Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
บทที่ ๓ พ่อแม่แค่เรือจ้าง?

บทที่ ๓

วางหูโทรศัพท์ลงแล้ว
ครองสติจึงเริ่มสนทนากับพระสัจจา
ด้วยความนับถือ
ด้วยความสับสน
ความรู้สึกสองประการปนเป ... คลุมเครือ
แต่ความรู้สึกชัดเจนที่สุด ... ไม่พอใจ
“ท่านทำผิดหลักการของสมาคม”
พระสัจจาเงียบอยู่นานจึงกล่าว
“ผิดหลักการอย่างไร”
“การแนะนำสั่งสอนผู้โทร เป็นการลดศักยภาพของเขา
เหมือนให้เงินผู้ขาดแคลน ทำให้เขาเคยชินกับการขอ
ในที่สุดเขากลายเป็นขอทาน ไม่สามารถหาเลี้ยงตนเองได้
ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้
แต่หลักการของสมาคมคือทำให้เขารู้จักหาเงิน
ด้วยความรู้ความสามารถที่เขามี
ฟื้นฟูศักยภาพของพวกเขา ทำให้จิตใจเข้มแข็งมากขึ้น
ในที่สุด เขาสามารถแก้ปัญหาด้วยตนเอง รู้ทันอารมณ์เศร้าของตนเอง”
พระสัจจาฟังแล้วตอบด้วยความใจเย็น
“คนที่เรากำลังช่วยเป็นคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย
อย่านำไปเปรียบกับผู้ขาดแคลนเงินทอง
พวกเขาไม่ใช่ผู้ขาดแคลนเงินทอง
พวกเขาคือรถยนต์ที่กำลังจะพุ่งลงเหว
เร่งเครื่องด้วยความรู้สึกไร้ค่า สับสน จนปัญญา
อาตมาพยายามห้ามล้อ
เพราะอาตมาเห็นปากเหวอยู่ตรงหน้า
แต่โยมพยายามลดความเร็ว
เพราะโยมเห็นปากเหวอยู่ไกลออกไป
ความจริงคืออะไร
คนกำลังจะฆ่าตัวตายนะโยม
ปากเหวอยู่ใกล้นิดเดียว โยมไม่เห็นหรือ
การห้ามล้อของอาตมา อาจทำให้รถเสียหลัก
อาจทำให้รถหมุนคว้าง อาจทำให้รถพลิกคว่ำ
แต่รถคันนั้นยังไม่ตกเหว
แต่การลดความเร็วของโยม อาจไม่ทันการณ์”
ครองสติเม้มปาก
บอกตัวเองว่ากำลังเจอคู่ปรับที่เหนือชั้นกว่ามาก
ขณะคิดถึงหลักการต่างๆที่อบรมมา
ขณะจะตอบโต้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ครองสติจึงทำหน้าที่ต่อ
เขารอสัญญาณดังสองครั้งเช่นเคย
“สมาคมเพื่อนเพื่อชีวิตสวัสดีครับ”
“สวัสดี ที่นั่นเป็นสมาคมป้องกันการฆ่าตัวตายใช่ไหม”
ครองสติรีบศึกษาผู้โทรจากน้ำเสียง ... ชายวัยสูงอายุ
“ใช่ครับ เราคือเพื่อนผู้รับฟังเรื่องไม่สบายใจ
ไม่ทราบว่าตอนนี้มีเรื่องอึดอัดใจอะไรครับ”
ผู้โทรหายเงียบไปครู่เดียวก่อนกล่าว
“ลูกชายคนเดียวของผม มันบอกว่าจะมาเยี่ยม
มันพูดแบบนี้หลายครั้งหลายครา แล้วมันก็ไม่มา
ผมไม่เจอหน้ามันเกือบสามปีแล้ว”
“เขาโทรมาบอกเหตุผลหรือเปล่าครับ”
ผู้โทรปล่อยโฮ ครองสติจึงรู้ตัวว่าพูดผิด ... อย่างมหันต์
ครองสติรีบเปลี่ยนประเด็น
“เขาทำงานอะไรครับ งานคงยุ่งมาก”
ได้ผล น้ำเสียงเปลี่ยนไป มีความกระตือรือร้นขึ้น
แม้เพียงนิดเดียว แต่เป็นสัญญาณของการยอมรับ
“มันทำงานบริษัท บริษัทโฆษณา
มันบ่นทุกครั้งที่ผมโทรไปว่างานยุ่ง ยุ่งจนลืมพ่อ
ตั้งแต่เมียตาย ผมคิดถึงมัน คิดถึงหลาน ผมเหงามาก
ผมโทรไปหามัน มันบอกว่าเสาร์อาทิตย์จะพาลูกเมียมาเยี่ยม
แล้วมันก็หายเงียบไป หลายครั้งแล้วนะคุณ
ผมไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม ผมอยากไปอยู่กับเมีย”
ครองสติรีบยกประเด็นอื่นขึ้นพูดคุย
“คุณอยู่แถวไหนครับ แล้วตอนนี้ทำงานอะไร”
“ผมเป็นอาจารย์ เกษียณแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
วันๆอ่านหนังสือพิมพ์ ดูโทรทัศน์ และเข้านอน”
ครองสติวิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึกของผู้โทร
เหงา รู้สึกตนเองไร้ค่า น้อยเนื้อต่ำใจ
จากหลักการของสมาคม ครองสติบอกตัวเอง
บอกตัวเองให้ชวนคุยเรื่องกิจกรรมคลายเหงา
บอกตัวเองให้ชวนคุยเรื่องการนำใช้ความรู้ความสามารถ
บอกตัวเองให้ชวนคุยเรื่องความทรงจำดีๆที่มีกับภรรยาและบุตร
แต่ยังไม่ทันทำตามที่บอกตัวเอง
พระสัจจากล่าวผ่านตัวเขา เหมือนเคย
“เป็นอาจารย์โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย”
ผู้โทรตอบทันที
“ผมเป็นอาจารย์โรงเรียน สอนชั้นมัธยมหก”
“ลูกศิษย์ที่จบไปแล้วมาเยี่ยนเยียนมากไหม”
“ร้อยละหนึ่งยังไม่ถึงเลยคุณ รุ่นหนึ่งมีสี่ห้าร้อยคน
พอถึงวันครู พวกมันโผล่กันมารุ่นละคนสองคน”
“ทำไม”
“ผมไม่รู้ รู้แต่ว่าผมมันอาชีพเรือจ้าง
ส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งแล้วเขาเดินจากไป”
พระสัจจากล่าวต่อทันที “เหมือนลูกชายใช่ไหม”
ผู้โทรเงียบไปนานอึดใจ ก่อนตอบเสียงแข็ง
“จะไปเหมือนได้อย่างไร ลูกศิษย์กับลูกในไส้มันจะเหมือนกันได้อย่างไร”
“ต่างกันตรงไหน”
“ลูกศิษย์มันเลือดเนื้อเชื้อไขคนอื่น ลูกในไส้มันเลื้อดเนื้อเชื้อไขผม”
“มีอีกไหม”
“สำคัญที่สุดคือเรื่องนี้”
“ถ้าเช่นนั้น ต่างกันตรงจุดนี้ แล้วเหมือนกันตรงไหนบ้าง”
“ความเหมือนหรือ ผมรักลูกศิษย์เหมือนลูกเหมือนหลาน”
“มีอีกไหม”
“สำคัญที่สุดคือเรื่องนี้แหละ”
“ถ้าเช่นนั้น คาดหวังอะไรจากลูกศิษย์บ้าง”
“ขอให้พวกเขาเป็นคนดี”
“ถ้าเช่นนั้น คาดหวังอะไรจากลูกในไส้บ้าง”
“ขอให้เขาเป็นคนดี”
“ถ้าเช่นนั้น คาดหวังให้ลูกศิษย์มาเยี่ยนเยียนบ่อยแค่ไหน”
“อย่างที่บอก ผมมันเรือจ้าง ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
อีกอย่าง พวกเขาก็มีชิวิตของพวกเขา”
“ถ้าเช่นนั้น คาดหวังให้ลูกในไส้มาเยี่ยนเยียนบ่อยแค่ไหน”
ผู้โทรเงียบ ... นานหลายอึดใจ ก่อนกล่าวห้วนๆ
“คุณพยายามหว่านล้อมผมเรื่องอะไร”
พระสัจจาตอบทันที
“ไม่ว่าเป็นครู เป็นพ่อแม่ หรือเป็นอะไร
ทุกคนต่างเป็นเรือจ้างด้วยกันทั้งนั้น
ระหว่างทาง
เราอาจมีความรู้สึกที่ดีกับผู้โดยสารแต่ละคน
เราอาจมีความประทับใจผู้โดยสารแต่ละคน
แต่เมื่อส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งแล้ว เราไม่สามารถเดินตามเขาไปได้
หน้าที่ของเราคือพายเรือกลับไปรับผู้โดยสารคนใหม่
เราไม่อาจทิ้งเรือแล้วเดินตามผู้โดยสารคนไหนขึ้นไปบนฝั่งได้
และผู้โดยสารคนนั้นไม่อาจกลับมาขึ้นเรือเราอีก
จงภูมิใจที่ได้ส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่ง คนแล้วคนเล่า
จงภูมิใจที่ผู้โดยสารก้าวไปข้างหน้า
และจงตระหนักว่าการเยี่ยมเยียนของพวกเขา
เป็นเพียงตั๋วโดยสารที่เก็บไว้เพื่อการระลึกถึง
ท่านต้องการดีใจต่อการระลึกถึงผู้โดยสารผู้เดินไปข้างหน้า
หรือต้องการเสียใจต่อการเห็นผู้โดยสารกลับมาขึ้นเรือ”
ผู้โทรสูงวัยเงียบไปนานก่อนกล่าว
“คุณคิดว่าลูกผมมันจะกลับมาเยี่ยมผมไหม”
พระสัจจากล่าวซ้ำ
“การเยี่ยมเยียนของพวกเขา
เป็นเพียงตั๋วโดยสารที่เก็บไว้เพื่อการระลึกถึง”
ด้วยเหตุนี้
ไม่ว่าเยี่ยมเยียนหรือไม่
ทั้งผู้โดยสารและเจ้าของเรือต่างมีความระลึกถึงกันอยู่เสมอ
อย่าลืมว่าทั้งคู่ต่างมีตั๋วโดยสารและต้นขั้วเก็บไว้คนละใบ”
ผู้โทรถอนใจ
“ผมต้องการสิ่งที่เป็นรูปธรรมไม่ใช่นามธรรม”
พระสัจจาตอบทันที “บางครั้ง บางเรื่อง รูปธรรมไม่ต่างจากนามธรรม
การกระทำบางอย่างไม่อาจวัดความรู้สึกบางอย่างได้
ความรู้สึกบางอย่างไม่สามารถแสดงออกเป็นการกระทำได้”
ชายสูงวัยวิเคราะห์คำกล่าวของพระสัจจาก่อนกล่าวเนิบๆ
“คุณต้องการบอกผมว่าลูกชายผมมันยังรักผมอยู่
เพียงแต่การกระทำของมัน อาจดูเหมือนว่ามันไม่รักผม”
พระสัจจากล่าวผ่านครองสติอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ขณะพายเรือเพื่อส่งเขาขึ้นฝั่ง
ท่านได้แสดงความรู้สึกใดๆหรือไม่
นั่นคือกระทำที่ไม่อาจวัดความรู้สึกล้ำลึกของพ่อต่อลูกได้
ขณะรอเวลาว่างเพื่อเยี่ยมเยียนบิดา
ลูกชายท่านได้แสดงความรู้สึกใดๆหรือไม่
นั่นคือความรู้สึกที่ไม่สามารถแสดงออกเป็นการกระทำได้
ท่านและลูกชายของท่านเชื่อมโยงกันด้วยความรู้สึก
แม้ไม่อาจมองเห็นได้ แต่ไม่อาจตีค่าได้ด้วยการกระทำ”
ผู้สูงวัยผ่อนลมหายใจเบาๆ
“เอาละ ปกติผมไม่ค่อยเชื่อใครง่ายๆ แต่ครั้งนี้ผมเชื่อคุณ
แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะ ผมจะยังคงรอให้มันมาเยี่ยม
หากมันไม่มา ผมจะไม่โทรมาที่นี่อีก
ครั้งต่อไปผมจะไม่ลังเล ผมจะไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
พระสัจจากล่าวผ่านครองสติด้วยความกังวล
“บาปที่หนักที่สุดคืออัตวินิบาตกรรม”
ผู้โทรตอบทันที
“คุณไม่ต้องบอกผมหรอก ผมเป็นครู เรื่องนี้ผมรู้ดี
คุณช่วยภาวนาให้ลูกชายมันมาหาผมเถิด แค่นี้ก่อน
ขอบคุณมาก สวัสดี”



Create Date : 31 มีนาคม 2553
Last Update : 31 มีนาคม 2553 12:30:19 น. 1 comments
Counter : 564 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:13:03:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dejaboo44
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dejaboo44's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.