เที่ยวชมวัดพระแก้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองชาวไทย
Dear diary, อากาศเย็นลงเล็กน้อยอีกครั้ง ท้องฟ้าก็แจ่มใส ดีใจจัง วันนี้ใส่เสื้อไม่มีแขนออกมาทำงาน ก็เลยต้องเอาเสื้อมาคลุมตอนอยู่ออฟฟิศเลย กลางวันนี้จะไปทานข้าวกับเพื่อนที่ตึกข้าง ๆ เพื่อนทั้ง 2 คน เรียนเอกเดียวกันแต่คนละห้องค่ะ มีตอนปี 3 - ปี 4 ได้เรียนด้วยกันบางวิชา คนหนึ่งเป็นเพื่อน take (หมายความว่าเพื่อนรหัส) ส่วนอีกคนเจอกันเมื่อไหร่ก็ทักกันเสมอ วันนี้ได้ฤกษ์ดี ไปทาน ZEN ด้วยกัน (^o^) ตื่นเต้นจะได้เม้าท์กับเพื่อนค่ะ --------------------------------- 2 ม.ค. 51 เราตื่นมาแต่เช้า นัดกะแม่และน้องสาวทาคะไว้ตอน 8.30 น. ก็เลยต้องตื่นตั้งแต่ 6.30 น. ทาคะเปิดทีวีดูทีวี (ดูทำไม...ฟังไม่ออก) แต่ก็นะ ทำให้เราได้ทราบข่าวที่สำคัญมาก ๆ คือ ข่าวการสิ้นพระชนของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เปิดทีวีมาแล้วเห็นคนใส่ชุดดำเราก็ฉุกใจคิดว่าต้องเรื่องนี้แน่ ๆ เนื่องจากเพิ่งจะวันที่ 2 ม.ค. ทำไมผู้ประกาศข่าวต้องใส่ชุดสีดำด้วย จริงมั้ยคะ ดังนั้นก็เลยเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อดำ - กางเกงดำทันค่ะ และโทร.เช็คกับตำรวจท่องเที่ยวว่าวันนี้วัดพระแก้วจะปิดหรือเปล่า ปรากฏว่าจะปิดบางส่วน คือ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โอเช งั้นไปได้ แต่เรารู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวมาก มาถึงโรงแรม น้องสาวทาคะก็บอกว่าคุณแม่ปวดท้อง ท้องขึ้น ก็รอคุณแม่อีก 1 ชม. คุณแม่บอกว่าวันนี้แม่คงไม่ไหวค่ะ เสียดายมากค่ะ เพราะคุณแม่พูดถึงวัดพระแก้วทุกวัน อยากจะไปเห็นมาก ๆ แต่ก็ไม่เป็นไรเนาะ คราวหน้ามา จะพาไปอีกค่ะ สัญญาเลยเจ้าค่า ออกเดินทางกัน 3 คนพี่น้อง มาจนถึงวัดพระแก้วแล้ว แต่คุณพี่ชายต้องเช่ากางเกงขายาวใส่ตั้ง 50 บาทแน่ะ (คุณพี่เค้าใส่กางเกงขา 5 ส่วนมา) ปกติก็พอหยวน ๆ เข้าได้นะคะ แต่วันนี้เข้าไม่ได้ค่ะ ส่วนเราเค้าก็บอกว่า กางเกงขา 9 ส่วนเข้าไม่ได้ งงค่ะ แต่ก็ไม่มีคนว่าอะไร ใส่อะไรมาก็เข้าไปอย่างนั้น หน้าวัด มีทหารเดินขบวน อดไปถ่ายรูปจากตรงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเลยค่ะ ตรงนั้นจะสามารถเก็บรูปวัดพระแก้วได้หมด สมัยก่อนตอนเรียนหนังสือ เราก็มีวิชา English for Infomation of Tourism ด้วยค่ะ ไปวัดพระแก้วบ่อยมาก แล้วก็สอบปลายภาคที่นี่ โดยจะมีจุดสำคัญอยู่ 52 จุด ที่อาจารย์จะจับฉลากชื่อใครขึ้นมา คนนั้นจะต้องอธิบายข้อมูลได้ทั้งหมดค่ะ เราบอกกับเพื่อนว่า เราไม่มีทางจะเป็นคนแรก ดังนั้นเราไม่อ่านไป จำได้แต่ที่เป็นภาษาไทยค่ะ ปรากฏว่าอาจารย์จับชื่อเราเป็นคนแรก แหง่วเลย ขอใช้ความรู้เดิมนะคะ ที่เคยเรียนมา จบมา 3 ปีได้แล้ว ยังใช้ได้ตลอดชีวิตค่ะ วิชานี้ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (ร.1) ย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี มายังอีกฝากฝั่งด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา (เกาะรัตนโกสินทร์ปัจจุบัน) เพราะใหญ่กว่า และพระราชทานชื่อเมืองหลวงไว้ว่า "กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์" มีความหมายว่า เป็นมหานครอันกว้างใหญ่ดุจเทพ เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต ไม่สามารถรบได้ เป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดิน เมืองที่มีพระราชวังหลายแห่ง ดุจเป็นวิมานของเทวดา ซึ่งมีพระวิษณุกรรมสร้างขึ้นตามบัญชาของพระอินทร์ (ชื่อนี้เปลี่ยนจาก บวรรัตนโกสินทร์เป็น อมรรัตนโกสินทร์ เมื่อรัชการที่ 4 ค่ะ) ถ้าได้สังเกตกันนะคะ พื้นจะถูกยกขึ้นไปสูงพอสมควรเคยทราบมั้ยคะว่าเพราะเหตุอันใด? ตามความเชื่อแต่สมัยโบร่ำโบราณว่า พระมหากษัตริย์นั้นเป็นอินทร์ หรือพระศิวะ หรือจะเรียกว่าพระรามก็ได้ อวตาลมาจุติบนพื้นโลก และที่อยู่ของเทพคือเขาไกรลาศซึ่งจะอยู่สูงกว่าคนทั่วไป พื้นจึงจะถูกยกระดับขึ้นค่ะ ชมความงามกันไปเรื่อย ๆ แล้วค่ะ นครวัดฉบับย่อส่วน เนื่องจากเมื่อสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (ร. 1) พระองค์ทรงขยายอณาจักรไปจนถึงขอม ญวณ พม่า เลยทีเดียวค่ะ แต่พระองค์ทรงได้มองการณ์ไว้ว่า ในอนาคตขอมอาจจะไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของไทย จึงได้คิดสร้างนครวัดแบบย่อส่วน ให้ลูกหลานชาวไทยรุ่นหลังไว้ได้ดูค่ะ พระราชสัญลักษณ์ของในหลวงรัชการปัจจุบัน ที่ฐานเจดีย์นี้มีความหมายค่ะ ที่ใส่รองเท้าก็จะเป็นยักษ์ ที่ไม่ใส่รองเท้า เค้าเป็นลิง ยักษ์กับลิงไม่ถูกกัน แต่เพื่อยกฐานเจดีย์ขึ้นแล้วนั้น เค้าก็สามัคคีกันค่ะ พระมณฑป ระฆังวัดพระแก้วได้ถูกเป็นที่ขนานนามว่าเสียงกังวาลไพเราะที่สุด สังเกตะดูนะคะ ที่ห้อยระฆังเป็นรูปอะไรเอ่ย? เป็นรูปใบโพธิ์ค่ะ คุณพี่ชายแอบถ่ายมาค่า พระปัญจวัคคีย์ เป็นหมอของพระพุทธเจ้า จิตรกรรมฝาผนัง สมัยก่อนเค้าใช้สีฝุ่น เมื่อวันเวลาล่วงเลยไป ก็ต้องบูรณะบ้างแหละค่ะ ขอขอบพระคุณช่างฝีมือทุกท่านนะคะ ที่ทำให้เราได้มีวัดสวยไว้อวดชาวต่างชาติ (^o^) คนเยอะมากค่ะ จากมุมนี้ ถ่ายรูปมาเห็นยักณ์ทั้ง 2 ตน วัดพระแก้วมียักษ์คอยปกปักษ์รักษาอยู่ 8 ตนค่ะ ส่วนเทวดานั้นก็มีอยู่มากมายค่ะ ตามประตูก็จะมีรูปที่ปิดทองเป็นรูปเทวดา ถ้ายังไม่เคยเห็น คราวหน้าไปวัดพระแก้วต้องสังเกตดูนะคะ ลองนับด้วย ส่วนฟาลองนับแล้วแต่ไม่สำเร็จเพราะเยอะมากค่ะ พระแก้วมรกต ทรงเครื่องฤดูหนาว *ความจริงแล้วพระแก้วมรกต ถูกสร้างมาจากหยกค่ะ* เจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ด้านหลังของเจ้าแม่กวนอิมเป็นเทียนค่ะ (ไม่ใช่เสาแต่อย่างใด) มีความหมายว่า Candle up the life สิงโต ดูง่าย ๆ ตัวผู้ก็จะมีลูกแก้วในปาก ตัวเมียก็จะมีลูกอยู่ด้วยค่ะ คุณน้องสาวถ่ายรูปให้เราไกลมากเลยอะ ออกจากวัดพระแก้ว หิวกันโซเลยค่ะ น้องสาวคุณแฟนอยากทานไก่ย่าง 5 ดาว เราก็เลยเดินไปที่ท่าน้ำกัน ได้ไก่ย่างให้น้อง (ไม่เอาข้าวปลาซะด้วย) ทาคะทานหอยทอด (น่ากินกว่าของเราอีก) ผัดไทกุ้งสดฟาเองจ้า รับประทานอาหารกลางวันกันอย่างเต็มคราบก็ไปต่อค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไป เพิ่งจะบ่าย 2 โมงเอง ยังไปวัดได้ต่ออีกแห่งหนึ่งค่ะ ฟา
Create Date : 16 มกราคม 2551
Last Update : 16 มกราคม 2551 11:46:22 น.
5 comments
Counter : 3179 Pageviews.
โดย: โอ๋ (cutie_nitty ) วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:18:01:27 น.
โดย: VA_Dolphin วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:11:07:26 น.
โดย: d_regen วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:13:07:06 น.
โดย: boatboat วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:15:21:19 น.
Location :
Yokohama City Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [? ]
Hi, I am Fah ... I write diarys about Thailand, Japan, Yummy Foods, Places to See, Lifestyle, climbing, and etc. Let's join if you are interested in my blog. (●´∀`)ノ*【こ】*【ん】*【に】*【ち】*【ゎ】* 初めまして、ファーです! タイのこととか日本のこととか旅行のこととか 登山とか色々なことの日記を書きますよ。 もし、ファーの日記が気に入ったら 遊びに来てくださいね。
ขอตามไปเที่ยววัดพระแก้วด้วยคนนะคะ
ได้ความรู้กลับไปตรึมๆ โอ๋ไปบ่อยแต่ไม่เคยรู้อะไรอย่างงี้เลยอ่ะค่ะ แฮะๆ (พูดแล้วอาย )
อาหารน่าทานมากๆ อยากทานผัดไทยจังเยยยยยย.....
แงๆ พี่ฟาขา เมื่อไหร่จะออนเอ็มเจอกันซักกะทีเน้อ... อยากคุยด้วยจังเลยค่า
สวัสดีวันครูนะคะ