รอนนี โอซุลลิแวน ยอดนักแม่นรูแดนผู้ดี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัยและเป็นแชมป์เก่า ระเบิดฟอร์มสุดยอด ทำ 6 เซ็นจูรี่เบรก ก่อนไล่ต้อนเอาชนะ แบร์รี ฮอว์กินส์ นักสอยคิวร่วมชาติ 18-12 เฟรม 87–4, 92–10, 0–98, 0–81, 13–101, 76–7, 113–0, 104–0, 0–73, 83–37, 9–61, 75–0, 0–91, 4–133, 103–0, 117–5, 69–62, 36–71, 134–0, 57–56, 0–90, 133–0, 75–49, 38–87, 124–7, 0–131, 18–76, 77–25, 89–8 และ 89–1  ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ไปครองได้อย่างสุดยิ่งใหญ่ ในการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2013 ที่ครูซิเบิล เธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกลายเป็นชายคนแรกต่อจาก สตีเฟน เฮนดรี ตำนานนักสนุกเกอร์ชื่อก้องโลก ที่ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกเอาไว้ได้สำเร็จ หลัง เฮนดรี เคยคว้าแชมป์โลกติดต่อกัน 5 สมัย ระหว่าง ปี ค.ศ. 1992-1996

ก่อนหน้านี้ โอซุลลิแวน เคยได้แชมป์โลกมาแล้ว 4 สมัย ในปี ค.ศ. 2001, 2004, 2008 และ 2012 ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เขาได้รับเงินรางวัลจำนวน 250,000 ปอนด์ (ประมาณ 11.5 ล้านบาท) สมดั่งใจหวัง หลังให้สัมภาษณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า การกลับมาลงชิงชัยสอยคิวโลก 2013 ก็เพราะต้องการได้เงิน ไม่ใช่เพราะรักในกีฬาสนุกเกอร์แต่อย่างใด ในใจจริง ๆ ของเขา รู้สึกเบื่อหน่ายการเล่นสนุกเกอร์เป็นอย่างมาก และหลังจบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ โอซุลลิแวน ไม่สามารถให้คำยืนยันได้ว่า เขาจะกลับมาสอยคิวแข่งอีกหรือไม่ หาก รอนนี ตัดสินใจกลับมาลงสอยคิวชิงแชมป์โลกต่อไป เขาก็มีโอกาสที่จะทาบสถิติแชมป์โลก 6 สมัยที่ เรย์ รีดอน กับ สตีฟ เดวิส ตำนานนักสอยคิวชื่อดัง เคยทำไว้ รวมทั้งแชมป์โลก 7 สมัยที่ เฮนดรี ทำสถิติเอาไว้ด้วย

รอนนี วัย 37 ปี ถือเป็นผู้เข้าแข่งขันที่คว้าแชมป์โลกในวัยที่มากสุด นับตั้งแต่ที่ เรย์ รีดอน เคยทำได้ในวัย 45 ปี ซึ่งต้องถอยหลังไปเมื่อปี ค.ศ. 1978 เลยทีเดียว รวมทั้งยังทำสถิติเข้าชิง 5 ครั้งคว้าแชมป์ได้หมด ไม่เคยปราชัยเลย.