Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
บทที่ 5 เราเกิดมาพร้อมลมหายใจและจุดยืน

ปกการเวก



บทที่ ๕

วันแรกของการปฏิบัติหน้าที่
อาสาสมัครป้องกันการฆ่าตัวตายทางโทรศัพท์
โดยเต็มใจยอมรับความช่วยเหลือจากวิญญาณพระสัจจา
ครองสติได้รับโทรศัพท์จากนักศึกษาหนุ่ม

“พี่ครับ ผมอยากตาย”
ทันทีที่ฟังประโยคแรกจากผู้โทร ครองสติรีบวิเคราะห์
วัยรุ่น แม้น้ำเสียงเบากระซิบ เจือความหวั่นไหว
แต่แฝงความจริงจัง ... บอกให้รู้ว่าผู้โทร “ทำ” แน่
ครองสติทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว ... ชวนคุย
“มีเรื่องไม่สบายใจอะไรครับ”
ผู้โทรไม่กล่าวตอบ ครองสติถามต่อ
“ใช่เรื่องคนรักหรือเปล่า”
ได้ผล ผู้โทรตอบด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น ฟังชัดขึ้น เล็กน้อย
“เอ่อ ไม่ใช่ครับ”
“แล้วเรื่องอะไร หรือว่าเรื่องเรียน”
“เอ่อ พี่ครับ ผม ... ผมเขียนจดหมาย จดหมายลาตายไว้ด้วย”
เข้าทางครองสติ เขาถามทันที
“เขียนถึงใคร อ่านให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม”
“ผม เอ่อ ผมเขียนถึงพ่อแม่”
“อ่านให้พี่ฟังหน่อย”
“ทำไมพี่อยากฟัง”
“พี่อยากรู้ว่าน้องไม่สบายใจเรื่องอะไร เผื่อพี่พอจะช่วยได้”
“ถ้างั้น ผม เอ่อ ผมอ่านนะครับ”
ครองสติผ่อนลมหายใจ
ไม่นานนัก ครองสติได้ยินเสียงกระดาษดังกรอบแกรบ
ก่อนตามด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น เบาราวจะขาดใจ
“คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมเสียใจที่ตัดสินใจทำเช่นนี้ โปรดให้อภัยผม
ผมทำเรื่องบริจาคอวัยวะไว้ ช่วยติดต่อไปที่สภากาชาดด้วย”
ได้ยินเช่นนั้น ครองสติบอกตัวเองให้คุมสติ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ตระหนักดีว่ากรณีนี้ หากเขาพูดผิดเพียงคำเดียว
อาจหมายถึงชีวิตวัยรุ่นคนหนึ่ง
“น้องทำเรื่องบริจาคอวัยวะไว้ด้วยหรือ แสดงว่าเป็นคนจิตใจดี”
ผู้โทรไม่กล่าวตอบ
“ทำไว้นานหรือยัง”
“ผม ผมทำไว้ปีกว่าแล้ว”
“อืม ใครแนะนำให้ทำ”
“ผมอ่านเจอในนิตยสาร จึงส่งใบสมัครไป”
“อ๋อ พี่เคยเห็นเหมือนกัน ชอบอ่านนิตยสารเล่มนี้หรือ”
“ก็ เอ่อ ก็ชอบครับ”
“พี่ว่านิตยสารเล่มนี้มีเนื้อหาสาระเข้มข้นและทันสมัยดีนะ”
“ใช่ครับ”
ยิ่งสนทนา ครองสติยิ่งเครียด
น้ำเสียงผู้โทรบอกให้รู้ว่าเขาตอบคำถามอย่างขอไปที
ยิ่งพูด ใจเขายิ่งห่างออกไป
ครองสติบอกตัวเอง ต้องรีบดึงผู้โทรกลับมา
“อะไรทำให้น้องคิดบริจาคอวัยวะ”
ผู้โทรไม่กล่าวตอบ
ครองสติได้ยินเสียง ... ขาเก้าอี้ครูดพื้น
ครองสติสร้างจินตภาพ ... ผู้โทรกำลังลุกยืน
ครองสติรู้ดี ... อะไรกำลังจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่าผู้โทรกำลังจะฆ่าตัวตาย ... วิธีใด
ครองสติตัดสินใจใช้ไม้เด็ด
“น้องครับ น้องจะฆ่าตัวตายด้วยวิธีใด”
ทันใดนั้น ครองสติได้ยินเสียงการจราจร
“ผม ผมจะโดดตึกครับ ลาก่อนนะพี่”
ครองสติหลับตา วินาทีที่ไม่อาจตัดสินใจได้
พระสัจจาเข้าทำหน้าที่แทน
“อวัยวะที่บริจาคไว้จะทำอย่างไร คงแหลกเหลวหมด”
ผู้โทรไม่กล่าวตอบ ครองสติได้ยินเพียงเสียงรถวิ่ง
ครองสติแทบลืมหายใจ หรือผู้โทรโดดลงไปแล้ว
พระสัจจากล่าวต่อ
“น่าเสียดาย อุตส่าห์มีใจอันเป็นกุศล
ยิ่งกว่านั้น ลองนึกถึงพ่อแม่
เมื่อเห็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ในสภาพที่แหลกเหลว
พวกเขาจะเป็นอย่างไร จิตใจจะแหลกยิ่งกว่าร้อยเท่าพันเท่า
บาปกรรมมาก เป็นบาปมหันต์ที่มอบให้พ่อแม่”
ในความเงียบและความกังวล
ไม่นานนัก ครองสติได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นแทรกขึ้นมา
“ฮือๆ”
สำหรับครองสติ มันคือเสียงสวรรค์
“แล้วผมจะทำอย่างไร ผมจะฆ่าตัวตายอย่างไร”
ครองสติถอนใจเบาๆ ผู้โทรเริ่มระบายความอัดอั้นตันใจแล้ว
นิมิตอันดีของการยับยั้งชั่งใจ ... ผู้กำลังจะฆ่าตัวตาย
พระสัจจากล่าวต่อ
“เป็นบาปมาก ทั้งการฆ่าตัวเอง
และการทำลายเจตนาดีของตัวเอง”
“ฮือๆ” ผู้โทรร้องดังขึ้น
ครองสติบอกพระสัจจาให้รีบฉวยโอกาส
รู้ดีว่าพ้นเสี้ยววินาทีวิกฤตมาแล้ว
“ช่วยเดินกลับเข้าไปในห้องหน่อย เสียงรถดังหนวกหู”
ไม่น่าเชื่อว่าได้ผล เสียงการจราจรค่อยๆเบาลงจนเงียบสนิท
“ฮือๆ พี่มาห้ามผมทำไม ผมอยากตาย ผมอยากโดดตึกตาย”
พระสัจจากล่าวต่อ
“ขอถามอีกครั้ง ไม่สบายใจเรื่องอะไร”
“ฮือๆ ผมเขียนไว้แล้ว”
“เขียนไว้ที่ไหนครับ”
“ในสมุด”
“อ่านให้ฟังหน่อย”
“ฮือๆ”
“อ่านให้ฟังหน่อย”
เพียงครู่เดียว ทั้งครองสติและพระสัจจาได้ยินเสียงพลิกกระดาษ
“คุณพ่อคุณแม่ครับ ได้โปรดให้อภัยลูกชายโง่ๆคนนี้ด้วย
ผมสอบตกตั้งสามวิชา ถ้าผมแก้ไม่ได้ ผมคงต้องออกจากมหาวิทยาลัย
ผมไม่ตั้งใจทำให้คุณพ่อคุณแม่อับอาย”
“ทำไมต้องอับอาย” พระสัจจาทำเสียงเข้ม
“เอ่อ พ่อแม่ผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
ท่านคาดหวัง ผมจะต้องเก่งเหมือนท่าน”
“พ่อแม่คาดหวัง หรือคิดว่าพ่อแม่คาดหวัง”
ผู้โทรไม่ตอบคำถาม
“ว่าไง” พระสัจจาทำเสียงดุ
“พ่อแม่ชอบบอกใครต่อใครว่าผมเก่งเหมือนท่าน”
“เป็นธรรมดา ทุกคนอยากมีลูกเก่งกว่าตนเอง ในด้านใดด้านหนึ่ง
เป็นธรรมดา ที่ลูกอาจเก่งกว่าพ่อแม่ ในด้านใดด้านหนึ่ง
และเป็นธรรมดาอย่างยิ่ง ที่ลูกอาจไม่เก่งเท่าพ่อแม่ ในด้านใดด้านหนึ่ง”
ปลายสายเงียบไปอึดใจก่อนถามตะกุกตะกัก
“เอ่อ หมายความว่า ผม ... ผมอาจจะเก่งกว่าพ่อแม่
ในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่การเรียน ไม่ใช่การทำเกียรตินิยม”
“ถูกต้อง และหมายความด้วยว่า อาจไม่เก่งกว่าพ่อแม่ในเรื่องใดๆเลย
ความสำคัญจึงไม่ใช่เรื่องเก่งหรือไม่เก่งกว่าพ่อแม่”
“แล้วอยู่ที่อะไร”
“ความเป็นตัวของตัวเอง นั่นคือที่สุดของความเก่ง”
“ผมไม่เข้าใจ”
พระสัจจาเงียบไปครู่เดียวก่อนอธิบาย
“ทุกคนเกิดมาพร้อมลมหายใจ พร้อมจุดยืน
บางที เราอาจมีจุดยืนก่อนมีลมหายใจเสียด้วยซ้ำ
และทุกคนต้องเผชิญอุปสรรคขัดขวางการอยู่บนจุดยืน
มีมือมากมายในโลกที่พยามผลักเราออกจากจุดยืน
คนเก่งคือคนที่ยืนอยู่บนจุดนั้นได้
ไม่สะทกสะท้านต่อแรงผลักของมือเหล่านั้น
จนกระทั่งลมหายใจเขาหมดไปพร้อมจุดยืน”
“ผมไม่เข้าใจ จุดยืนคืออะไร เกี่ยวอะไรกับการฆ่าตัวตายของผม”
“จุดยืนของคนที่อยู่ในวัยนี้คือต้องรู้ว่าอยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร
เมื่อได้รู้ได้เรียนในที่สิ่งที่อยากเป็น ย่อมต้องมีความมานะบากบั่น
แม้สอบตกก็เห็นเป็นเพียงอุปสรรคที่ฝ่าฟันไปให้ได้
ต่างกับการปราศจากจุดยืน ทำตามความต้องการของผู้อื่น
จึงทำไปอย่างอึดอัด ท้อแท้ ถดถอย จนกลายเป็นความกดดัน
ถึงขั้นฆ่าตัวตาย”
ผู้โทรเงียบ พระสัจจาส่งสัญญาณให้ครองสติ
คืนหน้าที่รับผิดชอบให้แก่เขา
ครองสติรีบชวนผู้โทรคุยต่อ
“ว่าแต่ว่า น้องเรียนคณะอะไร ท่าทางเป็นคณะที่เรียนยาก
พี่ขอถามตรงๆ เป็นคณะที่น้องอยากเรียนจริงๆหรือ”
ผู้โทรกล่าวตอบทันที “ผมไม่ชอบคณะนี้ครับ”
ครองสติรีบเปลี่ยนคำถาม “เพื่อนๆที่คณะมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือเปล่า”
ได้ผล ผู้โทรสูดลมหายใจค่อนข้างดัง กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น
“ก็ ก็มีครับ บางคนสอบตกหลายวิชาเท่าผม”
เมื่อน้ำเสียงผู้โทรดีขึ้น ครองสติจึงตระหนักว่ามาถูกทาง รีบเดินหน้า
“แล้วเขาเป็นอย่างไรบ้าง”
“ใครครับ”
“คนที่สอบตกหลายวิชาน่ะ”
“อ๋อ ไม่เห็นมันกลุ้มใจอะไร ยังมีหน้าไปเที่ยวอีก”
“ไปเที่ยว ไปเที่ยวที่ไหน”
“ก็ ไปทะเลกับเพื่อนๆในคณะนั่นแหละครับ
เห็นบอกว่าจะอยู่กันนานเป็นสัปดาห์”
“แล้วทำไมเราไม่ไปด้วย”
“ผมติดธุระครับ แต่บอกพวกมันว่าจะตามไป”
“แล้วทำธุระเสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้วครับ”
“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องรออะไรแล้ว จัดกระเป๋าหรือยัง”
“แต่ผม ผมไม่สบายใจ”
“ไปเที่ยวก่อน มีเวลาก็ปรึกษากับเพื่อนคนนั้นด้วย
มีเรื่องไม่สบายใจแบบเดียวกัน จะได้ช่วยกันหาทางแก้
อาจหมายถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ เรียนคณะที่อยากเรียน”
ครองสติไม่รู้ตัว เขากำลังทำผิดกฎสมาคม นั่นคือแนะนำผู้โทร
“มันจะช่วยอะไรผมได้”
“เพื่อนคนนี้ช่วยไม่ได้ เพื่อนคนอื่นก็ยังมี
หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว”
“แล้วถ้าหาทางออกไม่ได้ละครับ”
“โทรหาพี่”
“พี่จะช่วยอะไรผมได้”
“ช่วยได้สิ เพราะพี่เองก็เคยสอบตก
แต่พี่ก็เรียนจบ รับปริญญา”

ดาว์นโหลด “การเวก” ทั้ง 20 บท (จบบริบูรณ์) ได้ที่
//www.truebookstore.com/product/view/287



Create Date : 02 มิถุนายน 2553
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 12:00:53 น. 0 comments
Counter : 1371 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dejaboo44
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dejaboo44's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.