OUR LIFE IS SIMPLY A REFLECTION OF OUR ACTIONS. IF YOU WANT MORE LOVE IN THE WORLD, CREATE MORE LOVE IN YOUR HEART!!
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
14 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
"เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน…..D E S T I N Y H U R T S M E!!!



….."เย้…ยยยยย!!!"
เป็นเสียงอุทานแสดงความ “ดีใจ” อย่างสุดซึ้งของคุณพ่อ
ต่อหน้าพวกเราแม่ลูกตอนเช้าวันศุกร์
หลังจากพยากรณ์อากาศใน CNN ระบุว่า
อากาศในวันเสาร์จะมีท้องฟ้าใส…มีแดดและอุณหภูมิ 26 องศา C

คุณพ่อบอกว่าขอเปลี่ยนโปรแกรมช็อปปิ้งประจำวันเสาร์
เป็นเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน
เพราะพรุ่งนี้เช้าจะได้ไปเล่นน้ำทะเลกันแทนวันอาทิตย์
ที่เรามักจะไปทะเลกันเป็นประจำ

เราออกจากบ้านประมาณ 11 โมงของเช้าวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม
และไปถึงทะเลที่หมายประมาณเที่ยง

บริเวณชายหาดดูเปลี่ยวเพราะไม่มีใครเลย
ฉันไม่อยากลงจากรถและขอให้คุณพ่อเปลี่ยนหาด
แต่คุณพ่อบอกที่นี่เป็นหาดโปรดและพยายามจูงใจน้องแซนดี้
โดยบอกให้ลงไปสำรวจทรายสำหรับเล่น
แล้ว “คุณพ่อจะจับลูกกบให้เล่นด้วย”

คุณพ่อเดินกลับมาที่รถพร้อมกับบอกให้น้องแซนดี้บอกคุณแม่ซิว่าชอบที่นี่ไหม
น้องแซนดี้บอกว่า “ชอบมากเล๊ยยย…คุณแม่!”
คุณพ่อมองหน้าฉันยิ้ม ๆ กึ่งวิงวอนกึ่งพอใจที่มีลูกเป็นพวก
ฉันจำใจลงจากรถด้วยสีหน้าไม่ชอบใจจนคุณพ่อต้องพูดว่า
“ทำหน้าตาให้ยิ้มแย้มหน่อยไม่ได้ หรือ?”

หลังจากปูเสื่อและจัดเสบียงอาหารเรียบร้อยแล้ว
ฉันจึงถามคุณพ่อว่าจะกินข้าวก่อนหรือหลังกลับจากการลง “ดำน้ำ”
คุณพ่อทำท่า “ลังเล” และมองหน้าขอความเห็น
ฉันบอกว่าถ้ากินอิ่มแล้วลงเล่นน้ำอาจจะไม่ค่อยดีหรือเปล่า
คุณพ่อบอก "แต่รู้สึกหิว"
ด้วยความสงสารฉันจึงตอบตกลง

พอกินไปได้ครึ่งหนึ่งคุณพ่อบอกขอแค่ “รองท้อง” แล้วจะกลับขึ้นมากินใหม่ดีกว่า
แล้วคุณพ่อจึงถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงว่ายน้ำที่ใส่เตรียมจากบ้าน
คุณพ่อเดินลงน้ำทะเลพร้อมอุปกรณ์สำหรับดำน้ำดูปะการังและสัตว์น้ำ
ซึ่งสามารถมองเห็นได้ในระดับน้ำที่ไม่ลึกนัก
พร้อมหันมาตะโกนถามว่า “กี่โมง” แล้ว
เพื่อกำหนดเวลาในการว่ายและดำน้ำครั้งละไม่เกิน “ครึ่งชั่วโมง” เหมือนที่เคยทำ

พอได้รับเสียงตะโกนตอบว่า “12.40 น.”
คุณพ่อก็ลงไปว่ายน้ำและดำน้ำตามปกติ
ฉันนั่งอยู่บนชายหาดกับลูกทั้งสองคนน้องแซนดี้และน้องด๊อกเตอร์
คอยช่วยตักทรายและปั้นภูเขาเล่นในระหว่างคอยคุณพ่อ

พอเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งตอนเวลา “13.15 น.”
ยังไม่เห็นคุณพ่อ “ขึ้น” จากน้ำทะเล
ฉันจึงให้ลูก ๆ ช่วยกันมองดูว่าคุณพ่อว่ายน้ำอยู่มุมไหน

บังเอิญวันนั้นน้องแซนดี้ถือ “กล้องส่องทางไกล” เด็กเล่นติดไปด้วย
ฉันจึงนำมาส่องดูก็เห็น “แท่งช่วยหายใจ” สีส้มลอยเหนือน้ำเหมือนปกติ
แต่ห่างจากจุดที่เรานั่งไปทางขวา ประมาณ 100 เมตร
จึงให้ลูก ๆ ช่วยตะโกนเรียกคุณพ่อกลับขึ้นฝั่ง
แต่คิดว่าคงไกลเกินกว่าจะได้ยิน
ฉันจึง “วิ่ง” ไปตะโกนเรียกเอง

จากทะเลเข้าไปสัก 30-40 เมตรมีโขดหินขนาดไม่ใหญ่มาก
บนโขดหินมีชาวกรีกประมาณ 2-3 คนได้ยินเสียงเรียกของฉัน
จึงร้องตะโกน “กวักมือ” และเรียกเป็นภาษากรีก
ฉันหันหลังไปดูว่าเขาเรียกใครแต่ไม่มีคนอื่นในบริเวณนั้นเลย
จึงมั่นใจว่าเขาต้องเรียกฉันแน่ ๆ จึงรีบวิ่ง “ลุยน้ำทะเล” ตามลงไป
โดยไม่รู้สึกกลัวถูกหินตำเท้าหรือตกน้ำทั้งที่ “ว่ายน้ำ” ไม่เป็น
น้ำเลยเข่าแต่ก็วิ่งทวนน้ำและคลื่นลงไป…

พอยิ่งใกล้ยิ่งมั่นใจว่าพวกเขากำลังช่วยลาก “ร่างคุณพ่อ” กันอยู่
แต่ฉันคงวิ่งต่อไปไม่ได้อีกแล้วเพราะฉันเริ่มรู้สึกว่ากำลังจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว
เพราะกำลังมีคลื่นซัดเป็นระลอกแม้จะไม่แรงมากแต่น้ำเริ่มสูงเกือบถึงอก
และเมื่อ “หันไปดู” ลูกทั้งสองก็เห็นร่มขนาดใหญ่ที่ปักกันแดดอยู่บนชายหาดล้ม
และลูก ๆ กำลังช่วยกันลากร่มออกจากคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่งเป็นที่สนุกสนาน
รู้สึก “ห่วงหน้าพะวงหลัง” และที่แน่ ๆ ฉันกำลังจะ “ยืนไม่พ้นน้ำ”

จึงถอยหลังวิ่งกลับไปตะโกนเรียกชายกรีกที่กำลังนอนอาบแดดให้มาช่วยอีกคน
แล้วรีบวิ่งกลับไปอีกครั้งก็เห็นเขากำลังลากคุณพ่อ
ขึ้นมานอนอยู่บน “โขดหิน” ใกล้ฝั่งกลางทะเล
เห็นคุณพ่อหมดสติ “ลืมตานิ่ง” น้ำลายฟูมปากจมูก!

ฉันตกใจแต่พยายามตั้งสติเพื่อทำการปฐมพยาบาลให้คุณพ่อแบบ CPR
ตามที่เพิ่งไปอบรมหลักสูตรใน First Aid and Safety
ของ American Red Cross Society
ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนน้องแซนดี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ฉันรีบ “ปั๊มหน้าอก” ของคุณพ่อเสร็จแล้วจึงพลิกตัวไปด้านข้าง
มีเศษอาหารและน้ำปนเลือดไหลออกจาก “ปาก” และ “จมูก”
ฉันใช้เสื้อตัวเองเช็ดออก แล้วให้ลม “หายใจ” ทาง “ปาก” และปั๊มหัวใจต่อ
แล้วเช็ดเศษอาหาร ทำสลับกันจนเข่าและข้อศอกของฉันเลือดไหลถลอก
ขณะเดียวกันสายตาก็คอยเหลือบดูน้องแซนดี้และน้องด๊อกเตอร์
ที่กำลังเล่นซนตามลำพังห่างออกไปหลายสิบเมตร

สักครู่รถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ก็มาถึง ทำให้ฉันรู้สึกใจชื้นขึ้น
เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 พร้อม “อุปกรณ์” ช่วยหายใจและปั๊มหัวใจ
จะต้องช่วยคุณพ่อได้อย่างแน่นอน
เขาทำขั้นตอนเดียวกับฉัน 2-3 ครั้ง แล้วใช้เครื่องตรวจหัวใจเช็คคลื่น
ตอนเขาปั๊มหัวใจคลื่นหัวใจจากเครื่องเป็นกราฟ “สูง-ต่ำ” เห็นแล้วใจชื้น

ทันใดนั้นเส้นกราฟยาวเรียบเป็น “เส้นตรง”!!
เจ้าหน้าที่ “สั่นศีรษะ” ให้สัญญาณว่าหมดหวัง!

"ฮือ.....คุณพ่อจ๋า....คุณพ่ออออออออออ!"!!!!!!

เสียงตะโกน “กรีดร้อง” ของฉันกลางโขดหินกลางทะเลที่มีแสงแดดจ้า
น้ำตาที่ไหลพรากเหมือนคนบ้าคลั่ง
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระชากตัวฉันออกจากร่างคุณพ่อ
พร้อมกึ่งประคองกึ่งอุ้มฝ่าน้ำทะเลขึ้นฝั่งไปหาลูก ๆ

ความไร้เดียงสาของลูกทำให้ฉันต้องร้องไห้เหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว
ไร้คนคอย “ปลอบ” และให้กำลังใจ
สักครู่ตำรวจที่ตามมาพร้อมรถพยาบาล ขอกุญแจรถ Audi ของคุณพ่อ
เพื่อขับรถพาพวกเราไปส่งสถานีตำรวจเพื่อทำการ “สอบสวน” ฉันพร้อมคำให้การ
และบอกจะนำ “ร่าง” ของคุณพ่อไปโรงพยาบาลโดยรถพยาบาล

ขณะรถแล่นออกจากชายหาด…..
ฉันมองร่างคุณพ่อที่อยู่ภายใน “กระเป๋าพลาสติก” สีขาวรูดซิปปิดสนิทบนโขดหิน
ภายใต้แสงแดดตอนบ่าย 2 โมงที่เริ่มร้อนจ้า

หัวใจฉันแตกสลาย!
หมดแล้วทุกสิ่ง….
“คุณพ่อจ๋า ทำไมสวรรค์ช่างใจร้ายกับเราเหลือเกิน”!

ฉันไม่สามารถโทรแจ้งญาติทางเมืองไทยที่สถานีตำรวจ
เพราะไม่มี ระบบโทรทางไกล
และสถานทูตฯ ก็ปิดทำการในวันเสาร์ด้วย
ตำรวจพาพวกเรามาถึงสถานีตำรวจเกือบบ่าย 3 โมงแล้ว

กว่าฉันจะตั้งสติและจำเบอร์บ้านคุณจันทร์เพ็ญเพื่อนข้าราชการ
เพื่อแจ้งข่าวร้ายได้ก็เกือบเย็น
แม้ตำรวจจะสอบสวนฉันด้วยการแสดงออกถึงความเศร้าเสียใจด้วย
แต่หลายชั่วโมง แห่งการรอคอยญาติและเพื่อนสนิท
ที่จะมาแบ่งปันหรือรับรู้ความรู้สึกสูญเสียที่แท้จริงมันช่าง “ทรมาน” เหลือเกิน

ประมาณ 5 โมงเย็นคุณจันทร์เพ็ญก็มาถึงพร้อมคุณดารณีจากการบินไทย
คุณดารณีกรุณาให้ยืมมือถือโทรแจ้งข่าวร้ายที่เมืองไทย
ฉันไม่กล้าโทรหาคุณพ่อคุณแม่แต่โทรหาน้อง ๆ ของตัวเองก่อน

เสียง “กรีดร้อง” ตามสายของทั้งสองฝ่าย…..
เป็นความสะเทือนใจที่ไม่สามารถบรรยายเป็นตัวหนังสือ
การกระจายข่าวต่อ ๆ ไปของน้อง ๆ ได้สร้างความรู้สึกเจ็บปวดและร้าวใจ
แก่ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายพร้อม ๆ กับข่าวการเข้าโรงพยาบาล
ของคุณแม่ผู้บังเกิดเกล้าของคุณพ่อ…

ท่านอัครราชทูตที่ปรึกษาไพโรจน์พร้อมภริยาตามมาถึงสถานีตำรวจ
พาเรา 3 คนแม่ลูกกลับบ้านและช่วยดำเนินการเรื่อง “ศพ” ของคุณพ่อ
วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ท่านเอกอัครราชทูตสุรพงษ์ ชัยนาม
พร้อมท่านอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ซึ่งเผอิญไปเยี่ยมท่านทูตฯ ในช่วงนั้นพอดี
ได้ไปพบเรา 3 แม่ลูกและเพื่อนข้าราชการที่โรงพยาบาล

หลังจากเซ็นต์รับคืน “แหวนหมั้น” ที่คุณพ่อสวมติดนิ้วอยู่
คืนจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและมอบเครื่องแต่งกาย
ที่ฉันเตรียมจากบ้านมาให้คุณพ่อแก่ทางโรงพยาบาลแล้ว
ท่านทูตฯ และท่านอาจารย์ส. ศิวรักษ์ พาฉันเดินตามเจ้าหน้าที่
เข้าไปห้องเก็บศพซึ่งถูกเก็บใน “ตู้แช่แข็ง”

เจ้าหน้าที่รูดซิปถุงใส่ร่างคุณพ่อออกให้เห็นแต่หน้า
ฉันก้มลง “กอด” ร่างที่เย็นเฉียบของคุณพ่อพร้อมบอกว่า
ท่านทูตฯและท่านอาจารย์ส. ศิวรักษ์มาเยี่ยม

ท่านอาจารย์กรุณาทำพิธี “สวดมนต์” ให้คุณพ่อ
ใบหน้าคุณพ่อสงบเหมือนคนนอนหลับสบาย
จากนั้นฉันจำไม่ได้ว่าใคร
ประคองตัวฉันออกจากห้องเก็บศพกลับมาขึ้นรถกลับบ้าน…..

วันรุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ตอนบ่าย
ท่านทูตฯ ได้กรุณาจัดให้ข้าราชการ ลูกจ้างท้องถิ่นทุกคนในสถานทูตฯ
โดยมีท่านอาจารย์ส. ศิวรักษ์ คุณสุดเศวตผู้จัดการการบินไทย
พร้อมภรรยาและเจ้าหน้าที่
ตลอดถึงข้าราชการจากสำนักแรงงานและเพื่อน ๆ คนไทย
ได้เข้าร่วมพิธีรดน้ำศพ ณ สถานที่คล้ายโบสถ์
บนยอดเขาแห่งหนึ่งในกรุงเอเธนส์

คราวนี้เห็นคุณพ่อหลับสบายในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม
ฉันเป็นคนแรกที่ “พรมน้ำอบ” กลิ่นหอมบนมือคุณพ่อ
จับมือและ “ลูบใบหน้า” ที่เย็นเฉียบและกอดคุณพ่อด้วยความอาลัยรัก
พร้อมมอบช่อดอกไม้สีขาวในมือ
ซึ่งขณะทำพิธีสวดท่านอาจารย์ ส. ศิวรักษ์สอนให้พูดว่า
ให้คุณพ่อนำดอกไม้ไปถวายแก่ท้าวจุฬามณีบนสวรรค์

ฉันเรียกให้ลูก ๆ มากอดคุณพ่อและให้บอกว่า
“รักคุณพ่อมากที่สุดในโลก”
ฉันเองก็บอกว่ารักคุณพ่อมาก
และหาก “ชาติหน้า” มีจริงขอให้เราเกิดมาคู่กันอีกและในทุก ๆ ชาติ

จำได้ว่าขณะที่ทุกคนกำลังรดน้ำฉันได้แต่จ้องมองหน้าคุณพ่อ
เพื่อให้อยู่ใน “ความทรงจำ” ตลอดไป
แต่ภาพมันพล่าเหลือเกิน….คุณพ่อจ๋า…
เพราะน้ำตาเจ้ากรรมมันคอยไหลมาบดบังความชัดเจนไปหมด
แล้วจู่ ๆ ก็มีคนมาอุ้มฉันขึ้นรถกลับบ้านไป….

บนเครื่องบินการบินไทย….
ท่านอาจารย์ ส. ศิวรักษ์ได้กรุณาสวนมนต์นำทางคุณพ่อ
คอยสอนและปลอบใจและให้กำลังใจฉันตลอดเวลา
“คุณพ่อจ๋า.... เรามาถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว”…

ดูซิ....ญาติพี่น้องของเราทุก ๆ คนมา “พร้อมหน้ากัน” เหมือนวันที่เราแต่งงานกัน
เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มี “รอยยิ้ม” แสดงความยินดีเหมือนครั้งนั้น
มีแต่คราบ “น้ำตา” และ “เสียงร้อง” ก้องสนามบินแทนที่”

“ทำไมสวรรค์ช่างโหดร้ายกับพวกเราเช่นนี้
อยากให้คุณพ่อรับรู้ว่าญาติพี่น้องเพื่อนสนิททุกคน
โดยเฉพาะฉันและคุณพ่อคุณแม่ของคุณพ่อปวดร้าวและชอกช้ำใจอย่างที่สุด
ทุกคนคอยปลอบใจว่าคุณพ่อมีบุญกว่าพวกเราเพราะไปสบายแล้ว
แต่เรากลับรู้สึกว่าเรา “สูญเสีย” เศร้าใจและทุกข์ระทมยากที่จะพรรณนา!!

คุณพ่อจ๋า….เกือบ 9 ปีเต็มนับตั้งแต่เราแต่งงานกัน
คุณพ่อเป็นแต่ผู้ให้ตลอดมา
ถึงแม้ในช่วงขวบปีแรกชีวิตคู่ของเราจะขลุกขลักเล็กน้อย
เนื่องจากเราไม่ได้แต่งงานจากพื้นฐานของความรัก
หากแต่จากความเหมาะสมและจากการแนะนำของพี่ดา
ซึ่งเป็นพี่สะไภ้ของคุณพ่อและเพื่อนร่วมงานที่ฉันรักและนับถือ

แต่งงานได้ครึ่งปีฉันก็ได้ติดตามคุณพ่อไปรับราชการเป็นเลขานุการตรี/โท
ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย
ไปถึงไม่กี่เดือนก็เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียระหว่างอิรักกับซาอุดิอาระเบีย
ครั้งนั้นทางกระทรวงฯ มีคำสั่งให้ครอบครัวข้าราชการ
อพยพกลับเมืองไทยเป็นการชั่วคราว
แต่เพื่อไม่ให้ชีวิตคู่ของเราที่ค่อนข้าง “เปราะบาง” อยู่แล้วในขณะนั้นแตกหักลง
ฉันตัดสินใจไม่กลับ!

แต่ “ยืนเคียงข้าง” อยู่คอยเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่คุณพ่อ
ภาระกิจที่หนักอึ้งและ “เสี่ยงต่อชีวิต” ของข้าราชการทุกคนในช่วงสงคราม
เพราะต้องเดินทางไปมาระหว่างประเทศในอาณาเพื่อเตรียมแผน
และทำการอพยพแรงงานไทยกลับประเทศด้วยความปลอดภัย
ทำให้ในปีนั้นคุณพ่อเป็นหนึ่งในข้าราชการที่ได้รับความกรุณาจากท่านทูตฯ
เสนอเลื่อนตำแหน่ง 2 ขั้นเป็นกรณีพิเศษ
ซึ่งปกติข้าราชการประจำการต่างประเทศจะได้รับเพียง 1 ขั้น

ด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัย
ท่านเอกอัครราชทูตลิขสิทธิ ปานสมจิตร และภริยา คือคุณต่อจิตต์
ได้ “กรุณา” ให้เราทั้งคู่ไปพักในทำเนียบในช่วงที่สงครามกำลังยืดเยื้อและตึงเครียด
ความผูกพันธ์ของเราค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเป็นความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน
จนในที่สุดเราก็มีลูกสาวเป็น “โซ่ทองคล้องใจ” คนแรกคือน้องแซนดี้ (6 ขวบ)
และปีเศษต่อมาก็มีลูกชายคือ น้องด๊อกเตอร์ (4 ขวบครึ่ง) ตามมาอีกคน

จากนั้นเราจึงกลับประเทศไทย
และอีก 2 ปีต่อมาในเดือนมิถุนายน 1996
คุณพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการเอก
ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
ซึ่งเป็นช่วงที่ฉันให้กำเนิด ลูกชายคนเล็กของเราคือน้องพอล วัย 17 เดือน

คุณพ่อเป็นคนขยันและสนุกกับการทำงาน
และเนื่องจากบ้านอยู่ใกล้สถานทูตฯ
คุณพ่อมักจะแวะเข้าไปในสถานทูตแม้แต่ในวันเสาร์-อาทิตย์
เพื่อดูว่ามีเอกสารหรือโทรเลขด่วนจากกระทรวงฯ เข้ามาหรือไม่
และมักจะอยู่ทำงานจนเย็น ๆ จึงกลับบ้านถึงแม้จะเลิกงานตอนบ่าย 3

ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากวันหยุดพักร้อนประจำปีแล้ว
คุณพ่อไม่เคยหยุดงานอยู่กับบ้านเลย ถึงแม้บางครั้งจะ “ป่วย” ก็ตาม
คุณพ่อเป็นคนชอบอ่านหนังสือและศึกษาเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ยามว่างอยู่บ้านนอกจากจะเล่นกับลูก ๆ หรืออ่านหนังสือให้ลูกฟังแล้ว
คุณพ่อมักจะขลุกอยู่กับโต๊ะหนังสืออยู่เสมอ

อยากให้คุณพ่อรับทราบด้วยว่าคุณพ่อเป็น “สามี” ที่ประเสริฐที่สุด
เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับลูก ๆ เป็นลูก “ยอดกตัญญู” ของคุณพ่อคุณแม่
และด้วยความรักและความกตัญญูต่อบุพการี
คุณพ่อนับวันคอยคุณพ่อและคุณแม่ผู้บังเกิดกลับมาประเทศกรีซ
เพื่ออยู่ด้วยกันจนกว่าเราจะ “ครบกำหนด” กลับเมืองไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า

ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ก่อนวันเกิดเหตุ
คุณพ่อพยายามโทรทางไกลเพื่อคุยกับคุณแม่
เพื่อเร่งให้รีบเดินทางมาเยี่ยมเราที่ประเทศกรีซอีกครั้งหนึ่ง
แต่เหมือน “สวรรค์แกล้ง” ให้แม่ลูกไม่ได้พูดคุยกัน
ก่อนที่คุณพ่อจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
โทรศัพท์ที่เมืองไทยเกิดการขัดข้องและติดต่อเมืองไทยไม่ได้!!

ฉันอยากจะเขียนบรรยายความรู้สึกที่มีอยู่ “ในใจ” ทั้งหมดให้คุณพ่อได้รับรู้
แต่ความเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียสามีอันเป็นที่รัก
ทำให้สมองตื้อไปหมดแล้ว

รู้แต่ว่าตัวเองต้องพยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง
เพื่อทำหน้าที่อบรมเลี้ยงดูลูกน้อยทั้ง 3 ของเรา
ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีการศึกษาสูง ๆ
เพื่อเป็นกำลังที่สำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
และสืบทอด “เจตนารมณ์” ของคุณพ่อที่อยากให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนดี ๆ
เพื่อให้สามารถนำวิชาความรู้ไปรับใช้ชาติบ้านเมืองในโอกาสต่อไป

ขอให้คุณพ่อ “ไม่ต้องเป็นห่วง”
ความเป็นคนใช้จ่ายอย่างมัธยัสถ์ของคุณพ่อ
ทำให้เงินที่คุณพ่อสะสมอยู่สามารถนำมาใช้เป็น “ทุนการศึกษา” ของลูก ๆ ได้
และหากมีปัญหาญาติพี่น้องของเรา หรือกระทั่งเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่
ที่คุณพ่อเคารพนับถือทุกท่านพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราแม่-ลูกด้วยความเต็มใจ
และที่ผ่านมาคุณพ่อคงได้เห็นและได้รับรู้แล้วว่าญาติพี่น้องเพื่อนสนิท
ผู้มีพระคุณทุกท่านที่คุณพ่อรู้จักได้ทุ่มเทกำลังกายใจและเสียสละเวลาอันมีค่า
หยิบยื่นให้ความ “ช่วยเหลือ” ให้กับฉันและลูก ๆ ของคุณพ่อมากมายเหลือเกิน

รู้สึกซาบซึ้งและภาคภูมิใจแทนคุณพ่อที่เป็นที่รักและไม่ถูกทอดทิ้ง
โดยเฉพาะในยามที่ลูกเมียของคุณพ่อกำลังอยู่ในสภาพที่
เหมือนคนหมดสิ้นทุกอย่างที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไปตลอดกาล

คุณพ่อจ๋า.... คุณพ่อจะอยู่ในใจของฉันตลอดไป
เสียงกระซิบข้างหูว่า "ผมรักคุณ" จากคุณพ่อ
ที่พูดก่อนคุณพ่อเสียชีวิตเพียงสัปดาห์เดียวยัง “ดังก้อง” อยู่ในหูของฉันตลอดเวลา
ฉันดีใจและ “ตื้นตันใจ” อย่างที่สุด
ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำ ๆ นี้จากคุณพ่อตลอดชีวิตนี้

เพราะเราอยู่ด้วยกันด้วยความเคยชินเหมือนเพื่อน
เหมือนพ่อคนที่ 2 เพราะคุณพ่อเป็นแต่ผู้ให้ตลอดเวลา
และเราอยู่แบบคนไทยที่ไม่ต้องมานั่งพร่ำพรรณนาแบบฝรั่งว่า “I love you”

ฉันรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้รับฟังคำว่า รักเป็น “ครั้งแรก” จากคุณพ่อ
แต่เสียใจเหลือเกินที่เป็น “ครั้งสุดท้าย” ที่จะไม่มีโอกาสได้ยินจากคุณพ่ออีก
และที่เสียใจมากยิ่งกว่าก็คือฉันยังไม่มีโอกาสตอบว่าฉันก็ “รักคุณพ่อ” เช่นกัน…

ฉันขอภาวนาให้เราเกิดมาครองคู่รักกันยืนยาว “ทุกชาติทุกภพ” ตลอดชั่วนิรันดร์
และอยู่ด้วยกันนาน ๆ จน “ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร”
เหมือนประโยคที่คุณพ่อพูดบนเวทีในงาน “แต่งงาน” ของเราเมื่อวันที่ 20 มกราคม
ฉันขอให้ “สัญญา” ว่าจะ “รัก” คุณพ่อแต่เพียงผู้เดียวและตลอดไป…..

“รักมากสุดหัวใจ”
Destinyhurtsme!

*************************************************************************



บทความข้างต้นนี้เป็นบันทึกที่ฉันได้เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์
และช่วงเวลาที่สามีของฉันเสียชีวิตซึ่งอยู่ในหนังสือที่พิมพ์สำหรับแจกให้แขกผู้มีเกียรติ
ในงาน “พระราชทานเพลิงศพ” ของ “คุณด๋อง” เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2541

เป็นบันทึกที่เขียนด้วยน้ำตาในวันที่ฉันนำศพสามีกลับถึงบ้านเกิดที่เมืองไทย
เป็นบันทึกที่เขียนในขณะที่ฉันมีสติสัมปชัญญะดี
แต่ “ใจสลาย”…..
และสมองเบลอเพราะแทบไม่ได้นอนพักผ่อนตั้งแต่วันเกิดเหตุ
แต่ต้องรีบเขียนเพื่อส่งต้นฉบับให้กับโรงพิมพ์เพื่อให้ทันแจกในวันพระราชทานเพลิงศพ.

ขอมอบเรื่องราวข้างต้นเป็นของขวัญให้ท่านผู้อ่านในวันแห่งความรักในวันนี้!”
และขอเป็นกำลังใจให้คุณผู้อ่านทุกท่านต่อสู้กับชีวิตเช่นเดียวกับฉัน
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ทุกท่านมีความสุข
และปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวงตลอดปีใหม่นี้และตลอดไป.



***หากการเขียนประสบการณ์เรื่อง “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงตอนสุดท้ายนี้
สามารถให้ความรู้และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านแล้วไซร้
ฉันขออุทิศผลบุญและความดีทั้งหมดที่อาจจะได้รับในครั้งนี้ให้กับดวงวิญญาณของคุณด๋อง
ให้ไปสู่สุขคติภพในดินแดนแห่งสุขาวดีด้วยเทอญ….



https://www.youtube.com/watch?v=7D40jj-y6C4

คู่กรรม…

ช) ดังนรกชังหรือสวรรค์เเกล้ง เเกล้งทรมานให้ฉันได้เจอ
ญ) เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ เเต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ
ช) เวรกรรมหรือไรแต่ปางไหนนั่น
ญ) สุขเพียงชั่ววัน เเต่ช้ำ ทวีคูณ
ช) ให้ห่างไกล สุดฟ้าอาดูร
ญ) สูญสิ้นเธอ ตลอดกาล

ช , ญ) อธิษฐานจิตใจ หากเกิดชาติไหน ฐานันดรใดๆ ทุกสถาน
ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน วอนสวรรค์ได้ไหม

ช) วิญญาณฉันรอที่ทางช้างเผือก เลือกเธอรักเธอ ไม่ร้างลาไกล
ญ) ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย ใต้ลำพู รอคู่กรรม

ช , ญ) อธิษฐานจิตใจ หากเกิดชาติไหน ฐานันดรใดๆ ทุกสถาน
ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน วอนสวรรค์ได้ไหม

ช) วิญญาณฉันรอที่ทางช้างเผือก เลือกเธอรักเธอ ไม่ร้างลาไกล
ญ) ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย ใต้ลำพู รอคู่กรรม


ช , ญ) ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย ใต้ลำพู รอคู่กรรม



https://www.youtube.com/watch?v=dLlx8Fc4caA
…..คงเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนขีดโชคชะตา
สร้างฉันและเธอให้มา ให้ได้พบเจอกัน
ให้ฉันได้มีโอกาส ลิ้มรสในความชื่นบาน
ให้เรามีกัน มีวันเวลาที่ดี

และเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนพรากเราเช่นกัน
ให้เวลาเพียงแค่นั้น กลับต้องเสียเธอไป
ฉันรู้ว่าไม่มีหวัง จะเหนี่ยวและรั้งเธอไว้ข้างกาย
จะทำยังไงก็คงไม่มีหนทาง

หากชีวิตฉันต้องขาดเธอไป จะเป็นยังไง
ชีวิตคงไร้ความหมาย และเหมือนไร้พลัง
ร่างกายที่เคยอดทน ก็คงไม่มีกำลัง
ไม่มีความหวังให้ฉันได้ชื่นหัวใจ

แค่เพียงพรุ่งนี้ถ้าตื่นมา มองไปไม่เจอเธอ
แค่นึกก็ทำให้เพ้อ หวั่นและไหวในใจ
ถ้าเราจะต้องจากกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
คงรู้ใช่ไหมว่าฉันจะต้องเสียใจ

หากชีวิตฉันต้องขาดเธอไป จะเป็นยังไง
ชีวิตคงไร้ความหมาย และเหมือนไร้พลัง
ร่างกายที่เคยอดทน ก็คงไม่มีกำลัง
ไม่มีความหวังให้ฉันได้ชื่นหัวใจ

แค่เพียงพรุ่งนี้ถ้าตื่นมา มองไปไม่เจอเธอ
แค่นึกก็ทำให้เพ้อ หวั่นและไหวในใจ
ถ้าเราจะต้องจากกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
คงรู้ใช่ไหมว่าฉันจะต้องเสียใจ

เสียใจจนตาย…
เพลงประกอบภาพยนตร์ "กุมภาพันธ์"


https://www.youtube.com/watch?v=lXLHvMV5mVY
"If Tomorrow Never Comes"

Sometimes late at night
I lie awake and watch her sleeping
She's lost in peaceful dreams
So I turn out the lights and lay there in the dark
And the thought crosses my mind
If I never wake up in the morning
Would she ever doubt the way I feel
About her in my heart

If tomorrow never comes
Will she know how much I loved her
Did I try in every way to show her every day
That she's my only one
And if my time on earth were through
And she must face the world without me
Is the love I gave her in the past
Gonna be enough to last
If tomorrow never comes

'Cause I've lost loved ones in my life
Who never knew how much I loved them
Now I live with the regret
That my true feelings for them never were revealed
So I made a promise to myself
To say each day how much she means to me
And avoid that circumstance
Where there's no second chance to tell her how I feel

If tomorrow never comes
Will she know how much I loved her
Did I try in every way to show her every day
That she's my only one
And if my time on earth were through
And she must face the world without me
Is the love I gave her in the past
Gonna be enough to last
If tomorrow never comes

So tell that someone that you love
Just what you're thinking of
If tomorrow never comes




https://www.youtube.com/watch?v=9d9l8K7xOYM

"Wind Beneath My Wings"

Oh, oh, oh, oh, oh.
It must have been cold there in my shadow,
to never have sunlight on your face.
You were content to let me shine, that's your way.
You always walked a step behind.

So I was the one with all the glory,
while you were the one with all the strength.
A beautiful face without a name for so long.
A beautiful smile to hide the pain.

Did you ever know that you're my hero,
and everything I would like to be?
I can fly higher than an eagle,
'cause you are the wind beneath my wings.

It might have appeared to go unnoticed,
but I've got it all here in my heart.
I want you to know I know the truth, of course I know it.
I would be nothing without you.

Did you ever know that you're my hero?
You're everything I wish I could be.
I could fly higher than an eagle,
'cause you are the wind beneath my wings.

Did I ever tell you you're my hero?
You're everything, everything I wish I could be.
Oh, and I, I could fly higher than an eagle,
'cause you are the wind beneath my wings,
'cause you are the wind beneath my wings.

Oh, the wind beneath my wings.
You, you, you, you are the wind beneath my wings.
Fly, fly, fly away. You let me fly so high.
Oh, you, you, you, the wind beneath my wings.
Oh, you, you, you, the wind beneath my wings.

Fly, fly, fly high against the sky,
so high I almost touch the sky.
Thank you, thank you,
thank God for you, the wind beneath my wings.




จากกระทู้ตอนที่แล้ว
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6321320/B6321320.html

ฉันได้ตั้ง ***คำถามพิเศษชิงรางวัล*** ว่า

1. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องหอบลูกน้อย 2 คนกลับมาเมืองไทย?
2. ข้อความในบันทึกที่ฉันเขียนถึงคุณด๋องมีใจความโดยย่อว่าอะไร?


ฉัน “ร่ำให้” ทันทีที่ได้อ่านคำตอบจากเพื่อนผู้อ่านท่านหนึ่ง
เป็นคำตอบที่อาจจะเป็นแค่ “จินตนาการ” ของผู้ตอบ
แต่กลับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับชีวิตของฉัน…

เป็นคำตอบที่ถูกต้องและแม่นยำราวกับได้รับรู้เหตุการณ์
และความในใจของฉันทั้งหมดด้วยตนเองมาก่อน!

คำตอบของท่านผู้นั้นจากกระทู้ตาม link ข้างต้นมีดังนี้


*************************************************************
ความคิดเห็นที่ 21

อ่านจากที่คุณ Destinyhurtsme เขียนมา บอกว่า
-----------------------------------------------------------------------
เป็นเหมือนจดหมาย “ฉบับแรก” และ “ฉบับสุดท้าย” ที่ฉันเขียนถึงเขา
และมรสุมที่เกิดขึ้นกับชีวิตคู่ของฉัน…
-----------------------------------------------------------------------

ขอร่วมตอบคำถามของคุณ Destinyhurtsme

1. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องหอบลูกน้อย 2 คนกลับมาเมืองไทย?
------------------------------------------------------------------------
คุณด๋อง เสียชีวิต


------------------------------------------------------------------------

2. ข้อความในบันทึกที่ฉันเขียนถึงคุณด๋องมีใจความโดยย่อว่าอะไร?
---------------------------------------------------------
คุณ Destinyhurtsme สารภาพความรัก ความรู้สึก และความผูกพันที่มีต่อคุณด๋อง
และสัญญาว่าจะดูแลลูก ๆ เป็นอย่างดี

-----------------------------------------------------------------------------


และขอเดาต่อว่า คุณ Destinyhurtsme ต้องการระลึกถึงความรักอย่างสุดซึ้งที่มีต่อคุณด๋อง
ในวันวาเลนไทน์ ( ที่มาของ...DESTINY HURTS ME )

หวังว่าที่เดา....คงจะผิด เพราะไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น....เศร้าเลย..เรา

จากคุณ : ตามมาดู - [ 11 ก.พ. 51 08:08:25 A:58.9.94.67 X: TicketID:125394 ]
**********************************************************************************


ป. ล. เนื่องจาก “คุณตามมาดู” ใช้บัตรผ่านจึงไม่สามารถติดต่อผ่านหลังไมค์เพื่อขอให้แจ้งชื่อหรือรหัสสำหรับรับบัตรกำนัลได้
จึงขอให้แจ้งรายละเอียดผ่าน e-mail address ได้ที่ destinyhurtsme at gmail.com (at=@)
เพื่อรับบัตรที่ประชาสัมพันธ์ Health Land สาขาสาทร (02 637 8883) ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป..


ความเดิมเมื่อตอนที่แล้ว:

(1) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน.....วันที่ฉันถูกเลิกจ้าง!!!
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6083075/B6083075.html

(2) “เลขาฯตัวแสบ!” ตอน.....แสร้งไปทำงานตามปกติ!!!
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6085280/B6085280.html

(3) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน.....พบทนายความเรื่อง "การเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม"
พร้อมกับการได้รับ "เงินชดเชย" เกือบแสน!!!
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6095870/B6095870.html

(4) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน.....วันสัมภาษณ์กับ 12 วันก่อนถูกเลิกจ้าง!!!
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6105777/B6105777.html

(5) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน.....ชีวิตหลังการตกงาน
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6110725/B6110725.html

(6) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน.....เย้…! ในที่สุดฉันได้งานใหม่แล้ว!!! ภาค 1
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6125583/B6125583.html

(7) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน.....เย้…! ในที่สุดฉันได้งานใหม่แล้ว!!! ภาค 2
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6131814/B6131814.html

(8) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน..... 4 เดือนระทึกกับช่วงทดลองงาน!!!
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6136610/B6136610.html

(9) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน..... เลขาฯ ตัวแสบกับ “CEO” เจ้าของธุรกิจ 5,000 ล้าน!!! (ภาค 1)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6152716/B6152716.html

(10) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน..... เลขาฯ ตัวแสบกับ “CEO” เจ้าของธุรกิจ 5,000 ล้าน!!! (ภาค 2)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6159240/B6159240.html

(11) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน..... เลขาฯ ตัวแสบกับ “CEO” เจ้าของธุรกิจ 5,000 ล้าน!!! (ภาค 3)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6170648/B6170648.html

(12) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…การปกครองพนักงานแบบพ่อปกครองลูกในสไตล์ของ “เตี่ย”!!! (ภาค 1)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6174623/B6174623.html

(13) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…การปกครองพนักงานแบบพ่อปกครองลูกในสไตล์ของ “เตี่ย”!!! (ภาค 2)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/12/B6181617/B6181617.html

(14) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….กว่าจะเป็น “เลขาฯ ตัวแสบ!”
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/01/B6189644/B6189644.html

(15) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….ความรู้แค่หางอึ่ง!!! (ภาค 1)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/01/B6202133/B6202133.html

(16) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….ความรู้แค่หางอึ่ง!!! (ภาค 2)
//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/01/B6218284/B6218284.html

(17) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….ความรู้แค่หางอึ่ง!!! (ภาค 3)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6224365/B6224365.html

(18) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….บังอาจทำธุรกิจส่วนตัว!!! (ภาค 1)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6236460/B6236460.html

(19) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….บังอาจทำธุรกิจส่วนตัว!!! (ภาค 2)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6245103/B6245103.html

(20) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…..เรื่องกุ๊กกิ๊กชีวิตทำงาน (ภาค 1)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6247789/B6247789.html

(21) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…..เรื่องกุ๊กกิ๊กชีวิตทำงาน (ภาค 2)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6255596/B6255596.html

(22) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…..เรื่องกุ๊กกิ๊กชีวิตทำงาน (ภาค 3)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6263517/B6263517.html

(23) “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…..เรื่องกุ๊กกิ๊กชีวิตทำงาน (ภาค 4)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6280648/B6280648.html

(24) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน…..ชีวิตในต่างแดน….สุขหรือเศร้า? (ภาค 1)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6289483/B6289483.html

(25) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน…..ชีวิตในต่างแดน….สุขหรือเศร้า? (ภาค 2)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6300333/B6300333.html

(26) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน…..ชีวิตในต่างแดน….สุขหรือเศร้า? (ภาค 3)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6306792/B6306792.html

(27) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน…..ชีวิตในต่างแดน….สุขหรือเศร้า? (ภาค 4)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6313744/B6313744.html

(28) "เลขาฯ ตัวแสบ!" ตอน…..ชีวิตในต่างแดน….สุขหรือเศร้า? (ภาค 5)
//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6321320/B6321320.html



*****************************************************************


*********ขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านและเพื่อน ๆ ทุกท่าน**********

ที่กรุณา Click เก็บเข้าคลังกระทู้ทุกครั้งหลังการอ่านจึงทำให้ยังมีข้อมูล
เก็บอยู่ในคลังกระทู้เก่าที่ท่านสามารถนำกลับมาอ่านและใช้ประโยชน์ได้อีก…



***กระทู้พิเศษ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551***

*********************************************
“20 คำถามกับเลขาฯ ตัวแสบ!”
*********************************************

เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนท่านผู้อ่านทุกท่านสำหรับแรงบันดาลใจ
และกำลังใจในการเขียนประสบการณ์ “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตั้งแต่ตอนที่ 1-29 จนจบ
ผู้ตอบคำถามถูกต้องและได้คะแนนสูงสุดจะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้:

V
V
V

*********************************************
***บัตรเชิญรับประทานอาหารเย็นกับ “เลขาฯ ตัวแสบ!”***
===== ณ ห้องอาหารในโรงแรมหรูบนถนนสีลม =====
*********************************************

หรือเลือกรับบัตรกำนัลอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้

1. บัตรกำนัลซื้อหนังสือจาก Thailand Book Tower มูลค่า 1,000.- บาท
2. บัตรชมภาพยนตร์ในเครือ Major มูลค่า 1,000.- บาท
3. บัตรนวดแผนไทยที่ Health Land จำนวน 4 ใบ มูลค่า 1,200.- บาท

ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมตอบคำถามเพื่อเป็นแฟนพันธ์แท้ตัวจริงได้เร็ว ๆ นี้……..


Video demonstration of proper CPR for adults.
วีดีโอสาธิตวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบ CPR ให้ผู้ใหญ่
(วิธีการปฐมพยาบาลสำหรับผู้ใหญ่และเด็กแตกต่างกัน)
//depts.washington.edu/learncpr/videodemo/adult-cpr-video.html



CPR in 3 simple steps:
การทำ CPR 3 ขั้นตอนเบื้องต้น
//depts.washington.edu/learncpr/quickcpr.html

Cardiopulmonary resuscitation from Wikipedia, the free encyclopedia:
รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลช่วยชีวิตเบื้องต้นแบบ CPR
//en.wikipedia.org/wiki/Cardiopulmonary_resuscitation


Happy Valentine’s Day To all my fans and readers….



Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2551 0:39:24 น. 17 comments
Counter : 879 Pageviews.

 
อืม แม้เรื่องราวนั้นจะผ่านมาแล้วแต่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ การจากลาเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์แต่การจากลาโดยอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเป็นเรื่องที่ทำใจให้ยอมรับได้ยากนัก เป็นใครก็รับไม่ได้ ยิ่งเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นต่อหน้าหรือได้ร่วมเป็นพยานในเหตุการณ์นั้นๆโดยไม่คาดคิด ก็เกินกว่าที่จะบรรยายความรู้สึกเป็นคำพูดได้ครับ

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่โชคชะตาอะไรๆมักเป็นไปในทางที่เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยๆว่า เราทำอะไรผิดในชีวิตมากมายนัก โดยเฉพาะเรื่องงาน ทั้งๆที่ประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยเลือกเลยว่าจะเป็น องค์กรเล็ก องค์กรใหญ่ หรือบริษัทมหาชน เงินเดือนแค่ 5,000 ก็เคยทำมาแล้ว ทั้งๆที่ถือวุฒิป.ตรีไว้ ทุกทีจบลงไม่สวยเลย แต่ตอนที่อยู่ในองค์กรทั้งหลายที่ว่านี้ ก็เหมือนคนทั่วๆไป คือรักองค์กร แต่สุดท้ายคือคุณต้องไป


แวะมาทักทายครับ


โดย: CG Guitar วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:54:14 น.  

 
เสียใจด้วยนะค่ะ ถึงแม้จะผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว


โดย: สามสิบเอ็ดธันวา วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:49:10 น.  

 
เสียใจด้วยนะคะ

อ่านแล้วเศร้าจัง แต่คิดว่าการที่คุณใช้เรื่องนี้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์แสดงให้เห็นว่าคุณเข้มแข็งมากเพียงใด

ขอบคุณที่แบ่งปัน ได้ข้อคิดหลายๆ อย่างจากเรื่องของคุณค่ะ


โดย: Tempurachan วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:46:54 น.  

 
เศร้าจัง ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย....
คุณเข้มแข็งมากค่ะ ...
เป็นกำลังใจให้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆนะคะ


โดย: แสนซนคนกวนโอ๊ย วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:13:08 น.  

 
เสียใจด้วยอย่างที่สุดค่ะ


โดย: for family IP: 58.8.150.32 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:02:33 น.  

 
ปกติเราเป็นคนร้องไห้ง่ายมาก ๆ อ่านอะไรที่แค่สะกิด น้ำตาก็แตก

แต่คราวนี้ เรามีแต่ความเศร้าใจ โดยปราศจากน้ำตาสักหยด

อาจเป็นเพราะ เรารู้เรื่องหมดแล้วก่อนที่จะได้อ่านก็ได้

ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่สอนใจเรา วันนี้วันวาเลนไทน์ เราแอบเบี้ยวคุณสามีไม่นั่งรถไปทำงานเป็นเพื่อน

พออ่านเรื่องคุณจบ เราก็โทรไปบอกรักทันที พร้อมกับปฏิญาณว่า เราจะไม่ทิ้งให้เขาเดินทางตามลำพังอีกแล้ว
(ตอนนี้น้ำตาเราเริ่มไหลแล้วล่ะค่ะ รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ)

เรื่องของคุณเศร้ามากนะคะ แต่ยังแอบมีข้อดีตรงที่ คุณอยู่กับเขาจนวาระสุดท้ายของชีวิต ถ้าคุณทิ้งเขาไปตั้งแต่ตอนกลับเมืองไทย คาดว่าคุณคงจะเสียใจมากกว่านี้

เคยคิดว่า ถ้าเลือกได้ว่า ต้องจากเป็น หรือจากตาย จะเลือกอย่างหลัง เพราะไม่อยากถูกหักหลัง

แต่ตอนนี้ไม่คิดอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเราจะไม่ยอมบกพร่องจนทำให้เขาจากเป็นได้ และไม่ยอมทิ้งเขาไปไหนคนเดียว จนทำให้ตายจาก นอกเสียจากว่า จะไปพร้อม ๆ กัน

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเรื่องราวดี ๆ


โดย: for family IP: 58.8.150.32 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:52:40 น.  

 
อ่านแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มเรื่องมาเขียนได้สนุก พอเข้าเริ่มกลางจนมาตอนสุดท้ายที่ไม่อยากหั้ยท้ายสุด ก้อเศร้ามากๆ ขอหั้ยหัวใจที่แข็งแรงของคุณดูแลน้องๆ หั้ยโตมาเป็นคนดีเหมือนคุนพ่อของเค้าค่ะ


โดย: BaBy IP: 61.91.212.13 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:18:49 น.  

 
ตามอ่านตั้งแต่ตอนแรกจนมาถึงตอนนี้ ทุกตอนที่อ่านจะรับรู้ได้ถึงสาระและความสนุกสนาน เป็นกันเองของผู้เขียน เรื่องราวถูกเรียบเรียงผ่านเป็นคำพูดที่อ่านไม่รู้เบื่อ และสร้างแรงบันดาลใจกับผู้อ่าน

มาอ่านตอนล่าสุดกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณ Destinyhurtsme นะคะ คุณเข้มแข็งและสามารถดูแลลูกๆได้ดีอย่างแน่นอนค่ะ


โดย: Padcha9 IP: 58.8.34.244 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:20:09 น.  

 
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและเป็นกำลังใจ...
ถ้ามีโอกาสอยากจะให้เข้าไปอ่านในกระทู้
ซึ่งจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากความเห็นต่าง ๆ
พร้อมภาพประกอบเนื้อเรื่องด้วย....ตาม link นี้:

//www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6330869/B6330869.html


โดย: “เลขาฯ ตัวแสบ!” (Destinyhurtsme ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:27:57 น.  

 
อ่านตอนนี้แล้วตกใจค่ะ..

ตกใจนอกไปจากที่คุณด๋องเสียชีวิตแล้ว..

เหตุการณ์ตอนคุณด๋องเสียชีวิตยังเหมือนตอนที่พี่ชายดิแนเสียชีวิตไม่มีผิดเลยค่ะ..

ดังนั้นเลยเห็นภาพเป็นช็อตๆ เลยว่ามันเป็นยังไงและรู้สึกยังไง

-ก่อนพี่ชายไปเล่นน้ำ ก็ทานข้าวผัดไปเยอะ.. และมีชะงักก่อนเติมข้าวเพิ่มด้วย.. ว่ากินอีกดีไม่กินอีกดี

- พี่ชายดำน้ำอยู่ไกลๆ.. และสุดท้ายเพื่อนข้างๆ เอะใจ เลยช่วยกันลากขึ้นมา

- "ฉันรีบ “ปั๊มหน้าอก” ของคุณพ่อเสร็จแล้วจึงพลิกตัวไปด้านข้าง
มีเศษอาหารและน้ำปนเลือดไหลออกจาก “ปาก” และ “จมูก”
ฉันใช้เสื้อตัวเองเช็ดออก แล้วให้ลม “หายใจ” ทาง “ปาก” และปั๊มหัวใจต่อ
แล้วเช็ดเศษอาหาร ทำสลับกันจนเข่าและข้อศอกของฉันเลือดไหลถลอก " ใช่เลยค่ะ.. อย่างนี้เลยค่ะ..


เฮ้อ.. พี่ชายเสียไปสิบปีพอดีเลยค่ะ..

ขอแสดงความเสียใจด้วยอย่างสุดซึ้ง.. แม้เหตุการณ์ผ่านไปแล้วสิบกว่าปี.. ดิฉันก็เข้าใจดีว่า.. ความทรงจำถึงคนที่เรารักคนหนึ่ง..มันไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลา


โดย: honeytina วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:08:26 น.  

 
ตามอ่านเงียบๆ มาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ วันนี้เลยขอมาลงชื่อทักทายสักหน่อย

ตอนแรกนึกว่าจะจบแบบแยกทางกัน นั่นก็ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว
ที่ไหนได้ ตอนจบจริงเศร้ากว่านั้นหลายเท่า อ่านยังไม่ทันจบก็น้ำตาไหล
ตามเสียแล้ว

ถึงจะผ่านมาสิบปีแล้ว และคุณเลขาฯ คงทำใจได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยัง
อยากจะบอกอยู่ดี ว่า...เข้มแข็งนะคะ ...


โดย: พริม @ Santa Monica IP: 71.106.203.83 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:27:17 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ


โดย: ตา (ta/'o-o/' ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:16:27 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ตามมาจากห้องสีลมคะ


โดย: sawkitty วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:00:05 น.  

 
คุณ CG Guitar
คุณ สามสิบเอ็ดธันวา
คุณ Tempurachan
คุณ แสนซนคนกวนโอ๊ย
คุณ for family
คุณ BaBy
คุณ Padcha9
คุณ honeytina
คุณ พริม @ Santa Monica
คุณ ตา (ta/'o-o/'
คุณ sawkitty

ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาทักทาย ให้กำลังใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
รู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณจริง ๆ...


โดย: "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:21:12 น.  

 
เพิ่งได้มีโอกาสอ่านค่ะ พอดีเจอกระทู้เก่าโดยบังเอิญในเวป pantip อ่านย้อนหลังไปทุกตอนตั้งแต่ตอนแรกเลย ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ อยากบอกว่าคุณ Destinyhurtsme เขียนสนุกมากค่ะ ^_^


โดย: ลูกวัว IP: 137.165.210.235 วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:5:30:35 น.  

 
สวัสดีคุณลูกวัว
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ..


โดย: "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme ) วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:21:41:16 น.  

 
เพิ่งมาอ่านเองค่ะ เพื่อนจากอังกิดบอกว่าน่าอ่านเลยลองอ่านดู ฉานก้อเป็นเลขาค่ะ แต่เรื่องราวของดิฉานรัดทสไม่แพ้ของคุณพี่เลยค่ะ แต่เป็นแค่เรื่องานนะค่ะ


โดย: Dudee IP: 167.247.219.10 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:51:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Destinyhurtsme
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add Destinyhurtsme's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.