Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

มาเลเซีย สิงคโปร์ (วันแรก)

เพิ่งกลับจากทัวร์มาเลเซียกะสิงคโปร์มาละ หลังจากฟื้นจากสลบไปทำงาน ก็ได้เวลามานั่งเล่าประสบการณ์ซะที

ปกติเวลาเที่ยวไหนก็มักจะไปนัดๆ กันแล้วก็ไปกันเอง ไม่เคยซื้อแพคเกจทัวร์ซะที เพราะจะได้ไปไหนและทำอะไรตามใจชอบ แต่คราวนี้ตอนแรกอยากจะไปนครวัดนครธมที่เขมร แต่ไม่มีใครยอมไปด้วย ก็กะว่าไปคนเดียวก็ได้วะ เจ้านกมันคงสงสารเลยชวนไปเที่ยวมาเลเซียกะสิงคโปร์กันก่อน เขมรค่อยว่ากันทีหลัง ผมก็ตกลง (ใจง่ายจังนิ) ก็เลยนัดกัน 5 คน มีผม เจ้าหลี นก ป้อม และพี่เสาร์ที่ทำงานที่เดียวกะนกและป้อม โดยนกอาสาไปติดต่อเจ้ากี้เจ้าการเรื่องแพคเกจทัวร์ให้ในราคาแบบประหยัดๆ

ทัวร์ที่นกติดต่อมาได้ชื่อว่า บัณฑิตทัวร์ หัวหน้าคณะทัวร์แกเล่าว่าอดีตเคยเป็นข้าราชการครู ปัจจุบันลาออกมาทำบริษัททัวร์ เพราะเป็นคนชอบท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ เวลาไปที่ไหนก็มักจะอยากให้คนรอบข้างได้ไปเห็นด้วย สรุปว่าแกทำด้วยใจรัก เพราะตลอดการเดินทางแกก็ดูแลลูกทัวร์เป็นอย่างดี มีนิทานมาเล่าคั่นรายการให้ได้ขำขันกันตลอดการเดินทาง

วันที่ 6 พ.ค.51 รถทัวร์มารับที่ปากทางเข้าบ้านพักตอน 4 ทุ่ม บนรถก็มีลูกทัวร์ที่มากันเป็นครอบครัวจากในเมืองสุราษมาครึ่งคัน แล้วก็ไปรับคณะเดินทางชุดใหญ่ที่อำเภอไชยา เป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลเวียง อ.ไชยา สรุปว่าทัวร์คณะนี้มี 3 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกเป็นแบบครอบครัว 3 ครอบครัว รวม 12 คน กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มเพื่อนๆ กัน 5 คน และกลุ่มลุงป้าน้าอาผู้สูงอายุ 23 คน รวม 40 คนเต็มรถพอดี

วันที่ 7 พ.ค.51 นอนมาในรถแบบหลับๆ ตื่นๆ ปกติจะไม่ชอบนั่งรถทัวร์กลางคืน เพราะจะนอนไม่ค่อยหลับและรู้สึกไม่สบายเอาซะเลย แต่งวดนี้ก็นั่งได้ชิวๆ สงสัยเพราะมีเพื่อนๆ มาด้วยจึงไม่รู้สึกอึดอัดอะไร เช้าตรู่ก็แวะเข้าปั๊มน้ำมันแถวหาดใหญ่ อาบน้ำเสร็จรถก็พาคณะไปยังด่านชายแดนที่จังโหลน อ.สะเดา เวลา 6 โมงเช้า สว่างพอดี






ผ่านเข้ามาในประเทศมาเลเซียต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ เป็นรถทัวร์ของมาเลเซีย และต้องปรับเวลาใหม่ เพราะเวลามาเลเซียเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง พอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ หัวหน้าคณะทัวร์ก็แนะนำให้รู้จักกับไกด์ชาวมาเลเซียชื่อ มิสเตอร์ โรซีดีน บินลาดิน แกบอกว่าแกไม่ได้เป็นไรกับนายอุสซะมะ บินลาดิน แค่นามสกุลเหมือนกัน และก็คนขับรถชื่อบอย เป็นคนมาเลเซีย เชื้อสายสยาม เพราะบรรพบุรุษเป็นคนสยามที่อพยบมาอยู่ในเขตมาเลเซียก่อนที่ไทยจะเสียดินแดนส่วนนี้ให้อังกฤษ



ซักพักหัวหน้าทัวร์แจกตังค์คนละ 5 RM แล้วก็แวะกินอาหารเช้ากันที่ร้านอาหารข้างทาง ในร้านนี้มีอาหารขายหลายอย่าง เลือกตักกินแบบบุฟเฟ่ คือให้ตักอาหารไปที่เคาน์เตอร์ เค้าจะดูอาหารในจานแล้วก็คิดตังค์ มั่วนิ่มป่าวไม่รุ เพราะผมตักอาหารไม่กี่อย่างเอง+น้ำส้มทวิสเตอร์ คิดตังค์ตั้ง 8 RM ทีคนอื่นเค้าคิดแค่ประมาณ 3 RM เอง



หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปเก็นติ้งไฮแลนด์ รถพาเราเข้าทางซุปเปอร์ไฮเวย์ของมาเลเซีย เป็นทางของเอกชนเก็บตังค์ตลอดทาง ตั้งแต่เหนือจดใต้ จากไทยถึงสิงคโปร์ ค่าผ่านทางได้ข่าวว่าแพงโขอยู่
สังเกตสองข้างทางก็จะมีสวนปาล์ม สวนยางพาราเหมือนปักษ์ใต้บ้านเรา ไม่เห็นทุ่งนาเลยแฮะ ส่วนที่ภูเขาก็เป็นป่าจริงๆ ไม่มีการทำสวนยางบนเขาแบบเมืองไทย
ช่วงแรกเจ้าหลีมันนั่งข้างหน้าต่าง ผมเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปข้างทางซักเท่าไหร่


เที่ยงๆ แวะกินข้าวกันที่เมืองอีโปร์ แล้วก็แวะเที่ยวถ้ำเปรัก เข้าไปก็เห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่







ออกมานอกถ้ำเจอเจ้าถิ่นซะงั้น


แวะร้านของที่ระลึกหน่อยนึง

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เก็นติ้งไฮแลนด์ต่อ ตลอดทางไกด์ก็บรรยายประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย สลับกับฉายวีดีโอของการท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งคุณโรซีดีน (ผมเรียกคุณโรส) แกเก่งอยู่นา แกพูดไทยได้ชัดแจ๋ว แถมให้ข้อมูลรายละเอียดของที่ต่างๆ ไปตลอดทาง แกมีมุกขำขันแซวคุณบอยคนขับรถตลอด แถมสลับกับนิทานของหัวหน้าทัวร์เข้าไปอีก ก็เลยหนุกหนานกันตลอดทาง มีเว้นช่วงให้ได้งีบและแวะเข้าห้องน้ำกันเป็นระยะ จนบ่ายๆ รถก็บ่ายหน้าเข้าเขตภูเขาสูง ช่วงนี้ต้องขับเกียร์ต่ำขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีกระเช้าสกายเวย์ขึ้นเก็นติ้งไฮแลนด์



ถึงสถานีกระเช้าสกายเวย์ประมาณ 4 โมงเย็นก็ไม่รอช้า ขนกระเป๋าขึ้นไปด้านบน ตอนนั้นอากาศค่อนข้างเย็นมีหมอกเล็กน้อย เข้าคิวไม่นานก็กระโดดขึ้นกระเช้ากัน







กระเช้าพาเราขึ้นภูเขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ท่ามกลางลมหนาวที่เย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เมฆที่หนาขึ้นเรื่อยๆ จนมองออกไปข้างนอกไม่เกิน 5 เมตร ใช้เวลาบนกระเช้าประมาณ 20 นาที พวกเราก็ถ่ายรูปกันไป เฮฮาแซวกันไปตลอดทาง มีแต่เจ้าป้อมนั่งตัวเกร็งหน้าซีดอยู่คนเดียว



ถึงยอดเขาเก็นติ้งหัวหน้าทัวร์ก็พาเดินทางเข้าโรงแรมบนยอดเขา สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 6000 เมตร มีโรงแรมอยู่ 4 แห่ง แต่เป็นเจ้าของเดียวกันหมดแหละ ระหว่างทางไปโรงแรมที่พวกเราพักคือโรงแรมเฟิร์สเวิลด์ ไกด์บอกว่าเป็นโรงแรมที่ได้บันทึกว่าเป็นโรงแรมที่มีห้องพักมากที่สุดในโลก คือ 6000 ห้อง เป็นโรงแรมแบบ entertainment complex คือมีทั้งสวนสนุกทั้งแบบ indoor และ outdoor และก็มี casino สองแห่ง มีโชว์ละครสัตว์ และโชว์จากลาสเวกัสหมุนเวียนกันไป

เช็คอินเสร็จก็เข้าห้องพัก ปรากฏว่าในห้องไม่มีแอร์ แต่คิดดูอีกทีไม่รุจะมีแอร์ไปทำไม ขนาด 4 โมงกว่ายังหนาวขนาดนี้ ดึกๆ จะขนาดไหนหว่า ขอฮีตเตอร์แทนดีกว่า ห้องน้ำที่นี่ดีนา แยกอ่างล้างหน้า ห้องส้วม ห้องอาบน้ำออกจากกัน เวลาทำธุระจะได้ไม่ต้องรอกันให้เสียเวลา

เข้าห้องพักเสร็จกะว่าจะไปถ่ายรูปสวนสนุกด้านนอกโรงแรมซะหน่อย แต่ต้องผิดหวัง ออกไปข้างนอกหมอกหนามาก มองอะไรไม่เห็นเลยที่สำคัญหนาวชะมัด เลยกลับมาอาบน้ำแล้วนอนโม้อยู่กับเจ้าหลีจนเพลินจนเกินเวลานัดที่จุดนัดพบเพื่อไปกินข้าวของคณะทัวร์ตั้ง 5 นาทีแน่ะ วิ่งกระหืดกระหอบไปถึงที่นัดเป็น 2 คนสุดท้ายด้วยความอับอาย



ลงไปกินอาหารเย็นที่ห้องอาหารที่ใหญ่มาก เป็นบุฟเฟ่อาหารเอเชีย แต่ดันไม่มีอาหารญี่ปุ่นซะงั้น ก็เลยตักนู่นนิดนี่หน่อยมากิน รสชาติก็งั้นๆ เดินไปเห็นส้มตำก็ดีใจรีบตักมากิน แต่รุสึกว่ารสขาติจะขาดน้ำปลา ขาดมะนาว ขาดน้ำตาล ขาดพริก ขาดถั่ว ขาดมะเขือเทศ ขาดกุ้งแห้ง ขาดอายิโนะโมโต๊ะ สรุปว่าเหมือนกะกินมะละกอขูดเปล่าๆ นะแหละ ไปเดินดูขนมดีกว่า ค่อยน่ากินหน่อย มีขนมเยอะแยะ ด้วยความโลภ ตักพุดดิ้ง บราวนี่ เยลลี่ แล้วก็เค้กผลไม้ไปกินด้วยความอร่อย แถมเบิ้ลด้วยบราวนี่จานใหญ่อีกรอบ จนอิ่มหนำสำราญกันไป

อิ่มแล้วก็ชวนกันไปเดินเล่นในศูนย์การค้า แล้วก็สวนสนุก indoor











สวนสนุก indoor เค้าจำลองสถานที่สำคัญในตะวันตกมาครบเชียวแหละ พอตกค่ำก็ไปถ่ายรูปกันที่สวนหน้าโรงแรมนิดหน่อย แล้วก็ชวนกันเข้าไปคาสิโน ที่นี่เค้ากำหนดต้องแต่งตัวเรียบร้อย ผู้ชายต้องใส่เสื้อมีปก รองเท้าหุ้มส้น ห้ามเอากล้องถ่ายรูปเข้าไป ด้านในมีตู้ให้เสี่ยงดวงเยอะแยะไปหมด แล้วก็โต๊ะการพนันต่างๆ เต็มไปหมด แต่อยู่ได้ซักพักก็ต้องเผ่นออกมา ไม่ใช่ไรหรอก มันเหม็นบุหรี่อ่ะ นักพนันเวลาเค้าเครียดก็อัดบุหรี่กันหน้าดำหน้าแดง อ้อ ที่มาเลเซียเค้าไม่รณรงค์เรื่องบุหรี่เหมือนบ้านเรานิ เดินไปทางไหนก็เจอคนสูบบุหรี่แม้แต่ในห้างก็ไม่เว้น

ออกจากคาสิโนก็ง่วงกันและ ไปนอนเอาแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้กันดีกว่า เข้าไปในห้องตอนแรกตกลงกับเจ้าหลีว่า คืนนี้นอนเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์กันดีกว่า แต่นอนไปได้ซักพักต้องปิดหน้าต่าง เพราะลมแรงแล้วก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ



ตื่นเช้ารีบอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวเสร็จกะว่าจะไปถ่ายรูปสวยๆ รอบโรงแรมซะที แต่ต้องผิดหวังอีกแล้ว จนสายๆ สภาพอากาศก็ไม่เป็นใจเอาซะเลย ต้องจำใจจากเก็นติ้ง เมืองที่ว่ากันว่าสูงเหนือเมฆเหมือนกะอยู่บนสรวงสวรรค์ซะที เออ โรงแรมนี้ใจดี ให้คีย์การ์ด 2 ใบ และไม่ต้องคืนด้วย







ขนกระเป๋าขึ้นกระเช้าลงเขากันไปด้วยความหนุกหนาน ส่วนเจ้าป้อมก็เหมือนเดิม เธอใบ้รับประทานอีกแล้ว จนถึงสถานีข้างล่างประมาณ 10 โมง อากาศร้อนผิดกะข้างบนลิบลับ

ไปเก็นติ้งงวดนี้รู้สึกทึ่งกะที่นี่จิงๆ ความจริงความสูงน้อยกว่าดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์บ้านเราตั้งเยอะ แต่อากาศที่นี่หนาวทั้งปีอย่างเหลือเชื่อ ที่เมืองไทยถ้าไม่ใช่หน้าหนาวพอสายๆ ก็ร้อนและ คุยกะไกด์เค้าบอกว่าที่นี่เค้าไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กัวลาลัมเปอร์แค่ชั่วโมงครึ่งเอง เสียดายที่ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าฝน เมฆเยอะมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปวิวเลย เสียดายมากๆ ต้องหาโอกาสมาใหม่ซะแล้ว

พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวกัวลาลัมเปอร์กะโจโฮบารู
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=errorza&month=05-2008&date=13&group=3&gblog=5




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551
6 comments
Last Update : 14 พฤษภาคม 2551 19:36:47 น.
Counter : 2550 Pageviews.

 

เห็นแล้วนึกถึงไอหมอกบนเก็นติ้งจังเลย

 

โดย: พิกกี้เม้าส์ 12 พฤษภาคม 2551 21:40:53 น.  

 

มาเที่ยวด้วยคนค่ะ

ชอบภาพในถ้ำที่มีแสงส่องเข้ามาจัง

 

โดย: เยี่ยมรุ้ง 12 พฤษภาคม 2551 22:04:58 น.  

 

ขอติดสอยห้อยตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

 

โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส 13 พฤษภาคม 2551 0:18:08 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

 

โดย: ว่าน IP: 58.8.166.122 13 พฤษภาคม 2551 11:59:22 น.  

 

ลูกสาวชวนไปเที่ยวมาเลเซียไปดี ไม่ไปดี

 

โดย: แจง IP: 118.172.39.54 2 กันยายน 2552 22:42:06 น.  

 

ผมกำลังจะฝึกงานที่นั้นครับ???ตื้นเต้นมากเรยคับ

 

โดย: ตี้ IP: 61.19.67.230 4 พฤศจิกายน 2552 18:27:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lee-kimeng
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




โจทย์เก่า log in นี้โปรดทราบ - -"
ผมไม่มี log in พันทิป แต่อยากมี blog แหะๆ
ได้ญาติใจดีให้ log in มาทำ blog ต้องขอขอบคุณนะค้าบ
Friends' blogs
[Add lee-kimeng's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.