เล่าเรื่อง...เรื่องเล่า^^
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 สิงหาคม 2554
 
 

บทที่ 8 ทำบุญทั้งกายและใจที่กุสินารา

เช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่เดินออกจากที่พักเพื่อข้ามฝั่งไปทานข้าวที่อู่ข้าวผ่านตำหนักสมเด็จพระเทพฯที่กำลังก่อสร้างเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากที่เป็นตึกฉาบปูนสีเทาๆ เริ่มกลายเป็นตึกสีขาวโครงไม้ที่พาดล้อมรอบเริ่มลดลงเรื่อยๆ สังเกตว่าตึกก่อสร้างรุดหน้าอย่างรวดเร็ว หลังกินข้าวเราลงข้อมูลและตรวจคนไข้กันต่อ วันนี้มีคนมาตรวจไม่มากส่วนใหญ่เป็นผู้แสวงบุญมีอาการไอ จามและอาการปวดหัว มีพระในวัดรูปหนึ่งตรวจพบก้อนที่บริเวณคอลักษณะเป็นต่อมน้ำเหลืองขนาดเล็ก ดิฉันให้ยาแก้อักเสบไปกินและนัดดูอาการอีกครั้งเพราะถ้าก้อนไม่ยุบอาจต้องแนะนำให้ผ่าตัดออกตรวจ ตอนเย็นหลังเลิกงานพระช้อยและคณะสงฆ์อีก 8 รูปนำพวกเราไปถวายผ้าห่มพระพุทธปรางปรินิพพานที่สถูปปรินิพพานโดยเรานั่งรถสามล้อไปที่สถูปกันไปถึงก็พบคณะพระสงฆ์และฆราวาสของเวียดนามกลุ่มใหญ่นั่งสวดมนต์และรอถวายผ้าห่มอยู่ก่อนแล้ว ช่วงที่คณะเวียดนามยังทำพิธีอยู่ ท่านอาจารย์ช้อยเห็นว่าสถานที่ใกล้จะปิดแล้ว ท่านจึงพาคณะเราออกมานั่งสวดมนต์บูชาสถานที่ปรินิพพานข้างนอกบริเวณระหว่างวิหารและสถูปหันหน้าไปทางสถูปซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานจริงๆ หลังสวดมนต์เสร็จพวกเราก็ช่วยกันอัญเชิญผ้าห่มสีทองอร่ามและสวดมนต์ปะทักษิณรอบสถูปและวิหาร 3 รอบก่อนนำผ้าห่มไปถวายพระพุทธรูปปรินิพพาน ขณะถวายดิฉันตั้งจิตอธิษฐานขอยึดถือเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและจะเดินตามหนทางที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกอย่างไรดีที่ได้มีโอกาสได้มาถวายผ้าห่มสักการะในครั้งนี้ เหมือนความฝันที่เราเคยตั้งใจทำมานานแล้วและเป็นจริงเรากำลังได้ทำอยู่เดี๋ยวนี้ ขอบคุณชีวิตนี้ที่ทำให้เรามาพบกับพระพุทธศาสนาได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนที่ยิ่งใหญ่และมีค่าที่สุดในโลก ดิฉันภาวนาในใจต่อหน้าพระพุทธปรินิพพานว่าขอให้ตัวเองมีพลังในการก้าวเดินตามรอยพระศาสดาให้ได้ไกลที่สุดในภพชาตินี้ด้วยเถิดถึงย่างก้าวนั้นจะห่างไกลแค่ไหนไม่สำคัญ เพราะตอนนี้เราได้เริ่มเดินแล้ว หกโมงเย็นหลังสถูปปิดคณะเราเดินกลับวัดกัน ดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้ามองดูเป็นสีเหลืองทอง ลมเย็นสบายๆพัดอยู่รอบๆตัวเรารู้สึกสดชื่นจริงๆค่ะ ท่านช้อยเล่าเรื่องพุทธประวัติ ณ สถานที่ปรินิพพานให้พวกเราฟังไปตลอดเส้นทางที่เดินกลับมาที่วัด

เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราตื่นมาทำวัตรเช้าที่ศาลาการเปรียญ รู้สึกว่าตัวเองสวดมนต์ได้คล่องขึ้นเยอะเลย เสร็จแล้วดิฉันถ่ายรูปดอกไม้สวยๆยามเช้าแบบไม่มีเบื่อเหมือนเคย ดอกกุหลาบ รักเร่ ดอกป๊อปปี้ ยังคงชูดอกสะพรั่งท่ามกลางสายหมอกสีขาวจางๆ เหมือนยืนอยู่ในสวรรค์จริงๆ ดิฉันขอถ่ายรูปกับแม่ชีฉลวยที่มาเดินเล่นและเด็กวัดที่กำลังถือสายยางรดน้ำต้นไม้เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกหลายรูป แม่ชีและคนที่อาศัยอยู่ในวัดทำงานกันไม่หยุดขยันกันมากไม่เห็นใครจะอยู่เฉยๆสบายๆเลย เห็นแล้วนับถือน้ำใจในความเสียสละตนเองเพื่อพุทธศาสนาของท่านเหล่านี้จริงๆ กินข้าวเช้าเสร็จพวกเราทำงานต่อตามปกติ วันนี้มีผู้แสวงบุญที่เพิ่งกลับจากสวดมนต์ที่สถูปปรินิพพานและมงกุฎพันธนเจดีย์มาตรวจด้วยเรื่องเวียนศรีษะและขอเช็คความดันและระดับน้ำตาล 4-5 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวและกินยาประจำอยู่แล้วซึ่งก็คุมอาการได้ดี พอได้เวลาเที่ยงเรามากินมื้อกลางวันและได้มอบปัจจัยเพื่อเป็นเจ้าภาพถวายอาหารเพลแก่พระสงฆ์ ซึ่งแม่ชีฉลวยนัดเรามาถวายอาหารเพลพระในวันพรุ่งนี้ห้าโมงเช้า

วันนี้ท่านพระครูปลัดสมพงศ์ได้แจ้งทางทีมเราว่าวันที่ 22-23 มีนาคมมีกำหนดการให้ไปตรวจสุขภาพผู้แสวงบุญที่วัดไทยลุมพินีวันประเทศเนปาลพวกเราตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่เพราะจะมีโอกาสได้ไปปฏิบัติงานยังสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าหนึ่งในสังเวชนียสถาน 4 แห่งแล้ว แต่ทราบว่าไม่ได้ไปออกหน่วยที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าดาวน์นี่ร่วมด้วย ให้ปฏิบัติงานที่ห้องปฐมพยาบาลภายในวัด ช่วงบ่ายมีคนไทยที่อาศัยอยู่ในวัดมาตรวจด้วยอาการภูมิแพ้ 2 คนพวกเราจึงมีเวลานั่งเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยกันต่อ เลิกงานเย็นนี้ดิฉันกับพี่ในทีมอีกคนได้ไปไหว้พระที่สถูปปรินิพพานอีก ดิฉันคิดตั้งใจไว้ว่าอยากไปไหว้พระพุทธปรินิพพานทุกวันถ้าโอกาสอำนวยและไม่ติดภารกิจใดๆอยากใช้เวลาที่มีค่าที่ได้มา ณ สถานที่แห่งนี้ไปกราบบูชาให้มากที่สุดซึ่งไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสมาที่อินเดียอีกเมื่อไรขอเก็บเกี่ยวสิ่งที่สัมผัสผ่านทางตา ทางความรู้สึกจากสถานที่แห่งนี้เอาไว้ในความทรงจำเพื่อที่เวลาระลึกถึงสถานที่แห่งนี้ภาพที่ผุดขึ้นจะยังคงชัดเจนเสมือนกับดิฉันยังยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ครั้งนี้เรานั่งรถสามล้อไปยังวิหารและสถูป ก่อนถึงสถูปได้แวะไหว้พระที่วิหารมถากัวร์ ก่อนเลยเข้าไปเที่ยววัดพม่าที่อยู่เลยสถูปปรินิพพานไปนิดหน่อย ในบริเวณวัดพม่าเห็นมีห้องปฐมพยาบาลเป็นห้องไม้เล็กๆอยู่ด้วย สภาพค่อนข้างเก่าแสดงว่าใช้งานมานานแล้ว ตอนที่เห็นห้องปิดอยู่ไม่มีผู้มาใช้บริการแต่อย่างใด พวกเราถ่ายรูปหน้าเจดีย์ชเวดากองก่อนเดินซื้อของที่ระลึกที่ร้านขายสินค้าหน้าวัดซึ่งมีอยู่หลายสิบร้านสังเกตว่าที่วัดไทยจะไม่มีร้านขายของมากเท่าที่นี่ เราซื้อของที่ระลึกกันไปหลายอย่าง จากนั้นเราก็เดินกลับมาที่วิหารปรินิพพานซึ่งเหลือเวลาอีก 20 นาทีก็จะปิดแล้วคนจึงน้อย เรานั่งสวดมนต์อยู่ประมาณ 10 นาทีก่อนที่จะถ่ายรูปกับแท่นพระพุทธปรินิพพานอย่างเต็มอิ่มเพราะในสถูปเหลือคนอยู่แค่ 4-5 คนดิฉันโน้มศรีษะเข้าไปกราบที่พระบาทของพระ ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนกับตัวเองได้กราบอยู่แทบพระบาทของพระพุทธเจ้าจริงๆ ดิฉันรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาทันทีเมื่อนึกไปถึงว่าพระพุทธองค์ทรงพระประชวรหนักและต้องมีความทรมานทางร่างกายเป็นอย่างมากก่อนที่จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพานคิดถึงตอนนี้แล้วดิฉันรู้สึกจุกตันที่ลำคอไม่อยากขยับเขยื้อนอะไร อยากเอาศรีษะแนบกับพระบาทอยู่อย่างนั้น แต่ผู้ดูแลในวิหารเดินเข้ามาบอกว่าประตูจะปิดแล้ว เราจึงกราบพระอีกครั้งก่อนออกมานั่งรถสามล้อกลับมาที่วัด หลังกินข้าวเย็นเสร็จก็เดินเล่นภายในวัด คืนนี้ที่ท้องฟ้าพระจันทร์เต็มดวงสวยงามมาก เห็นแล้วสุขใจโลกใบนี้ช่างสวยงามซะจริงๆ เออ.. ดูเหมือนดิฉันจะติดกับเรื่องสวยงามพอสมควรถึงมองว่าทุกอย่างดูสวยงามไปหมด อย่างไรก็ตามในใจของดิฉันก็หมั่นบอกตนเองอยู่เสมอว่าไม่ควรยึดติดกับสิ่งต่างๆเพราะมันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงสุดท้ายก็มีแต่ความว่างเปล่าฉะนั้นจงอย่าได้ประมาท ก่อนเข้านอนดิฉันคิดทบทวนเรื่องราวใน 3-4 วันที่ผ่านมาที่กุสินารานอกจากได้รักษาคนไข้ที่สถานพยาบาลแล้วเรายังได้มีโอกาสไปกราบนมัสการและสวดมนต์ที่พุทธสถานสำคัญหลายครั้ง ได้ทำพิธีถวายผ้าห่มพระพุทธปรินิพพานที่ตั้งใจอยากทำมานานแล้ว คิดดูแล้วเราได้ทำบุญกันเต็มอิ่มทั้งกายและใจนึกแล้วให้รู้สึกปิติตื้นตันใจจริงๆ




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2554
0 comments
Last Update : 18 สิงหาคม 2554 18:35:30 น.
Counter : 719 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

asoka200
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ตามรอยพระพุทธองค์.....
[Add asoka200's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com