพัดอย่างค่ะ กำลังเริ่มตั้งร้านกันเลย ร้านี้เป็นร้านขายโมจิค่ะ อร่อยมาก แม่ค้าร่าเริงสุดขีดด้วย ไม้นึงมีโมจิ 3 ลูก น้องไผ่แบ่งให้ง่ำ 1 ลูก เหนียวๆ ร้อนๆ แต่หอมค่ะ อร่อย รสชาดดี


ร้านขายของที่ระลึกแถวนี้ก็มีค่ะ แต่อาจจะมีให้เลือกน้อยกว่า ถนนสายนี้จะเงียบๆ เพราะลูกค้าส่วนมากไปกระจุกกันอยู่ที่ถนนนากามิเสะ


ราคาของฝากค่อนข้างใกล้เคียงกันค่ะ แล้วแต่ว่าเราชอบลายไหนแบบไหน วันนี้ถือโพยมาซื้อของเต็มมือเลยค่ะ เพื่อนๆอยากได้คิตตี้ (เงิ่มแล้วหน้าโหดๆอย่างเจ๊ เดินไปซื้อคิตตี้เนี่ย มันจะน่าเอ็นดูเกินไปไหมหว่า)


ระหว่างทางเดินกลับ เจอกับหมาน้อย น่ารักมากค่ะ ไม่ดุเลย แอบจับขน ขนหนานุ่มมาก ท่าทางจะเชื่อฟังเจ้าของมากๆ ด้วย เพราะตอนที่ถ่ายรูป คุณเจ้าของเค้าพยายามบอกไอ้ตัวน้อยว่า มองกล้องสิ เค้าก็มองนะคะ แต่เค้าออกแนวระแวง เพราะว่าฝนเอามือไปลูบขนเค้า จริงๆอยากกอดด้วยซ้ำ แต่กลัวเจ้าตัวน้อยจะขวัญกระเจิงกว่านี้ หึหึ


เดินกลับออกมา พ่อค้าขายน้ำตาลปั้น มาแล้วค่ะ เหมือนน้ำตาลปั้นที่บ้านเราค่ะ เพียงแต่ลวดลายก็แสดงวัฒนธรรมของที่นั้นๆ สังเกตุได้ว่าพ่อค้าแม่เค้าที่นี่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกับลูกค้าแทบทุกร้านเลยค่ะ ยิ่งถนนนากามิเสะ ขายดิบขายดี พ่อค้าแม่ค้ายิ้มมมมมมมมมมมมหวานมั่กๆ


เดินกลับออกมาที่นากามิเสะอีกทีค่ะ ได้เวลาช็อปแระ ลุ้ยยยยยยยยย
ข้าวของทีนี่ละลานตาจริงๆค่ะ เยอะมาก ไม่ว่าจะพวงกุญแจ ดินสอ ปากกา กระดิ่ง โมบาย ตุ๊กตา เสื้อผ้า ขนม หึหึ เลือกไม่ถูกกกกกกกกกก เอาเป็นว่าเดินไปถูกใจใช่เลย ก็ซื้อเนาะ


ร้านนี้ขายแม็กเน็ตค่ะ เยอะแยะมากมายหลายแบบให้เลือก (แอบเทียบราคาเป็นเงินไทยแล้วซื้อไม่ลงค่ะ เฮ้อออออออออ)


ระหว่างเดินซื้อของ น้องไผ่ ก็ไปขอนักเรียนสาวๆถ่ายรูป หุหุ หัวเราะคิกคักกันใหญ่


มาต่อกันที่มุมขนมญี่ปุ่นค่ะ ร้านนี้น่าจะเป็นขนมเซมเบ้ ทำเป็นกล่องสวยงาม ราคาสูงพอสมควรค่ะ


เจ้านี้ขายขนมเหมือนกันค่ะ เป็นแป้งข้าวเหนียว(มั้ง) ใส่ไส้ต่างๆ แล้วเอาไปทอดร้อนๆ ไส้ก็มีให้เลือกหลายแบบค่ะ ขายดีเขียว เสียงเรียกเชิญชวน(ภาษาญี่ปุ่น) ให้มาลองชิมดังตลอด ลูกค้าเยอะเลยค่ะ ร้อนๆ หอมๆ


น้องไผ่ลองแล้วบอกว่าอร่อยดี ได้กัดคำนึงค่ะ ร้อนๆ กินแล้วเข้าท่า แต่ว่าไส้หวานนิดๆค่ะ ตอนนี้ลิ้นแยกไม่ออกแล้ว ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง 5555555555 (ไผ่ ฉันว่าป้าเค้ากลัวแกว่ะ)



ร้านนี้เป็นร้านขนมญี่ปุ่นโบราณค่ะ ถ้าจำชื่อไม่ผิดน่าจะเรียกขนมดังโงะ เป็นไส้ถั่วแดงค่ะ ปกติเป็นคนไม่ค่อยปลื้มถั่วแดงอยู่แล้ว ผ่านโลด (มาถึงตรงนี้น้องไผ่แอบกระซิบ พี่ฝนๆ เพื่อนผมบอกว่า ถ้าซื้อขนมไปฝากเป็นไส้ถั่วแดงโดนตบ......55555........ เหมือนเพื่อนพี่เลยว่ะ)


ต่อกันด้วยซอฟต์ครีมค่ะ มีสารพัดรส สารพัดกลิ่น มองแล้วละลานตา น่ากิน อันนี้เห็นราคาแล้วแอบสะดุ้ง แล้ววันนี้อากาศหนาว ผ่านเนอะ กลัวกินแล้วไม่รอดถึงปลายทางอื่น (มันเย็นพุงอ่า)


ส่วนร้านนี้ถ้าจำไม่ผิด(อีกแล้ว) มันน่าจะชื่อขนมเซมเบ้ เป็นแป้งทอด บางอันก็มีสาหร่ายห่อ อร่อยค่ะ


ร้านนี้มีอุปกรณ์การทำขนมโชว์กันหน้าร้านเลยค่ะ เป็นขนมไส้ถั่วแดง ไม่รุ้ชื่ออาราย แต่ที่เห็นลายขนมยอดนิยมจะเป็นตัวปลาค่ะ เจ้านี้ไม่แพงเลย แต่ไม่ชอบถั่วแดงอ่ะ ตอนแรกว่าจะซื้อกลับมาฝากแม่ แต่เอ๊ะ ถึงประเทศไทยไส้จะทะลักเปล่าหว่า แหะๆ


ซื้อของเสร็จ เดินออกมาข้ามมาอีกฝั่งจะเจอกับถนนนากามิเสะ ที่ด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดารถลากทั้งหลาย ที่มีหนุ่มๆญี่ปุ่นคอยเข้าแถวโฆษณาพาชมรอบเมือง เค้าเข้าคิวกันเป็นระเบียบเรียบร้อยเชียวค่ะ ไปๆ ข้ามถนนไปดูกันอีกรอบใกล้ๆ


เค้าจะยืนต่อคิวกันอารมณ์คล้ายๆวินมอไซด์บ้านเราค่ะ คนส่วนมากที่ใช้บริการจะเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวค่ะ เหมือนเดิม เค้าไม่ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ แต่เค้ามีใจบริการที่เต็มร้อยเลย เค้าจะถือป้ายโฆษณาเอาไว้ พูดจาชี้ชวนให้ใช้บริการรถลากของเค้าค่ะ ยิ้มแย้มทุกคนเลย ยกนิ้วให้


ว่าแล้วแก๊งค์กระเหรี่ยงก็ขอถ่ายภาพด้วยค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสดีจัง


อีกสักแชะนะจ๊ะ แหม คนนี้ก็น่ารักเนาะ (แง้ววววววววววว อยากเก็บกลับบ้าน)


อยู่มาสี่วัน เพิ่งเห็นรถตำรวจญี่ปุ่นก็วันนี้หละ ท่าทางจะออกมาตรวจตราความเรียบร้อย

จบจากวัดอาซากุสะ ถนนนากามิเสะ เราจะไปต่อกันที่อุเอโนะค่ะ เราจะไปเดินต่อที่ถนนอาเมะโยโกะ เหมือนเดิมค่ะ กลับลงไปรถไฟสายกินซ่าไลน์ วันนี้กระเหรี่ยงฉลาดค่ะ ซื้อตั๋วแบบใช้หนึ่งวันมาจากสนามบินนาริตะ วันนี้ขึ้นรถไฟ Metro Tokyo ฟรีทั้งวันจ้า หมดทรัพย์ไปคนละ 600 เยน ไปลุยอาเมะโยโกะกัน



ขึ้นมาจากสถานีอุเอโนะ เงยหน้ามอง เห........ ร้านนี้ชื่อคุ้นๆเนาะ หึหึ


เดินเข้ามาในซอยเจอกับรถขายเครปค่ะ เอารถตู้มาเปิดด้านข้าง ทำเป็นร้านขายเครป น่ารักมาก แต่ตอนนี้กระเหรี่ยงสองตัวหิวข้าวแล้ว หาร้านกินข้าวกันดีกว่า


อ่ะ มองข้ามไปได้ไง ถัดจากร้านขายเครป เป็นร้านขายต้นไม้ค่ะ บรรยากาศจิงเกอเบลล์มาก สดใสได้ใจเลย


เจอแล้ว ร้านนี้หละโดนเลย ราคาไม่แพงมากด้วย ไปค่ะ หม่ำข้าวกันดีกว่า


เมนูนี้ของน้องไผ่ค่ะ ข้าวหมูทอดแกงกระหรี่ จานใหญ่มากกกกกกกกกก นี่ขนาดธรรมดานะ ไผ่บอกว่าจุกมาก แต่ก็กินจนหมด อร่อยมาก ราคา 620 เยนจ้า


เมนูนี้ของฝนค่ะ ชุดข้าวไก่ทอดคาราเกะ หอมมมมมมมมมมมมมมมมมม ไก่ชิ้นบะเริ่มเลยค่ะ ข้าวก็ร้อนๆ เหนียวๆ ซัดเกลี้ยงเช่นเดียวกันค่ะ จานนี้ 680 เยน


พออิ่ม เราก็ย้ายพุงกันออกมาจากร้าน มาเจอกับหมูชุบแป้งทอดเสียบไม้ ราคา 100 เยน กรี๊ดดดดดดดดดดด อยากกิน แต่อิ่ม อิ่มมาก อิ่มที่สุด เชอะ งอนแระ อยากกินแต่กินไม่ไหว


แผงนี้ขายอาหารทะเลค่ะ ที่อาเมะโยโกะ สินค้าเค้าค่อนข้างหลากหลายค่ะ อาหาร ผลไม้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ เดินไปก็งงๆ ว่าจะซื้ออะไรดีหว่าตรู แต่หลังจากนี้ไป มือก็ไม่ว่างแล้วค่ะ เนื่องมาจากได้เจอหน้ากับลูกพลับญี่ปุ่นแบบสด ที่นายแม่สั่งให้ซื้อ ซื้อมา ถือของเต็มสองมือ กล้องเป็นอันย้ายนิวาสสถานไปอยู่ในกระเป๋าค่ะ แทบจะเอาปากคาบของกลับโรงแรมแล้ว

เงินออกจากกระเป๋าที่ถนนอาเมะโยโกะไปเยอะมาก ต้องกลับไปโรงแรมเอาของไปแหมะก่อนค่ะ ไม่งั้นคงไปไหนไม่คล่องตัวแน่เลย อ้อ แอบแวะร้านร้อยเยนด้วย โดนไปคนละสองพันกว่าเยนค่ะ ว่าจะไม่ซื้อๆ มันเผลอไปได้ไงหว่า แหะๆๆ

กลับไปถึงโรงแรมท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วค่ะ เด๋วเก็บของเสร็จเราจะไปต่อกันที่ชิบุย่าค่ะ เป็นอีกปลายทางนึงของกินซ่าไลน์ ไปกันต่อเลยดีกว่า


มาถึงแล้วกระเหรี่ยงสองตัวถึงกับอึ้งตะลึงงัน ค่าที่สถานีรถไฟที่สถานีชิบุย่า กว้างใหญ่ไพศาลมาก มีหลายชั้นเหลือเกิน กว่ากระเหรี่ยงสองตัวจะหาทางออกจากสถานีรถไฟได้ ฮืออออออออ เกือบครึ่งชั่วโมง แล้วเราก็มายืนดูวิวตรงแยกที่เป็นสัญญลักษณ์ของชิบุย่าค่ะ เราจะรอดูไฟคนข้าม แล้วรอดูคนเดินกันค่ะ





ตอนแรกที่เห็นถึงกับอึ้ง เหมือนดูฝูงมดกำลังย้ายของเวลาน้ำท่วมเลยค่ะ ยืนดูอยู่ 3 ไฟเขียว น้องไผ่หันมาทำตาวิบวับ บอกว่าพี่ฝน ไผ่อยากลงไปตรงนั้น น่าสนุก เอิ๊กกกกกกกกกกกกกก เจ๊ว่าน่ากลัวอ่ะ เจ๊กลัวคนเยอะๆ สุดท้ายเราก็ลงไปหลั่นล้ากันตรงแยกนั้นค่ะ พี่ฝนบอกไผ่คำแรกว่า ถ้าหลง ไม่ต้องหานะ เจอกันที่โรงแรมเลย คนเยอะมาก มีแต่วัยรุ่นมานัดเจอกัน ร้านค้าส่วนมากเริ่มทยอยปิดแล้วค่ะ


เดินเกือบเลยไป หันไปมองอีกทีอ่ะ อนุสาวรีย์น้องหมานี่เคยเห็น อยู่ใกล้ๆแยกชิบุย่าเลยค่ะ แต่ด้วยความมืดเลยไม่เด่นเท่าไร ใครหนอ ช่างกลัวน้องหมาหนาว เลยเอาผ้าพันคอไปผูกให้ (ผ้าพันคอจริงๆนะคะ)

ตรงชิบุย่า พี่ฝนแรงอยากรู้อยากเห็นเริ่มลดลงตามลำดับ เริ่มหงอยเพราะคนเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะไปทางไหน เริ่มงง เริ่มเกเร น้องไผ่เลยชวนย้ายที่ค่ะ เดี๋ยวเราจะไปที่อากิฮาบาร่ากันต่อ เดินทางเส้นทางเดิมค่ะ กินซ่าไลน์ ลงสถานีกลางๆทาง แหะๆ จำชื่อสถานี้ไม่ได้แระ

พอขึ้นมาจากรถไฟ กระเหรี่ยงสองตัว ก็ขึ้นไปบนตึกที่ขายพวกโมเดล และฟิกเกอร์ต่างๆ ที่ตึกห้ามถ่ายภาพค่ะ ทั้งตึกจะมี 7-8 ชั้น ทุกชั้นแบ่งออกเป็นตามตัวละครการ์ตูนต่างๆ ไม่ว่าจะดรากอนบอล โดราเอม่อน กันดั้ม ฯลฯ เยอะมาก แต่ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยนิดหน่อยเองค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรมาเลย แหะๆ แพง



พอออกมาจากตึกขายของเล่น เราก็มาเจอกับอาหารมื้อเย็นค่ะ จริงๆ ยังไม่หิวกัน แต่ ชื่อของมอสเบอร์เกอร์มันทำให้เรารู้สึกว่า แหม มาถึงนี่แล้วเนาะ ไม่ลองก็เสียดาย เอา ลุ้ยยยยยยยยยย


ชุดนี้ของน้องไผ่ค่ะ เบอร์เกอร์หมูย่าง หอมมมมมมมมมมมมมมาก


ต่อกันด้วยเมนูของฝนค่ะ เบอร์เกอร์ปลาชุบเกร็ดขนมปังทอด จะบอกว่าน้ำสลัดกับผักที่ใส่มายอดเยี่ยมมากค่ะ อร่อย แล้วเฟรนช์ฟรายสุดยอดเจงๆ

สังเกตุได้อย่างนึงคนที่นี่ไม่ค่อยชอบกินน้ำแข็งกันค่ะ เค้าใส่น้ำแข็งพอเป็นพิธี บางอย่างก็ไม่ใส่น้ำแข็งให้เลย จบจากเบอร์เกอร์ พี่ฝนก็ปล่อยน้องไผ่ไปผจญโลกกว้างตามลำพังอีกครั้งค่ะ พี่ฝนจะกลับไปจัดกระเป๋า เนื่องจากมีลูกพลับสดต้องดูแลเป็นจำนวนมาก เหมือนเดิมค่ะ นั่งรถไฟกินซ่าไลน์ไปลงใกล้ๆโรงแรม

กระเป๋าตอนมาก็ว่าใหญ่แล้ว แต่ตอนกลับอลังการกว่าเยอะ นั่งแพ็คแล้วก็รื้อ รื้อแล้วก็แพ็ค สนุกสนาน กว่าจะได้นอนปาเข้าไปตีสองกว่าๆค่ะ




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2550
8 comments
Last Update : 5 สิงหาคม 2552 11:40:21 น.
Counter : 8782 Pageviews.

 

เจ้าของ blog งามแต๊ ๆ เน้อ

 

โดย: กมลภัทร IP: 210.86.128.161 14 ธันวาคม 2550 13:27:28 น.  

 


หนุ่มๆก็หน้าใสละอ่อน เพื่อนฝนก็หน้าใสเด้งเชียว ว่าแต่ตีหัวแพ็คกลับมาได้บ้างป่าวอ่ะ
หุหุหุ เห็นเครื่องรางแล้วอยากได้บ้างจัง

 

โดย: รี่จ้า IP: 202.149.97.71 14 ธันวาคม 2550 13:33:55 น.  

 

อยากไปเที่ยวอีกจัง

 

โดย: fahtsuki 14 ธันวาคม 2550 16:22:43 น.  

 

ญี่ปุ่น อยากไปอยากไป ประเทศในฝันเลยคะ

 

โดย: เซกิ (เซกิ ) 14 ธันวาคม 2550 23:21:13 น.  

 

เครื่องรางน้องไผ่ อันเดียวกะเจ๊เบนซ์เล้ย

สมหวังทุกอย่างไงที่เคยบอกอ่ะ โห..ตังพันเยน

 

โดย: เบนซ์ IP: 202.57.179.40 17 ธันวาคม 2550 15:15:06 น.  

 

อยากไปบ้างจัง


อิจฉาอิจฉา

 

โดย: pp_hoihansa 18 ธันวาคม 2550 8:58:46 น.  

 

(อ่วนให้จบทีนะค่ะ) ชอบพวกพื่ๆมากมายค่ะ ชอบเด็กนักเรียนญี่ปุ่น
หล่อมาก น่ารัก น่ากิน อิอิอิอิ ok
พื่เขียนได้ดีเข้าถึงใจเลยนะ ชอบมาก
อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
พื่2คน น่ารักมากเลยนะ โดยเฉพราะพื่ไฝ่ อะค่ะ หล่อจัง
เลยนะอยากเป็นแฟนพื่ไฝ่จังเลย อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ(รักนะ)
อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

หนูชอบร้านขายไอศกรีมจัง
ทำได้ดีมากๆจริง เห็นแล้วอยากเข้าไปซื่อจังเลยค่ะ
แล้วก็พวกพื่ถามรูปได้ดีมากเลยนะ สวยดี อิอิอิอิอิอิอิอิอิ

 

โดย: ซู IP: 125.24.186.72 6 กันยายน 2551 8:37:34 น.  

 

ชอบครับมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกผมก็อยากไปอ่ะ

 

โดย: แมคครับ IP: 125.25.123.215 22 พฤศจิกายน 2551 11:18:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


joruno_jostar
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กิ๊วววววววววว ในที่สุด ก็สร้างบล็อคเป็น


Friends' blogs
[Add joruno_jostar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.