Bloggang.com : เหนือฟ้า พาไป : แต้มที่หนึ่ง

แต้มที่หนึ่ง - สองสาว(อ้วนดำ) ทำบุญ

สองสาว(อ้วนดำ) ไปแสวงบุญ(ใส่ตัวกันเอง) ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2551 แต่เพิ่งจะมีเวลาเอาภาพมาลง..ทริปแสวงบุญครั้งนี้เราจะไปนมัสการรอยพระบาทที่เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ใน 1 ปี ทางวัดเค้าจะอนุญาตให้ขึ้นเขาได้ประมาณ 2 เดือน(60 วัน) ซึ่งปีนี้ก็เป็นช่วงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ - 7 เมษายน 2551

ป้าดำ (สาวดำที่หนึ่ง) เองก็ตั้งใจไว้หลายปีแล้ว ไม่มีโอกาสได้ไปสักที จนน้องดำ(สาวดำที่สอง) อยากไปเสริมสร้างบุญให้ตัวเองที่เขาคิชฌกูฏ ป้าดำก็เลยอาสาพาไป ก็พยายามหาข้อมูล ว่าต้องไปอย่างไร เพราะถามเพื่อนๆ เค้าบอกต้องเดินขึ้นเขากัน (สมัยสาวๆ แน่ๆ อิอิ) เลยต้องบอกน้องดำ เตรียมตัวด้วยนะ อาจมีเดินถึกกัน ป้าดำนะสบายอยู่แล้ว เรื่องเดินป่าขึ้นเขาลงห้วยเนี่ย (อิอิ..แค่พอได้นะ) ..
น้องดำบอกว่าสู้ตายค่ะ..ก็เลยตกลงว่าจะไปคืนวันศุกร์ ออกจากกรุงเทพดึกๆ แล้วไปถึงเมืองจันทบุรี สักตีสาม แล้วนั่งรถสองแถวต่อไปยังวัดกระทิง แล้วก็กินข้าวต้มเพิ่มพลัง ป้าดำหม่ำไปซะ 2 จาน (เพิ่มพลังงัย อิอิ) แล้วก็ไปซื้อคูปองรถสองแถวเพื่อนั่งต่อไปยังบนเขา เพื่อไปให้ถึงจุดที่เขาให้เริ่มเดินขึ้นเขากัน..แต่ถ้าใครอยากได้บุญเยอะๆ ก็เดินจากวัดกระทิงไปจนถึงยอดเลยก็ได้..แต่เราไม่รู้ระยะทาง และมืดด้วยไม่เตรียมไฟฉายมาจึงเลือกขึ้นรถดีกว่า (ข้ออ้างที่ดี) ระหว่างทางก็เห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่เดินขึ้น-ลง ตอนนั่งรถขึ้นเขาเนี่ยก็ประมาณ ตีห้าแล้วล่ะ มืดมาก ทางก็โหดน่าดู รถสวนกันไป-มาตลอดเลย นี่วันมาวันที่สามที่เปิดให้ขึ้นเขา คนยังเยอะเลย..นั่งรถไปก็ได้ออกกำลังแขน หน้าท้อง เพราะต้องเกร็งเวลารถขึ้นเขา ขอแนะนำสำหรับผู้ที่จะไป ให้สลับข้างเวลานั่งรถ เพราะแขนจะได้มีกล้ามเท่าๆ กัน..เพราะเราต้องลงเปลี่ยนรถขึ้นเขาสองจุดๆ 50 บาท ลงเขาก็สองจุด ๆ 50 บาท ...แต่ด้วยแรงแห่งศรัทธาเราก็ไปกันจนถึง..และกลับมาอย่างอิ่มเอมใจ..

ป้าดำ ก็ไม่ค่อยจะมีข้อมูลเท่าไหร่ เลยนำข้อมูลจากเวบผู้จัดการมาให้อ่านกันก่อนจะไปดูภาพ..

รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ถูกค้นพบในราว พ.ศ.2397 หรือประมาณ 152 ปีมาแล้ว ต่อมาในปี พ.ศ.2515 พระพ่อเขียน หรือพระครูธรรมสรคุณ เจ้าอาวาสวัดกระทิง เจ้าคณะอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ ได้บุกเบิกทางขึ้น และนำรถยนต์ขึ้นเขาเป็นครั้งแรก และค่อยๆ พัฒนาเส้นทางขึ้นยอดเขาให้ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น มาจนถึงปัจจุบัน

รอยพระพุทธบาทแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,050 เมตร นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปรากฏอยู่บนก้อนหินใหญ่ โดยใกล้กันนั้นมีหินลูกพระบาทหรือหินลูกบาตร ที่เป็นหินก้อนใหญ่มากตั้งตระหง่านอยู่ลักษณะเหมือนหินเรือใบที่เกาะสิมิลัน จ.พังงา

นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงกับรอยพระพุทธบาทยังมีประติมากรรมหินรูปร่างแปลกตาที่สอดคล้องกับตำนานทางพุทธศาสนา อาทิ หินพระนอน ลานแข่งรถพระอินทร์ ถ้ำฤาษี หินรูปร่างคล้ายเต่าและช้างใหญ่ รวมถึงรอยเท้าพญามารปรากฏให้เห็นด้วย

พระอาทิตย์กำลังขึ้น

ดอกไม้เยอะมากมองไม่เห็นรอยพระบาท

พลังศรัทธา ของมหาชน

เห็นเค้าใช้ก้านธูปค้ำก้อนหิน น้องดำก็ทำบ้าง..

หินเป็นรูปบาตร ซึ่งก็จะมีหลายก้อนแล้วตั้งเป็นชื่อบาตรของพระสาวกของพระพุทธเจ้า

เขตผ้าแดง เขาว่าเป็นแดนสวรรค์ น้องดำอยากขึ้นสวรรค์เลยต้องลงชื่อไว้ (ตามคิวนะจ๊ะ)

เฮ้ย..ทำอาราย..

สิบโมงเช้าแล้ว หมอกยังมี อากาศยังเย็น สบายๆ

น้องดำจ๋า ป้าดำจะถ่ายกระดิ่ง ไม่ออกเหรอ...งั้นเอาภาพเบลอๆ ไปแล้วกัน

อีกแล้ว...ฉานจะถ่ายธูปดอกไม้..หลบไป

โอ๋ๆ งอนเหรอ...เดินต่อเถอะนะ ป้าดำหิวข้าวแล้ว!!

มาไหว้พระ ทำบุญ จิตใจจะได้ผุดผ่องนะ

มองไกลๆ คนเริ่มน้อยแล้ว

สาธุ สาธุ สาธุ รอยพระบาท

เริ่มหิว แดดก็ร้อน เดินลงกันเถอะ อ้อ..ถ้าใครเดินขึ้นไม่ไหวเค้ามีบริการแบกขึ้นนะจ๊ะ..

ภารกิจสำเร็จแล้ว..

เส้นทางสายธรรมะ นี้ยังรอทุกคนที่มีความศรัทธาในศาสนาเพื่อไปสักการะรอยพระบาท แล้วคุณจะได้รับรู้ถึงความพยายาม และความมุ่งมั่นของตัวเอง ว่ามันไม่เกินกำลังของเราที่คิดจะทำ และมุ่งจะทำให้สำเร็จ