มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
Day2 Universal Osaka 26 Dec 2014
วันที่สอง (26 December 2014)

USJ คือเป้าหมายหลัก เย้!

เราเริ่มต้นวันนี้ที่ 8:00 น. เพราะยูนิเวอร์แซลเปิด 9:30 หรือ 10:00 เนี่ยแหละ กลัวไปต่อแถวไม่ทัน

ที่โรงแรมมีอาหารเช้าเลี้ยง เป็นขนมเบเกอรี่ กับ พวกเครื่องดื่มชงๆ และ น้ำส้ม แค่นี้ก็อิ่มแล้ว แต่ไม่ค่อยพอ สำหรับคนต้องการโปรตีนสูงอย่างเรา (เราหิวง่าย)


ตอนนั่งรถ เราไม่ได้ใช้  KTP (Kansai Thru Pass) เพราะไปเล่นที่สวนสนุกเป็นส่วนใหญ่
นั่งจากสถานี Daikokucho ไปลง Namba แล้วต่อรถไป USJ รถไฟชื่อสาย Sakurajima ค่ารถ 240 เยน

ตั๋วนี่เราซื้อจากไทย ที่งานเที่ยวญี่ปุ่นที่พารากอน (เพื่อนซื้อ) เราว่ามันเร็วดีนะ ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องรอคิว แต่ราคาแพง หรือ ถูกกว่า นี่เราไม่แน่ใจเลย

พอมาถึงข้างหน้าสวนสนุก จะแบ่งเป็น
-ส่วนจำหน่ายบัตร (ก็คือต่อคิวซื้อบัตรแหละ)
-ส่วนแตะบัตรเข้าสวนสนุก (เหมือนบีทีเอสอะ เป็นส่วนตึ๊ดเข้าไปข้างใน)

ถ้าซื้อบัตรจากเมืองไทยแล้วจะเข้าในส่วนแตะบัตรเข้าไปข้างในได้เลย (ราคาบัตร 2,200 เยน รึเปล่า ไม่แน่ใจนะ)


พอเข้าไปข้างในก็จะมีพวกร้านค้ามากมาย หน้าตาสวยงามตระการตา แต่เราอย่าเพิ่งหลงระเริงถ่ายรูปมากจนเกินไป เพราะเป้าหมายของเราคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์! ถ้าช้า คิวเราจะยิ่งช้า


เมื่อเข้าไปแล้ว เราต้องรีบไปในส่วนของป่าต้องห้าม (คือไม่มีรูปในส่วนขั้นตอนการจองนะ)
แล้วเค้าจะให้เราไปกดคิวที่เครื่องอีกที่นึง เป็นคิวที่บอกว่าจะได้เข้าไปในส่วนแฮร์รี่ กี่โมง (เราไป 9 โมงกว่า ได้คิว 10:30-11.00 มั้ง ก็ไม่เลวร้ายนะ 555) ขอย้ำว่านี่แค่คิวเข้าไปในโซนนะ เราจะเข้าได้ ต่อเมื่อเป็นรอบของเวลาที่เรากำหนด เราก็เลยไปเล่นสไปเดอร์แมนก่อน เห็นเค้าว่า สนุกที่สุดแล้ว

รีวิว สไปเดอร์แมน

คิวประมาณ 1 ชม. ก็เป็นรถไฟ 4 มิติ ดูหนังแล้วรถหมุนไปหมุนมา หนังที่ดูเป็นสามมิติ มีมิติที่4 คือความรู้สึก เช่น เจอน้ำ ก็สาดน้ำ เจอไฟ ก็เหมือนเปิดไอร้อนๆ สำหรับเรา เราว่ามันก็สนุกดีนะ ถ้าใครจะไปก็มันดี ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบความหวาดเสียว
สปอยล์ : เราเคยเล่นเครื่องเล่นแบบนี้ที่ยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์มาแล้ว รู้สึกว่าที่นี่ไม่มันเท่า อียิปต์ กับ ทรานสฟอร์เมอร์ของที่สิงคโปร์ อีกอย่าง ที่นั่นเล่นครั้งแรก และ บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ เราเลยเข้าถึงอารมณ์มากกว่า เครื่องเล่นของที่นี่บรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆนะ เราเลยงง ว่าเค้าพูดอะไร ได้แต่ดูรูปเอา ทุกเครื่องเล่นเลย ภาษาอังกฤษจะมีแค่ตอนเตือนให้เก็บของและรัดเข็มขัดให้แน่นก่อนเล่น


รีวิว ส่วนแฮร์รี่


พอเราถึงคิวเข้าไปในป่าต้องห้าม เราก็ต้องเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงหน้าประตูฮอกมี้ดส์ (ใครอยากดูคลิปทริปแฮร์รี่ ไปตามดูประกอบใน IG นะ เราขี้เกียจถ่ายรูป มันช้าต้องมาโฟกัส)

ที่ฮอกมี้ดส์จะมีชานชาลาที่ 9 เศษ 3/4 ให้ถ่ายรูปสวยๆ




มีร้านขนมหวาน ร้านไม้กวาดสามอัน ร้านของเล่นซองโก้ของคู่แฝด เฟร็ด-จอร์จ ไปรษณีย์นกฮูก
ซึ่งร้านพวกนี้ มีเวลาเปิด-ปิด ไม่ได้เปิดตลอดเวลา ถ้าอยากเข้าไปชมในร้านต้องรอคิว จริงๆมันคือร้านของที่ระลึกแหละ แต่ตกแต่งออกมาให้เหมือนในนิยาย








เป้าหมายของเราคือการชมปราสาทที่เด่นเป็นสง่า

นี่คือทางเข้า มีหัวหมูบิน ต่อคิวเข้าไปข้างใน


อ่ะ นี่ถ่ายช้อนปราสาท ระหว่างรอคิว


การจะเข้าไปชมปราสาทต้องรอคิว ประมาณ 2-3 ชม. โดยโถงทางเดินที่เราต่อคิวจะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ของศาสตราจารย์สเปราต์ คิวยาวมาก คือยืนเท่านั้น ใครที่คิดจะไป ต้องชาร์จแบตสำรอง หรือเอาเครื่องเล่นเกมมายืนเล่นรอไปเลย คือนานจริงๆนะ ไม่มีที่นั่งด้วย

พอเข้ามาในปราสาทเค้าจะให้ฝากของทุกอย่าง เพราะตัวรถไฟพาชมปราสาทมันคือรถไฟแบบสี่มิติ(อีกแล้ว) ข้างในปราสาทจะจัดให้มืดๆ แบบในหนัง ระหว่างทางเดินไปเล่นรถไฟก็จะเป็นพวก รูปภาพเคลื่อนไหวได้ โถงทางเดิน ห้องพักครูใหญ่ดัมเบิลดอร์ แล้วก็พวกVTR จากตัวละครในเรื่องที่อยู่ในส่วนของโรงเรียน

เราเอากล้องคอมแพคพกเข้าไป หวังจะถ่ายอะไรบ้าง แต่เค้าจัดไฟได้มืดมาก ถ่ายอะไรไม่เห็นเลยยยย  ที่ถ่ายติดก็มีเจ้าหมวกคัดสรรนี่ล่ะ แต่มืดมากเลย เห็นมั้ย ดูออกมั้ยว่าหมวกคัดสรร 5555


ตัวรถไฟก็สี่มิติ กับ ส่วนที่เป็นการชมตัวปราสาท ไม่อยากสปอยล์มาก แค่บอกว่ามันคืออะไรก็เหมือนสปอยล์แล้ว เอาเป็นว่า เราชอบทุกอย่างที่เป็นแฮร์รี่ แบบสุดๆ แม้จะฟังไม่รู้เรื่องก็ต้องบอกว่าสนุก 555555 แต่! เราก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ฟิน เพราะเราฟังไม่ออกว่าพูดอะไร แต่เดาได้จากภาพ คือ ถ้าใครไม่เคยอ่านแฮร์รี่มาก่อน ไปเล่นแล้วจะงงมากๆ เพราะบรรยายเป็นญี่ปุ่น

พอออกมาแล้วเราก็เดินเล่น ซื้อของฝาก(ตัวเอง) ชมของเล่นในร้านให้พอสุขใจ

รีวิว บัตเตอร์เบียร์
เราไปอ่านรีวิวจากใครไม่รู้ เค้าว่าไม่อร่อย แต่แบบร้อนจะพอกินได้มากกว่า
คือ เราก็ไปกินแบบร้อนนะ มันไม่อร่อยจริงๆอะ ไม่ชอบเลย 55555
แรกๆก็จะพอกินได้ แต่เราสั่งแก้วใหญ่ เพราะอยากได้แก้วกลับบ้าน เลยให้เพื่อนช่วยกิน (ติ่งจัด)



รสชาติ: มันคือ บัตเตอร์สก็อตช์ผสมนม กับฟองนม(ที่น่าจะผสมพวกครีมหวานมันลงไปด้วย ฟองค่อนข้างเสถียรเลยแหละ อยู่จนหยดสุดท้าย) และ Cinnamon!!!! (กลิ่นแรงมากด้วย!!!) คือทุกอย่างมันโอเคหมด ถ้าไม่ใส่ไอ้ชินนามอนนี่ เรารู้สึกเหมือนกินยาหม่องน้ำใส่นมจนหมดถ้วย แรกๆก็กินไป ถ่ายรูปไป สนุกดีหรอก หลังๆนี่โยนไปโยนมา 555555 คือ ถ้าใครชอบชินนามอน เราว่ามันอาจจะเป็นเครื่องดื่มในดวงใจคุณไปเลยก็ได้
อากาศวันที่เราไปค่อนข้างหนาวนะ ประมาณ 2-3 องศา มันเลยมีประโยชน์ช่วยให้ความอบอุ่นได้ เบาๆ ใครไปหน้าร้อน อย่ากิน มันร้อนจี๋เลยอะ เดี๋ยวจะยิ่งร้อนไปใหญ่
เราไม่ชอบชินนามอน ก็เลยรู้สึกว่าไม่อร่อย คิดว่าไปคราวหน้าอาจจะลองแบบเย็น เห็นเพื่อนบอกว่ากลิ่นไม่แรง(นี่ยังไม่เข็ด???) (ตามหลักของฟู้ด ความเย็นช่วยทำให้กลิ่นรสไม่พึงประสงค์ในเครื่องดื่มลดลง... ยังจะมาวิชาการ 55555)

ส่วนของราคา:
แก้วเล็ก(พลาสติก ธรรมดา ไก่กา ใช้แล้วทิ้ง): 700 เยน
แก้วใหญ่ (พลาสติก แบบเหมือนแก้วเบียร์): 1200 เยน (เราซื้ออันนี้ แล้วให้เพื่อนช่วยกินน้ำ)

จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นตามร้านค้าของสนูปปี้ และ ร้านค้าของฝากตัวละครในยูนิเวอร์แซล
จริงๆอยากเล่นรถไฟเหาะแฮร์รี่อีกนะ แต่เพื่อนในกลุ่มไม่อยากเล่น บวกกับขี้เกียจรอคิว(เป็นชม.) เลยออกมาเดินชิล รับบรรยากาศดีกว่า :) ก็เสียดายนะ มาทั้งที แต่แบบ ทำไงได้อะ มันเหนื่อยและเบื่อกับการรอจริงๆ







นี่นั่งพักกินน่องไก่งวงตรงที่นั่งริมน้ำ วิวสวยมาก ขนาดฝีมือถ่ายห่วยๆ ยังรู้สึกถึงความร่มรื่น (ลมพัดพั่บๆๆๆๆ ยืนชูแขนย่างตัวกับฮีทเตอร์เป้นไก่ปิ้งเลย)

รีวิวน่องไก่งวง (ไม่มีรูป ไม่อยากลง มันไม่น่าดูหรอก 5555)
ช่วงคริสต์มาสก็ต้องกินไก่งวงป้ะ
ทีนี้เราอยากลองไง มันไม่เหมือนไก่ เนื้อคล้ายๆหมู แต่มีกลิ่นสาบๆ คล้ายๆกลิ่นรมควัน
กลิ่นสาบไม่เท่าเป็ด แต่รสชาติจืดๆ เนื้อเยอะ (มาก) กินไม่หมด เอากลับไปกินต่อที่โรงแรม
ก็เสียดายง่ะ ราคา 850 เยน

พออยู่ๆไปสักพัก เพื่อนๆเราก็อยากกลับแล้ว เพราะเหนื่อย จะเล่นอะไรก็ต้องต่อคิว และมันก็ไม่ค่อยมีอะไรให้เล่นด้วยแหละ พวกหนังเชร็ค 4มิติ หรือ รถไฟเอลโม่ เราเคยเล่นที่สิงคโปร์แล้ว ก็เลยช้อปพวกของเล่น ของฝากแล้วก็ไปเที่ยวต่อ
จริงๆวางแพลนไว้ว่าจะอยู่จนสวนสนุกปิด แต่ที่นี่มีแต่โชว์พวก โชว์คน โชว์พาเหรดอะ มันไม่ฟินเหมือนฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ที่มีจุดพลุอลังการ เล่นไฟแสงสี จนขนาดเราอยากอยู่ต่อถึงดึก เลยขอลา ไปช้อปปิ้งแถบ Shinsaibashi ดีกว่า

ก่อนกลับก็แวะร้านการ์ตูนซะหน่อย
พวกร้านพวกนี้จะอยู่โซนหลังจากแตะบัตรออกจากสวนสนุกแล้วนะ

ไม่ใช่ติ่งวันพีซจ้า เป็นติ่งฮันเตอร์xฮันเตอร์ กับพวกการ์ตูนค่ายเนชั่น (อ่านตามพี่ชาย พี่ซื้ออันไหนอ่านอันนั้น)




แวะทาโกะยากิมิวเซียมหน่อย
มิวเซียมของที่นี่ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ประเภทประวัติศาสตร์ความเป็นมานะ เหมือนเป็นแหล่งรวมร้านค้าเจ้าดังมากกว่า เราเห้นมาหลายมิวเซียมละ แค่รวบรวมของ แต่ไม่ได้บอกประวัติอะไรมากมาย




ทาโกะ 6 ลูก 360 เยน เรากินกันคนละสองลูกให้พอรู้รสชาติ 55555 เพราะว่าตั้งใจจะกินข้าวมื้อใหญ่ทีเดียว ไม่อยากกินเยอะแยะ ดูเหมือนคนที่นี่จะนิยมกินทาโกะแบบซุปมากกว่านะ เหมือนว่าซุปทาโกะเป็นของขายดี

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟกลับที่พัก ราคา 180 เยน (ที่จ่ายถูกลง เพราะตอนเช้าหลง เลยจ่ายแพง 5555)

เดี๋ยวมาต่อภาค Shinsaibashi เป็น Day2.2

:)



Create Date : 16 มกราคม 2558
Last Update : 16 มกราคม 2558 15:42:25 น.
Counter : 1380 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

earpphat
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]