นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า แม้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีมติส่งคำร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว และให้ศาลปกครอง มีมติระงับการออกใบอนุญาต การให้บริการ 3 จี ในย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ไปจนกว่าจะมีความชัดเจนเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
จนถึงขณะนี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังไม่มีได้รับคำสั่งจากศาลปกครอง แต่คาดว่า ศาลปกครองอาจจะมีคำสั่งในวันที่ 12 พ.ย. นี้ เนื่องจากตามขั้นตอนก็จะต้องตั้งองค์คณะเพื่อพิจารณาเนื้อหาที่ผู้ตรวจการยื่นฟ้องก่อน
ส่วนประเด็นที่ ยื่นฟ้องสำนักงานเลขาธิการ กสทช. โดยไม่ได้ ฟ้องคณะกรรมการกสทช.นั้น เห็นว่า แม้คำสั่งต่างๆ จะถูกลงนามโดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ของกสทช. แต่คนที่เป็นฝ่ายปฏิบัติ คือ สำนักงานเลขาธิการกสทช.
ทั้งนี้ ผู้ตรวจการเห็นว่า สำนักงานกสทช. จัดการประมูล โดยไม่เปิดกว้างให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ. 2553 โดยการยื่นของศาลครั้งนี้ ได้ขอให้กสทช.ระงับการแจกใบอนุญาต 3 จีให้เอกชนไว้ก่อนจะกว่าศาลจะมีคำสั่ง
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รับทราบคำฟ้องว่ามีเนื้อหาอย่างไร แต่หากได้รับแล้ว ก็จะต้องทำคำให้การเพื่อชี้แจงต่อศาล โดยสำนักงานกสทช.และเลขาธิการ ไม่ใช่ผู้ยกร่างประกาศจัดประมูล และเข้าใจว่า การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการ เป็นกระบวนการทำงานตามปกติที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ซึ่งอำนาจที่จะยกเลิกการจัดประมูลมี 2 ส่วนเท่านั้น คือคำสั่งศาลปกครอง และมติของคณะกรรมการกินการโทรคมนาคม
สำหรับ ผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนการจัดประมูล ชุดที่ กสทช.แต่งตั้ง ได้ขอขยายเวลาสอบสวนจากวันที่ 10 พ.ย. ออกไปอีก 2 เดือนนั้น นายฐากร ยืนยันว่า จะขยายให้ได้แค่ภายใน 25 พ.ย.นี้เท่านั้น เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน ซึ่งคณะอนุกรรมการ อาจต้องเรียกประชุมกันสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อให้ผลสอบเดินหน้าอย่างรวดเร็ว
นายฐากร ย้ำว่า การพิจารณาให้ใบอนุญาตกับเอกชน จะต้องรอฟังคำสั่งศาลปกครอง รวมทั้งผลสอบของคณะทำงานสอบสวนชุดที่กสทช.ตั้งขึ้น และประกาศอัตราขั้นสูงค่าบริการ ที่จะบังคับใช้กับเอกชน ซึ่งอยู่ในกรอบเวลาภายใน 18 ธ.ค.นี้ และหากไม่มีปัญหาจะให้ใบอนุญาตกับเอกชนได้ภายใน 18 ม.ค. 2556 ตามกรอบ 90 วันที่กสทช.กำหนด